ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
* * * * * 1 คะแนน

ฝึกตัดอาลัยให้ขาด


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 4 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 ์Nee.Sansanee

์Nee.Sansanee
  • Members
  • 73 โพสต์

โพสต์เมื่อ 25 September 2010 - 11:33 AM

ฝึกตัดอาลัยให้ขาด

" ถ้าใครตั้งใจที่จะบวชแล้วไม่สึกกันจริง ๆก็อย่าประมาท ต้องตัดอาลัยให้ได้

ต้องทำทุกวิธีที่จะตัดอาลัยในสิ่งเหล่านี้ คือ

(๑) ของรัก (๒) ของคุ้น........"

ปีวอก(ลิง) พุทธศักราช ๒๕๔๗ มีประโยคฮิตอยู่ในวงสนทนาของครูบาอาจารย์ประโยคหนึ่งคือ "ดีชั่วรู้หมดแต่มันอดไม่ได้"

แล้วอาจารย์ผู้นั้นก็ควักบุหรี่ออกมาจากกระเป๋าเสื้อ เดินออกจากห้องไป เด็กนักเรียนผู้หญิงคนหนึ่งที่กำลังนั่งเม้ากันอย่างสนุก

ปากกับเพื่อนกลุ่มใหญ่ใต้ต้นหูกวางกระซิบกับเพื่อนแต่หรี่เสียงไม่ลงว่า "อาจารย์....ไม่อินเทรนด์( in trend) เลย เขาเทเหล้า

เผาบุหรี่กันหมดแล้ว"

อาการตัดอาลัยไม่ขาด หักใจไม่ลง เดี๋ยวบวชเดี๋ยวสึก หรืออยู่ครองผ้ากาสาวพัสตร์อย่างร้อนรุ่มแบบมะม่วงไม่ลืม

ต้นนี้ พระเดชพระคุณหลวงพ่อทัตตชีโวเคยเทศน์สอนพระธรรมทายาท รุ่นเข้าพรรษา ไว้คราวหนึ่งว่า

"หลวงพ่ออยากจะฝากเรื่องที่เคยเจอมากับตัวเอง เพื่อจะได้เป็นข้อคิดกับพวกเราว่า ถ้าใครตั้งใจที่จะบวช

แล้วไม่สึกกันจริง ๆ ก็อย่าประมาท ต้องตัดอาลัยให้ได้ ต้องทำทุกวิธีที่จะตัดอาลัยในสิ่งเหล่านี้คือ (๑) ของรัก (๒) ของคุ้น

จะอย่างไรก็ตาม ต้องหาทางตัด ๒ อย่างนี้ให้ได้ ถ้าไม่ตัดทิ้งเสียเดี๋ยวมันมีเยื่อใย เกิดอาลัยมันขึ้นมาเมื่อไร เดี๋ยวสึกไปอยู่กับมันฉิบ..."

เรื่องนี้เคยมีมาแล้ว เมื่อตอนที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อธัมมชโยของเราจะบวช เหลืออีกหนึ่งสัปดาห์ก่อนบวช ข้าวของเครื่องใช้ส่วน

ตัวต่าง ๆทั้งที่ยังจะใช้ได้อีก ยังดี ๆ อยู่ ทุกอย่างท่านแจกน้อง ๆที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์จนหมด ไม่ว่าอะไรก็แจกหมด แม้แต่พระ

ที่ห้อยคอของท่านซึ่งท่านรักนักรักหนา เป็นพระของขวัญหลวงพ่อวัดปากน้ำรุ่น ๑ ซึ่งคุณยายให้ท่านไว้ ก่อนบวชท่านถอดพระมาสวมคอ

ให้หลวงพ่อ แล้วท่านก็พูดว่า

"พี่เด็จ สุดชีวิตก็รักพระองค์นี้เพราะยายให้ ยายท่านก็รักของท่านมากเพราะรับมากับมือพระเดชพระคุณหลวงปู่วัดปากน้ำ พี่เด็จเอาไว้นะ

แล้วมาช่วยสร้างวัดกัน"

........................หลวงพ่อก็เก็บพระของขวัญองค์นี้ไว้ ไม่ยอมให้ห่างตัวเลย

พอท่านบวชอยู่ได้สักเดือนสองเดือน ท่านก็มาปรารภให้หลวงพ่อฟังตัวต่อตัวว่า "เราเพิ่งบวชใหม่ ไอ้เรื่องเก่า ๆมันก็มีเรื่องในมหาวิทยาลัย

นี่แหละ หน้าตาพรรคพวกเพื่อนฝูงเก่า ๆมันยังโผล่ขึ้นมาในใจ แต่ก็พยายามลืมเรื่องคุ้นเก่า ๆนะ

แต่มีวันหนึ่งท่านกลับไปเยี่ยมบ้าน แล้วท่านก็ไปเปิดอัลบั้มเก่า ๆ ดู พอกลับมาถึงวัด ภาพในอัลบั้มมันคงจะติดตาติดใจกลับมาด้วย

พอถึงเวลาท่านก็นั่งสมาธิกับคุณยายในตอนหัวค่ำ ตามธรรมดาอย่างท่านพอนั่งปุ๊ปก็เป็นสมาธิปับ แล้วเข้ากลางของกลางเรื่อยไป วันนั้น

พอนั่งปุ๊บมันไม่เป็นเหมือนอย่างที่เคยทำได้ ท่านมาเล่าสาเหตุให้ฟังในวันหลังแล้วบรรยายประสพการณ์ภายในเพิ่มเติมว่า "ภาพที่ดูใน

อัลบั้มวันนั้นมันโผล่ขึ้นมาปั๊บเลย กว่าจะเข้ากลางมุดฝ่าไปได้ หมดเวลาไปตั้งพักใหญ่"

วันนั้นหลวงพ่อนั่งอยู่ด้วย พอเลิกนั่งสมาธิ คุณยายพูดขึ้นมาเลย "ท่าน" คุณยายมองหน้าพระเดชพระคุณหลวงพ่อธัมมชโย "พรุ่ง

นี้กลับไปบ้านใหม่นะ ไปเอารูปที่มีอยู่ มีเท่าไหร่ ๆ เผาทิ้งให้หมด" พระเดชพระคุณหลวงพ่อนิ่งอึ้งเลย

พระเดชพระคุณพลวงพ่อธัมมชโย ไม่ได้เล่าเรื่องกลับบ้านไปดูรูปเก่า ๆให้คุณยายฟัง และหลวงพ่อเองก็ไม่รู้มาก่อน แต่คุณยายทราบวาระจิต

พระเดชพระคุณหลวงพ่อท่านก็เลยกลับไปเผารูปเก่า ๆจนหมด

.........เรื่องบางเรื่อง บางทีเราก็ไม่นึกว่ามันจะเป็นเครื่องผูกอาลัย แต่มันเป็น บางทีเป็นเอามากเสียด้วย และนี่คือวิธีตัดอาลัย

ที่คุณยายอาจารย์ฝึกให้กับพระเดชพระคุณหลวงพ่อธัมมชโย"

................

วันเสาร์ที่ ๒๖ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๓๙

ณห้องสมุดโรงเรียนพระปริยัติธรรม วัดพระธรรมกาย จังหวัดปทุมธานี

..................................

ที่มา: หนังสือ รอยเท้ายาย โดย พระภาวนาวิริยคุณ (เผด็จ ทัตตชีโว)

ไฟล์แนบ



#2 ณ ๐๗๒

ณ ๐๗๒
  • Members
  • 1340 โพสต์
  • Location:Ladkrabang

โพสต์เมื่อ 26 September 2010 - 12:14 AM

อนุโมทนาบุญค่ะ มีประโยชน์มากๆ สำหรับผู้อยากจะก้าวหน้าในการนั่งสมาธิ
และผู้ที่คิดจะประพฤติพรหมจรรย์

ความพร้อมเกิดขึ้น เมื่อเริ่มต้นลงมือทำ (โอวาทหลวงพ่อ 27/4/51)

ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจบุรุษให้หลงใหลได้มากเท่ากับสตรี  ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจสตรีให้หลงใหลได้มากเท่ากับบุรุษ
แท้จริงแล้วความรักก็เปรียบดั่งเครื่องพันธนาการ  ที่มัดตรึงเหนียวแน่น ให้ลุ่มหลงอยู่ ย่อมจะต้องเวียนว่ายตายเกิดและจมอยู่ในกองทุกข์ร่ำไป


#3 ดินสอแห่งธรรม

ดินสอแห่งธรรม

    สร้างบารมีเป็นหมู่คณะ = ฝึกตนให้เป็นผู้ใจกว้าง

  • Members
  • 1478 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:ดุสิตบุรี
  • Interests:สร้างบารมีแบบเต็มกำลัง

โพสต์เมื่อ 26 September 2010 - 08:54 PM

...อาลัย ก็คือ กิเลสประเภทความหลง มันเป็นเรื่องเกิดขึ้นยากกว่ากิเลสตัวอื่น แต่ผลของมันจะรุนแรง ยาวนาน และเวียนวนยาวนานแสนนาน และยากที่จะทำให้หมดสิ้น
..อันมือของฉันสองมือนี้ ดูเล็กนิดเดียวและไม่มั่นใจว่าฉันจะสร้างสิ่งดีๆ ให้เกิดแก่โลกใบนี้ได้.. แต่ฉันมั่นใจว่า ...หัวใจของฉันนี้ มอบไว้ให้แด่พระพุทธศาสน์....

#4 Dd2683

Dd2683
  • Members
  • 2477 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:กรุงเทพ มหานคร
  • Interests:ความรู้ในพระพุทธศาสนา-วิชชาธรรมกาย<br />ผลแห่งการปฏิบัติธรรม

โพสต์เมื่อ 24 November 2010 - 11:41 PM

อนุโมทนาในสาระธรรมและการแบ่งปันจากเจ้าของกระทู้ครับ

เรื่องการตัด ความอาลัย รวมถึงความอาวรณ์ เยื่อใยในใจ มันยากหรือง่าย
สาเหตุหนึ่งก็น่าจะอยู่ที่ อุปาทานในขันธ์ ๕
ใครมีมาก น้อย
ใคร ลด ละ การยึดมั่น ถือมั่น ได้มากหรือน้อย

อ่านเรื่องนี้ทำให้นึกถึงคุณยายฯ
ท่านเป็นแบบอย่างที่ดีมากๆในการ สละอาลัย อาวรณ์ ในคน สัตว์ สิ่งของ
แม้กระทั่ง ลาภ สักการะ สรรเสริญ

ใจท่านจึงทิ้งทุกอย่าง ปล่อยวางทุกสิ่ง(เรื่องโลกภายนอก)
นิ่งอย่างเดียว ( เข้าสู่โลกใน )
และมีผลก้าวหน้าในธรรรมะปฏิบัติ อย่างที่ยากที่ใครจะตามเห็น รู้ ในญาณทัสสนะของท่านได้

ขอนอบน้อมจิต สักการะคุณยายฯ ด้วยความเลื่อมใส ขอรับ

http://www.youtube.c...feature=related
ใจหยุดที่สุดแห่งบุญ มุ่งสู่ที่สุดแห่งธรรม

#5 บ่าวอุบล

บ่าวอุบล
  • Members
  • 632 โพสต์

โพสต์เมื่อ 26 November 2010 - 11:02 AM

ทุกข์มีเพราะยึด
ทุกข์ยืดเพราะอยาก
ทุกข์มากเพราะพลอย
ทุกข์น้อยเพราะหยุด
ทุกข์หลุดเพราะปล่อย


หลวงปู่ชา