กุฎุมพี vs เศรษฐี
เริ่มโดย ไชยานุภาพ ปราบหงสาวดี, May 03 2006 12:14 AM
มี 9 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้
#1
โพสต์เมื่อ 03 May 2006 - 12:14 AM
อยากทราบว่า ระหว่าง "กุฎุมพี กับ เศรษฐี" สองคำนี้ มีความเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไรครับ?
#2
โพสต์เมื่อ 03 May 2006 - 01:39 AM
กุฎุมพี น่าจะหมายถึงทรัพย์สมบัตินะครับ
เศรษฐี น่าจะหมายถึงผู้มีฐานะหรือมีเศรษฐกิจที่ดี หรือกิจการที่ดีหนะครับ
เหมือนกันคือ มีทรัพย์มากหรือมีกฏุมพีมากจึงจะเป็น เศรษฐีได้หนะครับ
ต่างกันคือ กุฎุมพี หมายเอาทรัพย์ เศรษฐีหมายเอา เจ้าของทรัพย์
รวมคำแล้วน่าจะหมายถึง กุฎุมพีเศรษฐี คือ ผู้มีฐานะที่มีทรัพย์สมบัติมากนั่นเองครับ
เศรษฐี น่าจะหมายถึงผู้มีฐานะหรือมีเศรษฐกิจที่ดี หรือกิจการที่ดีหนะครับ
เหมือนกันคือ มีทรัพย์มากหรือมีกฏุมพีมากจึงจะเป็น เศรษฐีได้หนะครับ
ต่างกันคือ กุฎุมพี หมายเอาทรัพย์ เศรษฐีหมายเอา เจ้าของทรัพย์
รวมคำแล้วน่าจะหมายถึง กุฎุมพีเศรษฐี คือ ผู้มีฐานะที่มีทรัพย์สมบัติมากนั่นเองครับ
หยุดเหมือนรถเบรค นิ่งเหมือนน้ำในโอ่งที่ปราศจากลม แน่นเหมือนหลักที่ปักลงในเลน
ไม่สั่นคลอน ใสเหมือนน้ำที่ปราศจากตะกอน
ไม่สั่นคลอน ใสเหมือนน้ำที่ปราศจากตะกอน
#3
โพสต์เมื่อ 03 May 2006 - 06:59 AM
1. ค้น : กุฎุมพี
คำ : กุฎุมพี
เสียง : กุ-ดุม-พี
คำตั้ง : กุฎุมพี
ชนิด : น.
ที่ใช้ :
ที่มา : (ป. กุฏุมฺพิก; ส. กุฏุมฺพินฺ)
นิยาม : คนมั่งมี, พ่อเรือน.
ภาพ :
อ้างอิง :
ปรับปรุง : 98/4/2
1. ค้น : เศรษฐี
คำ : เศรษฐี
เสียง : เสด-ถี
คำตั้ง : เศรษฐี
ชนิด : น.
ที่ใช้ :
ที่มา : (ส. ว่า ประมุขพ่อค้า; ป. เสฏฺ&i;)
นิยาม : คนมั่งมี.
ภาพ :
อ้างอิง :
ปรับปรุง : 98/4/2
จะเห็นได้ว่าตามความหมายของกุฎุมพีและเศรษฐี ในพจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถานhttp://rirs3.royin.go.th/riThdict/lookup.html
นั้นคล้ายกันมาก แต่มีข้อสังเกตหนึ่งคือในสมัยพุทธกาลการจะเป็นเศรษฐีได้ ต้องได้รับการแต่งตั้งจากกษัตริย์ก่อน เป็นเหมือนตำแหน่ง ๆ หนึ่ง เป็นไปได้ไหมครับว่า ผู้ที่มีทรัพย์มาก แต่ไม่ได้รับการแต่งตั้งเรียกว่า "กุฎุมพี" แต่หากได้รับแต่งตั้งจะเรียกว่า "เศรษฐี"
คำ : กุฎุมพี
เสียง : กุ-ดุม-พี
คำตั้ง : กุฎุมพี
ชนิด : น.
ที่ใช้ :
ที่มา : (ป. กุฏุมฺพิก; ส. กุฏุมฺพินฺ)
นิยาม : คนมั่งมี, พ่อเรือน.
ภาพ :
อ้างอิง :
ปรับปรุง : 98/4/2
1. ค้น : เศรษฐี
คำ : เศรษฐี
เสียง : เสด-ถี
คำตั้ง : เศรษฐี
ชนิด : น.
ที่ใช้ :
ที่มา : (ส. ว่า ประมุขพ่อค้า; ป. เสฏฺ&i;)
นิยาม : คนมั่งมี.
ภาพ :
อ้างอิง :
ปรับปรุง : 98/4/2
จะเห็นได้ว่าตามความหมายของกุฎุมพีและเศรษฐี ในพจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถานhttp://rirs3.royin.go.th/riThdict/lookup.html
นั้นคล้ายกันมาก แต่มีข้อสังเกตหนึ่งคือในสมัยพุทธกาลการจะเป็นเศรษฐีได้ ต้องได้รับการแต่งตั้งจากกษัตริย์ก่อน เป็นเหมือนตำแหน่ง ๆ หนึ่ง เป็นไปได้ไหมครับว่า ผู้ที่มีทรัพย์มาก แต่ไม่ได้รับการแต่งตั้งเรียกว่า "กุฎุมพี" แต่หากได้รับแต่งตั้งจะเรียกว่า "เศรษฐี"
#4
โพสต์เมื่อ 03 May 2006 - 07:41 AM
กุฎุมพี คนมีทรัพย์, คนมั่งคั่ง
คำว่า เศรษฐี แปลว่าผู้ประเสริฐที่สุด ไม่ใช่นายทุนขูดรีด นายทุนขูดรีดเป็นเศรษฐีไม่ได้
-เศรษฐีคือผู้ที่ทำงานสนุก เป็นสุขในการงาน มีบริวารมาก ทำได้มากเหลือกิน เหลือเก็บ แล้วก็ใช้ช่วยเหลือผู้อื่น ตั้งสำนักงานใหญ่ ๆ ช่วยเหลือผู้อื่น
คำว่า เศรษฐี แปลว่าผู้ประเสริฐที่สุด ไม่ใช่นายทุนขูดรีด นายทุนขูดรีดเป็นเศรษฐีไม่ได้
-เศรษฐีคือผู้ที่ทำงานสนุก เป็นสุขในการงาน มีบริวารมาก ทำได้มากเหลือกิน เหลือเก็บ แล้วก็ใช้ช่วยเหลือผู้อื่น ตั้งสำนักงานใหญ่ ๆ ช่วยเหลือผู้อื่น
คนดีชอบแก้ไข คนจัญไรชอบแก้ตัว คนชั่วชอบทำลาย คนมักง่ายชอบทิ้ง คนจริงชอบทำ คนระยำชอบติ !!!!
#5
โพสต์เมื่อ 03 May 2006 - 05:05 PM
QUOTE
แต่มีข้อสังเกตหนึ่งคือในสมัยพุทธกาลการจะเป็นเศรษฐีได้ ต้องได้รับการแต่งตั้งจากกษัตริย์ก่อน เป็นเหมือนตำแหน่งๆ หนึ่ง เป็นไปได้ไหมครับว่า ผู้ที่มีทรัพย์มาก แต่ไม่ได้รับการแต่งตั้งเรียกว่า "กุฎุมพี" แต่หากได้รับแต่งตั้งจะเรียกว่า "เศรษฐี"
ถูกต้องส่วนหนึ่งครับ ที่เหลือรอให้สมาชิกท่านอื่นมาตอบก่อนก็แล้วกันนะครับ แล้วผมจะมาเฉลยให้ ว่าที่ขาดหายไปนั้นคืออะไร
#6
โพสต์เมื่อ 03 May 2006 - 06:54 PM
ที่อ่านเจอในพระไตรปิฎก บางที่ก็เอาความหมายกุฎุมพีเท่ากับเศรษฐีไปเลย เช่น
ใน ธรรมบท เรื่อง พระจักขุบาล
"กุฎุมพีทำพิธีขอบุตร
ดังได้สดับมา ในกรุงสาวัตถี มีกุฎุมพีผู้หนึ่งชื่อมหาสุวรรณ เป็น
คนมั่งมี มีทรัพย์มาก มีสมบัติมาก (แต่) ไม่มีบุตร. วันหนึ่งเขา
ไปสู่ท่าอาบน้ำ อาบเสร็จแล้วกลับมา เห็นต้นไม้ใหญ่ที่เป็นเจ้าไพร
ต้นหนึ่ง มีกิ่งสมบูรณ์ในระหว่างทาง คิดว่า " ต้นไม้นี้จักมีเทวดา ผู้มี
ศักดิ์ใหญ่สิงอยู่" ดังนี้แล้ว จึงให้ชำระส่วนภายใต้แห่งต้นไม้นั้นให้
สะอาดแล้ว ให้วงรั้ว เกลี่ยทราย ยกธงชัยและธงปฏากขึ้น แต่งต้นไม้
เจ้าไพรแล้ว ทำปรารถนา (คือบน) ว่า " ข้าพเจ้าได้บุตรหรือธิดา
แล้ว จักทำสักการะใหญ่ถวายทาน" ดังนี้แล้ว หลีกไป.
กุฎุมพีได้บุตรสองคน
ในกาลเป็นลำดับมา ภรรยาของท่านเศรษฐีก็ตั้งครรภ์. ท่านก็ให้
พิธีครรภ์บริหาร ๑- แก่นาง. ครั้นล่วง ๑๐ เดือน นางคลอดบุตรคนหนึ่ง
ท่านเศรษฐีขนานนามแห่งบุตรนั้นว่า " ปาละ" เพราะเหตุทารกนั้นตน
อาศัยไม้ใหญ่ที่เป็นเจ้าไพรอันตนอภิบาลจึงได้แล้ว."
หรือใน มโนรถปูรณี อรรถกถาอังคุตตรนิกาย เอกนิบาต
"ครั้นเสด็จถึงแล้ว ทรงเลือกที่ตั้งพระวิหารในนครของพระองค์ ทรงเห็น
อุทยานของกุฎุมพี (เศรษฐี) ชื่อ โสภะ "
แต่ในเรื่องของนางวิสาขา ดูเหมือนว่า เศรษฐีจะเป็นใหญ่กว่ากุฏุมพี
"โดยนัยที่ธนญชัยเศรษฐี
ให้แก่นางวิสาขานั่นแล เมื่อจะส่งไป ยึดเอากุฎุมพี ๘ คนให้เป็นผู้
รับรองว่า " ถ้าโทษของธิดาข้าพเจ้าเกิดขึ้นในที่ไปแล้ว, พวกท่านต้อง
ชำระ, ..."
ใน ธรรมบท เรื่อง พระจักขุบาล
"กุฎุมพีทำพิธีขอบุตร
ดังได้สดับมา ในกรุงสาวัตถี มีกุฎุมพีผู้หนึ่งชื่อมหาสุวรรณ เป็น
คนมั่งมี มีทรัพย์มาก มีสมบัติมาก (แต่) ไม่มีบุตร. วันหนึ่งเขา
ไปสู่ท่าอาบน้ำ อาบเสร็จแล้วกลับมา เห็นต้นไม้ใหญ่ที่เป็นเจ้าไพร
ต้นหนึ่ง มีกิ่งสมบูรณ์ในระหว่างทาง คิดว่า " ต้นไม้นี้จักมีเทวดา ผู้มี
ศักดิ์ใหญ่สิงอยู่" ดังนี้แล้ว จึงให้ชำระส่วนภายใต้แห่งต้นไม้นั้นให้
สะอาดแล้ว ให้วงรั้ว เกลี่ยทราย ยกธงชัยและธงปฏากขึ้น แต่งต้นไม้
เจ้าไพรแล้ว ทำปรารถนา (คือบน) ว่า " ข้าพเจ้าได้บุตรหรือธิดา
แล้ว จักทำสักการะใหญ่ถวายทาน" ดังนี้แล้ว หลีกไป.
กุฎุมพีได้บุตรสองคน
ในกาลเป็นลำดับมา ภรรยาของท่านเศรษฐีก็ตั้งครรภ์. ท่านก็ให้
พิธีครรภ์บริหาร ๑- แก่นาง. ครั้นล่วง ๑๐ เดือน นางคลอดบุตรคนหนึ่ง
ท่านเศรษฐีขนานนามแห่งบุตรนั้นว่า " ปาละ" เพราะเหตุทารกนั้นตน
อาศัยไม้ใหญ่ที่เป็นเจ้าไพรอันตนอภิบาลจึงได้แล้ว."
หรือใน มโนรถปูรณี อรรถกถาอังคุตตรนิกาย เอกนิบาต
"ครั้นเสด็จถึงแล้ว ทรงเลือกที่ตั้งพระวิหารในนครของพระองค์ ทรงเห็น
อุทยานของกุฎุมพี (เศรษฐี) ชื่อ โสภะ "
แต่ในเรื่องของนางวิสาขา ดูเหมือนว่า เศรษฐีจะเป็นใหญ่กว่ากุฏุมพี
"โดยนัยที่ธนญชัยเศรษฐี
ให้แก่นางวิสาขานั่นแล เมื่อจะส่งไป ยึดเอากุฎุมพี ๘ คนให้เป็นผู้
รับรองว่า " ถ้าโทษของธิดาข้าพเจ้าเกิดขึ้นในที่ไปแล้ว, พวกท่านต้อง
ชำระ, ..."
#7
โพสต์เมื่อ 03 May 2006 - 10:29 PM
เห็นคุณ nemo ผลุบเข้าผลุบออกอยู่อย่างนี้ตั้งแต่ตอนเย็น น้องช่วง ช่วง เห็นชักจะใจอ่อนแล้วล่ะสิ งั้นเฉลยเลยก็แล้วกัน คุณสมบัติอีกประการหนึ่งของการเป็นเศรษฐีที่มีความแตกต่างจากการเป็นกุฎุมพีก็คือ "การมีคุณธรรม" ครับ ในสมัยพุทธกาลต้องมีคุณธรรมด้วยนะครับ จึงจะได้รับการแต่งตั้งสถาปนาจากพระราชามหากษัตริย์ให้ได้รับตำแหน่งนี้ ยกตัวอย่างเช่น อนาถบิณฑิกเศรษฐีและมหาอุบาสิกาวิสาขา ยังไงล่ะครับ
#8
โพสต์เมื่อ 03 May 2006 - 10:36 PM
สาธุ เฉลยเสียที ไม่มีเวลาค้นข้อมูลจริง ๆ ไม่งั้นตอบไปนานแล้ว
หยุดคือตัวสำเร็จ
#9
โพสต์เมื่อ 03 May 2006 - 11:15 PM
สาธุ ได้รับความรู้เพิ่มมีแล้วค่ะ
แน่นแน่... ที่แท้คุณก้องตั้งคำถามมาเพื่อที่จะเฉลยความรู้ให้ผู้อื่นนี่เอง
แน่นแน่... ที่แท้คุณก้องตั้งคำถามมาเพื่อที่จะเฉลยความรู้ให้ผู้อื่นนี่เอง
The Strongest is The Gentlest!
ผู้ที่มีจิตใจเข้มแข็งที่สุด ย่อมเป็นผู้ที่สุภาพนุ่มนวลที่สุด
ผู้ที่มีจิตใจเข้มแข็งที่สุด ย่อมเป็นผู้ที่สุภาพนุ่มนวลที่สุด
#10
โพสต์เมื่อ 05 May 2006 - 01:59 AM
สาธุ ครับที่ให้ความรู้ครับ
สร้างบารมีทุกวินาที
แม้ชีวิตนี้ก็ให้ได้
แม้ชีวิตนี้ก็ให้ได้