ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
- - - - -

การบูชาพระพุทธเจ้าด้วยดอกไม้


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 4 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 ทัพพีในหม้อ

ทัพพีในหม้อ
  • Moderators
  • 3279 โพสต์
  • Gender:Male

โพสต์เมื่อ 31 July 2014 - 09:53 AM

อรรถกถา ขุททกนิกาย อปทาน ภาค ๑ เถราปทาน ๑๖. พันธุชีวกวรรค ๙. ปุนนาคปุปผิยเถราปทาน (๑๕๙)

 

               ๑๕๙. อรรถกถาปุนนาคปุปผิยเถราปทาน               

               อปทานของท่านพระปุนนาคปุปผิยเถระมีคำเริ่มต้นว่า กานนํ วนโมคยฺห ดังนี้. 
               แม้พระเถระรูปนี้ก็ได้เคยบำเพ็ญกุศลมาแล้วในพระชินวรพุทธเจ้าพระองค์ก่อนๆ ทุกๆ ภพนั้นจะสั่งสมแต่บุญอันเป็นอุปนิสัยแห่งพระนิพพานเป็นประจำเสมอ. 
               ในกาลแห่งพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงพระนามว่าผุสสะ เขาได้เกิดในตระกูลนายพรานป่า (เจริญวัยแล้ว) เข้าไปยังป่าใหญ่ เห็นดอกบุนนาคอันบานสะพรั่งในที่นั้นแล้ว เพราะเหตุที่ตนสมบูรณ์ด้วยเหตุ จึงน้อมนึกระลึกถึงพระผู้มีพระภาคเจ้า ด้วยอำนาจปีติมีพระพุทธเจ้าเป็นอารมณ์ จึงเก็บดอกไม้นั้นพร้อมด้วยดอกกรรณิการ์ทั้งหลายมาแล้วก่อพระเจดีย์ทรายบูชา. 
               ด้วยบุญอันนั้น ในกัปที่ ๙๒ เขาจึงได้เสวยสมบัติในเทวโลกและมนุษยโลกนั้นนั่นแลหาระหว่างมิได้. 
               ในพุทธุปบาทกาลนี้ เขาเกิดในตระกูลที่สมบูรณ์ด้วยสมบัติในกรุงสาวัตถี เจริญวัยแล้ว ด้วยกำลังแห่งบุญที่อบรมมาในกาลก่อน (เขา) จึงได้เลื่อมใสในพระศาสนา ออกบวชแล้ว พยายามอยู่ไม่นานนักก็ได้เป็นพระอรหันต์ ระลึกถึงกุศลกรรมที่ทำไว้ในกาลก่อนได้ เกิดความโสมนัสใจ เมื่อจะประกาศถึงเรื่องราวที่ตนเคยได้ประพฤติมาแล้วในกาลก่อน จึงกล่าวคำเริ่มต้นว่า กานนํ วนโมคยฺห ดังนี้. 
               ถ้อยคำทั้งหมดมีเนื้อความง่ายทั้งนั้น เพราะได้กล่าวไว้แล้วในหนหลังแล.

               จบอรรถกถาปุนนาคปุปผิยเถราปทาน               
               -----------------------------------------------------               

.. อรรถกถา ขุททกนิกาย อปทาน ภาค ๑ เถราปทาน ๑๖. พันธุชีวกวรรค ๙. ปุนนาคปุปผิยเถราปทาน (๑๕๙) จบ


สมาชิกเว็บไซต์ทุกท่านที่เข้ามาอ่านกระทู้ สามารถร่สมกิจกรรมสะสมคะแนนเพื่อแลกรับของที่ระลึกจากทางทีมงานได้ฟรีๆ ทำตามนี้เลยครับ ..... ทุกๆ กระทู้ที่สมาชิกตั้งขึ้น เพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในทางธรรม จะได้รับคะแนนสะสมทันที่ 3 คะแนน ..... ทุกๆ การตอบกระทู้ที่เป็นการตอบแบบมีสาระทางธรรม จะได้รับคะแนนสะสมทันที่ 1 คะแนน และ 0.1 คะแนนสำหรับการเข้ามาอนุโมทนาบุญ ..... อย่าลืมมาร่วมกิจกรรมกันนะครับ

#2 ทัพพีในหม้อ

ทัพพีในหม้อ
  • Moderators
  • 3279 โพสต์
  • Gender:Male

โพสต์เมื่อ 31 July 2014 - 09:59 AM

ข้อสังเกตุ  บุคคลในเรื่อง  เป็นเพียงพรานป่า  และเพียงมีจิตศรัทธา เลื่อมใส ในพระสัมมาสัมพุทธเจ้า   อีกทั้งการบูชา  ก็เพียงก่อกองทรายเป็นพระเจดีย์  เพือเป็นเสมือนตัวแทนแห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเท่านั้น  อานิสงส์แห่งการบูชายังบังเกิดไม่มีประมาณ  จนถึงเป็นหนึ่งในปัจจัยส่งผลให้บรรลุธรรมได้เลยทีเดียว

 

จากเหตุนี้  จึงกล่าวได้ว่า  การกราบบูชาพระพุทธรูปและศาสนสถานอื่นๆ ด้วยจิตน้อมบูชาในพระรัตนตรัย  จึงเป็นสิ่งประเสริฐ  เป็นสิ่งมงคล  เป็นสิ่งที่ควรน้อมกระทำ  เป็นสิ่งที่มนุษย์และเทวดาสรรเสริญ  เกิดประโยชน์แก่ตนทั้งในภพนี้  และภพหน้าอย่างแน่นอน


สมาชิกเว็บไซต์ทุกท่านที่เข้ามาอ่านกระทู้ สามารถร่สมกิจกรรมสะสมคะแนนเพื่อแลกรับของที่ระลึกจากทางทีมงานได้ฟรีๆ ทำตามนี้เลยครับ ..... ทุกๆ กระทู้ที่สมาชิกตั้งขึ้น เพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในทางธรรม จะได้รับคะแนนสะสมทันที่ 3 คะแนน ..... ทุกๆ การตอบกระทู้ที่เป็นการตอบแบบมีสาระทางธรรม จะได้รับคะแนนสะสมทันที่ 1 คะแนน และ 0.1 คะแนนสำหรับการเข้ามาอนุโมทนาบุญ ..... อย่าลืมมาร่วมกิจกรรมกันนะครับ

#3 ทัพพีในหม้อ

ทัพพีในหม้อ
  • Moderators
  • 3279 โพสต์
  • Gender:Male

โพสต์เมื่อ 31 July 2014 - 10:06 AM

อรรถกถา ขุททกนิกาย อปทาน ภาค ๑ เถราปทาน ๑๖. พันธุชีวกวรรค ๒. ตัมพปุปผิยเถราปทาน (๑๕๒)

 

               ๑๕๒. อรรถกถาตัมพปุปผิยเถราปทาน               

               อปทานของท่านพระตัมพปุปผิยเถระมีคำเริ่มต้นว่า ปรกมฺมายเน ยุตฺโต ดังนี้. 
               แม้พระเถระรูปนี้ ท่านก็ได้เคยบำเพ็ญกุศลมาแล้วในพระพุทธเจ้าพระองค์ก่อนๆ ทุกๆ ภพนั้นจะสั่งสมแต่บุญอันเป็นอุปนิสัยแห่งพระนิพพานเป็นประจำเสมอ. 
               ในกาลแห่งพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงพระนามว่าปิยทัสสี เพราะอกุศลกรรมบางอย่างที่ท่านกระทำไว้ในปางก่อน จึงได้มาเกิดในตระกูลเข็ญใจ เจริญวัยแล้วก็ทำการงานรับจ้างคนอื่นเลี้ยงชีวิต. 
               เขาอยู่ด้วยความทุกข์ยากอย่างนี้ยังได้ทำความผิดกับคนอื่นอีก เพราะความกลัวตายจึงหนีเข้าป่า. เขาได้เห็นต้นแคฝอยและต้นโพธิ์ในที่ที่ไปแล้วนั้น จึงได้ไหว้แล้ว กวาดเสร็จแล้วมองเห็นดอกไม้สีแดงที่ต้นไม้ต้นหนึ่ง จึงเลือกเก็บเอาดอกกรรณิการ์มาทำการบูชาต้นโพธิ์ทั้งหมดนั้น. 
               เขาทำจิตให้เลื่อมใสในต้นโพธิ์นั้น ไหว้แล้วก็นั่งคู้บัลลังก์. 
               ในขณะนั้น พวกมนุษย์เหล่านันไล่ติดตามมาตามรอยเท้า ได้มาถึงในที่นั้นแล้ว. เขาพอได้เห็นคนเหล่านั้นแล้ว ก็รำพึงถึงต้นโพธิ์ พลางวิ่งหนีตกลงไปตายในเหวลึกแห่งภูเขาอันน่ากลัวแล้ว. 
               ด้วยปีติและโสมนัสเพราะระลึกถึงการบูชาต้นโพธิ์นั้นนั่นแล เขาจึงได้ไปเกิดในสวรรค์มีชั้นดาวดึงส์เป็นต้น ได้เสวยสมบัติในกามาวจร ๖ ชั้นแล้วได้มาเกิดในมนุษย์ เสวยสมบัติมีจักรพรรดิสมบัติเป็นต้นแล้ว. 
               ในพุทธุปบาทกาลนี้ ได้มาเกิดในตระกูลที่สมบูรณ์ด้วยสมบัติ เจริญวัยแล้วได้ฟังพระธรรมเทศนาของพระศาสดาแล้ว มีใจเลื่อมใสได้บวชแล้ว ไม่นานนักก็ได้เป็นพระอรหันต์ ระลึกถึงบุพกรรมของตนได้ เกิดความโสมนัสใจ เมื่อจะประกาศถึงเรื่องราวที่ตนเคยได้ประพฤติมาแล้วในกาลก่อน จึงกล่าวคำเริ่มต้นว่า ปรกมฺมายเน ยุตฺโต ดังนี้. 
               พึงทราบเนื้อความในบทเหล่านั้นว่า 
               การงานของคนเหล่าอื่น ชื่อว่าการงานของคนอื่น, เราได้เป็นผู้ประกอบตระเตรียมแล้วในทางการงานของคนอื่น. 
               คำที่เหลือปรากฏชัดแจ้งแล้วผล.

               จบอรรถกถาตัมพปุปผิยเถราปทาน               
               -----------------------------------------------------               

.. อรรถกถา ขุททกนิกาย อปทาน ภาค ๑ เถราปทาน ๑๖. พันธุชีวกวรรค ๒. ตัมพปุปผิยเถราปทาน (๑๕๒) จบ.


นี้ก็อีกตัวอย่างหนึ่ง  เพียงเห็นต้นโพธิ์  แล้วเกิดจิตเลื่อมใสถึงพระสัมมาสัมพุทธเจ้า  ทำการบูชาต้นโพธิ์นั้น  ก็ยังมีอานิสงส์ไม่มีประมาณ  


สมาชิกเว็บไซต์ทุกท่านที่เข้ามาอ่านกระทู้ สามารถร่สมกิจกรรมสะสมคะแนนเพื่อแลกรับของที่ระลึกจากทางทีมงานได้ฟรีๆ ทำตามนี้เลยครับ ..... ทุกๆ กระทู้ที่สมาชิกตั้งขึ้น เพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในทางธรรม จะได้รับคะแนนสะสมทันที่ 3 คะแนน ..... ทุกๆ การตอบกระทู้ที่เป็นการตอบแบบมีสาระทางธรรม จะได้รับคะแนนสะสมทันที่ 1 คะแนน และ 0.1 คะแนนสำหรับการเข้ามาอนุโมทนาบุญ ..... อย่าลืมมาร่วมกิจกรรมกันนะครับ

#4 อารยาดุสิต

อารยาดุสิต
  • Members
  • 104 โพสต์
  • Gender:Female

โพสต์เมื่อ 31 July 2014 - 03:51 PM

       จากพระไตรปิฎกภาษาไทย

พระไตรปิฎก ฉบับมหาจุฬาฯ (ภาษาไทย) เล่มที่ ๓๒พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๒๔ ขุททกนิกาย อปทาน ภาค ๑ หน้าที๓๓๕ข้อที่๑๔

     ปุนนาคปุปผิยเถราปทาน

...ข้าพเจ้าเป็นนายพราน    เข้าไปอยู่ในป่า   ได้พบต้นบุนนาคมีดอกบานสะพรั่ง    จึงระลึกถึงพระพุทธเจ้าผู้ประเสริฐ   ข้าพเจ้าได้เลือกเก็บดอกบุนนาคคัดเฉพาะที่มีกลิ่นหอมสวยงามแล้วก่อสถูปบนเนินทราย ยกขึ้นบูชาพระพุทธเจ้า  ในกัปที่    ๙๒    นับจากกัปป์  ข้าพเจ้าได้ใช้ดอกไม้บูชาไว้  จึงไม่รู้จักทุคติเลย นี้เป็นผลแห่งการบูชาพระพุทธเจ้า ในกัปที่    ๙๑    (นับจากกัปนี้ไป) ได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิองค์หนึ่งนามว่าตโมนุทะคุณวิเศษเหล่านี้    คือ    ปฏิสัมภิทา        วิโมกข์      และอภิญญา        ข้าพเจ้าได้ทำให้แจ้งแล้ว  คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า    ข้าพเจ้าก็ได้ทำสำเร็จแล้ว    ดังนี้แล  ได้ทราบว่า    ท่านพระปุนนาคปุปผิยเถระได้ภาษิตคาถาเหล่านี้    ด้วยประการฉะนี้....

       กำเนิดของท่าน เป็นนายพรานผู้ใกล้ชิดกับการละเมิดศิลข้อที่หนึ่งบุญส่งผลให้ท่านได้มีโอกาสเจอดอกไม้ที่มีกลิ่นหอม จึงได้ก่อพระเจดีย์ทราย จากนั้นได้รำลึกถึงพระคุณอันประมาณมิได้ขอพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เหตุที่ท่านก่อเป็นกุศลกรรม เป็นเหตุให้เกิดผลแห่งความดีหรือที่เรียกกันว่าอานิสงส์ ให้ท่านได้ไปเกิดเป็นพระเจ้าจักรพรรดิ เมื่อสมัยพระพุทธเจ้าโคดม ท่านได้ลงมาสร้างบารมี บรรลุเป็นพระอรหันต์

       อานิสงส์การบูชาเจดีย์ทรายนี้เป็นคติที่พ้องกับตำนานทางล้านนาประวัติของการก่อเจดีย์ทรายมีเรื่องเล่ามาว่าพระเจ้าปเสนทิโกศลได้เสด็จไปยังเมืองสาวัตถีพร้อมบริวาร ได้เห็นหาดทรายขาวบริสุทธิ์ก็เกิดจิตศรัทธาก่อทรายเป็นเจดีย์ ๘ หมื่น ๔ พันองค์ แล้วอุทิศเป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา และสังฆบูชา เมื่อพระองค์ไปเฝ้าพระพุทธเจ้าก็ได้ทูลถามถึงอานิสงส์การก่อเจดีย์ทรายดังกล่าว พระพุทธเจ้าตรัสว่า การที่มีจิตเลื่อมใสศรัทธาก่อเจดีย์ทรายถึง ๘ หมื่น ๔ พันองค์หรือเพียงองค์เดียวก็ได้อานิสงส์มาก คือ จะไม่ตกนรกหลายร้อยชาติ ถ้าเกิดเป็นมนุษย์ก็จะเพียบพร้อมไปด้วยยศถาบรรดาศักดิ์ มีบริวารและเกียรติยศชื่อเสียง หากตายก็จะได้ขึ้นสวรรค์ พรั่งพร้อมด้วยสมบัติและมีนางฟ้าเป็นบริวาร ด้วยอานิสงส์ดังกล่าวจึงทำให้คนโบราณนิยมก่อเจดีย์ทรายเป็นประเพณีมาจนทุกวันนี้

      ส่วนในอีกตำนานหนึ่งซึ่งอยู่ในคำภีร์ใบลานชื่อ " ธรรมอานิสงส์เจดีย์ทราย "ได้กล่าวไว้ว่า ในครั้งที่พระโพธิสัตว์เกิดเป็นชายเข็ญใจชื่อว่า "ติสสะ" มีอาชีพตัดฟืนขาย วันหนึ่งติสสะได้พบลำธารที่มีหาดทรายสะอาดงดงามนัก จึงได้ทำการก่อทรายเป็นรูปเจดีย์และเพื่อให้เจดีย์นั้นสวยงามจึงฉีกเสื้อผูกกับเรียวไม้แล้วปักไว้บนยอดกองทรายเป็นรูปธงสัญลักษณ์ แล้วตั้งสัตย์อธิษฐานขอให้ได้เกิดเป็นพระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่ง เมื่อเขาเวียนว่ายในวัฏฏะสงสารได้บำเพ็ญบารมีเต็มที่แล้ว ก็ได้เกิดเป็นพระพุทธเจ้าชื่อสมณะโคดมองค์ปัจจุบัน

       อาณาจักรล้านนาเคยเจริญรุ่งเรือง เป็นศูนย์กลางการค้าขาย โดยที่อาณาจักรน่าน เป็นศูนย์กลางการค้าเกลือ(ซึ่งยังมีบ่อเกลือโบราณ ปรากฏในจังหวัดน่าน) เป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางสายไหม เป็นศูนย์กลางของการค้าขาย แลกเปลี่ยนวัฒนธรรม เมื่อได้รับพระพุทธศาสนา จึงมีการประยุกต์ความเชื่อดั้งเดิม เข้ากับพระพุทธศาสนา และการมีศรัทธา จึงทำให้เกิดประเพณีวัฒนธรรมการก่อเจดีย์ทรายในเทศกาลสงกรานต์ ความเหนียวแน่นของศรัทธาที่หล่อหลอมใจจากบรรพบุรุษที่สั่งสอนสืบสาน จึงทำให้ยังคงมีประเพณีการก่อพระเจดีย์ทรายยังคงดำรงอยู่ในปัจจุบัน แม้สังคมจะเปลี่ยนแปลงจากสังคมเกษตรกรรมมาเป็นสังคมอุตสาหกรรมและเทคโนโลยี แต่เมื่อเข้าเทศกาลสงกรานต์ ชาวเหนือ ชาวอีสาน ยังคงรักษาและร่วมกันอนุรักษ์ประเพณีดั้งเดิม  ความเชื่อเรื่องอานิสงส์การก่อพระเจดีย์ทรายนี้ยังพบได้ในกลุ่มของชาวมอญ พม่า และ สิบสองปันนา

       ในด้านสังคมที่อยู่ร่วมกันในสมัยก่อนเมื่อเป็นสังคมเกษตรกรรม ความเป็นอยู่ร่วมกันในสมัยนั้นเป็นครอบครัวใหญ่ การสร้างบ้านของครอบครัวเกษตรนั้น มักจะสร้างในที่ที่ไม่ห่างกันมากนัก ไม่มีการล้อมรั้วบ้าน ทั้งนี้ เป็นการสะดวก ในการทำงาน การร่วมกัน อบรมบุตรหลานและบริวาร  โดยมีวัดเป็นศูนย์กลางการอบรมประเพณีวัฒนธรรม  มีพระภิกษุที่ทรงความรู้ทางธรรมเมตตาอบรมโดยมีคำสอนจากคัมภีร์อานิสงส์ต่างๆ 

       ปัจจุบันแม้สังคมจะเปลี่ยนแปลงไป ความทันสมัยของเทคโนโลยีได้เข้ามามีบทบาทมากขึ้น จึงมีความเป็นไปได้ที่จะอนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีเช่นเมื่อเข้าสู่วันเข้าพรรษา มีการเข้าFacebook เล่าเรื่องราว ความสำคัญของวันเข้าพรรษา ผ่านลงในสื่อออนไลน์  หรือวันวิสาขบูชา มีการส่งพุทธพจน์ หรือรูปดอกบัว ลงสื่อออนไลน์ ให้กับบุคคลในครอบครัว เพื่อนๆ หมู่ญาติทั้งหลาย เป็นการสืบสานประเพณี และอนุรักษ์ วัฒนธรรม อย่างนึกไม่ถึงทีเดียว  เป็นการเผยแผ่พระพทธศาสนาเชิงรุกทีดีทีเดียว

       อนุโมทนาบุญค่ะ  



#5 ทัพพีในหม้อ

ทัพพีในหม้อ
  • Moderators
  • 3279 โพสต์
  • Gender:Male

โพสต์เมื่อ 01 August 2014 - 09:27 AM

ขออภัย  และกราบขอบพระคุณท่าน อารยาดุสิต  นางฟ้า นางสวรรค์  เทพนารีประจำบอร์ดนี้ด้วยครับ

 

ที่ผมยกเป็นอรรถกถา ก็เพราะ  อรรถกถาใช้ภาษาง่ายกว่า  ทำให้คนทั่วไปอ่านเข้าใจได้เร็ว  และจับประเด็นที่ต้องการนำเสนอได้ง่าย  อีกทั้งมีการอรรถาธิบายเพิ่มเติม  น่าจะเหมาะแก่การศึกษาใน "เบื้องต้น"  แต่ท่าน อารยาดุสิต  ยกมาเป็นบทจากในพระไตรปิฎกโดยตรง  และมีบทวิจารณ์ประกอบแบบนี้ก็ดีสุดยอดเลย  ใครที่ต้องการศึกษาจะได้ไม่ต้องเสียเวลาไปค้น  ทำให้สามารถเข้าใจพระพุทธศาสนาได้อย่างถ่องแท้  แก้ข้อสงสัยได้อย่างชัดแจ้ง  ไม่เข้าใจพระพุทธศาสนาคลาดเคลื่อนไปตามคติของแต่ละคนอีก

 

พระพุทธศาสนาถือเจตนาเป็นเบื้องต้น  เมื่อกระทำการใดๆ ด้วยเจตนาบริสุทธิ์  อานิสงส์ก็มากมายไม่มีประมาณได้เช่นกันครับ  การบูชาด้วยสิ่งของก็ดี  การสวดมนต์ภาวนาก็ดี  หรือปฏิบัติธรรมบูชาก็ดี  ถ้าจิตตั้งมั่นถึงพระรัตนตรัยแล้ว  ไม่มีสูญเปล่าอย่างแน่นอนครับ


สมาชิกเว็บไซต์ทุกท่านที่เข้ามาอ่านกระทู้ สามารถร่สมกิจกรรมสะสมคะแนนเพื่อแลกรับของที่ระลึกจากทางทีมงานได้ฟรีๆ ทำตามนี้เลยครับ ..... ทุกๆ กระทู้ที่สมาชิกตั้งขึ้น เพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในทางธรรม จะได้รับคะแนนสะสมทันที่ 3 คะแนน ..... ทุกๆ การตอบกระทู้ที่เป็นการตอบแบบมีสาระทางธรรม จะได้รับคะแนนสะสมทันที่ 1 คะแนน และ 0.1 คะแนนสำหรับการเข้ามาอนุโมทนาบุญ ..... อย่าลืมมาร่วมกิจกรรมกันนะครับ