ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
- - - - -

รู้หรือไม่ เรื่องเวลา เป็นเรื่องใหญ่ บทที่ 3

เวลาใดสำคัญที่สุดและใครคือบุค คลสำคัญที่สุด

  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
ไม่มีการตอบกลับในกระทู้นี้

#1 Suphatra

Suphatra
  • Members
  • 24 โพสต์
  • Gender:Female

โพสต์เมื่อ 01 June 2018 - 10:41 AM

รู้หรือไม่ เรื่องเวลาเป็นเรื่องใหญ่
ตอน เวลาใด สำคัญที่สุด และใครคือบุคคล สำคัญที่สุด
 
     ในอดีตมีพระราชาพระองค์หนึ่งทรงอยากรู้ว่า เวลาตอนไหนสำคัญที่สุด ใครคือบุคคลสำคัญที่สุด และภารกิจที่พระองค์ควรทำที่สุดคืออะไร
 
     พระราชาป่าวประกาศว่า ถ้าใครตอบคำถามได้จะมีรางวัลให้ประชาชนต่างเข้ามาตอบคำถามพระองค์กันมากมายหลากหลายคำตอบแต่พระราชาก็ยังไม่ถูกใจแม้คำตอบเดียว
 
     พอพระราชาได้ฟังว่า มีฤๅษีตนหนึ่งฉลาดมากอาศัยอยู่ในป่าพระองค์จึงต้องการจะไปถามคำถามนี้กับฤๅษี ขณะที่พระองค์เดินทางไปกับอำมาตย์ราชบริพาร พอถึงเชิงเขาทรงรับสั่งให้ทุกคนรออยู่ข้างล่าง เพื่อไม่ให้ขึ้นไปรบกวนความสงบของท่านฤๅษี
 
     พระราชาแต่งตัวแบบชาวบ้านธรรมดา เสด็จขึ้นเขาไปเพียงพระองค์เดียว พอเห็นฤๅษีกำลังขุดดินอยู่ พระราชาไม่รอช้าทรงตรัสถามคำถามทันที ฤๅษีได้ยินก็ยังขุดดินต่อไป ไม่สนใจพระราชาเลยพระองค์จึงตรัสถามย้ำต่อไปอีกว่า ข้าพเจ้าอยากรู้ว่า เวลาใดสำคัญที่สุด ใครคือบุคคลสำคัญที่สุด และภารกิจใดสำคัญที่สุด  พอพระราชาถามจบ ฤๅษีก็ยังนิ่งไม่พูดอะไรและขุดดินต่อไป
 
     พระราชาเห็นฤๅษีมีอายุมากแล้วจึงตรัสว่า ข้าพเจ้าจะช่วยท่านขุดดินก็แล้วกัน พระองค์ทรงคิดว่า ฤๅษีกำลังกังวลเรื่องขุดดินจึงไม่ตอบคำถามของพระองค์
 
     พระราชาช่วยฤๅษีขุดดินอยู่เป็นชั่วโมง ฤๅษีชอบใจจึงนั่งลงพอพระราชาขุดดินได้มากพอสมควร แล้วจึงเอ่ยถามฤๅษีอีกครั้งว่า  ข้าพเจ้ามาที่นี่เพราะอยากรู้ว่า เวลาใดสำคัญที่สุด ใครคือบุคคลสำคัญที่สุด และภารกิจอะไรสำคัญที่สุด ถ้าท่านตอบไม่ได้ก็ขอให้บอกมาตรงๆ ข้าพเจ้าจะได้กลับ
 
     ฤๅษีไม่ได้ตอบพระราชา แต่กลับพูดขึ้นว่า ได้ยินเสียงฝีเท้าไหน มีคนกำลังวิ่งมาทางนี้  พระราชาตั้งใจฟังเสียงฝีเท้าก็เห็นด้วยไม่ช้าทั้งสองก็เห็นคนหนึ่งวิ่งโซซัดโซเซเข้ามาหา ขาเอามือกุมท้อง มีเลือดไหลซึมตามร่องนิ้วมือ พอเข้ามาใกล้เขาก็ล้มลงไปที่พื้น
 
     พระราชาเข้าไปดูใกล้ ๆ จึงเห็นบาดแผลที่ท้องน้อย รีบนำผ้ามาห้ามเลือด แล้วทำแผลให้จนชายคนนี้รอดตายอย่างหวุดหวิด
 
     พอเขาฟื้นขึ้นมาพบว่า พระราชาเป็นคนช่วยชีวิตตนเองเอาไว้จึงสารภาพว่า พี่ชายของตนเองตายในการรบกับพระราชาเมื่อปีก่อนทรัพย์สมบัติถูกริบไปจนหมดตัว จึงผูกอาฆาตแค้นพระราชามาก พอรู้ข่าวว่า พระราชาจะมาหาฤๅษีบนเขานี้เพียงลำพัง เห็นเป็นโอกาสจึงจะมาดักลอบทำร้ายพระองค์
 
     พอตนเห็นฝ่ายพระราชาอยู่บนเขาเป็นชั่วโมง ไม่ยอมลงไปสักทีจึงคิดจะลุยฝ่าขึ้นมา เจอทหารองครักษ์อยู่ที่เชิงเขาจึงต่อสู้กันจนตนเองถูกอาวุธต้องหนีตายขึ้นมา แต่พระราชากลับมีเมตตาช่วยชีวิตเอาไว้ นับแต่นี้ไปจะไม่ขอถือโทษอาฆาตพยาบาทพระราชาอีกแล้ว แต่จะขอสวามิภักดิ์ถวายความจงรักภักดีตลอดไป
 
     เมื่อพระราชาได้ยินก็ดีใจ จึงให้รางวัลด้วยการคืนทรัพย์สมบัติของชายคนนี้ที่ถูกริบไปคืนให้หมด แล้วเพิ่มทรัพย์สมบัติให้ด้วย จากนั้นพระราชาจึงหันมาถามฤๅษีอีกครั้งว่า แล้วท่านฤๅษีจะตอบคำถามข้าพเจ้าได้หรือไม่ว่า  เวลาใดสำคัญที่สุด ใครสำคัญที่สุด และภารกิจอะไรสำคัญที่สุด
                     
                                        เวลาใดสำคัญที่สุด
                                                                    ใครสำคัญที่สุด
 
ภารกิจอะไรสำคัญที่สุด
 
 
ฤๅษีตอบพระราชาว่า
ตอนที่ข้าพเจ้าขุดดิน เวลาขณะที่ขุดดินอยู่นั้น
คือ เวลาสำคัญที่สุด
และตัวข้าพเจ้า คือ คนสำคัญที่สุดแล้วภารกิจสำคัญที่สุด คือ การขุดดิน
 
แต่เมื่อพระองค์เจอชายคนที่ถูกอาวุธมา 
เวลาขณะนั้น คือ เวลาสำคัญที่สุดแล้ว
และ บุคคลสำคัญที่สุด
คือ คนที่กำลังจะตายเพราะถูกแทงด้วยอาวุธแล้วภารกิจสำคัญที่สุด คือ การช่วยชีวิตเขา
 
     โดยสรุป เวลาปัจจุบัน คือ เวลาสำคัญที่สุด เราอย่ามัวเสียเวลาไประลึกนึกถึงอดีต แล้วมัวพร่ำรำพัน หรือ ฟุ้งฝันถึงอนาคตจนเกินไป เอาตัวเราอยู่กับปัจจุบัน
 
     บุคคลสำคัญที่สุด คือ บุคคลที่เรามีปฏิสัมพันธ์ด้วย  ถ้าไม่ยุ่งกับใคร โดยมีสติอยู่กับตนเอง แล้วทำงานที่เราทำอย่างดีที่สุด หากจะต้องพูดจาหรือติดต่อสัมพันธ์กับใคร คนนั้น คือคนสำคัญที่สุดกับเราในขณะนั้น จงจดจ่ออยู่กับเขา พอเขาพูดให้ตั้งใจฟังสิ่งที่เขาพูด ไม่ใช่คุยกับคนนี้แต่ใจไปนึกถึงเรื่องอื่น เขาพูดอะไรไม่รู้เหมือนใจฟุ้งซ่านคุยไปเรื่อยเปื่อย แต่เขา คือ บุคคลสำคัญที่สุด ให้จดจ่อฟังอย่างตั้งใจ ปฏิสัมพันธ์ด้วยอย่างตั้งใจและมีสติ
 
ภารกิจสำคัญที่สุด คือ
สิ่งที่เราลังทำอยู่ในขณะนั้น
 
จากหนังสือ 24 ชั่วโมงที่ฉันหายใจ
โดย พระครูปลัดสุวัฒนโพธิคุณ
(สมชาย ฐานวุฑโฒ)