ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
* - - - - 1 คะแนน

2012 พรุ่งนี้โลกก็เปลี่ยนแปลงแล้ว (ฉบับ มายัน)


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 32 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 Light or White

Light or White
  • Members
  • 55 โพสต์
  • Location:donmueng, Bangkok 10210

โพสต์เมื่อ 27 May 2007 - 06:57 AM

วันสุดท้ายของปฏิทินชาวมายาคือ 21 ธันวาคม 2555


by Steven McFadden
October, 2002


In early Autumn 2002, Carlos Barrios journeyed North from his home in Guatemala to the Eastern edge of the Four Corners. In Santa Fe, NM, at the tail of the Rocky Mountain spine, Mr. Barrios spoke in a knowledgeable manner about the Mayan tradition and the fabled Mayan calendars.

The Mayan calendars are an object of intense interest for many thousands of people right now, because they focus upon the watershed date of Dec. 21, 2012. Everything changes by then, it is said.


ปฏิทินมายัน เป็นสิ่งที่น่าสนใจอย่างมากของผู้คนในขณะนี้ เพราะวันที่ 21 ธันวาคม 2012 เป็นจุดสนใจ ถูกกล่าวถึงว่าเป็นวันที่จะเกิดการเปลี่ยนแปลง

With a cultural heritage including thousands of pyramids and temples, and a calendar that has proven itself to be astronomically accurate over millions of years, the Maya tradition is widely considered to be a mystic key to the soul of Turtle Island (North America).

การสืบสายวัฒนธรรมรวมถึงสิ่งก่อสร้าง ปิรามิด และวัดนับพันแห่ง มีปฏิทินของตนเองที่ได้รับการพิสูจน์ถึงความถูกต้องทางดาราศาสตร์ มากกว่าพันปีปฏิทิน ความเชื่อของชาวมายาจึงได้รับการพิจารณาว่าเป็นกุญแจพิศวง ด้านจิตวิญญาณ ของคนแถบอเมริกาเหนือ

In public talks and in private interviews, Mr. Barrios laid out his account of the history and future of the Americas, and the larger world, based on his understanding of the Mayan tradition as both an anthropologist and an initiate. He spoke also about the path he sees ahead from now until the Winter Solstice of 2012.

Mr. Barrios ได้พูดถึงประวัติศาสตร์, อนาคตของดินแดนแถบอเมริกา และโลกใหม่ ตามความเชื่อของเขาเกี่ยวกับความเชื่อของชาวมายา ทั้งด้านมนุษย์วิทยา และจุดกำเนิด เขายังพูดถึงสิ่งที่เขามองจากปัจจุบันจนถึงวัน the Winter Solstice of 2012 (วันที่สั้นที่สุดในฤดูหนาวของปี 2555)

The range of teachings and insights offered by Mr. Barrios must be considered in the context of the realpolitik in his American homeland. The Maya of Guatemala, their pyramids, and their calendar have endured not in a new-age Shambhala of love and light, but in a milieu of treachery, beatings, torture, rape, and mass murder.


Decades of Darkness (ทศวรรษแห่งความมืดมน)

For 30 long years right-wing Guatemalan governments — supported both overtly and covertly by the US government — waged a terrorist war against the people of the land, murdering over 200,000 citizens, many of them indigenous Mayan people.

When the war finally wound down in the 1990s, the United Nations Truth Commission conducted an 18-month investigation. The UN found massive violations of human rights by the government of Guatemala with the complicity of the US government. The UN report stated that acts of "aggressive, racist and extremely cruel" violence descended to the level of genocide directed against the country's indigenous Mayan population.

When Amnesty International studied the Guatemalan situation in recent years, they came to an arresting conclusion. They wrote that real peace could come only through confronting Guatemala's "Corporate Mafia State."

They described this corporate Mafia state as an,
"'unholy alliance' of certain national and international economic actors, who work alongside sectors of the police and military and common criminals to control ‘black’ industries such as drugs, arms trafficking, money laundering, car theft rings, illegal adoptions, and kidnapping for ransom."
About the great dark shadow that has hung over the south-most part of Turtle Island, Mr. Barrios observes:
"These injustices began five hundred years ago and continue to this very day in all the Americas. The Indian Wars have never ended... I think the power holders in the developed world see it as necessary to destroy the indigenous peoples, or at least to destroy their culture, because they are not ‘consumers.’ The American Dream is built on the back of the Third World... But that is a false distinction for there is no Third World. There is only one world. We are all part of that one world, and we are all due respect."
While Guatemala has ostensibly been at peace for the last eight years, it is a disturbed peace. The war continues to have a residual impact on the people. Human rights violations still occur regularly, and even international human-rights monitors have been under threat.

Still, in the view of Mr. Barrios who came of age during the war, there have been improvements.
"There are no armed guerillas, and the police and army are more decent, more respectful," he observed. "Because there is more human respect now, we can try to find a new life."
One eventual consequence of Guatemala’s long-enduring climate of terrorism, has been mistrust and criticism. From this few are immune. Accusations are often aimed at people who purport to speak of the Mayan traditions. Mr. Barrios is enmeshed in this matrix of uncertainty. He criticizes others, and he criticized himself. He has become a figure of controversy for some traditional Mayan elders.

The World will Not End (โลกจะไม่สิ้นสุด)

Carlos Barrios was born into a Spanish family on El Altiplano, the highlands of Guatemala. His home was in Huehuetenango, also the dwelling place of the Maya Mam tribe. With other Maya and other indigenous tradition keepers, the Mam carry part of the old ways on Turtle Island (North America). They are keepers of time, authorities on remarkable calendars that are ancient, elegant and relevant.

Carlos Barrios เกิดในครอบครัวชาวสเปนของ El Altiplano แถบที่ราบสูงของ กัวเตมาลา บ้านอยู่ที่ Huehuetenango
ซึ่งเป็นที่อยู่ของ เผ่ามายา และชาวพื้นเมืองอื่นๆที่ยังรักษาธรรมเนียมและความเชื่อเดิม เขายังรักษาความรู้เกี่ยวกับเวลา และปฏิทินเก่าแก่ น่าทึ่ง น่าพิศวง

ไม่สามารถ upload ข้อมูลทั้งหมดได้กรุณาอ่านจาก Microsoft word ดีกว่าครับ

ไฟล์แนบ



#2 jane_072

jane_072
  • Members
  • 539 โพสต์

โพสต์เมื่อ 27 May 2007 - 08:21 PM

อือ...อ ขอให้แสงสว่างไม่มีอะไรมาบดบัง สาธุๆๆ

#3 Light or White

Light or White
  • Members
  • 55 โพสต์
  • Location:donmueng, Bangkok 10210

โพสต์เมื่อ 28 May 2007 - 12:26 PM

เรื่องราวในบทความข้างบนนั้นถูกเขียนในปี 2002 โดยชาวตะวันตก เขียนเรื่องราวอารยธรรมของชาวมายา บางข้อความอาจจะแปลอย่างคลาดเคลื่อนบ้าง เนื่องจากข้อจำกัดความแตกฉานของภาษา บางช่วงอาจไม่ได้แปลเพราะอาจจะรู้สึกว่าไม่สำคัญ หรือเป็นเรื่องของการคาดคะเน

เชื่อว่านักเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยาคงรู้สึกคุ้นๆบ้าง.
รู้สึกอัศจรรย์ใจหลายวรรคหลายตอนช่างสอดคล้องกับบทเพลงตะวันธรรมที่เราคุ้นเคย
Part of Life ที่ถูกเปิดเป็นครั้งแรกในวันงานทำบุญผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์สึนามิที่ อ.ตะกั่วป่า จังหวัดพังงา หรือจะเป็นบทเพลงแรกที่พูดถึงความเจ็บปวดครั้งแรกของมนุษย์ที่กำลังมาเยือนก่อนที่เข้าสู่วันใหม่ หรือยุคใหม่ของชาวมายา ความตายคือส่วนหนึ่งของชีวิต ยังมีความทุกข์อีกมากมายที่เราต้องเรียนรู้ เป็นบทเพลงที่ให้เรามีเป้าหมายร่วมกัน ให้เราคลายความเศร้าสลด โดยทำใจให้สงบเข้าถึงภายใน และพบกับสันติสุขจากกลางกาย และชีวิตใหม่ เมื่อเวลารุ่งอรุณ ได้พาวันใหม่มาเยือน ให้เรามีโอกาสเริ่มต้นในหนทางใหม่

ยังมีบทเพลงตะวันธรรมอื่นๆอีกมากมายที่สอดคล้องกัน Single mind, Sharing is great, The better choice and we are the miracle, พรุ่งนี้โลกก็สว่างแล้ว, ผู้กล้าที่แท้จริง, ดวงตะวันแห่งสันติภาพ

ตั้งใจฟังอย่างดีแล้ว มีความหมายที่ลึกซึ้งในเพลงเหล่านี้ ผมคิดว่าไม่มีเวลาอีกแล้วที่จะไปแสวงหาสิ่งอื่นนอกตัว ตัวเองรู้สึกว่ามีเวลาอีกไม่มากแล้ว ที่จะรีบเร่งทำความดี ทำความเพียรอย่างกลั่นกล้า ทำองค์พระภายในให้ปรากฏ

#4 Light or White

Light or White
  • Members
  • 55 โพสต์
  • Location:donmueng, Bangkok 10210

โพสต์เมื่อ 28 May 2007 - 01:34 PM

ภาพประกอบ

ไฟล์แนบ



#5 -_-@"ผาดำ"@-_-

-_-@"ผาดำ"@-_-
  • Members
  • 25 โพสต์

โพสต์เมื่อ 29 May 2007 - 03:43 PM

ปกติผมสนใจเรื่องแบบนี้มากครับ อยากรู้ว่าในอนาคตจะมีอะไรเกิดขึ้น
แต่ตอนนี้ผมรู้แล้วครับ ว่าเราสามารถรู้อนาคตได้ด้วยการทำใจหยุดนิ่ง
มันวิเศษมากครับ ถ้าผมทำได้ มันคงจะสนุกน่าดู

#6 วัดในดวงใจ

วัดในดวงใจ
  • Members
  • 1199 โพสต์

โพสต์เมื่อ 29 May 2007 - 06:41 PM

สาธุ
พระพุทธเจ้ารู้
และท่านก็ตรัสสรุป
ว่าทางเดียวที่จะรู้ตามท่าน
ตลอดจนหยุดตามท่าน
คือการมองเข้าข้างใน
และการหยั่งรู้สรรพสิ่งออกมาจากภายใน
คือสัญลักษณ์สำคัญของพุทธแท้
พุทธแท้จะรู้ว่าการพยายามมองออกข้างนอก
เป็นวิธีที่ไม่ทำให้รู้จักประโยชน์สูงสุด
อันพึงมีพึงได้จากความเป็นมนุษย์

#7 ชาร์ป

ชาร์ป
  • Members
  • 985 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:ปทุมธานี

โพสต์เมื่อ 30 May 2007 - 04:44 AM

จะเปลี่ยนได้เรา็ต้องช่วยกันด้วยละครับ

#8 Light or White

Light or White
  • Members
  • 55 โพสต์
  • Location:donmueng, Bangkok 10210

โพสต์เมื่อ 14 June 2007 - 12:26 PM

มีคำทำนายน่าสนใจ ลอกมาจาก อินเตอร์เนต เขาบอกว่าเป็นพุทธทำนาย ถอดความจากศิลาจารึก เขตมหาวิหาร ประเทศอินเดีย ใครทราบรายละเอียด ก็ comment ได้นะครับ


สาธุ อรหันต์สัมมาสัมพุทธเจ้าผู้เป็นพระสัพพัญญูรู้แจ้งโลกทั้งในอดีตและใน อนาคต ทรงมีเมตตากรุณาแก่สัตว์โลกเป็นล้นพ้นเมื่อครั้งพระองค์ดำรงพระชนม์อยู่ ได้ตรัสแก่พระอานนท์ว่า

ดูก่อนอานนท์ เมื่อศาสนาของของตถาคตล่วงเลยไปถึง กึ่งพุทธกาล สัตว์โลกทั้งหลาย ที่เกิดในยุคนั้น จะพบแต่ความลำบาก ทุกชาติ ทุกศาสนา ตามธรรมชาติอันหมุนเวียนของโลก ที่หมุนไปใกล้ความแตกสลาย แผ่นดิน แผ่นน้ำจะลุกเป็นไฟ มนุษย์และสัตว์จะได้ รับภัยพิบัติสารพัดทั่วทุกทิศ คนในสมัยนั้นจะมีนิสัยโหด ดุจกำเนิดจากสัตว์ป่า อำมหิตจะรบราฆ่าฟันกันเองถึงเลือดนองแผ่นดินแผ่นน้ำ ส่วนเวไนยสัตว์ผู้ขวนขวาย ในกุศลตามวจนะของตถาคตก็จะระงับร้อนไม่รุนแรง บ้านเมืองใดมีความเคารพยำเกรงใน พระรัตนตรัยและคุณบิดามารดา เหตุร้ายภัยพิบัติจะเบาบางแต่ก็จะหนีกฎธรรมชาติไม่พ้น

เริ่มแต่พุทธศาสนาล่วงเลย ๒,๕๐๐ ปี เป็นต้นไป ไฟจะลุกลามมาทาง ทิศตะวันออก ไหม้วัดวาอาราม สมชีพรามณ์จะอดอยากยากเข็ญ ลูกไฟจะตกจากฟ้าเป็น เพลิงผลาญ เหล็กกล้า จะทะยานจากน้ำ มหาสมุทธจะชอกซ้ำ สงครามจากทั่วทิศ ศึกจะติดเมือง ข้าวจะขาดแคลน ทั่วแคว้นจะอดอยาก ผีโขมดป่าจะเข้าเมือง พระเสื้อเมืองทรงเมือง จะหนีเข้าไพร ผู้เป็นใหญ่มีอำนาจ จะเรียกแมลงผีเสื้อเหล็กนับแสนตัว มาปล่อยไข่เป็นไฟผลาญ ยักษ์หินที่ถูกสาบเป็นเวลานาน จะตื่นขึ้นมาอาละวาด โลก ดิน ฟ้าอากาศจะแปรปรวน ตลิ่งจะพัง แผ่นดินจะถล่มเป็นทะเล โลกมนุษย์จะดิ่งสู่ความหายนะ นักปราชญ์จะถูกทำร้ายให้สิ้นสูญ

ในระยะนั้นศาสนาของตถาคตจะเสื่อมลงมาก เพราะพุทธบริษัทไม่อยู่ในศิลธรรม เชื่อคำคนโกง กล่าวคำเท็จ ไม่เคารพรักธรรมนิยม คนประจบสอพลอได้รับความเชื่อถือในสังคม ผู้ที่มีศิลธรรม ประพฤติดี ประพฤติชอบ กลับไม่มีใคร เคารพยำเกรง

พระธรรมจะเริ่มเปล่งรัศมีฉายแสงส่องโลกอีกวาระหนึ่งก็ต่อเมื่อ มีธรรมิกราช โพธิญาณบังเกิดขึ้น อยู่ในความอุปถัมภ์ของพระเถระผู้ทรงธรรมฤทธิ์ ทั้งสองพระองค์สถิตย์ ณ เบื้องต้นตะวันออกของมัชฌิมประเทศ จะเสด็จมาเสริมสร้างศาสนาของตถาคต ให้รุ่งเรืองสืบไปถึง ๕,๐๐๐ พระวัสสา

ดูก่อนอานนท์ เวลานั้นพลโลกเหลือน้อย คำทำนายของตถาคตนี้ ย่อมยังเวไนยสัตว์ให้ตั้งอยู่ในความไม่ประมาท ผู้ใดรู้แล้วไม่เชื่อ นับว่าเป็นกรรมของสัตว์ ที่ต้องสิ้นสุดไปตามกรรมชั่วของตน ผู้ใดปรารถนารอดพ้นจากภัยพิบัติ ให้รักษาศิล ๕ ประการ เจริญเมตตาภารนา ประกอบสัมมาอาชีพ มีใจสันโดษ รู้จักพอ ไม่โป้ปดคดโกง ไม่หลงมัวเมาอำนาจและลาภยศ ตั้งใจปฏิบัติตน ตามคำสอนของตถาคต ให้มั่นคง จึงจะพ้นอันตรายในกึ่งพุทธกาล"

นำมาโพสเพื่อยังความไม่ประมาทเกิดแก่สาธุชนทั้งหลาย

#9 Light or White

Light or White
  • Members
  • 55 โพสต์
  • Location:donmueng, Bangkok 10210

โพสต์เมื่อ 14 June 2007 - 01:06 PM

พุทธพยากรณ์ ขององค์สมเด็จพระสัมมาพุทธเจ้า เข้าใจว่ามาจากพระไตรปิฏก

‘‘ อานันทะ ดูก่อนอานนท์ก่อนถึงกึ่งพุทธกาล 15 ปี จะเกิดการณ์ ร้ายแรง จะมีการรบราฆ่าฟันซึ่งกันและกันฝนเหล็กจะตกจากอากาศ ไฟจะลงมาจากอากาศ จะเผาผลาญประชาชนให้พินาศ จะมีการล้มตายซึ่งกันและกันเป็นอันมาก

แต่ว่า ดูก่อนอานนท์ก่อนถึงกึ่งพุทธกาล 15ปี จะถือว่าเป็นการณ์ร้ายแรงหาได้ไม่ ทั้งนี้ก็เพราะว่าหลังกึ่งพุทธกาลไปแล้ว อานันทะ ดูก่อนอานนท์ จะมีความร้ายแรงมากกว่าก่อนกึ่งพุทธกาลมาก ยักษ์นอกพุทธศาสนาจะรบราฆ่าฟันซึ่งกันและกัน ต่างฝ่ายจะล้มตายกันฝ่ายละมากๆ สมณะ ชี พราหมณ์จะล้มตาย จะตายฝ่ายละครึ่งจึงจะเลิกรากัน สำหรับประเทศที่นับถือพุทธศาสนาจะมีภัยเหมือนกัน แต่ไม่ร้ายแรงนัก ’’

โดยปกติคำของพระพุทธเจ้าจะเที่ยงแท้ไม่เปลี่ยนแปลง ก่อนกึ่งพุทธกาลเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 มีการทำวิชชาที่วัดปากน้ำภาษีเจริญโดยหลวงพ่อวัดปากน้ำ เพื่อปกป้องประเทศไทยเพื่อรักษาพระพุทธศาสนาให้รอดพ้นจากระเบิดปรมาณูตามที่เราได้รับรู้กัน หลังกึ่งพุทธกาลมีใครหนอ ใครกันที่จะปกป้องคุ้มครอง (อายุพระพุทธศาสนา 5,000 ปี กึ่งพุทธกาลคือ 2,500 ปี)

นำมาโพสเพื่อยังความไม่ประมาทให้เกิดกับสาธุชนทั้งหลาย

#10 JJ.

JJ.
  • Members
  • 129 โพสต์
  • Location:คลอง4 ปทุมธานี
  • Interests:สมาธิ ความสงบ โลกหน้า

โพสต์เมื่อ 14 June 2007 - 08:17 PM

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม
เร่งส้างบารมีก้นเถอะ..
ขอให้ทุกรูปทุกนามทุกภพทุกภูมิจงเป็นสุข. รักษาตนให้พ้นจากทุกข์ภัยทั้งสิ้น...
...โปรดพิจารณา...นี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัว... ถ้าผิดพลาดประการใด...วอนผู้รู้ หรือ คิดแตกต่างช่วยแก้ไขให้ด้วย _/I\_ ขอบคุณครับ

#11 Patch Adum

Patch Adum
  • Members
  • 69 โพสต์

โพสต์เมื่อ 15 June 2007 - 06:31 PM

ชอบ...ชอบ...

#12 พญาหงส์ทอง

พญาหงส์ทอง
  • Members
  • 9 โพสต์

โพสต์เมื่อ 29 June 2007 - 12:44 AM

อืม ยังไงผมก็อยากให้โลกเปลี่ยนแปลงไปใทงที่ดีคับ และผมเชื่อมั่นว่าต้องเป็นชิ้นนั่นจริงๆ อย่างน้อยก็เราหนึ่งคนหละที่จะต้องเปลี่บยแปลงตัวเองให้ดีขึ้น

#13 บุญเย็น

บุญเย็น
  • Members
  • 812 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:thailand

โพสต์เมื่อ 29 June 2007 - 10:02 AM

ไม่ธรรมดา
อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด
นำมอ ตี่ จ่าง อ้วง ผู่ สัก

#14 Doctor 072

Doctor 072
  • Members
  • 96 โพสต์

โพสต์เมื่อ 12 July 2007 - 10:57 AM

โลกจะไม่สิ้นสุด มันเป็นแค่การเปลี่ยนแปลง
ความเข้าใจของชาวมายาเกี่ยวกับ เวลา ฤดูกาล และวงจร ได้พิสูจน์พวกเขาว่ายิ่งใหญ่และเข้าใจในเรื่องชีวิต วัฒนธรรมเป็นอย่างดี
วันที่ 21 ธันวาคม 2012 เป็นวันเกิดใหม่ เป็นการเริ่มต้นของ the World of the Fifth Sun เป็นการเริ่มต้นยุคใหม่ เป็นผลมาจาก- เป็นเครื่องหมายว่า- ดวงอาทิตย์เดินทางผ่านเส้น equator ของ Galaxy และโลกจะปรับทิศทางให้เข้ากับศูนย์กลางของ Galaxy
ดวงอาทิตย์ขึ้นของวันที่ 21 ธันวาคม 2012 เป็นครั้งแรกในรอบ 26,000 ปี ดวงอาทิตย์จะขึ้นเชื่อมกับการทับกันของทางช้างเผือกกับระนาบของ Ecliptic พรรณนาว่าบนท้องฟ้าจะปรากฏดาวเคราะห์ และดวงดาวต่างๆมากมาย ปรากฏการณ์ของจักรวาลครั้งนี้ถือว่าเป็น The Sacred Tree, The Tree of Life
การที่ดวงอาทิตย์อยู่ในตำแหน่งเดียวกับ Galaxy ในปี 2012 จะเปิดช่องทางหนึ่งสำหรับพลังงานจักรภพที่จะไหลผ่านโลก ล้างโลกให้สะอาด รวมทั้งล้างสิ่งที่อาศัยอยู่ ยกทั้งหมดสู่ภาวะที่สูงขึ้น ขั้นตอนเหล่านี้ได้เกิดขึ้นแล้ว
ถ้าคนบนโลกอยู่ถึงปี 2012 โดยยังมีสภาพปกติ ปราศจากการถูกทำลาย เราจะเข้าสู่ภาวะใหม่ ที่สูงขึ้น แต่เพื่อไปถึง ณ จุดนั้นได้ เราต้องเปลี่ยนด้วยแรงที่มีพลังมหาศาลเพื่อที่จะป้องกันเหตุการณ์ที่ไม่พึงปรารถนานั้น
มีความหวังถ้าผู้คนของฝ่ายสว่างรวมตัวกันเป็นหนึ่งปฏิบัติในแนวทางเดียวกันเราจะเข้าสู่ภาวะใหม่ ที่สูงขึ้น
เรากำลังอยู่ในยุคที่มีความสำคัญที่สุดของปฏิทินมายันและพยากรณ์ คำทำนายของโลกทั้งหมด ทุกความเชื่อ กำลังรวมกันเป็นหนึ่ง ไม่มีเวลาสำหรับสงครามเย็น จิตวิญญาณในอุดมคติเกิดขึ้นแล้ว
ด้านมืดสามารถเปลี่ยนเมื่อเผชิญกับหัวใจที่เปิด อย่างง่ายๆ นี่คือสิ่งที่นำไปสู่การรวมกัน นี่คือกุญแจสู่ the World of the Fifth Sun
การเกิดขึ้นของยุค the fifth Sun จะนำไปสู่ธาตุที่ถูกมองข้าม ที่ผ่านมาธาตุ ดิน น้ำ ลม และ ไฟ เป็นสิ่งที่ทุกคนรู้จัก ในยุคต่อไป ธาตุที่ห้าคือ อีเธอร์
Ether คือสิ่งที่เป็นกลางๆซึ่งกระจายผ่านที่ว่างและส่งผ่านคลื่นที่มีหลากหลายความถี่
Ethereal คือสิ่งที่เกี่ยวข้องกับศาสนา สัมผัสไม่ได้ เป็นสิ่งที่เหนือโลก คือสวรรค์
เราจำเป็นต้องแสดง ที่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง เลือกคนที่เป็นตัวแทนซึ่งเข้าใจและจะแสดงทางให้เห็นถึงความเคารพต่อแผ่นดิน การนั่งสมาธิคือสิ่งที่ดี แต่ต้องทำด้วย
นี่เป็นช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดสำหรับมนุษย์ เพื่อโลกแต่ละคนมีความสำคัญ ถ้าคุณเป็นมนุษย์ในยุคนี้ คุณต้องมีจิตที่จะทำงานเพื่อรักษาสมดุล The planet
เป้าหมายของชาวมายันเป็นเดียวกับเป้าหมายของโลก
ปัญญาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดอยู่ในสิ่งที่ง่ายๆ
ความรัก ความเคารพ ความอดกลั้น การแบ่งปัน ความกตัญญู การให้อภัย มันเป็นสิ่งที่ไม่ยุ่งยาก ความรู้จริงๆนั้นฟรี สิ่งที่ต้องการอยู่ภายในตัว

dry.gif unsure.gif rolleyes.gif smile.gif happy.gif laugh.gif wink.gif

#15 jane_072

jane_072
  • Members
  • 539 โพสต์

โพสต์เมื่อ 18 July 2007 - 04:09 PM

อนุโมทนาบุญกับทุกๆท่านด้วยนะครับ สาธุๆๆ

#16 อหิงสา อโหสิ

อหิงสา อโหสิ
  • Members
  • 18 โพสต์

โพสต์เมื่อ 18 July 2007 - 06:52 PM

----เมื่อโลกเปลี่ยนแปลง ทุกอย่างย่อมเปลี่ยนแปลง สิ่งที่คงอยู่และที่แน่นอนที่สุดคือ "การเปลี่ยนแปลง" คือมีอยู่แน่น่อนเป็นนิรัดร์ เราต้องยอมรับกับการเปลี่ยนแปลง อย่ายึดมั่นถือมั่น และต้องเข้าใจด้วยว่า ความเชื่อที่เราสั่งสมกันมานานก็ย่อมเปลี่ยนแปลงด้วย -มนุษย์จงอย่ายึดมั่นเลยในทั้งปวง หรือ แม้แต่คำสอนของคนที่สอนเราในทุก ๆ เรื่องก็ตาม-

----อนิจจัง นั่นคือแน่นอน
Without body.What trouble could I have?

#17 Doctor 072

Doctor 072
  • Members
  • 96 โพสต์

โพสต์เมื่อ 19 July 2007 - 03:28 PM

The world will not end. It will be transformed.
Mayan comprehension of time, seasons, and cycles has proven itself to be vast and sophisticated.
The Dec. 21, 2012 date is viewed as a rebirth, the start of the World of the Fifth Sun. It will be the start of a new era resulting from — and signified by — the solar meridian crossing the galactic equator, and the earth aligning itself with the center of the galaxy.
At sunrise on December 21, 2012 — for the first time in 26,000 years — the Sun rises to conjunct the intersection of the Milky Way and the plane of the ecliptic, describing in the sky a great cross of stars and planets. This cosmic cross is considered to be an embodiment of the Sacred Tree, The Tree of Life — a tree remembered in all the world’s spiritual traditions.
This alignment with the heart of the galaxy in 2012 will open a channel for cosmic energy to flow through the earth, cleansing it and all that dwells upon it, raising all to a higher level of vibration. This process has already begun.
If the people of the earth can get to this 2012 date in good shape, without having destroyed too much of the Earth, we will rise to a new, higher level. But to get there we must transform enormously powerful forces that seek to block the way.
There is hope if the people of the light can come together and unite in some way, we will rise to a new, higher level.

We are living in the most important era of the Mayan calendars and prophecies. All the prophecies of the world, all the traditions, are converging now. There is no time for games. The spiritual ideal of this era is action.
The dark can only be transformed when confronted with simplicity and open-heartedness. This is what leads to fusion, a key concept for the World of the Fifth Sun.
The emerging era of the Fifth Sun will call attention to a much-overlooked element. Whereas the four traditional elements of earth, air, fire and water have dominated various epochs in the past, there will be a fifth element to reckon with in the time of the Fifth Sun: ether.
The dictionary defines ether as the rarefied element thought to fill the upper regions of space, the Heavens. Ether is a medium that permeates all space and transmits waves of energy in a wide range of frequencies, from cell phones to human auras. What is "ethereal" is related to the regions beyond earth: the heavens.
We need to act, to make changes, and to elect people to represent us who understand and who will take political action to respect the earth. Meditation and spiritual practice are good, but also action.
This is a crucially important moment for humanity, and for earth. Each person is important. If you have incarnated into this era, you have spiritual work to do balancing the planet.
The destiny of the Mayan world is related to the destiny of the whole world."
The greatest wisdom is in simplicity,
Love, respect, tolerance, sharing, gratitude, forgiveness. It’s not complex or elaborate. The real knowledge is free. It’s encoded in your DNA. All you need is within you. Find your heart, and you will find your way.

dry.gif unsure.gif rolleyes.gif smile.gif happy.gif laugh.gif wink.gif

#18 suppy001

suppy001
  • Members
  • 2210 โพสต์

โพสต์เมื่อ 02 August 2007 - 01:19 PM

อนุโมทนาบุญด้วยครับ...สาธุ



#19 Nida49

Nida49
  • Members
  • 456 โพสต์

โพสต์เมื่อ 06 August 2007 - 11:02 AM

ทุกอย่างในโลกมีวันเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา

อย่างเดียวที่เราต้องตั้งมั่นคือ ..รักษาใจไว้ที่ศูนย์กลางกาย

อนุโมทนาบุญกับทุกท่านด้วยคะ



#20 ธงรบ

ธงรบ
  • Members
  • 51 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:@072

โพสต์เมื่อ 13 August 2007 - 07:34 PM

สาธุ

"ทุกชีวิตดิ้นรนค้นหาแต่จุดหมาย ใจในร่างกายกลับไม่เจอ...
ทุกข์ที่เกิดซ้ำเพราะใจนำพร่ำเพ้อ หาหัวใจให้เจอก็เป็นสุข"

#21 Poti

Poti
  • Members
  • 254 โพสต์

โพสต์เมื่อ 15 August 2007 - 08:36 PM

ดีมากครับได้รู้การเปลี่ยนแปลงไปเรื่อย ๆ ของโลก เพราะโลกเราเปลี่ยนแปลงมามากแล้ว
ยุคต้นกัปป แผ่นดินนี้ก็แบนเหมือนแผ่นกระดาษ จึงเรียก แผ่นดิน
โลกมาฟูตัวเริ่มมีสัณฐานกลม เมื่อคนมีอายุลดลงมาที่ 1 แสนปี
แต่อีก 52 อันตรกัป มันน่าคิด แต่ลูกหลวงพ่อไม่กลัว ไหม้ได้ไหม้ไป ท่วมได้ท่วมไป ลมพัดได้พัดไป
ลูกหลวงพ่อหลานหลวงปู่ซะอย่าง (ครูดี)


#22 suriya1503

suriya1503
  • Members
  • 23 โพสต์

โพสต์เมื่อ 09 September 2007 - 05:48 PM

สรรพสิ่งต่างๆเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา นั่นคือตกอยู่ในกระแสของเวลาซึ่งจะกลืนกินทุกสรรพสิ่ง นั่นคือนำไปสู่ความเสื่อม แต่ผู้ที่มีใจหยุดนิ่งได้
ใจของเขาจะไม่ไหลไปตามกระแสของเวลา [/size]ยิ่งถ้าสามารถทำ.หยุด.ใน.หยุด ได้นอกจากไม่ไหลไปตามกระแสของเวลา
แล้วยังสามารถสวนกลับได้ด้วย ติดอยู่ในกระแสของความเจริญและความสว่าง
และถ้าผู้มีความสว่างมีใจหยุดมารวมกันเป็นจำนวนมากหยุดไปพร้อมๆกันจะส่งผลเป็น
พลังมวลแห่งความบริสุทธิ์ ส่งผลกระทบไปใน ดิน อากาศ ฟ้า ส่งแรงกระตุ้นกระทบจิตใจมหาชนให้หันกลับมามองภายใน ยุคของสันติภาพก็จะเกิดขึ้น เร็วไวรีบปิดโมดูลกันเราจะได้มีที่สำหรับรวมผู้มีใจหยุดจำนวนมากมายที่นี่ก็จะเป็นที่รวมใหญ่ ขณะเดี่ยวกัน
หมู่คณะของเราก็กำลังขยายความรู้เรื่องการทำใจหยุดไปสู่เพื่อนมนุษย์ทั่วโลก ในยุคหน้ามนุษย์จะมีแสงสว่างภายใน มาเป็นส่วนหนึ่งและเป็นส่วนสำคัญกันความสำเร็จรออยู่แล้วครับ

[size="3"]


#23 suppy001

suppy001
  • Members
  • 2210 โพสต์

โพสต์เมื่อ 10 September 2007 - 08:39 AM

รักและเทอดทูลครูบาอาจารย์ของเราจังเลย...สาธุ

#24 ถ่าน

ถ่าน
  • Members
  • 61 โพสต์

โพสต์เมื่อ 25 September 2007 - 11:16 PM

งง ไม่เข้าใจ

#25 Sareochris

Sareochris
  • Members
  • 207 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:-
  • Interests:-

โพสต์เมื่อ 18 November 2009 - 07:08 PM

ทฤษฎีเรื่องปี 2012 นั้นปีสิ้นโลกนั้น ยังคงเป็นเรื่องราวที่ถกเถียงกันในวงกว้าง ว่าไม่เป็นความจริง โดยมีนักวิชาการคนสำคัญออกมาให้ทรรศนะเรื่องนี้ จากการศึกษาค้นคว้าวิจัยเรื่องนี้อย่างจริงจัง ได้แก่

นายคาร์ลอส บาริออส(Carlos Barrios) นักประวัติศาสตร์ นักมามุษยวิทยา และนักค้นคว้า ผู้มีความรู้เกี่ยวกับเวลาและปฏิทินเก่าแก่ของชาวมายันเป็นอย่างดี ชายผู้นี้ถือกำเนิดในครอบครัวชาวสเปนในแถบที่ราบสูงของ กัวเตมาลา ซึ่งที่พักของเขาอยู่ที่ Huehuetenango อันเป็นที่อยู่ของเผ่ามายันและชาวพื้นเมืองอื่นๆ ที่ยังรักษาธรรมเนียมและความเชื่อเดิมตั้งแต่อดีตไว้ได้อย่างยอดเยี่ยม

คาร์ลอส ได้ทำการศึกษาจิตวิญญาณและวิถีชีวิตชาวมายัน ตั้งแต่อายุ 19 ปี มาเป็นเวลานานกว่า 25 ปี จนเขากลายเป็นนักบวชคนหนึ่งและเป็นผู้นำด้านจิตวิญญาณ ดดยเฉพาะแนวคิดที่สัมพันธ์กับวัน The Winter Solstice of 2012 ซึ่งเป็นวันที่สิ้นสุดในฤดูหนาวของปี ค.ศ.2012

โดยเฉพาะการที่เขาได้ค้นคว้าหาข้อมูลปฏิทินชาวมายัน จากการสัมภาษณ์ผู็สูงอายุ ชาวมายัน กว่า 600 คน เพื่อยืนยันว่าชาวมายันโบราณ"ไม่ได้เป็นผู้พยากรณ์ว่าโลกจะสิ้นสุดในปี ค.ศ. 2012"

ในขณะที่นักมานุษยวิทยา นักวิทยาศาสตร์ นักโบราณคดีทั้งหลาย ได้เดินทางมาที่โบราณสถาน ซึ่งเป็นแหล่งของชาวมายันเพื่อทำการเขียนเรื่องราวเกี่ยวกับชาวเมโสอเมริกา อันเก่าแก่ แต่เขาเหล่านั้นไม่ได้อ่านสัญลักษณ์ต่างๆ อย่างถูกต้อง ส่วนมากมักจะสร้างงานต่างๆขึ้นมาโดยอาศัยเพียง"จินตนาการ"นำมาเสริมกับทฤษฎีสมคบคิด จนกลายเป็นคำพยากรณ์ของชาวมายัน ที่สัมพันธ์กับปฏิทินของพวกเขา ที่บอกว่าโลกจะสิ้นสุดในเดือนธันวาคม ค.ศ. 2012 จนทำให้ผู้สูงอายุชาวมายันต่างพากันโกรธและไม่พอใจกับการกระทำแบบนี้

เพราะลูกหลานที่สืบเชื้อสายมาจากชาวมายันในอดีต เชื่อว่าตามคำสอนและความเชื่อของบรรพบุรุษนั้นไม่ได้บอกว่าโลกจะสิ้นสุดลงใน ปี ค.ศ. 2012 ซึ่งหากจะมีเหตุการณ์ใดเกิดขึ้น เหตุการณ์นั้นก็จะเป็นการเปลี่ยนแปลงทางจิตวิญญาณที่ดีขึ้น มิใช่การทำลายล้างแต่อย่างใด

คาร์ลอสสนับสนุนแนวคิดของลูกหลานชาวมายันเหล่านี้ ผ่านผลงานการเขียนที่มีชื่อเสียงของเขาปรากฎอยู่ในหนังสือ "The Book of Destiny" นำเสนอความลึกลับของชาวมายันและความเชื่อที่ถูกต้องในเรื่องของการทำนาย หายนะของโลกในปี ค.ศ. 2012 ซึ่งมีความสอดคล้องกับทฤษฎี The World Will Not End ดังที่กล่าวไว้แล้วด้วย

แต่ที่แน่นอน คือ ช่วงเวลาดังกล่าวจะมี การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของมวลมนุษยชาติ เกิดขึ้นอย่างแน่นอน

ภาคผนวกจ๊ะ ............................................................................................................................................
ทฤษฎีสมคบคิด
http://th.wikipedia....rg/wiki/ท

#26 Sareochris

Sareochris
  • Members
  • 207 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:-
  • Interests:-

โพสต์เมื่อ 19 November 2009 - 02:14 PM

เดวิด มอร์ริสัน (David Morrison) นักวิทยาศาสตร์นาซ่า (NASA)

เปิดเผยถึงข่าวที่กำลังแพร่สะพัดไปทั่วอินเทอร์เน็ตที่ว่า โลกจะถึงคราวสิ้นสุดลงในปี 2012 ด้วยเหตุผลทางดาราศาสตร์เป็นแค่"ข่าวลือ"เท่านั้น
โดยด็อกเตอร์มอร์ริสันระบุว่า อาการ"วิตกจักรวาล" (cosmophobia) ถูกยัดเยียดโดยเว็บไซต์วิทยาศาสตร์"ปลอม"
และผู้ที่พยายามจะหาเงินจากความไม่รู้ของสาธารณชน..

ความเชื่อที่แพร่กระจายอยู่บนเน็ตที่ว่า วันที่ 21 ธันวาคม 2012 จะเป็นวันโลกาวินาศ (doomsday)
เนื่องจากเหตุการณ์บางอย่างที่เกิดขึ้นในจักรวาลจะทำลายโลก กลายเป็นเรื่องหลอกลวง โดยคำยืนยันดังกล่าวมาจากด็อกเตอร์เดวิด มอร์ริสัน นักวิทยาศาสตร์นาซ่า
ซึ่งข้อสรุปของคำอ้างต่างๆ และการโต้ตอบของนักวิทยาศาสตร์ที่มีต่อเรื่องดังกล่าว กำลังได้รับการเผยแพร่โดยสมาคมดาราศาสตร์แห่งภาคพื้นแปซิฟิก
หลายเดือนที่ผ่านมา ทางนาซ่า และนักบินอวกาศหลายคนได้รับจดหมาย และอีเมล์แสดงความวิกตกังวลจากข่าวสารที่มีการเผยแพร่บนอินเทอร์เน็ตถึงความ เป็นไปได้ที่โลกจะคราววินาศ
และความสูญเสียของชีวิตมนุษย์อย่างมากมายในปี 2012 เหตผลและเงื่อนไขที่จะทำให้โลกแตกได้รับการนำเสนออย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการพุ่งชนของดาวเคราะห์ชื่อว่า Nibiru
จุดดับบนดวงอาทิตย์ที่เกิดขึ้นอย่งต่อเนื่อง ตำแหน่งใหม่ของการจัดวางศูนย์กลางกาแล็กซี่ และอื่นๆ อีกสารพัดเดวิด มอร์ริสัน บัญญัติอาการหวาดวิตกต่อเหตุการณ์ดังกล่าวว่า "cosmophobia"

ซึ่งเกิดขึ้นกับผู้คนทั่วโลกในวงกว้าง ด็อกเตอร์ มอร์ริสัน ผู้วชาญระบบสุริยจักรวาล (solar system) ที่เป็นที่รู้จักทั่วโลก (และการชนของดาวเคราะห์)
และเป็นนักวิทยาศาสตร์ที่ทำหน้าที่เผยแพร่ข่าวสารของนาซ่า บริการ "Ask an Astobiologist" โดยเขาจะตอบคำถามต่างๆ ให้กับสาธารณชน
ซึ่งเขาได้รับคำถามมากมายเกี่ยวกับปี 2012 โลกาวินาศจนรู้สึกว่า เขาต้องสืบหาต้นตอ และความจริงในเรื่องนี้ ประเด็นที่เขาให้ความสนใจมากที่สุดในการค้นหาก็คือ

ผู้แพร่กระจายหลายรายเริ่มต้นจากภาพยนต์ "2012" ที่มีกำหนดฉายในเดือนพฤศจิกายน โดยการสร้างเว็บไซต์วิทยาศาสตร์"ปลอม" และกระตุ้นให้ผู้คนค้นหาคีย์เวิร์ด "2012" บนเว็บ
ซึ่งเว็บไซต์ส่วนใหญ่จะที่ค้นพบได้จะเต็มไปด้วยข้อมูลไร้สาระ และความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน โดยเฉพาะผู้ที่เขียนหนังสือเกี่ยวกับความหายนะที่พยายามจะขายหนังสือของพวกเ ขา

บทความของมอร์ริสันจะอยู่ในรูปของคำถามและคำตอบ ตามด้วยแนะนำแหล่งข้อมูลวิทยาศาสตร์ที่ผู้อ่านสามารถค้นหาเกียวกับเหตุผลที่ ว่า ทำไมถึงไม่มีการพูดถึงเหตุการณ์ที่จะเกิดความหายนะในปี 2012 มันมีเหตุผลมากมายที่น่ากังวลเกียวกับอนาคตของโลก แต่ที่แน่ๆ ไม่มีเหตุผล หรือกำหนดช่วงเวลาที่โลกจะแตกในปีนั้น ตัวอย่างแหล่งข้อมูลที่แนะนำ เพื่อแสดงให้เห็นว่า สิ่งแปลกๆ หรือเหตุการณ์ประหลาดต่างๆ เป็นเรื่องโกหกทั้งเพ


ไฟล์แนบ



#27 ลูกพระธัม ฯ

ลูกพระธัม ฯ
  • Members
  • 2 โพสต์

โพสต์เมื่อ 10 August 2010 - 06:42 PM

ฝาก HI 5 DMKY ด้วย น่ะค่ะ

http://DMKYfc072.hi5.com

siriwimon072


#28 *ผู้มาเยือน*

*ผู้มาเยือน*
  • Guests

โพสต์เมื่อ 16 January 2011 - 10:14 PM

มันไม่สำคัญว่าโลกจะแตกเมื่อไร เพราะว่า คุณอาจจะตายก่อนก็ได้ อาจจะเป็นพรุ่งนี้ วันนี้ หรือแม้กระทั่งวินาทีนี้ ทุกคนเกิดมาต้องตายหมด ขอแค่ทำทุกวินาทีให้มีค่าก็พอ

#29 *ผู้มาเยือน*

*ผู้มาเยือน*
  • Guests

โพสต์เมื่อ 25 October 2011 - 08:58 AM

อาชีพเสริม รายได้เสริม กับ บริษัทที่มีความมั่งคง จริงใจ และ เป็นที่รู้จัก
ทำง่าย ไม่กระทบ งานประจำ ถ้าขยัน รายได้มากกว่าเงินเดือน แน่นอน
มีประกันอบัติเหตุให้ด้วย สนใจลองเข้าไปศึกษาได้เลย
www.you-can-do.net/?refno=32438


#30 *RATTAWAT*

*RATTAWAT*
  • Guests

โพสต์เมื่อ 11 November 2011 - 07:58 PM

สวรรค์-นรก...ไม่มีตัวตน...ไม่ได้อยู่ตรงไหน หรือตายแล้วจะไปไหน...ศาสนา ถือเป็นจิตวิทยาชั้นสูง เป็นการจัดระเบียบทางสังคมอย่างชาญฉลาด.....ถ้าห้ามเฉยๆก็ไม่มีใครฟัง...จึงบอกว่า ถ้าเราทำไม่ดี ตกนรก...ทำดีขึ้นสวรรค์ ความจริงแล้ว เราสามารถสัมผัสนรก และสวรรค์ได้ โดยที่ไม่จำเป็นต้องตายทำดี มีความสุข ก็นั่นแหละสวรรค์ ทำชั่ว ทุกข์ใจ นั่นแหละนรก ไม่ต้องไปตีความหมายมากมาย ไม่ต้องถามหานรก - สวรรค์ เพราะยังไม่มีใครไปเห็นสวรรค์ หรือนรกจริง ๆ แล้วกลับมาเล่าให้เราฟังได้ เพียงแต่บอกว่าเห็นเป็นนิมิตร ซึ่งก็ยังพิสูจน์ไม่ได้...เราจึงไม่ตกอยู่ในความประมาทเป็นดีที่สุด...คือมีสติ.....อันนี้สามารถพิสูจน์ได้...แต่สวรรค์-นรก ถือว่าไม่เป็นวิทยาศาสตร์