ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
- - - - -

บันทึกของนักสร้างบารมี


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
ไม่มีการตอบกลับในกระทู้นี้

#1 ทัพพีในหม้อ

ทัพพีในหม้อ
  • Moderators
  • 3279 โพสต์
  • Gender:Male

โพสต์เมื่อ 15 April 2014 - 06:37 PM

ที่จริงไม่อยากพูดเรื่องการเมืองมากนัก
แต่พออ่านรายงานนี้แล้ว 
ก็คิดว่าจำเป็นต้องทำอะไรออกไปบ้าง
อย่างน้อยช่วยกระจายข้อมูลบ้างก็ยังดี
เพราะการอยู่เฉยๆ ไม่ร่วมแก้ปัญหา 
เราก็คือส่วนหนึ่งของปัญหาภาคใต้ไปโดยปริยาย

----------------------------------------------------------

จะไม่หนี จะไม่ย้าย จะขอตายที่นี่
@ ๔ จังหวัดชายแดนใต้

เรื่องนี้เป็นเรื่องจริงเกิดขึ้น
ที่สถานีขนส่งสายใต้ เมื่อวานนี้(๑๑ เมษา ๕๗)

ผมเดินทางไปที่สถานนีขนส่งสายใต้ 
เพื่อเดินทางต่อไปรับบุญที่สงขลา

ขณะที่นั่งรอในห้องพักพระภายในสถานีขนส่งฯ 
ก็มีพระรูปหนึ่งอายุราวๆ ๓๕-๔๐ ปี เดิมเข้ามาหาผม 
แล้วท่านถามผมว่า มาจากวัดพระธรรมกายใช่ไหม 
ผมก็ตอบท่านว่า ใช่ครับ จากนั้นท่านก็เริ่มสนทนา
กับผมเหมือนคนคุ้นเคย

ท่านเล่าว่า ท่านเป็นคนนครศรีธรรมราช 
แต่ตอนนี้จำพรรษาอยู่ในอำเภอเจาะไอร้อง นราธิวาส 
เพราะโยมเขานิมนต์ให้อยู่ ทั้งวัดมีกัน ๓ รูป 
พระ๒ เณร๑(เป็นอดีตทหารปฏิบัติหน้าที่จนพิการ 
ได้เงินตอบแทนเป็นล้าน แต่ภรรยาหลอกเอาเงิน
แล้วก็ทิ้งขว้างไม่เลี้ยงดู) 
ท่านสงสารจึงบวชเณรให้ แล้วพามาอยู่ด้วย)

ท่านเล่าต่อว่าความเป็นอยู่ที่นั่นลำบากมาก 
ถูกรังแกและทำร้ายตลอด 
เพราะสำนักสงฆ์ที่อาศัยอยู่ 
แวดล้อมไปด้วยชุมชนมุสลิมกว่า ๑๔๐ ครัวเรือน 
แต่ชาวพุทธมีแค่ ๓ ครัวเรือน

มีอยู่ครั้งหนึ่งท่านไม่อยู่วัด ๓ วัน 
กลับมาตุ่มหายไป ๔ ไป ก็ตามหา ไปแจ้ง อบต. 
เขาก็บอกว่าท่านอย่าทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ 
แล้วก็ไม่ได้ช่วยอะไร

ท่านจึงไปแจ้งคนอื่นต่อ จนเขาช่วยตามให้ 
ในที่สุดไปเจอตุ่มในโรงเรียนปอเนาะ 
เมื่อไปขอคืน เขาก็ไม่ให้ เขาบอกว่าเป็นของเขา 
ท่านจำได้ว่าตุ่มทุกใบเขียนชื่อไว้ต้านล่าง 
จึงเทน้ำออกแล้วดูด้านล่างปรากฎว่ามีชื่อทุกใบเลย 
ถึงขนาดนั้นเขาก็บอกว่าปอเนาะเขาถูกใส่ร้าย กลั่นแกล้ง

เมื่อได้ตุ่มคืนมาไม่กี่วัน ตุ่มก็โดนทุบแตกทุกใบ 
เวลาออกบิณฑบาต บางครั้งก็โดนหนังสติ๊กยิงที่หัว
จนหัวแตกเลือดอาบ เป็นอย่างนี้เนืองๆ

มีครั้งหนึ่งโดนหนักถึงขนาดถูกไม้ทุบที่หัว 
แต่ก็สู้ไม่เคยรู้สึกโกรธใคร

บางวันไม่มีภัตตาหารฉัน ออกบิณฑบาต 
ทหารก็ไม่ค่อยอยากออกไปด้วย 
เขาตวาดใส่ บอกว่าจะออกไปทำไม
(ทหารกลัวว่าถ้าดูแลพระไม่ดี 
ปล่อยให้เป็นอันตราย เดี๋ยวก็จะถูกนายด่า) 
ต้องทนฉันข้าวสวยกับไข่ต้ม

บางวันข้าวสารหมดไม่มีปัจจัย 
ก็ต้องไปติดหนี้ไว้ก่อน คนขายเป็นคนจีน 
เขาก็ยอมให้ติดหนี้ เพราะเห็นว่าเป็นพระ

โชคดีที่หลวงพ่อธมฺมชโย 
ท่านถวายปัจจัยและอาหารแห้งเป็นประจำทุกเดือน 
ถึงแม้ว่าอาหารจะไม่ปราณีต 
เพราะมาม่ากว่าจะมาถึงบางซองก็ลมเข้าเหนียวแล้ว

ปลากระป๋องบางทีก็บุบเต็มที
(ท่านบอกว่าที่ได้รับถวายมาก็ถูกเลือกส่วนที่ดี
ออกไปก่อนแล้ว ที่เหลือก็คือของที่เหลือเลือกอีกที) 
แต่ก็ดีกว่าไม่มีฉัน

ท่านบอกว่าหน่วยงานต่างๆ ในพื้นที่
ท่านไม่ค่อยรู้จักหรอก เพราะไม่ค่อยมีใครมาช่วยเหลือ 
รู้จักแต่หลวงพ่อธมฺมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย 
เพราะท่านเป็นคนเดียวที่ช่วยมาตลอดต่อเนื่อง ไม่ทอดทิ้ง 
ถ้าไม่มีท่านช่วย ป่านนี้วัดในพื้นที่คงไม่มีเหลือแล้ว

เวลาไปหาหมอต้องไปต่อคิวตั้งแต่ ๗ โมงเช้า 
แต่เจ้าหน้าที่บอกว่ามีแต่หมอมุสลิม 
หมอไทย(พุทธ) มีน้อยต้องรอคิว รอแล้วรอเล่าจนถูกลดคิว 
มาได้ยาก็ตอนสี่โมงเย็น(๑๖:๐๐ น.)

ท่านมีโรคประจำตัว หมอก็สั่งงดมาม่า 
แต่ท่านก็งดไม่ได้ ถ้างดมาม่าก็คืออด 
เพราะไม่รู้จะฉันอะไร มันไม่ค่อยมีอย่างอื่น

มีครั้งหนึ่งมุสลิมเขาเอาไก่แช่ฟอร์มารีน
แล้วทอดฝากทหารมาถวาย พอฉันเสร็จก็สลบไปเลย 
นอนสลบอยู่เป็นอาทิตย์กว่าจะฟื้น

บางครั้งถูกทำร้ายโดนกรีดที่แขน 
เป็นแผลเป็นทางยาว ท่านยื่นแขนมาให้ดู

วันหนึ่งถูกสะเก็ดระเบิด เป็นแผลใหญ่เลือดไหลมาก 
เขาส่งมารักษาที่โรงพยาบาล มอ.หาดใหญ่ 
หมอบอกจะตัดขา แต่พระราชินีท่านให้ส่งตัว
ไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลจุฬาฯ จนหายขาดไม่ต้องตัดขาแล้ว

ท่านบอกว่าเลือดของท่านเป็นกรุ๊บโอเน็กกะทิฟ 
หาเลือดยาก ในบรรดาคน ๕๐,๐๐๐ 
กว่าจะเจอซักคนที่มีเลือดกรุ๊ปนี้ 
หมอจึงบอกให้ระวังตัว อย่าพยายามเสียเลือดมาก 
แต่ที่ผ่านมาก็มีแต่เรื่องให้เสียเลือดประจำ

โจรก็ขึ้นวัดบ่อย ของหายประจำ 
บางวันก็ขว้างห่ออะไรซักอย่างสีดำเข้ามาในวัด 
ทหารทีมกู้ระเบิดก็มา เปิดดูปรากฎว่าเป็นห่ออุจจาระ

บางเดือนปัจจัยไม่มีจริงๆ ค่าไฟไม่ได้จ่าย 
จนการไฟฟ้าเขาจะมาตัดไฟ วันไหนไฟดับก็ต้องระวังตัว 
เพราะจะมีคนแอบเข้ามาทำร้าย ต้องตื่นตัวระวังอยู่เสมอ

ท่านบอกว่าท่านมีค่าหัวเป็นแสนเลยนะ 
โจรเขาตั้งไว้ จะขึ้นรถวินมอเตอร์ไซด์เขาก็ไม่รับ 
เขาบอกว่าท่านเป็นสายล่อฟ้า น่ากลัว

ชาวพุทธที่มีอยู่น้อยนี้ก็ถูกแกล้งสารพัด 
ต้นลองกองกำลังออกดอก 
เขาก็ไปทำลายจนเสียหายไม่ได้ผลผลิต

ไหนจะขู่บังคับให้ย้ายให้ขายที่ 
ท่านบอกว่า ความรู้สึกตอนนี้เหมือนเหยื่อ
ที่ถูกแวดล้อมไปด้วยฝูงหมาป่าที่หิวกระหาย 
สุดท้ายท่านพูดด้วยน้ำเสียงที่เข้มแข็งและมีพลังว่า 
"ยังไงก็จะไม่ย้ายไปไหน ถ้าไปแล้วญาติโยมเขาจะอยู่กันยังไง 
เกิดมาชาตินี้ขอตายในพระพุทธศาสนาเท่านี้ก็ภูมิใจแล้ว"

สิ่งที่ผมได้ยินจากปากของยอดมหาวีรบุรุษพุทธบุตรผู้หยัดสู้นี้ 
ช่างเป็นถ้อยคำศักดิ์สิทธิ์ มีพลังมหาศาล 
เป็นบุญใจที่ได้พบพา เป็นบุญตาที่ได้พบเห็น 
เป็นบุญหูที่ได้ยลยิน

ผมปลื้มปีติใจกับวีรกรรมการสร้างปรมัตถบารมี
แบบเอาชีวิตเป็นเดิมพันของท่านมาก 
จนไม่รู้จะสรรหาคำใดมากล่าวเอ่ยอ้าง
ยกย่องท่านได้สาสม และคิดว่าทุกท่าน
ที่มีโอกาสได้อ่านบทความนี้ ก็คงรู้สึกไม่ต่างจากผมครับ

^__^ ๑๒ เมษา ๕๗

เป็นบุญใจที่ได้พบพา เป็นบุญตาที่ได้พบเห็น เป็นบุญหูที่ได้ยลยิน 
ผมปลื้มปีติใจกับวีรกรรมการสร้างปรมัตถบารมี
แบบเอาชีวิตเป็นเดิมพันของท่านมาก 
จนไม่รู้จะสรรหาคำใดมากล่าวเอ่ยอ้างยกย่องท่านได้สาสม 
และคิดว่าทุกท่านที่มีโอกาสได้อ่านบทความนี้ 
ก็คงรู้สึกไม่ต่างจากผมครับ

^__^ ๑๒ เมษา ๕๗

----------------------------------------------------------

ปล. เพื่อความปลอดภัยของเจ้าของบันทึก 
จึงไม่ขอเปิดเผยชื่อของท่าน

 


สมาชิกเว็บไซต์ทุกท่านที่เข้ามาอ่านกระทู้ สามารถร่สมกิจกรรมสะสมคะแนนเพื่อแลกรับของที่ระลึกจากทางทีมงานได้ฟรีๆ ทำตามนี้เลยครับ ..... ทุกๆ กระทู้ที่สมาชิกตั้งขึ้น เพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในทางธรรม จะได้รับคะแนนสะสมทันที่ 3 คะแนน ..... ทุกๆ การตอบกระทู้ที่เป็นการตอบแบบมีสาระทางธรรม จะได้รับคะแนนสะสมทันที่ 1 คะแนน และ 0.1 คะแนนสำหรับการเข้ามาอนุโมทนาบุญ ..... อย่าลืมมาร่วมกิจกรรมกันนะครับ