ไปที่เนื้อหา


หัดฝัน

เป็นสมาชิกตั้งแต่ 31 Mar 2005
ออฟไลน์ ใช้งานล่าสุด Nov 09 2015 07:30 AM
*****

กระทู้ที่ฉันเริ่ม

แม้คิดผิด ก็ไม่ได้หมายความว่า ใช้ไม่ได้

04 February 2014 - 12:44 PM

เรื่องราวของนักคิดนักประดิษฐ์ในอดีต เช่น เอดิสัน ประดิษฐ์หลอดไฟ พี่น้องตระกูลไรท์ ประดิษฐ์ เครื่องบิน ไม่ได้มีแต่เรื่องราวของนักคิดนักประดิษฐ์ที่ประสบความสำเร็จเสมอไป

 

เรื่องราวของนักคิดนักประดิษฐ์ที่คิดออกมาแล้ว ล้มเหลวไม่เป็นที่นิยมก็มี แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า แนวคิดนั้นล้มเหลว เพราะในเวลาต่อมา แนวคิดของเขาก็ถูกนำไปต่อยอดกับสิ่งประดิษฐ์ในอนาคตแทน

ดังเช่น เรื่องราวในภาพนี้ ภาพซ้ายบน เป็นภาพสิ่งประดิษฐ์ที่ช่วยอุ้มเด็กทารกของสามีภรรยา ซึ่งมีจุดเด่นคือ ไม่ต้องใช้แขนอุ้ม ให้เกิดความเมื่อยล้า แต่ไม่ได้รับความนิยมของคนในยุค ซึ่งน่าจะเป็นเพราะมีความเสี่ยง หากคนเป็นพ่อแม่ไม่ประสานกัน หากทำให้เด็กร่วงหล่นได้

อย่างไรก็ตาม เวลาต่อๆ มา ก็มีการประดิษฐ์รถเข็นเด็ก ให้ทารกวางในรถเข็นแทน และก็ได้รับนิยมมาจนถึงยุคปัจจุบัน

ดังภาพล่างซ้าย

 

ถัดมา คือ ภาพบนขวา เป็นจักรยานอเนกประสงค์ จากแนวคิดให้คนในครอบครัวทำกิจกรรมของตนพร้อมๆ กับโดยสารจักรยานไปได้ด้วย แต่ก็ไม่ได้รับความนิยม ซึ่งน่าจะเป็นเพราะสมดุลของจักรยาน เนื่องจากฝั่งคนเป็นแม่ที่กำลังเย็บผ้าไปด้วย น่าจะมีน้ำหนักมากกว่า

อย่างไรก็ตาม แนวคิดนี้ ก็ไม่ได้จืดจางไปไหน เมื่อเทคโนโลยีเจริญมากขึ้น ก็มีการประดิษฐ์รถอเนกประสงค์ ที่สามารถจัดให้มีการทำกิจกรรมต่างๆ ได้ภายในรถนั้นเอง

 

สรุปคือ ความคิดที่ดีๆ (คือ อย่าคิดมิชอบ) แม้จะยังไม่ถูก (ไม่ได้รับความนิยม) ก็ให้ฝึกคิดไว้เถิด อย่างน้อยก็จะเป็นแนวทางให้คนรุ่นต่อๆไป ไปคิดต่อยอดสร้างประโยชน์ต่อสังคมขึ้นมา


ควันหลงหลังธุดงค์ อารมณ์ Art Art ก่อเกิด

02 February 2014 - 09:44 AM

หลังจากธุดงค์ธรรมชัยผ่านมา ผมได้ฟังสกู๊ปหลายต่อหลายตอน ที่ประทับใจสุดๆ จะเป็นตอนที่ท่านธุดงค์ไปที่ปากเกร็ด เพราะเป็นครั้งแรกที่เส้นทางธุดงค์ปรับเปลี่ยนไปที่ปากเกร็ด ทำให้ชาวปากเกร็ดประทับใจกันมากๆ หลายต่อหลายเสียงให้สัมภาษณ์ว่า ขอบคุณคณะกรรมการจัดงานธุดงค์

ผมก็เลยมาย้อนนึกดูว่า ถ้าจะขอบคุณกันจริงๆ ต้องย้อนขอบคุณกันตั้งแต่
1) คนชวนบวช
2) คนมาบวช (ชายแมนๆ)
3) คนจัดงานบวช
4) คนอบรมผู้บวช
5) คนอุทิศสถานที่ให้ได้ฝึกอบรมในการบวช
ทีนี้ก็มาถึงงานธุดงค์ก็ต้องขอบคุณ

6) คนปลูกดาวรวย
7) คนตัดดอกดาวรวย
8) คนเด็ดกลีบดาวรวย

9) คนเตรียมเสื่อ ปูเสื่อ

10) คนเตรียมเทวรถหลวงปู่วัดปากน้ำ และขับรถด้วย
11) คนเป็นจราจร ตามเส้นทาง
12) คนเตรียมอาหาร
13) คนเตรียมหยูกยา รักษาพยาบาล
14) คนเก็บกวาดเส้นทาง
15) คนเตรียมรถสุขา
16) ไปจนกระทั่งถึง คนโปรดดาวรวย คนมาต้อนรับ ทั้งไทยและเทศ รวมสัตว์ด้วย

ปลื้มในอภิมหาบุญนี้จริงๆ ทำให้ผู้คนได้บุญกันมากมาย ว่าแล้วอารมณ์ Art Art เลยก่อเกิด ใช้เวลาทำ 1 วันเต็มๆ มาเป็นภาพภาพนี้
ปล. ในภาพ ตกคนถวายภัตตาหาร และคนถวายปานะ เพราะตอนนั้น ลืมนึกถึง 555
 


ซูเปอร์พัดลม

24 November 2013 - 09:10 PM

วันนี้ไปทำบุญที่สภาฯ เลยได้เห็น ซูเปอร์พัดลม ซึ่งพึ่งติดตั้งเรียบร้อยและเปิดใช้ในสัปดาห์นี้เป็นครั้งแรก ขนาดของ ซูเปอร์พัดลม ผมกะด้วยสายตา ใหญ่กว่าพัดลมธรรมดา ถึง 4 เท่า จึงลองไปนั่งในที่ใกล้เคียง ปรากฏว่า ลมเย็นสบายดีมากเลย ทั้งๆ ที่เปิดเบาๆ เอง


ทำไมแนบรูปมา แล้วรูปหายไปก็ไม่ทราบ เลย Link จากเฟสมาแทนเลยดีกว่า 8-)


https://www.facebook...&type=1


เย้ แนบรูปได้แล้ว


เกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป

15 November 2013 - 04:29 PM

ช่างเป็นสัจธรรมของชีวิต เมื่อได้อ่านบทความนี้ ความคิดหวนย้อนคำนึงไปเมื่อครั้งที่ผมได้เห็น และได้ยินชื่อบริษัทเหล่านี้รุ่งเรืองอยู่

 

เริ่มจากอันดับที่ 10 กล้องถ่ายภาพโกดัก ที่โด่งดังมากตั้งแต่สมัยผมยังเด็กๆ จนถึงวัยรุ่น สมัยนั้น ฟิลม์ที่ดีที่สุดก็ต้องโกดัก แต่แล้วด้วยการที่โกดัก ไม่คิดพัฒนากล้องดิจิทัล เพราะกลัวจะไปทำลายตลาดฟิลม์ของตน ผลก็คือ ชื่อของโกดัก ก็ค่อยๆ เลือนหายไปจากความทรงจำของผม และอีกหลายๆ คน ในที่สุด

 

ต่อมาคือ อันดับที่ 9 บริษัทคอมพิวเตอร์ Next ของสตีฟ จ๊อปช่วงแรกๆ ซึ่งผมก็ไม่คุ้นชื่อเหมือนกัน
อันดับที่ 8 มือถือ Ericsson โด่งดังมากๆ คือ กับโนเกีย สมัยผมเริ่มเข้าทำงาน ตอนนั้น ผมตัดสินใจเลือกระหว่าง Nokia กับ Ericsson สุดท้ายตัดสินใจเอาโนเกียเครื่องแรกในชีวิตด้วยราคา 15,000 บาท แบบไม่เสียดาย แต่ตอนนี้แค่ Nokia เครื่องละ 4 พัน ยังรู้สึกว่า แพง (ไม่ต้องพูดถึง ไอโฟน อิอิอิ) ซึ่งตอนนี้ ไม่เฉพาะ Ericsson แต่ Nokia ก็ร่อแร่ จนไมโครซอฟท์ ต้องเข้ามาซื้อกิจการ

อันดับ 7 กล่องโพลาลอยด์ ผมคุ้นๆ ชื่ออยู่เหมือนกัน แต่ไม่มากนัก อันดับ 6 และ 4 เกม Hatari กับ Sega ที่ชื่อเคยโด่งดัง ตอนนี้คงเหลือไว้แต่ชื่อ เพราะเกมในสมาทโฟนกลบรัศมีหมดสิ้น 

อันดับ 5 ทีวี ไพโอเนีย ตอนนี้ แทบไม่เห็นวางขายแล้ว อันดับ 3 คอมพิวเตอร์ Arcon ผมไม่คุ้นตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ไม่พูดถึง อันดับ 2 เครื่อง PDA คอมพิวเตอร์มือถือ ประเภท Palm และ Pocket PC ซึ่งผมเคยมีกับเขาอยู่ 1 เครื่อง แต่ต่อมาทำเครื่องหาย เลยเลิกสนใจไป แต่ตอนนี้เครื่องเหล่านี้ก็หายไปจากวงการจนสิ้น หลีกทางให้สมาทโฟนที่ทำเหมือนเครื่องเหล่านี้ได้ แถมต่อ Net และโทรได้อีกด้วย

อันดับ1 ที่เพิ่งประกาศโละคนงานมโหฬารเกือบครึ่ง คือ มือถือ Blackberry ที่ไม่กี่ปีที่ผ่านมา เป็นน้องใหม่มาแรง แซงทางโค้ง แต่ตอนนี้ทำท่าจะหลุดโค้งเสียแล้ว เมื่อยอดขายล้าหลังคู่แข่งถล่มทลาย

 

http://tech.th.msn.c...่โลกลืม?page=10

 

จากบทความนี้ ทำให้ผมเห็นสัจธรรม ใครมีบุญก็รุ่งเรือง จังหวะดีๆ ของชีวิตก็เข้ามา คิดพูดทำก็ถูกจังหวะเป็นที่นิยมไปหมด ตรงข้าม ใครหมดบุญก็ร่วงโรย คิดพูดทำก็ผิดจังหวะไร้ความนิยมไปสิ้น อย่าประมาทในชีวิต หมั่นสะสมบุญไว้เถิด ประเสริฐนัก


พระอรหันต์ บอกบุญทองคำ เชิญชวนมหาชนสร้างเจดีย์

13 November 2013 - 12:53 PM

สืบเนื่องจาก มีกระแสความคิดเห็นส่วนหนึ่งที่อ้างพระไตรปิฎกมาว่า พระภิกษุห้ามยุ่งเกี่ยวกับเงินทอง แล้วก็ใช้ความคิดเห็นของตนตีความไปว่า "ห้ามยุ่งเกี่ยวทุกกรณี ไม่ว่ากรณีใดๆ ก็ตาม"

 

เพื่อเป็นการทำความเข้าใจให้ถูกต้องโดยอ้างอิงจากตำราเช่นเดียวกัน ผมจึงได้ไปค้นพระไตรปิฎกมาบ้าง ในเรื่องราวของชฏิลเศรษฐี ที่อดีตชาติเกิดเป็นช่างทอง ในชาตินั้น พระอรหันต์ (ในตำราใช้คำว่า พระขีณาสพ) ในยุคของพระกัสสัปสัมพุทธเจ้า เมื่อท่านได้ทราบจากมหาชนว่า เจดีย์ที่สร้างบูชาพระพุทธเจ้า ยังสร้างไม่เสร็จ เหตุที่สร้างไม่เสร็จเป็นเพราะทองคำไม่พอ

 

เมื่อท่านทราบเช่นนั้น ท่านจึงได้เข้าในไปเมือง แล้วก็บอกบุญเชิญชวนมหาชนบริจาคทองคำ เพื่อนำไปสร้างพระเจดีย์เพิ่มเติม จนเนื้อหาโยงใยมาถึง ชายหนุ่มช่างทอง ซึ่งชาติต่อมากลายมาเป็น ชฏิลเศรษฐี

 

สรุปประเด็นในความเห็นผม หลังจากศึกษาพระไตรปิฎกท่อนนี้ก็คือ หากเป็นไปเพื่อประโยชน์แห่งพระศาสนา เป็นไปเพื่อการประกาศคุณของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าให้ยิ่งๆ ขึ้นไป พระท่านสามารถบอกบุญ และรับบริจาคเงินทอง ได้ครับ

 

http://www.84000.org...?b=25&i=36&p=33

 

ขีณาสพ หรือ กษีณาศรพ /กะสีนาสบ/ แปลว่า ผู้มีอาสวะสิ้นแล้ว, ผู้สิ้นอาสวะแล้ว หมายถึงพระอรหันต์ผู้หมดอาสวะแล้ว เพราะกำจัดอาสวะคือกิเลสที่หมักหมมอยู่ในจิต ที่ชุบย้อมจิตให้ชุ่มอยู่เสมอได้แล้วอย่างสิ้นเชิงไม่กลับมาเกิดทำอันตรายจิตได้อีกต่อไป เรียกเต็มว่า พระขีณาสพ หรือ พระอรหันตขีณาสพ

ขีณาสพ เป็นผู้ละอาสวกิเลสได้แล้วทั้ง 3 อย่าง คือ

  1. กาม ความติดใจรักใคร่ในกามคุณ ได้แก่ รูป เสียง กลิ่น รส เป็นต้น
  2. ภพ คือ ความติดอยู่ในภพ ในความเป็นนั่นเป็นนี่
  3. อวิชชา ความไม่รู้จริง ความลุ่มหลงมืดมัวด้วยโมหะ