ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
* * * * * 3 คะแนน

ใครที่อยู่ในเหตุการณ์ "อัศจรรย์ตะวันแก้ว"บ้าง มารำลึกกันหน่อย


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 53 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 ครูอุ๋ย

ครูอุ๋ย
  • Members
  • 137 โพสต์
  • Gender:Female

โพสต์เมื่อ 03 August 2006 - 09:46 PM

แม้เหตุการณ์วันนั้น จะนานมากแล้ว แต่ก็ยังรู้สึกเหมือนเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวานนี้เอง ยังประทับตาตรึงใจอยู่ตลอดเวลา ไม่เคยลืม

จึงอยากให้ท่านที่ อยู่ร่วมกันในวันนั้น เล่าความอัศจรรย์ของดวงตะวัน เพื่อแลกเปลี่ยนกันฟัง เพราะมันอัศจรรย์มากเกินกว่าที่ หลายๆคนที่ไม่ได้อยู่ในวันนั้นจะรับได้ แม้แต่วีดีโอ ก็ไม่สามารถบันทึกได้ คนที่ไม่เชื่อ ก็เลยวิจารณ์กันไปต่างๆนาๆ

ตอนนั้นทางวัดก็ให้คนเขียนเล่าประสบการณ์ ส่งให้ทางวัดด้วย เห็นส่งกันเยอะแยะเลย แต่เราก็ไม่ได้ไปอ่าน

ในโอกาสนี้ลองเขียนมาเล่าให้ฟังกันหน่อยนะคะ นอกจากจะเป็นการระลึกถึงแล้ว ก็จะได้เผื่อแผ่ไปยัง ท่านผู้มีบุญที่มาภายหลัง ด้วย

ขออนุโมทนา นะคะ

#2 O:-) FaiRy

O:-) FaiRy
  • Members
  • 147 โพสต์
  • Gender:Female
  • Location:กรุงเทพมหานคร...

โพสต์เมื่อ 03 August 2006 - 10:29 PM

เห็นค่ะ แต่ยังเด็กๆ อยู่ จำได้ว่ามันซูมเข้าซูมออกเหมือนกล้องซูมสมัยก่อนค่ะ แล้วก็หมุนๆ มีแสงเปล่งออกมารอบๆ หลายสี ระยิบระยับมากค่ะ แล้วก็เป็นเวลานานด้วย ขนลุกอยู่นานมากๆ เลยค่ะ

#3 ครูอุ๋ย

ครูอุ๋ย
  • Members
  • 137 โพสต์
  • Gender:Female

โพสต์เมื่อ 03 August 2006 - 10:50 PM

ไม่ทราบว่าตอนนั้นอายุเท่าไหร่คะ คงผ่านมาประมาณ 8-9 ปีแล้ว มีบุญจังเลยนะคะ ที่ได้เข้าวัดตั้งแต่เล็กๆ แล้วก็ได้มีโอกาสพบเห็นสิ่งอัศจรรย์เช่นนี้น


#4 O:-) FaiRy

O:-) FaiRy
  • Members
  • 147 โพสต์
  • Gender:Female
  • Location:กรุงเทพมหานคร...

โพสต์เมื่อ 03 August 2006 - 10:55 PM

ก็คงจะสิบขวบต้นๆ ค่ะ

O;-)

#5 หัดฝัน

หัดฝัน
  • Members
  • 4531 โพสต์
  • Gender:Male
  • Interests:ธรรมะ

โพสต์เมื่อ 03 August 2006 - 11:21 PM

ผมก็อยู่ในเหตุการณ์ครับ
ได้ดี เพราะมีกัลยาณมิตร

#6 SmilingCat

SmilingCat
  • Members
  • 1209 โพสต์

โพสต์เมื่อ 04 August 2006 - 01:52 AM

สาธุ ผมคิดว่าคงจะมีอีกแน่ ๆ และทำอย่างไรถึงจะได้เห็นนะ
ต้องจ้องมองดวงอาทิตย์บ่อย ๆ เผื่อจะมีโอกาศบ้าง
หยุดคือตัวสำเร็จ

#7 BiBi

BiBi
  • Members
  • 240 โพสต์
  • Gender:Male

โพสต์เมื่อ 04 August 2006 - 09:17 AM

อยู่ในเหตุการณ์ค่ะ
ทำพระนิพพานให้แจ้ง แสวงบุญ สร้างบารมี

#8 eq072

eq072
  • Members
  • 504 โพสต์

โพสต์เมื่อ 04 August 2006 - 11:31 AM

กี่ปีแล้วนี่ยังจำได้เลย

สำหรับวันที่ 6 กย
ตอนเริ่มหลวงพ่อนำนั่งสมาธิ
แล้วเฆมท้องฟ้าก็กลายเป็นสีทอง
มีสายรุ้งเกิดขี้น

ตะวันแก้วมองแล้วไม่แสบตาเลย
เราก็เห็นแต่ดวงแก้วตะวันนี่แหละ
เป็นดวงแก้วจริง ๆ มีซูมเข้าซูมออกด้วยนะ

สำหรับวันที่ 10 กย
ดวงตะวันแก้วเกิดขึ้น
แต่ตอนนี้ที่ดวงตะวันมีเรื่องอจิณไตยคือ หมุนวนไปทางขวามาก ๆ
ซักพักมันก็หมุนวนไปทางซ้าย สลับกันไปมา
เห็นแล้วนี่มันเหมือนเรื่องละเอียดที่เคยได้ยินมาเลย

#9 สิริปโภ

สิริปโภ
  • Members
  • 1766 โพสต์
  • Gender:Male
  • Interests:เรื่องลึกลับ

โพสต์เมื่อ 04 August 2006 - 11:59 AM

รำลึกถึงเหตการนั้นด้วยเพลงนี้

วันนั้นน้ำตาไหลออกมาเอง เพราะปลื้มมาก เกิดมาได้เห็นสิ่งอัศจรรย์ ด้วยตาของตนเอง ปลื้มที่ได้มีบุญได้เกิดมาเจอของจริง คือพุทธศาสนาและวิชาธรรมกาย

เคยมีคนถามผมว่า อะไรทำให้ คุณดีใจที่สุดในชีวิต ผมตอบว่า ดีใจที่สุด ที่ได้เกิดมาในร่มเงาของพระพุทธศาสนา ได้เรียนรู้ว่า อะไรควรทำ และอะไรไม่ควรทำ และอะไรคือเป้าหมายสูงสุดของชีวิต

ไฟล์แนบ






#10 บุญโต

บุญโต
  • Members
  • 2192 โพสต์
  • Gender:Female
  • Location:อนุเสาวรีย์ชัยสมรภูมิ
  • Interests:ปฏิบัติธรรม

โพสต์เมื่อ 04 August 2006 - 01:01 PM

ทำไมบางคนเค้าไม่เชื่อค่ะ...หรือว่าเค้าแค่ได้ยิน แล้วเค้าไม่เชื่อ dont_tell_anyone_smile.gif

ส่วนตนเองเศร้าจังไม่มีบุญได้เห็น cry_smile.gif เข้าวัดช้าไป

#11 ครูอุ๋ย

ครูอุ๋ย
  • Members
  • 137 โพสต์
  • Gender:Female

โพสต์เมื่อ 04 August 2006 - 01:07 PM

โอ้...ได้ยินเพลงนี้ เหมือนอยู่ในเหตุการณ์วันนั้น อดน้ำตาซึมไม่ได้ เลยนะคะคุณสิริปโภ ครูอุ๋ยคิดว่าเพื่อนๆที่อยู่ในวันนั้น ก็คงจะมีความรู้สึกเช่นเดียวกัน ขอบคุณ และ ขออนุโมทนาด้วยนะคะ สาธุ

พอหวนคิด ก็อดเสียดายเวลาไม่ได้ รู้สึกว่าในตอนนั้น สิ่งอัศจรรย์ที่เห็นกันจะๆ กับตาตนเอง ทำให้เราเชื่อมั่นในคำสอนของหลวงพ่อ หลวงปู่ และคุณยาย ถึงวิชชาธรรมกาย ว่าทุกสิ่งที่ท่านสอนใว้ จริงแท้แน่นอน สิ่งเหลือเชื่อ ที่เคยๆได้ยินมา เป็นความจริงแท้แน่นอน มิใช่การสร้างเรื่องเล่าต่อกันมา

ความรู้สึกตอนนั้น อยากนั่งสมาธิมากๆ อยากเข้าถึงให้ได้ พอทำความเพียรไปสักพัก แต่ยังเข้าถึงไม่ได้สักที ก็เลยย่อหย่อน ลดความเพียรไป นั่งมั่งไม่นั่งมั่ง ก็เลยหลงเพลิดเพลินไปกับการงานทางโลกซะเลย ( อืม ...ขณะกำลังเขียนเรื่องตะวันแก้วอยู่นี้ ในทีวีเทปฝันในฝัน หลวงพ่อพูดก็ถึงตะวันแก้วพอดี..ปลื้ม..)

มาวันนี้ ย้อนถึงวันนั้น ก็เกือบ 10 ปี แล้ว เสียดายเวลาจัง ต้องตั้งใจนั่งสมาธิทำความเพียร ให้มากๆๆๆๆกว่าเดิมอีกหลายๆเท่า และให้สม่ำเสมอ ให้พอที่จะชดเชยเวลาที่ผ่านไปอย่างไร้ค่า นั้นให้ได้ แต่จะได้แค่ไหน ก็ไม่สำคัญ อย่างน้อยเราจะได้รู้ว่า เราได้ทำดีที่สุดแล้ว

#12 MiraclE...DrEaM

MiraclE...DrEaM
  • Members
  • 1368 โพสต์

โพสต์เมื่อ 04 August 2006 - 03:07 PM

เปิดบันทึกความทรงจำเมื่อ 8 ปีที่แล้ว

สิ่งที่จะเขียนต่อไปนี้ ตัวผมได้ทำการจดบันทึกเหตุการณ์และความรู้สึกทั้งหมดเอาไว้ เมื่อเวลาตี 2.20 น. ในวันที่ 7 กันยายน 2541 ซึ่งเป็นเวลาดึกสงัดหลังจากเกิดเหตุการณ์อัศจรรย์ตะวันแก้วครั้งแรก ถ้าอ่านแล้วจะวกวนไปบ้างก็กรุณาอย่าถือสา เพราะถ้าต้องเรียบเรียงใหม่อาจจะทำให้อรรถรส ซึ่งบ่งบอกถึงความปีติในสิ่งที่ได้ไปพบเจอมานั้นเปลี่ยนแปลงไปนั่นเอง

QUOTE
วันที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2541 (วันปิดแกนกลาง)

วันนี้เป็นวันอาทิตย์ต้นเดือนและมีการหล่อพระแกนกลางหลวงพ่อวัดปากน้ำ

ตอนเย็นที่เราไปถ่ายรูปที่ลานมหาธรรมกายเจดีย์และมีการนั่งสมาธิอธิษฐานจิต ถ่ายรูปประวัติศาสตร์ โดยมีธงหลวงพ่อวัดปากน้ำทองคำ หลังจากที่ถ่ายรูปเสร็จ หลวงพ่อธัมมชโยบอกให้ลูกๆ นั่งลง แต่สาธุชนที่อยู่ฝั่งซ้ายของมหาธรรมกายเจดีย์ไม่นั่ง (ฝั่งธุดงค์พระ) แต่มองไปทางทิศตะวันตก ตอนแรกคิดว่ามีการก่อม๊อป แต่ข้างหลังเรา มีเสียงคุณลุงตะโกนว่า หลวงพ่อวัดปากน้ำอยู่ที่ดวงอาทิตย์ที่กำลังจะตก

เราจึงหันไปดู จึงรู้สึกตื่นเต้นและอัศจรรย์เป็นอันมาก โดยที่ดวงอาทิตย์ส่องแสงเป็นสีนวล เย็นตา และดวงอาทิตย์ใสเหมือนดวงแก้ว หรือ ดวงธรรม และที่ขอบของดวงอาทิตย์เกิดประกายเป็นระยิบระยับ เหมือนดวงแก้วเวลาส่องแสง สวยงามมาก เป็นดวงอาทิตย์ที่มีทั้งความใสและแสงสว่างที่เย็นตา สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า และ เราก็เริ่มเห็นแสงสีเหลือง ชมพู ฟ้า ฯลฯ เปล่งเป็นรัศมีออกมาจากดวงอาทิตย์ เป็นเวลานานถึง 10 กว่านาที (12-13 นาที) ขณะนั้นเอง หลวงพ่อธัมมชโยให้เปิดเพลง "สถาปนามหาธรรมกายเจดีย์" (ดั่งดวงดาวฟ้า ดวงตารัตติกาล)

ทันใดนั้น ก็มีลมกรรโชกแรง แต่นิ่มนวล พัดเอาความเย็น โดย พัดมาจากทางหลวงพ่อธัมมชโย ซึ่งนั่งอยู่บนมหาธรรมกายเจดีย์ประมาณ 3 ครั้งใหญ่ๆ ดวงอาทิตย์ก็ยิ่งสว่างใส และเปล่งแสงสีชมพู และ ดูเหมือนจะมีดวงอาทิตย์ 2 ดวงซ้อนกันอยู่ ประหนึ่งเป็นสัญญาณว่า หลวงพ่อวัดปากน้ำได้รับรู้ถึงการสร้างพระแกนกลางให้ท่าน และ สามารถปิดแกนกลางได้สำเร็จในวันนั้น ปวงเทวดา พรหม อรูปพรหม รวมถึงพระนิพพานทั้งลับและเปิดเผยมาอนุโมทนา แซ่ซ้อง สรรเสริญพวกเราที่สามารถปิดแกนกลางได้สำเร็จโดยใน 1 อาทิตย์ นับจากวันที่ 30 สิงหาคม 2541 เราสามารถปิดพระแกนกลางจำนวน 4,000 องค์ได้สำเร็จเป็นอัศจรรย์

เราปีติมากจนน้ำตาไหล ขนลุกเพราะ 1 อาทิตย์นั้นเราได้ไปบอกบุญพระแกนกลางจนสามารถรวบรวมได้ครบ 8 องค์ (รับพระมหาสิริราชธาตุ 4 สี) ซึ่งเราได้ทุ่มกำลังกายและกำลังใจในการบอกบุญอาทิตย์นั้นเต็มที่ เพราะเราเหลือปัจจัยบวกเงินที่รวมในแบงค์เพียงแค่ประมาณ 50 บาท เราจึงทำได้เพียงบอกบุญและเราก็ทำสำเร็จ "เราชนะแล้ว"

ตอนกลับ เรามองเห็นรุ้งเป็นแนวเส้นตรงโดยมาจากทิศที่โบสถ์ตั้งอยู่ และ ก็เห็นก้อนเมฆเป็นสีทองใหญ่มาก และ ตอนหลังทราบว่า คนที่ใจหยุดนิ่งนั้นจะเห็นองค์พระธรรมกายสีทองอยู่บนฟ้า โดยที่เราเห็นสีทองบางส่วน และ บางคนบอกว่า ที่ยอดโดมธรรมกายเจดีย์เปลี่ยนเป็นสีทอง และหลวงพ่อธัมมชโยเปล่งสีชมพูและเขียว (ตัวหลวงพ่อกลายเป็นสีชมพูและเขียว) บางคนมองเห็นหลวงพ่อวัดปากน้ำนั่งสมาธิอยู่ในดวงอาทิตย์ และ เห็นธรรมกายเจดีย์สีทองอยู่ในดวงอาทิตย์ด้วย

วันนั้นหลวงพ่อให้เราเปล่งวาจาว่า "เราคือผู้พิชิต ปิดแกนกลาง ชิตังเม ชิตังเม ชิตังเม" และ ให้เราไปปราบมารกันให้ชนะ โดยหลวงพ่อเป็นผู้นำกล่าว เพราะพวกเราชนะแล้ว โดยปิดแกนกลางได้สำเร็จเป็นอัศจรรย์ และเป็นครั้งแรกที่หลวงพ่อนำกล่าวเช่นนั้นอย่างเป็นทางการ

ตอนที่เกิดปรากฏการณ์อัศจรรย์นั้น ทุกคนในลานมหาธรรมกายเจดีย์ ลุกขึ้นยืนดูด้วยความอัศจรรย์ใจ และหลวงพี่ยังเดินออกจากที่นั่งบนธรรมกายเจดีย์มาดูด้วยความอัศจรรย์ใจเช่นเดียวกัน บางคนตะโกนว่า "หลวงพ่อวัดปากน้ำมาโปรดแล้ว" เราอธิษฐานว่า "ขอให้ได้สร้างบารมีกับหลวงพ่อวัดปากน้ำและหลวงพ่อธัมมชโย ตราบถึงที่สุดแห่งธรรม"

หลวงพ่อธัมมชโยให้พวกเรากล่าวว่า "ทุ่มชีวี สร้างมหาธรรมกายเจดีย์" 3 ครั้ง ทุกคนกล่าวด้วยความปีติใจ เพราะรู้สึกว่า การสร้างบารมีอันยากยิ่งของเราในช่วงนี้ เทวดา พรหม อรูปพรหม รวมไปถึงพระนิพพาน แม้กระทั่งหลวงพ่อวัดปากน้ำ ท่านดูแลเราอยู่ เรามีความรู้สึกว่า เราอยากจะบอกข่าวบุญนี้แก่คนที่เรารู้จักทุกคน เพราะมีพยาน รวมทั้งเหตุการณ์อัศจรรย์นี้บ่งชี้ว่า การสร้างเจดีย์นี้ เป็นการสร้างมหาบารมีที่ยิ่งใหญ่ สุดประมาณ และ รับรู้แล้วว่า บุญจากการสร้างเจดีย์นี้มีมากมายมหาศาลสุดจะคณานับได้ จนกระทั่งบังเกิดเหตุอัศจรรย์ขึ้น แม้แต่หลวงพ่อธัมมชโย ยังกล่าวตอนที่เกิดเหตุอัศจรรย์ว่า "ลูกๆ ทุกคนดูไว้นะจ้ะ เหตุการณ์อัศจรรย์ได้เกิดขึ้นอีกแล้ว" หลวงพ่อคงจะปลื้มปีติมาก และ เราเองก็มีความปลื้มปีติที่ได้ฟันฝ่าการสร้างเจดีย์นี้เรื่อยมาด้วยความยากลำบาก โดยเฉพาะการสร้างพระแกนกลาง เราปลื้มจนกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่

พอกลับมาถึงบ้าน เรากลัวว่าจะลืมเหตุการณ์ที่น่าประทับใจนี้ เราจึงรีบเขียนจดเล่าเหตุการณ์และความรู้สึกไว้อ่าน ทบทวนเตือนความทรงจำเราเอง และ จะได้เล่าให้ผู้อื่นฟังด้วย ขณะที่เขียน เราก็เขียนด้วยน้ำตานองหน้าด้วยความปีติอย่างไม่สามารถบรรยายได้ จากนี้ไปเราจะขอสร้างมหาธรรมกายเจดีย์นี้ให้สำเร็จเร็วที่สุด ทันปี 2543 ซึ่งวันมาฆะ 2543 หลวงพ่อจะให้เป็นวันฉลองเจดีย์ และให้ลูกๆ รับเป็นประธานรองฉลองเจดีย์ด้วย
7 กันยายน 2541 เวลา 02.20 น.

สิ่งอัศจรรย์ ปรากฏ บนผืนหล้า
มหาวิหาร จรัสฟ้า ค่ายิ่งใหญ่
รูปทอง ผ่องผุด ดุจยองใย
สะท้อนถึง ห้วงดวงใจ สุดบูชา

*********************

รักษ์ร่างพอสร่างร้าย ..... รอดตน
ยอดเยี่ยม "ธรรมกาย" ผล ..... ผ่องแผ้ว

เลอเลิศล่วงกุศล ..... ใดอื่น
เชิญท่านถือเอาแก้ว ..... ก่องหล้าเรืองสกล


คำสอนของเดชพระคุณหลวงพ่อ
พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) ผู้ค้นพบวิชชาธรรมกาย

#13 บุญโต

บุญโต
  • Members
  • 2192 โพสต์
  • Gender:Female
  • Location:อนุเสาวรีย์ชัยสมรภูมิ
  • Interests:ปฏิบัติธรรม

โพสต์เมื่อ 04 August 2006 - 03:16 PM

สาธุ...ขอบคุณค่ะ ที่เล่าให้ฟัง

#14 รับบุญ

รับบุญ
  • Members
  • 120 โพสต์
  • Gender:Female

โพสต์เมื่อ 04 August 2006 - 05:24 PM

จะเกิดปรากฏการณ์แบบนี้อีกไหม อยากเห็นจัง เสียดาย.............

#15 niwat

niwat
  • Members
  • 1420 โพสต์
  • Gender:Male

โพสต์เมื่อ 04 August 2006 - 08:34 PM

ก่อนอื่นต้องขอกล่าวอนุโมทนาสาธุการกับยอดกัลฯ ผู้มีบุญทุกท่าน
ที่ได้มาเขียนเล่าประสบการณ์อัศจรรย์ตะวันแก้ว เป็นการย้อนระลึก
นึกถึงบุญปิดแกนกลาง ณ มหาธรรมกายเจดีย์.....


แต่ช่วงเวลานั้นผมยังศึกษา ป.ตรี อยู่ที่ประเทศออสเตรเลีย :'(
จึงไม่มีโอกาสได้เห็นปรากฏการณ์ที่ลืมไม่ลง คงไม่ลืม ปลื้มทุกชาติ
ณ วัดพระธรรมกาย แต่ถึงกระนั้นอาที่ไปร่วมงานก็ได้เล่าสิ่งที่พบ
เห็นให้ผมฟัง ซึ่งผมฟังแล้วก็มีความปลื้มปิติไปกับอามากๆ..


ผมก็ฝันไว้ว่า...วันหนึ่งผมคงจะมีโอกาสได้เห็นสิ่งอัศจรรย์เช่นนี้
ด้วยตาเนื้อสักครั้ง glare.gif


QUOTE
ขณะนั้นเอง หลวงพ่อธัมมชโยให้เปิดเพลง
"สถาปนามหาธรรมกายเจดีย์" (ดั่งดวงดาวฟ้า ดวงตารัตติกาล)
พี่ๆ กัลฯ สามารถดาวโหลดเพลงนี้ได้จาก กระทู้นี้ครับ
http://www.dmc.tv/fo...?showtopic=5751

ขอขอบคุณพี่ koonpatt ซึ่งเป้นผู้ upload เพลงนี้ครับ smile.gif

#16 ง่ายๆ

ง่ายๆ
  • Members
  • 147 โพสต์
  • Location:USA

โพสต์เมื่อ 04 August 2006 - 10:11 PM

นานมาแล้ว มีเหตุการณ์ที่เหนือจินตนาการเกิดขึ้นบนโลกใบนี้ ถึงเล่ายังไงก็ไม่อาจเห็นภาพได้ บอกได้อย่างเดียวว่า อัศจรรย์มากๆครับ เหนือจินตนาการ
หลุดพ้นจากพันธนาการ


#17 มองอย่างแมว

มองอย่างแมว
  • Members
  • 722 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:NYC

โพสต์เมื่อ 04 August 2006 - 11:03 PM

วันนั้นพลาดไปจริงๆครับ
ผมไปวัดตอนเช้า แต่ไม่ได้อยู่ต่อในพิธีที่เจดีย์ตอนบ่าย confused_smile.gif
"ฉุดมันเอาไว้ หยุดมันเอาไว้ ไม่ให้มันรวนเร ต้องหยุดนิ่งสุดใจ หยุดมันเอาไว้ ฉุดมันเอาไว้ ไม่ให้มันซวนเซ ต้องฉุดให้ใจหยุด"
- ไมโคร (เพลง หยุดมันเอาไว้)
"แค่หลับตา... (ลบเลือนทุกสิ่ง เหลือเพียงหนึ่งเดียว) เธอจะเห็นยามเธอหลับตา... (ใช้ใจสัมผัสและมองสิ่งนั้น) เธอจะเห็นตัวฉันเป็นอย่างที่เป็น"
- อุ๊ หฤทัย (เพลง แค่หลับตา)

#18 O:-) FaiRy

O:-) FaiRy
  • Members
  • 147 โพสต์
  • Gender:Female
  • Location:กรุงเทพมหานคร...

โพสต์เมื่อ 05 August 2006 - 12:26 AM

อ่านประสบการณ์ของทุกๆ คนแล้วขนลุกจริงๆ ค่ะ

O;-)

#19 light mint

light mint

    ขออนุโมทนาบุญค่ะ

  • Members
  • 1423 โพสต์
  • Gender:Female
  • Location:THAILAND
  • Interests:ธรรมะ

โพสต์เมื่อ 05 August 2006 - 12:49 AM

น่าปลื้มปิติจริงๆ กับทุกท่านที่ได้เห็นปรากฏการณ์ อัศจรรย์ตะวันแก้ว

..........................................

แต่เวลาปกติทั่วๆไป (ที่ไม่ใช่ปรากฏการณ์ตะวันแก้ว)
ในเวลากลางวัน ที่แสงแดดจ้า เช่นเที่ยงหรือบ่าย ไม่ควรจ้องมองดวงอาทิตย์โดยตรง นานๆ
เพราะอาจทำอันตรายต่อดวงตาได้ค่ะ
ขออนุโมทนาบุญนะคะ สาธุ


#20 puay

puay
  • Members
  • 155 โพสต์

โพสต์เมื่อ 05 August 2006 - 01:42 AM

อนุโมทนาบุญค่ะ


#21 หยุดอะตอมใจ

หยุดอะตอมใจ
  • Members
  • 729 โพสต์
  • Gender:Male

โพสต์เมื่อ 05 August 2006 - 12:46 PM

เคยได้ยินว่า อัศจรรย์ตะวันแก้ว มิได้เกิดขึ้น ณ วันที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2541 วันเดียวเท่านั้น หากแต่ยังมีผู้มีบุญ สามารถมองเห็นได้อีก ใน หลายๆ สถานที่ หลายๆ เวลา เช่น บางคนขึ้นพณาวัฒน์ ก็เห็น บางคนแม้อยู่ไกลถึงต่างประเทศ เช่น กลุ่มลูกพระธัมฯ ประเทศนอร์เว ก็เห็นเหมือนกัน เมื่อประมาณปลายปีที่แล้ว งานนี้ฝรั่งนอร์เว ถึงกับอึ้ง แล้วก็บอกว่าไม่เคยเจออะไรแบบนี้มาก่อนเลยในชีวิต แล้วยังเอาไปเล่าต่อๆ กัน smile.gif

ดังนั้น ผมเชื่อว่ามีอีกแน่ๆ ครับ

แค่นี้ยังทำไม่ได้ แล้วจะไปปราบมารได้ไง


#22 light mint

light mint

    ขออนุโมทนาบุญค่ะ

  • Members
  • 1423 โพสต์
  • Gender:Female
  • Location:THAILAND
  • Interests:ธรรมะ

โพสต์เมื่อ 05 August 2006 - 01:31 PM

ถ้าจิตใจของผู้มีบุญจำนวนมากเป็นหนึ่งเดียวกัน อยู่ในบุญ
และโอกาสบุญประจวบเหมาะกัน
ก็อาจจะได้เห็น "อัศจรรย์ตะวันแก้ว" อีก
ของจริง ที่เห็นได้ด้วยตาเนื้อ
ขออนุโมทนาบุญนะคะ สาธุ


#23 ครูอุ๋ย

ครูอุ๋ย
  • Members
  • 137 โพสต์
  • Gender:Female

โพสต์เมื่อ 05 August 2006 - 01:37 PM

อ่านบันทึกความทรงจำ ของคุณ Blue moon อ่านไป ก็ขนแขน stand up ไป เป็นระยะๆ คุณสามารถบรรยายได้ละเอียดและลึกซึ้งมากเลยค่ะ คุณจำได้แม้กระทั่งหลังเกิตเหตุการณ์ หลวงพ่อพูดอะไรบ้าง คุณนี่ก็คนอัศจรรย์เหมือนกันนะคะ สาธุ ค่ะ

วันนั้น ได้ไปพร้อม กับ คุณพ่อ คุณแม่ คงอยู่ด้านซ้ายของคุณ Blue Moon ล่ะค่ะ เพราะตอนเริ่มแรก ที่เห็นคนลุกฮือขึ้นมานั้น เห็นอยู่ทางด้านขวา เห็นเค้ามองขึ้นไปบนทองฟ้า ก็มองขึ้นไปบ้าง ว่าเค้าดูอะไรกัน แต่ก็ไม่เห็นมีอะไร นอกจากดวงอาทิตย์ และแล้วก็ต้องตกใจจนตาโต อ้าปากค้าง ตะลึงๆๆๆ อยู่แป๊บนึง กว่าจะสะกิดคุณพ่อคุณแม่ ให้มองไปที่ดวงอาทิตย์ " ดูที่ดวงอาทิตย์ค่ะ ดูที่ดวงอาทิตย์ " เราพูดซะดัง จนคนรอบๆหันขึ้นดูตาม ตาเราก็มองที่ดวงอาทิตย์ ปากเราก็ถาม คุณพ่อ คุณแม่ ว่า " เห็นมั๊ยๆๆๆ " ก็ไม่มีเสียงตอบ ที่เราเห็นตอนแรก ดวงอาทิตย์ไม่มีรัศมีจ้า มองเห็นแม้ขอบของดวงอาทิตย์ แต่ก็ไม่เหมือนตอนพระอาทิตย์ตกดินนะคะ เพราะในวันนึ้น เป็นเวลาที่ ปกติจะมองที่ดวงอาทิตย์ไม่ได้ จะแสบตามาก แต่ เราเห็นคล้ายสุริยุปราคา ที่ดูได้ด้วยตาเปล่า คือเหมือนมีดวงอะไรก็ไม่รู้ กำลังจะมาบังดวงอาทิตย์ ดวงๆนั้น สีชาอ่อนๆ เหมือนกับว่า กำลัง พยายามประกบ ให้แนบสนิท กับดวงอาทิตย์ ในขณะที่ยังไม่สนิทนั้น ก็มีแสงระยิบระยับ เกิดขึ้นรอบขอบดวงอาทิตย์ สวยงามมากๆๆๆๆ มาคิดภายหลังว่า ก็คล้ายกับ วงแหวนที่เกิดตอนสุริยุปราคา แต่นี่ไม่ใช่จุดเดียว เป็น รอบดวงอาทิตย์เลย แวบวับ แวบวับ อยู่รอบดวงอาทิตย์ ครู่นึง เหมือนดวงสงบนิ่ง ไม่แวบวับ แล้ว ก็พลันเห็นดวงอาทิตย์ ใส เหมือนแก้ว แล้วก็นูนออกมา ยุบเข้าไป เห็นเหมือนภาพสามมิติ ไม่แบน (มีคนอื่นใช้คำว่า ซูมเข้า ซูมออก ก็ชัดเจนดีค่ะ แต่ตอนนั้นรู้สึกอย่างนั้น) แล้วก็มีรัศมีแผ่ออกจากดวงอาทิตย์ กว้างมาก แสงกระจายทั่วฟ้าเลย สาดมาถึงตัวเราเลย สีฟ้า สีเขียว สีชมพู สีเหลือง สีม่วง สีแดง มีทุกสี คล้ายสีของรู้ง แต่มาทีละสีๆ(จำสีก่อนหลังไม่ได้นะคะ) แสงนั้นก็เป็นแสงสีที่ ไซ้.. ใส สวยม๊าก..มาก ไม่เคยเห็นแสงแบบนี้เลยในชีวิต ขณะที่ดวงอาทิตย์แผ่รัศมีนั้น ก็คล้ายกับดวงอาทิตย์หายไป เพราะสามารถมองทะลุผ่านไปด้านหลังได้ มองลึกไปได้ ไกลๆ ไม่ตันเหมือนปกติ แล้วเราก็รู้สึกตัวตอนที่ เย็นๆที่แก้ม น้ำตาไหลมาที่คางแล้วย้อยหยด หันไปมองรอบๆ คนอื่นๆก็เหมือนเรา คุณพ่อ คุณแม่ ก็เหมือนะเรา เรายิ้มกันทั้งน้ำตา น้ำตาที่หลั่งมาจากความปีติ พลันก็เกิดภาพในใจขึ้นมามากมาย เหมือนกรอวีดีโอ ย้อนหลัง นึกถึงคำกล่าวสอนของ หลวงพ่อ คุณยาย ที่กล่าวถึง ปาฏิหารย์ของวิชชาธรรมกาย ของหลวงพ่อวัดปากน้ำในอดีต "อย่างนี้นี่เอง แค่นี้ก็อัศจรรย์เหลือเกินแล้ว และที่คนในวัดเคยเห็น เทวดา เคย เห็นนางฟ้านั้น ก็คงไม่ใช่เรื่องแปลกเลย สำหรับผู้มีบุญมากอย่างพวกเขา เราได้เห็นวันนี้ก็นับว่าพอจะมีบุญกับเขาอยู่เหมือนกัน" พลันน้ำตาเราก็ยิ่งไหลพรั่งพรูออกมา แล้วก็คิดอยู่ในใจว่า คนอื่นๆ จะเห็นเหมือนกับเรามั๊ยน้า แล้วก็มีความรู้สึกว่า น่าจะเห็นเหมือนกับเรานะ ก็ตอนที่ รัศมีที่สาดมา เริ่มเปลี่ยนไปทีละสีนั้น พอเปลี่ยนสีทีนึง คนก็จะปรบมือ พร้อมกันทีนึง บางคนก็เอ่ยชื่อ สี ด้วย ซึ่งก็ตรงกับที่เราเห็น สีอะไรบ้างจำได้ไม่หมด แต่จำได้แม่นว่า สีสุดท้ายเป็นสีทอง เป็นสีทองอยู่นานมาก จนเรามีเวลามองไปรอบๆ มองเห็นพระที่นั่งอยู่ มีแสงสีทองสาดคลุมไปทั่ว งามเหลือเกิน มองไปรอบๆตัว ก็เห็นแสงสีทองทั่วไปหมด

ขณะนั้นคิดว่า ทุกๆคนที่อยู่ในที่นั้นเห็นเหมือนกันหมด แต่คนที่อื่นคงไม่เห็น เพราะ มีคนข้างๆ หยิบมือถือ โทรหาคนที่บ้านให้ดูที่ดวงอาทิตย์ แต่คนที่บ้านก็ไม่เห็นมีอะไรผิดปกติ ก็เห็นดวงอาทิตย์ปกติธรรมดา

ต่อมาภายหลังจึงรู้ว่า แม้คนที่อยู่ในเหตุการณ์ ก็มีบางคนไม่เห็นอะไรเลย นอกจากดวงอาทิตย์ที่มองแล้วแสบตา

เอ้า..! เลยเขียนเล่าซะยาวเลยเรา ทั้งๆที่ตอนแรกไม่ได้คิดว่าจะเขียน เป็นเพราะบันทึกของคุณ Blue Moon เลยล่ะค่ะเนี่ย



#24 yimgunnaja

yimgunnaja
  • Members
  • 11 โพสต์
  • Location:บางพลัด

โพสต์เมื่อ 05 August 2006 - 04:35 PM

วันที่เห็นอัศจรรย์ตะวันแก้ว วันนั้น ที่บ้านไปกันหลายคนค่ะ (อยู่หาดใหญ่ค่ะ) พ่อเห็นก่อนคนแรก แล้วเรียกให้พวกเรา ซึ่งเป็นลูกๆ ดู ส่วนคุณแม่ มองเห็นเป็นคนสุดท้าย เพราะตอนแรกบ่นว่าแสบตา ๆ แต่ตอนหลังก้อดูได้ ... น่าแปลกมาก ที่พวกเราแหงนหน้ามองตะวันพร้อมๆ กัน แต่พูดสีที่เห็นไม่เหมือนกัน มองตะวันเป็นสีเขียวบ้าง ฟ้าบ้าง ชมพูบ้าง ...แหงนหน้ามองไป ปากก้อพูดไปว่า สีเขียว ...อีกคนไม่ยอมบอกว่า ไม่จริง..สีชมพู ต่างหาก อีกคนบอกสีฟ้า....สรุปว่า อึ้งไปตามๆกัน เพราะนั่งอยู่ข้างๆ กันแท้ๆ ทำไมมองเห็นสีไม่เหมือนกัน.....เล่าแล้วขนลุก น้ำตาซึม เป็นบุญตา จริงๆ ที่เกิดมาได้เห็น....

ช่วงนั้น เริ่มมีข่าวโจมตีวัดมากมาย ... เพราะอัศจรรย์ตะวันแก้ว แท้ๆ ช่วยเปิดใจคุณพ่อ คุณแม่ และทุกคน ทำให้ครอบครัวของลูกได้เป็นครอบครัวธรรมกาย มาจนถึงทุกวันนี้...สาธุ


#25 คนไทย

คนไทย
  • Members
  • 95 โพสต์

โพสต์เมื่อ 06 August 2006 - 11:16 PM

ผมเป็นคนหนึ่งครับที่อยู่ในเหตุการณ์และจำได้ติดตามาถึงทุกวันนี้ อ้าปากค้างเลย เป็นอัศจรรย์ตะวันแก้วครั้งที่2 ประมาณปลายปี 2541ซึ่งเป็นการเข้าวัดครั้งแรกในชีวิต (ใครพอจำวันที่และเดือนได้บ้างครับ) จำได้ว่าวันนั้นที่ลานธรรมกายเจดีย์คนหลายแสนมาก ไม่แน่ใจว่าเป็นงานฉลองปิดเจดีย์ภายนอกหรือไม่ รบกวนผู้รู้ช่วยบอกหน่อย(ครั้งแรกที่เกิดเหตุการณ์นี้ ยังไม่ได้เข้าวัดครับ แต่จำได้ว่าทั้ง 2ครั้งห่างกันไม่กี่วัน)
เวลาประมาณ17.00น.กว่าๆ มีเสียงฮือฮาขึ้นระหว่างหลวงพ่อนำนั่งสมาธิ เลยลืมตามอง หลายคนชี้ให้ดูที่ดวงอาทิตย์ แปลกที่มองไม่แสบตาเลย ดวงสีกลมเหลืองนวลขาว สักพักขอบดวงอาทิตย์ก็หมุนเหมือนมีธรรมจักรมาวางด้านหน้า ทำให้ดูซูมเข้าออก พร้อมกับขอบดวงก็เปลี่ยนสีไปเรื่อยๆ เหลืองบ้าง ชมพูบ้าง ฟ้าบ้าง เขียวบ้าง สลับไปมาสวยงามมากๆ หลายคนน้ำตาไหลโดยไม่รู้ตัวพร้อมกับก้มกราบด้วยความปิติ บางคนโบกธงสบัดไหวไปมาหลายรอบพร้อมกับเปล่งเสียง สาธุๆๆ ขณะพิมพ์นี่ขนแขนแสตนอัพเลยครับ จำติดตาได้ดี เป็นบุญจริงๆ

#26 ครูอุ๋ย

ครูอุ๋ย
  • Members
  • 137 โพสต์
  • Gender:Female

โพสต์เมื่อ 06 August 2006 - 11:22 PM

วันนั้นก็น่าจะเป็นวันที่ 6 กย. วันเดียวกันล่ะมังคะ เอ...แต่วันที่ไปนั้นไม่น่าจะถึงแสนนะคะ หรือจะคนละวัน

#27 จะไปให้ถึงทีสุดแห่งธรรม

จะไปให้ถึงทีสุดแห่งธรรม
  • Members
  • 160 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:belgium

โพสต์เมื่อ 07 August 2006 - 10:32 AM

แล้วสำหรับ เพลงสถาปนา มหาธรรมกายเจดีย์ ต้นฉบับ หาโหลดได้จากที่ไหนครับ
ขอบคุณครับ

แล้วสำหรับ เพลงสถาปนา มหาธรรมกายเจดีย์ ต้นฉบับ หาโหลดได้จากที่ไหนครับ
ขอบคุณครับ

ถ้าหากข้อคิดเห็นของกระผม

ทำให้ผู้หนึ่งผู้ใด

เกิดความไม่สบายกายไม่สบายใจ

ขออโหสิกรรมไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะครับ


#28 Sareochris

Sareochris
  • Members
  • 207 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:-
  • Interests:-

โพสต์เมื่อ 07 August 2006 - 01:12 PM

หากผิดพลาดไป ขออภัยมา ณ ที่นี้ ด้วยครับ ไม่เกี่ยวขอเอี่ยวด้วยด้วย

เมื่อองค์เทพปรากฎ ณ ดวงตะวัน เมื่อนั้น สงครามที่ไร้ศาสตราวุธจักบังเกิดขึ้น

สาวกแห่งองค์เทพจะต่อสู้ด้วยดวงตาและปากที่ปิดสนิท ท่ามกลางลมมรสุม

หมาดำจักเห่าหอนไปทั่วทุกหัวระแหง และจะถูกขับไล่ไป

เมื่อเหล่าสาวกแห่งองค์เทพได้รับชัยชนะด้วยปากที่ปิดสนิทนั้น

หมู่มวลมนุษยชาติจักค้นพบเพชรพลอยในท้อง

ปล.สงครามไร้ศาสตราวุธ=สงครามน้ำลาย




#29 ครูอุ๋ย

ครูอุ๋ย
  • Members
  • 137 โพสต์
  • Gender:Female

โพสต์เมื่อ 07 August 2006 - 03:03 PM

คือถ้อยคำ ที่เป็นกำลังใจ ที่ดีที่สุดเลยนะคะ คุณSareochris อนุโมทนาบุญด้วยค่ะ สาธุ

#30 somo

somo
  • Members
  • 2 โพสต์

โพสต์เมื่อ 08 August 2006 - 02:24 PM

จำวันที่ไม่ค่อยได้แล้ว

วันนั้นราวๆ 5 โมงเย็น นั่งหลับตาอยู่กับครอบครัว 3-4 คน ทางฝั่งตะวันออกของมหาธรรมกายเจดีย์ แดดร้อนพอควรแต่ไม่แรงจัดมากนัก
แล้วก็เผลอลืมตาขึ้นมามองตรงไปที่ดวงตะวัน เห็นเป็นวงกลมสีทองสวยงามมาก
นั่งจ้องอยู่อย่างนั้นซักพัก เอ๊ะ ทำไมไม่เห็นแสบตา ดวงตาเราผิดปกติไปหรือเปล่า เอามือขยี้ตาดูก็ปกติดีนี่นา

มองต่อไปซักพัก เห็นมีรัศมีรอบๆดวงตะวันเป็นสีรุ้งวูบเข้าวูบออก เดี๋ยวก็วนไปวนมารอบดวงตะวัน
นั่งดูอยู่คนเดียวได้ซักพักชักไม่แน่ใจ เลยหันไปสะกิดแม่บ้านที่ยังนั่งหลับตาภาวนาอยู่ข้างๆ

พอคุณแม่บ้านเธอลืมตาขึ้นมา ก็ชี้ให้ช่วยดูดวงตะวัน บอกว่า ช่วยดูหน่อยผมเห็นพระอาทิตย์ดูแปลกๆ
คุณแม่บ้านเธอนั่งมองซักพัก แล้วพลันก็เกิดอาการ "หลุด" ลุกขึ้นยืนชี้มือชี้ไม้ไปที่ดวงตะวันและพูดออกมาเสียงดังพอสมควร จนกัลยาณมิตรบริเวณนั้นต่างลืมตาขึ้นมามองดวงตะวันกัน ซักพักก็เกิดการโกลาหลขึ้น ต่างลุกขึ้นยืนจ้องและชี้ชวนกันดูดวงตะวันกันทั้งแถบแบบไม่เกรงใจหลวงพ่อกันแล้วละ (ตามทีหลวงพ่อเคยกล่าวไว้)

ซึ่งแม่บ้านก็เอาไปเขียนเป็นบทความลงในวารสารของวัด (จำไม่ได้แล้วว่าฉะบับใด) ในหัวข้อ "อัศจรรย์ตะวันแก้ว"


นี่คือต้นตอของ "อัศจรรย์ตะวันแก้ว ปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติ" (Supernature)


หลังจากนั้นไม่นานเราก็ถูกโจมตีผ่านทางสื่อต่างๆ รวมทั้งเรื่อง "อัศจรรย์ตะวันแก้ว" นี้ ซึ่งผมและแม่บ้านได้ช่วยกันเขียนคำชี้แจงส่งไปแก้ข้อกล่าวหาหลายประเด็น เช่น การยิงแสงเลเซอร์ การถูกสะกดจิต เป็นต้น ซึ่งเขาก็เอาลงให้ จำได้ว่าเป็นน.ส.พ. เดลินิวส์และมติชน แต่แถมมีการเยอะเย้ยกลับมาอีก (ช่างpotatoนะ)