ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
- - - - -

ไหว้เจ้าหรือใส่บาตร คืออำนาจของบุญ (20 กุมภาพันธ์ 2546)


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 3 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 extra

extra
  • Members
  • 409 โพสต์

โพสต์เมื่อ 24 July 2006 - 11:06 PM

ย่อเรื่อง ไหว้เจ้าหรือใส่บาตร คืออำนาจของบุญ (20 กุมภาพันธ์ 2546) โดย Extra happy.gif

บางคนคิดว่าตายแล้วสูญ บ้างก็ว่าตายแล้วไปอยู่กับพระเจ้า อยู่สรวงสวรรค์เป็นนิรันดร ถ้าไม่เชื่อไม่เคารพก็จะไปนรกยาวนานไปคอยวันสุดท้ายที่จะตัดสินพิพากษา แท้จริงแล้ว สิ่งที่เราต้องเชื่อ คือ ปัญญาตรัสรู้ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ท่านหมดกิเลส ความโลภ ความโกรธ ความหลงของท่านไม่หลงเหลือเลย จิตของท่านบริสุทธิ์ เพื่อประโยชน์สุขของมวลมนุษยชาติ ท่านสอนทุก ๆ คนในโลก ไม่ใช่คนใดคนหนึ่ง หรือหมู่ใดหมู่หนึ่ง

ความเชื่อเรื่องกฎแห่งกรรม จะทำให้เราเกิดหิริ โอตตัปปะ เกิดความละอายต่อบาป เกรงกลัวการทำบาป ไม่ว่าจะมีคนเห็นหรือไม่เห็นก็ตาม กลัวไปเป็น เปรต อสุรกาย สัตว์เดรัจฉาน พอมีความละอายและเกรงกลัวต่อบาป โลกจะอยู่เย็นเป็นสุข ไม่ต้องมีกฎหมาย ไม่ต้องมีตำรวจ ไม่ต้องมีทนาย ศาล ราชทัณฑ์ ทหาร ไม่มีความหวาดระแวง มีแต่ความเป็นพี่เป็นน้อง มีแต่การแบ่งปัน ให้ซึ่งกันและกัน ถ้าทุกคนในโลกเชื่อเรื่องกฎแห่งกรรม ซึ่งเป็นเบื้องต้นของสัมมาทิฐิ (ความเห็นที่ถูกต้อง) เป็นเบื้องต้นของมรรคมีองค์แปด ชีวิตในภพทั้ง 3 วนเวียนไปมาในสังสารวัฏ เมื่อเกิดเป็นมนุษย์ ถ้าไม่ประมาท สร้างความดี ก็ไปเป็นเทวดา ดียิ่งขึ้นก็ไปเป็นพรหม อรูปพรหม หากประมาทก็ลงไปเกิดในอบาย เป็นเปรต อสุรกาย สัตว์เดรัจฉาน สัตว์นรก ชีวิตหมุนเวียนกันไป พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสว่า แม้เคยเกิดเป็นพรหมชั้นสูงสุดก็ยังไม่เที่ยง เมื่อประมาท ก็พลัดไปเกิดในอบายได้


กรณีศึกษาวันนี้ พ่อของเจ้าของเคส เป็นคนจีน เป็นบุตรชายคนที่ 2 ทำอาชีพชาวนา ชีวิตลำบาก จึงย้ายมาอยู่เมืองไทย ทำอาชีพขายผลไม้ ย้อมผ้า เลี้ยงเป็ดไก่เอาไว้ฆ่า วันเทศกาลตรุษจีนและสารทจีน จะฆ่าเป็ดไก่จำนวนมาก เพื่อไหว้เจ้าและรับประทานกันเองในครอบครัว ตัวเองไม่มีโอกาสได้เรียนหนังสือ ไม่มีวิชาชีพ คิดว่าการฆ่าเป็ดไก่ไม่บาป เพราะนำมาไหว้เจ้า อุปนิสัยชอบช่วยงานสาธารณะ งานศาลเจ้า เป็นคนมีน้ำใจ ชอบช่วยเหลือคนอื่น ไม่เคยทำบุญตักบาตร เคยแต่ทำบุญบ้าน ที่มีโอกาสถวายอาหารพระและกรวดน้ำ ท่านเป็นคนกตัญญูต่อแม่มาก ก่อนท่านเสียชีวิตได้บอกกับพี่สาวของท่านว่า เห็นเป็ดไก่เต็มห้องไปหมดเลย ท่านไม่รู้จักวัดพระธรรมกาย ไม่เคยสร้างบารมีเลย ลูกทำบุญให้ท่านด้วยเงินเดือน เดือนแรก และสร้างมาเรื่อย ๆ สร้างพระภายในแกนกลาง เสาเข็มพระมงคลเทพมุนี สร้างพระบรมพุทธเจ้า สร้างเส้นทางมหาปูชนียาจารย์ วิหารคุณยาย สภาธรรมกายสากล ฉลองมหาธรรมกายเจดีย์ กฐิน ฯลฯ ทุกบุญทั้งทำเองและชวนหมู่ญาติ แล้วก็อธิษฐานให้พ่อให้แม่มารับบุญ

แม่ละโลกด้วยโรคหัวใจ โรคความดัน เบาหวานและกระดูกเสื่อม ตอนมีชีวิตอยู่ชอบทำทาน ช่วยคนจน ช่วยงานศาลเจ้า แม่ไม่เคยฆ่าสัตว์ ช่วงก่อนที่จะเสียชีวิต ท่านเดินไม่ได้ทรมานมาก แม่เคยถูกรถชน เคยผ่าตัดลำไส้ แม่เป็นคนกตัญญูต่อพ่อแม่ รักพี่รักน้อง ชอบช่วยเหลือญาติพี่น้อง ลูกเคยพาแม่ไปใส่บาตรพระ ถ้าแม่ไม่ได้ใส่บาตรจะหุงข้าวตอนเช้าเพื่อให้ไปใส่บาตร ทำบุญอะไรมา แม่ก็อนุโมทนาบุญ พอกลับจากงาน ก็กลับไปสอนให้แม่พูดว่า “ ขออนุโมทนาบุญด้วย” ต้องสอนทีละคำเพราะแม่พูดไทยไม่ชัด แรก ๆ ลูกไม่กล้าสร้างองค์พระให้แม่ เพราะมีเพื่อนพูดว่าคนที่มาวัดพอได้บุญเยอะ ๆ แล้วจะเสียชีวิตก่อนกำหนด กลัวแม่จะจากไป จึงไม่ได้สร้างองค์พระให้แม่ ต่อมาคิดได้ จะสร้างองค์พระให้แม่ จึงสร้างให้พ่อด้วย และทำทุกบุญ ลูก ๆ เคยบินกลับมาเมืองไทยเพื่อถวายปัจจัยปี 2542 พร้อมน้าแอนด์ น้าโกตา ลุงอารักษ์ น้าน้อยสุภีร์ น้านวลน้อย จากศูนย์ซีแอตเทิล

อยากทราบว่า บุญที่ทำให้พ่อให้แม่นั้น ท่านได้รับบ้างหรือไม่ ท่านละโลกแล้วไปไหน บุญถวายอาหารพระเช้าทุก ๆ วันอังคารและศุกร์ที่ศูนย์ซีแอตเทิลเป็นเวลา 3 ปี ท่านทั้งสองได้รับหรือไม่ ควรทำบุญอะไรให้อีก


ก่อนตายท่านมีคตินิมิตเป็นภาพของฝูงเป็ดไก่ ท่านจึงไปเกิดเป็นเป็ดไก่ไปให้เขาฆ่า ที่ไม่ไปลงนรกเพราะบุญถวายสังฆทาน และกตัญญูต่อบิดามารดา พ่อยังรับบุญไม่ได้ จำนวนที่เกิดเป็นเป็ดไก่ นับจากจำนวนขนเป็ดขนไก่คูณจำนวนตัวที่ฆ่า บุญไปคอยอยู่ที่ยมโลก เมื่อหมดกรรมจากเป็ดไก่แล้วไปยมโลก บุญก็จะช่วยได้ ตอนนี้บุญช่วยลดระยะเวลาเป็นสัตว์เดรัจฉานลงมาได้หน่อยหนึ่ง

การฆ่าเป็ดไก่ไปไหว้ศาลเจ้า ไม่มีเทวดาศักดิ์ใหญ่ลงมารับ มีแต่สัมภเวสีที่ขึ้นมาจากยมโลก บางทีก็ตายจากมนุษย์ไปเป็นภูติผีปีศาจ ยังไม่หมดกรรม ก็วนเวียนอยู่บนพื้นมนุษย์ อด ๆ อยาก ๆ พวกนี้ก็มากินโอชารส พอเราเอามากิน จะมีรสชาติจืด ทำเช่นนี้ไม่ถือเป็นบุญ เพราะฆ่าเป็ดฆ่าไก่ก็บาปแล้ว บางความเชื่อว่าต้องฆ่าเองถึงจะดี ถ้าสัตว์นั้นน้ำตาไหลก็เข้าใจว่ามันดีใจ

แม่ไม่เข้าใจเรื่องบุญกุศล แต่ก็ร่วมทำไป ไม่ได้ฆ่าสัตว์เอง ก่อนตายเกิดความทรมานเพราะเกิดความยินดีที่พ่อฆ่า เพื่อไปไหว้เจ้า คิดว่าใส่บาตรเสียเปล่า ไหว้เจ้าได้กิน มีคติอย่างนี้ ถ้าใส่บาตรบ่อย เดี๋ยวพระมาอีก ก่อนตาย แม่จึงทรมาน เป็นกรรมปัจจุบัน คือ พลอยยินดีในการฆ่าของพ่อ แต่มีบุญลี้ยงพระบ้าง ใส่บาตรบ้าง ได้ไปเกิดในชั้นจาตุมหาราชิกา เป็นบริวารเขา ไม่มีวิมานอยู่ ภายหลังลูกทำบุญไปให้จนมีวิมานเงินเป็นของตัวเองแล้ว

ชีวิตในโลก เป็นสามีภรรยากัน แต่พอตายแล้วก็แยกกันไปตามกรรมที่ตัวได้ทำเอาไว้ ทำไม่เหมือนกัน ผลก็ต่างกัน จึงไปคนละทิศคนละทาง เราจึงต้องเรียนรู้เรื่องกฎแห่งกรรม จะได้ดำเนินชีวิตได้ถูกต้อง


อีกเคสหนึ่ง ท่านเคยมาบวชช่วงสั้น ๆ ตอนอายุมากแล้ว ตระกูลของท่านสืบเชื้อสายมาจากผู้หลักผู้ใหญ่ชาวจีน มีบรรดาศักดิ์ มีสมบัติเก่าที่กระจัดกระจายอยู่ มีสมบัติสำคัญ 2 ชิ้น นำมาให้ดู และปวารณาว่าจะถวายเพื่อนำมาสร้างเจดีย์ แล้วเงียบหายไป มารู้อีกทีตอนท่านละโลกไปแล้ว ไปเป็นเปรต พูดไม่ได้ได้ แต่ส่งเสียงให้ช่วยเหลือ ตัวสูงใหญ่ อาเจียนออกมาเป็นอุจจาระ อาจม และหนอน แล้วโกยมากินเข้าไปใหม่



#2 นิ่งๆ นุ่มๆ

นิ่งๆ นุ่มๆ
  • Members
  • 618 โพสต์

โพสต์เมื่อ 24 July 2006 - 11:38 PM

สาธุค่ะ
อย่าทำตัวเหมือนเรือ ที่เก็บขยะในมหาสมุทร ใครเขาจะพูดอะไร จะว่าอะไรเราให้ใจขุ่น ก็อย่าไปสนใจ ปากก็ของเขา ความคิดก็ของเขา อย่าเอามาแบกไว้ เพราะสุดท้ายเรือจะล่มอยู่กลางมหาสมุทร ไปไม่รอด
น้าจี้

#3 เถลิงเกียรติ

เถลิงเกียรติ
  • Members
  • 760 โพสต์
  • Interests:N/A

โพสต์เมื่อ 25 July 2006 - 12:16 AM

อนุโมทนาบุญกับ ท่าน extra ด้วยนะครับ สาธุ

ในฐานะที่ข้าพเจ้าเรียนมาทางวิทยาศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ กระทู้ต่างๆ ที่ข้าพเจ้าแสดงความเห็นใน DMC.tv นี้
อาจเป็นเรื่องที่แตกต่างหรือเกี่ยวข้องกับ วิทยาศาสตร์ หรือ วิศวกรรมศาสตร์
ดังนั้นเรื่องที่ข้าพเจ้าเขียนถ้าไม่ตรงกับความคิดเห็นของท่านใด ขออย่าได้มีอคติก่อน
แต่ถ้าตรงกับความคิดเห็นของท่านผู้ใด ขออย่าได้เชื่อไปก่อน
ข้าพเจ้าขอยืนยันว่าเรื่องที่แสดงความเห็นเป็นแนวคิดของข้าพเจ้า
และข้อมูลที่ค้นคว้าเพื่อเสริมสร้างศรัทธาในพระพุทธศาสนาให้มั่นคง
ซึ่งอาจจะถูกบ้างผิดบ้างเป็นธรรมดา แต่ก็จะเป็นประโยชน์ เป็นข้อมูลหนึ่ง กับท่านที่ศึกษาทางพุทธศาสตร์
ข้าพเจ้ามีความเชื่อว่า แต่ละคนก็มีกรรมเป็นของตนเอง เราเป็นทายาทแห่งกรรม
ทำดีตามครูไม่ใหญ่ ต้องได้ดีแน่นอน
และสรุปได้ว่า การเอาธรรมในพุทธศาสนามาใช้ในการดำรงชีวิตไม่เคยล้าสมัย สามารถใช้ได้กับทุกยุคทุกสมัย

ถึงจะเป็นตะเกียงดวงน้อยด้อยแสง แต่ไฟแรงจุดติดดวงอื่นได้
ไม่เสียดายให้แสงสว่างกับผู้ใด ชักนำใจให้สว่างเพียงแต่ธรรม



#4 ศูนย์กลางกาย

ศูนย์กลางกาย
  • Members
  • 94 โพสต์

โพสต์เมื่อ 25 July 2006 - 10:08 PM

อนุโมทนาบุญ