ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
- - - - -

ขยะที่อยู่ในใจ


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 6 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 สาธุธรรม

สาธุธรรม
  • Members
  • 1124 โพสต์

โพสต์เมื่อ 30 January 2009 - 06:00 PM

ขยะ ที่อยู่ในใจ

ทำไมบางคนถึงทุกข์ร้อน วิตกกังวล กระวนกระวาย ไม่สบายใจ ไม่ปลอดโปร่งอยู่เสมอ

คำตอบง่ายมาก เพราะเขาแบกความคิดและความรู้สึกหลายอย่างเอาไว้ ไม่ปลดปล่อย ไม่ปรับเปลี่ยน จนกระทั่งมันกลายเป็นขยะหรือคราบสกปรกเกาะติดหัวใจ เวลามีอะไรมากระทบหรือสัมผัสความรู้สึก ก็จะมีคราบเปื้อนเหล่านี้เข้าไปเจือปน ความสดใสที่ควรจะมี จึงมีได้ไม่เต็มที่

ทำไมเราจึงปล่อยให้ใจเป็น "ถังขยะ" ล่ะ! น่าคิดทีเดียว...

คำตอบก็คือ เราไม่ค่อยรู้ตัวหรอก ว่าเราแอบทิ้งขยะลงไปในใจของเราเอง หรือมีใครทิ้งขยะลงมาในหัวใจเราบ้าง ถ้าเราไม่หมั่นสำรวจ บางทีเราอาจมีขยะรกเรื้อในหัวใจอยู่มากมายเลยก็ได้

อะไรบ้าง ที่เป็นขยะหัวใจ

laugh.gif 1. ความไม่พอใจ

มีหลายเรื่องเลยนะ ในชีวิต ที่เราไม่พึงพอใจ ถ้าจะแบ่งให้กว้างที่สุดเพื่อให้เห็นภาพ สิ่งที่ทำให้เราไม่พอใจมีอยู่ 2 ส่วนใหญ่ๆ คือไม่พอใจคนอื่น กับไม่พอใจตัวเอง

ไม่พอใจคนอื่นเกิดได้มากกว่าความไม่พอใจในตัวเอง เพราะธรรมชาติของคน ย่อมรักตัวเองมากกว่าคนอื่น ย่อมโทษคนอื่นก่อนโทษตัวเอง ย่อมเห็นความผิดของคนอื่นได้ก่อน และเห็นได้ชัดกว่าความผิดของตัวเอง

ยกเว้นในรายที่สภาพจิตใจไม่ปกติ คือเป็นโรคโทษตัวเอง อย่างนั้นอยู่ในข่าย "ป่วย" อย่างชัดเจน ต้องได้รับการบำบัดรักษาจึงจะหาย

ขณะเดียวกันเราต่างก็รู้ว่าในโลกใบนี้ไม่มีใครสมบูรณ์แบบ มีเกิน มีขาด จนกว่าจะค่อยๆปรับปรุงพัฒนาให้มีความพอดีได้ จึงจะเข้าใกล้ความสมบูรณ์แบบมากที่สุด ฉะนั้น เราควรมองด้านดีของกันและกันให้มากกว่าด้านที่บกพร่อง แต่ไม่ใช่ไม่เห็นความบกพร่องของกันและกัน เพียงแต่เลือกที่จะไม่หยิบมันขึ้นมาย้ำ ขึ้นมาซ้ำ หรือมาทำให้ตัวเองดูดีกว่าหรือมีดีกว่า

ถ้าเราเริ่มจากมองด้านดีของกันและกันแล้ว ความพึงพอใจและความนับถือในกันและกันก็จะเกิด ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นที่สร้างสรรค์กว่าการจับผิดกัน แล้วนำไปสู่ความไม่พอใจ

laugh.gif 2. ความผิดหวัง

ความหวังควรจะเป็น "ดอกไม้" มากกว่า "ขยะ"

แต่ที่มันต้องกลายเป็นขยะ ก็เพราะเรื่องหลายเรื่องเป็นเรื่องที่ไม่ควรหวัง เนื่องจากเป็นแค่ความหวังลมๆแล้งๆ หวังเกินจริง หวังในสิ่งที่เป็นไปได้ยาก

2 สิ่งที่ไม่ควรตั้งความหวังไว้สูงนัก คือหวังว่าเรื่องบางเรื่อง เหตุการณ์บางเหตุการณ์ หรือคนบางคนในอดีตจะย้อนกลับมา กับหวังว่าอนาคตจะเป็นไปตามที่เราวาดหวังเสียทุกประการ

อดีตเป็นสิ่งที่ยากจะเรียกหาให้ย้อนกลับคืนมาเป็นเหมือนเดิม ดีที่สุดคือใช้อดีตเป็นบทเรียน ให้สติ ให้เราเรียนรู้ทั้งโอกาสและความผิดพลาดที่เคยเกิดขึ้น เพื่อให้วันนี้และวันข้างหน้า ดีกว่าอดีตที่เคยเป็น

ส่วนอนาคตย่อมเปลี่ยนแปลงไปตามเหตุปัจจัย ไม่สามารถบังคับบงการให้เป็นไปตามความหวังของเราได้เสียทั้งหมด แต่พอจะคาดการณ์ได้ว่าน่าจะเป็นอย่างไร

กระนั้นก็ตาม หากไม่เป็นไปอย่างที่คาดการณ์ ก็อย่าได้ทุกข์ร้อนเสียใจ และปล่อยความคาดหวังบนความไม่แน่นอนแบบนี้ให้เป็นขยะรกอารมณ์

laugh.gif 3. ความอิจฉาริษยา

ขยะอย่างหนึ่งที่รกใจคนที่สุด ก็คือความอิจฉาริษยาคนอื่น โดยไม่ทันเฉลียวใจว่า ทุกครั้งที่เราอิจฉาริษยาใครก็ตาม ความนับถือตัวเองของเราก็เสื่อมถอยลงไปด้วย เพราะการจะรู้สึกอิจฉาหรือริษยาใครนั้น ย่อมมีพื้นฐานมาจากความรู้สึกว่าเขาดีหรือได้ดีกว่าเรา เราจึงอิจฉาเขาเป็นพัลวัน

จงหยุดอิจฉา แล้วมองให้เห็นว่า การที่คนอื่นได้ดีหรือมีดีกว่าเรานั้น เป็นสิ่งที่น่ายินดี ควรยินดีกับเขา และปรับเปลี่ยนโน้มน้าวตัวเองให้ทวีความดีดั่งที่เขามีจนเราอิจฉา

หลายครั้งเราคิดไปเอง ว่ามีคนที่มีเงินมากกว่าเรา มีชื่อเสียงมากกว่าเรา มีโอกาสดีๆมากกว่าเรานั้น น่าอิจฉา เพราะคิดเอาว่าเขาคงจะมีความสุข โปรดรู้ว่าสิ่งนี้ไม่แน่นอนเสมอไป เพราะความสุขเป็นเรื่องของความพึงพอใจในชีวิตของตนเอง

เงินทองไม่ใช่เครื่องวัด ชื่อเสียงเกียรติยศ หรือตำแหน่งหน้าที่ก็ไม่ใช่เครื่องวัด เราทุกคนมีสิทธิ์ที่จะมีดี และมีสุขในตัวเองอย่างเสมอหน้ากัน แต่ความสุขนั้น อยู่ที่ขีดของความพึงพอใจ ซึ่งทุกคนควรจะตั้งไว้ให้พอเหมาะพอดีกับตัวเอง

laugh.gif 4. ความยึดมั่นถือมั่น

ขยะที่เพิ่มพูนความรกเรื้อรุงรังให้ใจได้เป็นอย่างดีอีกประการหนึ่งคือ ความยึดมั่นถือมั่น คิดว่านั่นก็คนของฉัน นี่ก็บ้านของฉัน รถของฉัน คนรักของฉัน ตำแหน่งของฉัน ฯลฯ จนไม่สามารถปล่อยวาง "สิ่งนอกตัว" เหล่านั้นลงได้

ส่วนใหญ่จะพบว่า จิตจะปรุงแต่งไปเอง ว่าสิ่งนี้ฉันรัก สิ่งนี้ฉันเป็นเจ้าของ ใครก็เอาไปจากฉันไม่ได้ พอไม่เป็นอย่างที่คิดไว้ ก็ผูกพันหน่วงเหนี่ยว ยังคงเสียดาย เสียใจ และปรุงแต่งจิตเพิ่มเข้าไปว่าฉันนี้แสนทุกข์ระทม

ลองยอมรับความจริงดูบ้างไหม ว่าอะไรไนโลกนี้ก็ไม่ใช่ของเราอย่างถาวรทั้งสิ้น แม้กระทั่งร่างกายของเรานี้ แท้ก็เป็นแค่ของยืมมา ใช้ได้ชาตินี้ชาติเดียว เดี๋ยวก็เสื่อม ก็แก่ ก็ป่วย ก็ตาย ต้องคืนร่างกายสังขารนี้สู่สภาพดิน น้ำ ลม ไฟ เน่าเปื่อยผุพังไป สิ้นความสวยความหล่อ ตลอดจนลาภ ยศ สรรเสริญทั้งปวง

laugh.gif 5. ความกลัว

ใจหลายคนรุงรังไปด้วยความกลัว กลัวเขาจะไม่รัก กลัวเงินจะหมด กลัวฝนจะตก กลัวนายจ้างจะเลิกจ้าง กลัวเพื่อนร่วมงานจะได้ดีกว่า กลัวไม่ก้าวหน้า ไม่ได้โบนัส ฯลฯ

กลัวไปทำไม เรื่องบางเรื่องเราตัดสินเองไม่ได้ อยู่นอกเหนือจากการควบคุม ซึ่งกลัวไปก็เท่านั้น ไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้นเลยสักนิด บางเรื่องแทบไม่มีวันมาถึงชีวิต ก็กลัวล่วงหน้า กลัวจนประสาทเสีย

บางคนกลัวอดีตของตนจะถูกขุดคุ้ย กลัวความลับแตก เช่นนี้ก็ควรจะระมัดระวังทุกสิ่งที่จะกระทำ ทำให้ถูก ทำให้ดี ย่อมไม่มีใครขุดคุ้ย โจมตี หรือตรวจสอบให้ได้อาย

จงพร้อมที่จะเผชิญหน้ากับทุกคนและทุกสิ่งในชีวิตอย่างมีศักดิ์ศรี ซึ่งต้องเริ่มจากการทำแต่สิ่งที่ดี โปร่งใส ไม่เป็นแผลติดตัวที่ต้องปิดบังซ่อนเร้น และจงขจัดความกลัวออกไปจากใจ เพื่อให้เกิดความั่นใจที่จะใช้ชีวิตของเราให้สมศักดิ์ศรี เพื่อที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ เพื่อทำให้ชีวิตนี้ดีกว่าเดิม

laugh.gif 6. ความอยาก

นับเป็นขยะที่สร้างรอยเปื้อนรอยหม่นให้แก่ใจคนได้อย่างดีเยี่ยม

คนเราช่างมีความอยากมากเกินจะตอบสนองได้

อยากกิน อยากได้ อยากมี อยากรู้อยากเห็น อยากสวย อยากครอบครอง อยากเป็นเจ้าของ อยากรวย อยากชนะ อยากผอม อยากหิ้วแบรนด์เนม อยากเป็นดารา อยากเป็นนักร้อง อยากมีสามี อยากมีภรรยา ฯลฯ

ลดความอยากลงมาเสียบ้าง แล้วอิ่มเอมใจกับสิ่งที่มีอยู่ให้หมดเสียก่อน อิ่มเอมใจที่มีสามีภรรยาคนนี้ อิ่มเอมใจที่มีลูกที่ดีที่น่ารัก อิ่มเอมใจที่มีบ้าน ห้อง หรือแม้กระทั่งกระท่อมโกโรโกโส เพราะมันเป็นของเรา เป็นของเราจริงๆ เป็นสิ่งที่อยู่กับเรา ให้กับเรามาโดยตลอด

ความอยากชักพาให้ใจเร่าร้อน ดิ้นรน ไม่พึงพอใจในตน และอิจฉาริษยาคนอื่น

ความอยากชักนำให้เกิดความฝันเฟื่อง คิดแต่เรื่องที่ไม่ง่ายที่จะเกิด แล้ววิ่งไล่ล่าจนเหนื่อย หมดแรง แล้วก็นอนทุกข์ใจ

จง "อยาก" ให้พอดีกับกำลังกาย กำลังทุน และกำลังสติปัญญาของตัวเอง อย่าอยากจนเกินกำลัง เพราะจะทำให้สิ้นกำลังได้ง่าย แล้วกลายเป็นคนพ่ายแพ้ อ่อนแอ หมดสิ้นความทะเยอทะยานอยากในชีวิต

ความทะเยอทะยานอยากเหมือนรถ แต่ใจเราคือคนขับ รถแล่นด้วยความเร็วกำลังดี เราก็ได้ประโยชน์ จอดอยู่เฉยๆ ก็นิ่งอยู่กับที่ แต่หากแล่นฉิวจนเกินควบคุม ก็อันตรายกับชีวิต ฉะนั้น ใจต้องเป็นนายของความทะเยอทะยานอยากโดยควบคุมได้



cool.gif ทำอย่างไรให้ใจสะอาด

เริ่มจากปล่อยวางสิ่งต่างๆ ลง อย่ายึดติดยึดถือให้มากนัก แล้วอยู่กับปัจจุบัน อะไรที่อยู่กับเรา เป็นของเรา ย่อมอยู่กับปัจจุบันของเราด้วย นั่นคือสิ่งจริงแท้แน่นอน

การปล่อยวางสิ่งต่างๆ ลง เท่ากับการเทขยะทิ้ง

การอยู่กับปัจจุบัน เท่ากับการปิดฝาถังขยะ ไม่เปิดรับขยะใหม่ ให้ใจต้องสกปรกรกรุงรังอีก เพื่อมีเวลาทำความสะอาดหัวใจให้ผ่องใส เบิกบาน

ใจ...แท้จริงผ่องใสด้วยตัวของมันเอง แต่คนที่เป็นเจ้าของหัวใจต่างหาก ที่ชักนำสิ่งต่างๆ มาปะพอก จนใจนั้นหมดสภาพ

ฟื้นหัวใจให้กลับไปผ่องใสดังเดิมกันเถิด ปัดฝุ่นและคราบเขม่าทั้งหลาย แล้วเปิดทางให้หัวใจได้หายใจ เต้น และรู้สึกด้วยตัวของมันเอง

อย่าไปบงการหัวใจมาก...เพราะแทนที่จะเป็น "หัวใจ" มันจะกลายเป็น "ถังขยะ" แทน



แนบไฟล์  31682.jpg   111.03K   57 ดาวน์โหลด
หยุดนิ่งนั้นแหละไซร้ พรหมจรรย์
พระผุดผ่านทุกวัน สะอาดเกลี้ยง
นิวรณ์หมดสุขสันต์ สดชื่น
ชีพรื่นธรรมหล่อเลี้ยง ผ่องทั้งกายใจ

สุนทรพ่อ

#2 น้ำใส

น้ำใส
  • Members
  • 778 โพสต์
  • Gender:Male

โพสต์เมื่อ 30 January 2009 - 09:16 PM

ขอกราบอนุโมทนาบุญกับคุณ สาธุธรรม เป็นอย่างยิ่งค่ะ

บทความดีเยี่ยมจริง ๆ อ่านแล้วสามารถสั่งสอนตัวเอง

ได้ทันทีเลยค่ะ ขอบคุณสำหรับธรรมะ ดีๆๆ อย่างนี้ค่ะ

สาธุ สาธุ สาธุ

เหมือนดอกบัวทะยานตัวขึ้นสู่ผิวน้ำ เปิดกลีบรับแสงตะวันธรรม

น้อมนำสู่วิถีอันดีงาม


#3 ดอกอุบล

ดอกอุบล
  • Members
  • 926 โพสต์

โพสต์เมื่อ 30 January 2009 - 09:23 PM

โอ้ย...แทงใจดำผมเลยครับบทความธรรมะนี้สาธุๆๆอนุโมทนาบุญ โอ้ย...เอาอีกเอาอีกชอบมากเลยบทความแบบนี้มันเข้ากับชีวิตของใครหลายๆคน...ฮิฮิ

#4 WISH

WISH
  • Moderators
  • 3579 โพสต์

โพสต์เมื่อ 31 January 2009 - 08:57 AM

ภาพสวย ดลใจครับ
ทำไมต้อง หาคำตอบ ณ แดนไกล ลืมหรือไร ว่าอยู่ใกล้ DMC

#5 n00m

n00m
  • Moderators
  • 637 โพสต์
  • Location:Patumthanee

โพสต์เมื่อ 31 January 2009 - 10:34 PM

หัวใจไม่ใช่ถังขยะ ขอร่วมเป็นกำลังใจให้ทุกท่านมีใจใส ใจหยุดนิ่งเปี่ยมไปด้วยพลัง เพื่อสร้างสรรค์สิ่งดีๆ ให้กับโลกใบนี้ตลอดไป อนุโมทนาบุญครับ

#6 ปฏิปทา 072

ปฏิปทา 072

    ขอชื่อ ที่ถูกต้อง ปฏิปทา 072 THANIDA KOIKE

  • Members
  • 1358 โพสต์
  • Gender:Male

โพสต์เมื่อ 02 February 2009 - 08:12 PM

ต้องขอขอบพระคุณ คุณ.สาธุธรรม มากๆเลยค่ะ ที่เอาธรรมะดีๆ มาให้ได้อ่าน จะทำตามที่บอกกล่าวไว้ เพราะลำพัง

ตัวเองก็ทำอยู่ แล้วยิ่งได้มาอ่านก็ยิ่งดีมากๆเลยค่ะ ขออนุโมทนาบุญ กับธรรมะ อันเลิศ ค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ

#7 taer

taer
  • Members
  • 2 โพสต์

โพสต์เมื่อ 03 February 2009 - 08:37 AM

Very good
Sathoo Sathoo Sathoo
Khob khun krab
Taer