ย่อเรื่อง ไม่เคยแย่งแฟนใครเลยแก้เสน่ห์ยาแฝดได้ (14 มกราคม 2547) โดย Extra
พี่ชายของเจ้าของเคสเป็นคนรักครอบครัว ชอบทำบุญสาธารณกุศล เมื่อปี 2545 พี่ชายเปลี่ยนไปมาก ไม่ขยันเหมือนเดิม ทะเลาะกับพี่สะใภ้เป็นประจำ ในที่สุดก็จับได้ว่าพี่ชายมีภรรยาเพิ่มอีก 1คน ต่อมาผู้หญิงคนนั้นตั้งครรภ์ พี่ชายก็พามาอยู่ที่บ้านด้วยอย่างออกหน้าออกตา ทำให้พี่สะใภ้ช้ำใจมาก เจ้าของเคสได้สังเกตเห็นความผิดปกติต่าง ๆ ของพี่ชาย ทำให้คิดว่าพี่ชายคงถูกทำเสน่ห์จากผู้หญิงคนใหม่อย่างแน่นอน พี่สะใภ้จึงไปทำพิธีแก้เสน่ห์กับพ่อหมอโดยนำขันใส่น้ำมาทำพิธีและโยนใบพลู 12 ใบลงในขันน้ำ พอนำใบพลูขึ้นมาพบว่าน้ำมีสีแดงคล้ายเลือด มีหุ่นตัวเล็ก ๆ 2 ตัวผูกติดกัน พ่อหมอเอามีดแคะอกหุ่นตัวหนึ่ง พบกระดาษเขียนชื่อพี่ชายอยู่ในนั้น จากนั้นพี่ชายก็ดีขึ้นบ้าง เลวลงบ้าง พ่อหมอบอกว่าดีขึ้นเพราะถอนเสน่ห์ออก เลวลงเพราะผู้หญิงคนใหม่ไปเติมเสน่ห์อีก ต่อมาเจ้าของเคสไปหาพระที่ จ.สุรินทร์ ท่านบอกว่าโดนผู้หญิงคนใหม่ทำ 4 อย่างคือ
1. น้ำมันพราย
2. เสน่ห์ยาแฝด
3. กินประจำเดือน
4. ฝังของในบ้านภรรยาหลวง
แล้วท่านก็ให้เจ้าของเคสไปขุดออก แต่พี่สะใภ้ไม่ขอใช้วิธีขุดเพราะขุดที่บ้านลำบากและกลัวพี่ชายจะรู้ด้วย พี่สะใภ้จึงใช้วิธีเก่ากับพ่อหมอคนเดิมคือ วิธีถอนโดยขันน้ำก็พบกระดูกในน้ำ พ่อหมอบอกว่าเป็นกระดูกผีตายโหง 2 ชิ้นมัดติดกัน พอแกะกระดาษออกมีชื่อพี่ชายเขียนอยู่ข้างใน พี่ชายก็มีอาการดีขึ้นบ้าง ปัญหาเรื่องการค้าและครอบครัวก็เริ่มน้อยลง ต่อมาก็ให้พ่อหมอทำพิธีแก้เสน่ห์แบบถาวร โดยใช้ดินสอดำโบราณเขียนที่ศีรษะโดยที่พี่ชายไม่รู้ตัว เพราะถือว่าเป็นการสะเดาะเคราะห์ จากนั้นพี่ชายมีอาการดีขึ้นเรื่อย ๆ สนใจกิจการงานครอบครัวมากขึ้น แต่ก็ยังไม่หายขาด
แม่ของเจ้าของเคสเป็นคนใจดีใจบุญ ดุบ้างเมื่อโมโห เมื่อปี 2545 ท่านเป็นเส้นเลือดในสมองด้านซ้ายแตกแต่รักษาทันจนเดินได้เป็นปกติ ปีต่อมาเส้นเลือดในสมองด้านขวาตีบ ทำให้ร่างกายด้านซ้ายมีปัญหาเดินไม่ได้ ต้องนอนอยู่ที่บ้าน ช่วงวันโกนหรือวันพระ สุนัขก็จะหอนขึ้นมา แม่บอกว่าคนข้างบ้านที่ตายแล้วหรือญาติผู้ใหญ่ที่ตายแล้วมาหาท่าน ท่านได้แผ่เมตตาไปให้ก็ไม่หาย ต่อมาได้นิมนต์พระมาฉันภัตตาหารที่บ้าน 5 รูป และได้ทำบุญหล่อหลวงปู่ทองคำให้ญาติที่ท่านเอ่ยชื่อ จากนั้นท่านก็ดีขึ้น
คำถาม
1. พี่ชายถูกทำเสน่ห์หรือไม่ ถ้าไม่ใช่เกิดจากอะไร ถ้าถูกทำเสน่ห์จริง ๆ ทำอย่างไรจึงจะหายขาดได้ หุ่นที่ผูกติดกันหรือกระดูกผีตายโหงที่ผูกติดกันเป็นของจริงหรือว่าพ่อหมอทำหลอกขึ้นมา 2. เจ้าของเคสและพี่สะใภ้ช่วยหาหมอแก้เสน่ห์นั้นถือว่าทำไสยเวทย์หรือไม่ และจะมีเศษกรรมหรือไม่
3. แม่ทำบุพกรรมอะไรมา จึงเดินไม่ได้ แล้วทำอย่างไรจึงจะเดินได้ ต้องทำบุญใดเป็นพิเศษหรือไม่ เจ้าของเคสได้ทำบุญทุกบุญของหลวงพ่อ ใส่บาตรและปล่อยปลาเป็นประจำทุกวัน ที่แม่เอ่ยชื่อคนข้างบ้านและญาติที่ตายและบอกว่า พวกเขามาหาท่านเป็นเรื่องจริงหรือไม่ ควรทำอย่างไร ท่านจึงจะไม่เจอเหตุการณ์อย่างนั้นอีก
คำตอบ พี่ชายโดนทำเสน่ห์จริง ๆ โดยแต่ละคนก็มีกรรมเป็นของตัวเอง พี่ชายก็มีกรรมของตัวเอง พี่สะใภ้ก็มีกรรมอีกอย่างหนึ่ง ภรรยาคนที่ 2 ก็มีกรรมอย่างหนึ่ง ทั้งสามคนต่างก็มีกรรม
กรรมในอดีตของพี่สะใภ้ เคยชอบผู้ชายคนหนึ่ง ได้ใช้หมอไสยเวทย์ผูกใจและทำได้สำเร็จ วิบากกรรมนี้จึงต้องมีสามีที่ถูกคนอื่นทำเสน่ห์ แต่ชาตินั้นก็ไม่ได้ไปแย่งใครเพราะผู้ชายคนนั้นไม่ได้มีภรรยา ดังนั้นชาตินี้จึงสามารถแก้ไขเสน่ห์ที่สามีโดนได้
กรรมในอดีตของพี่ชายทำให้ชาตินี้ต้องมาโดนทำเสน่ห์ เพราะชาติในอดีตในวัยหนุ่มเป็นคนเจ้าชู้ จีบผู้หญิงหลายคน จีบแต่ละคนก็หวานซึ้ง คือให้คำหวานว่าจะรักเธอไปนิรันดร หรือจะรักเธอไปทุกชาติ พอจีบคนใหม่ก็ทิ้งคนเก่า ภรรยาคนที่ 2 คืออดีตแฟนเก่าของพี่ชายในชาตินั้นที่พี่ชายได้แล้วก็ทิ้ง จึงทำให้ผูกโกรธประกอบกับผูกพัน จึงไม่ยอมทิ้งไปง่าย ๆ จึงไปจ้างหมอเสน่ห์ใช้ไสยเวทย์เหมือนในชาตินี้เพื่อให้พี่ชายทิ้งคนใหม่กลับมาหาตน ผลก็คือ กลับมาได้จริง พอมาชาตินี้ก็เข้าวงจรเหมือนเดิมอีก แต่พี่สะใภ้ไม่มีกรรมไปแย่งของใคร เสน่ห์ที่ถูกผูกก็แก้ไขได้ แต่กรรมที่ทั้งสองคนผูกกันมาก็ยังมีอยู่ ดังนั้นตอนนี้ให้พี่สะใภ้ข่มความโกรธเอาไว้ หรือให้อภัย อย่าผูกเวรกัน แล้วยึดพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่ง หมั่นสั่งสมบุญให้ได้ตลอดไป ส่วนพี่ชายควรจะบวชเพื่อให้พ้นกรรมนี้ได้
หุ่นที่ผูกติดกันหรือกระดูกที่ผูกติดกัน คือ สิ่งที่หมอไสยเวทย์ของอีกฝ่ายทำเอาไว้ร่วมกับอาจารย์วิทยาธรที่แต่งชุดดำ ซึ่งพ่อหมอก็ได้ร่วมกับอาจารย์พระและอาจารย์วิทยาธรที่แต่งชุดขาวช่วยแก้ไขเอาไว้ ฝ่ายทำแต่งชุดดำ ฝ่ายแก้แต่งชุดขาว แก้ไขด้วยมนตราเช่นเดียวกัน แต่หลักสำคัญขึ้นอยู่กับวิบากกรรมเป็นหลัก ไสยเวทย์เป็นเครื่องเสริม ถ้ากรรมหนัก เช่น ถ้าพี่สะใภ้เคยทำเสน่ห์แย่งสามีคนอื่นในอดีตชาติ แก้อย่างไรก็แก้ไม่ได้ ต่อให้เทวดาเหาะมาก็แก้ไขไม่ได้ ต้องใช้วิบากกรรมนั้น
เจ้าของเคสและพี่สะใภ้ไปหาหมอเสน่ห์มาแก้นั้น หากไม่ผูกเวร แผ่เมตตา ใจตั้งอยู่ในพระรัตนตรัย ก็จะรอดตัว คือ คลี่คลายออกเหมือนห่อก๋วยเตี๋ยวที่เชือกมัดแล้วแก้ออก แต่ถ้าผูกเวรก็จะมีเศษกรรมติดไป ขึ้นอยู่กับการกระทำนั่นเอง
แม่ของเจ้าของเคสมีกรรมในอดีตและกรรมปัจจุบันคือ การทำปาณาติบาต ฆ่าสัตว์ทำอาหารเป็นหลัก ให้ทำทุกบุญอุทิศส่วนกุศลให้กับคู่กรรมบ่อย ๆ กับควบคุมเรื่องอาหาร อย่าไปกินของหวาน เป็นต้น หนักก็จะเป็นเบา เบาก็จะหาย
แม่เห็นผู้ที่ตายไปแล้วซึ่งเป็นญาติ เป็นคตินิมิตของคุณแม่ หากเดินทางตอนนั้นก็จะไปเป็นภุมเทวา แต่ที่ยังไม่เดินทางเพราะว่าเจ้าของเคสได้เอาบุญช่วยท่าน จึงทำให้ท่านยังอยู่ ต่ออายุไว้ได้ ดังนั้นให้ท่านทำทุกบุญมากๆ โดยเฉพาะช่วงนี้บุญหอฉันเป็นบุญแรง และควรแนะนำให้ท่านท่องสัมมาอะระหัง หากเดินทางไกลไปปรโลกก็จะได้ไปสุคติภูมิที่สูงกว่าภุมเทวา ที่หมาหอนเพราะหมาเห็นผู้ที่มาเยี่ยม ผู้ที่มาเยี่ยมถามเจ้าหน้าที่ว่าถึงเวลาจะหมดอายุขัยแล้ว จึงเตรียมตัวมารับไปเป็นภุมเทวา แต่ยังไปไม่ได้เพราะบุญของเจ้าของเคสต่ออายุไว้ ดีที่สุดในช่วงนี้คือให้พี่ชายบวชสืบอายุให้แม่และจะเป็นการแก้ไขทั้ง 2 เรื่อง คือ เรื่องของพี่ชายและเรื่องของแม่ แม่ก็จะได้บุญบวช และเหตุการณ์ของพี่ชายก็จะดีขึ้น
ไม่เคยแย่งแฟนใครเลยแก้เสน่ห์ยาแฝดได้ (14 มกราคม 2547)
เริ่มโดย extra, Jun 27 2007 09:50 PM
มี 4 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้
#1
โพสต์เมื่อ 27 June 2007 - 09:50 PM
#2
โพสต์เมื่อ 28 June 2007 - 08:21 AM
ขอกราบอนุโมทนาบุญกับคุณ Extra และเจ้าของเคสด้วยนะครับ สาธุ
#3
โพสต์เมื่อ 28 June 2007 - 09:30 AM
ได้ข้อคิดดีจัง ขอกราบอนุโมทนาบุญกับคุณExtra และทุกๆ คนในเคสด้วยนะครับ...สาธุ
#4
โพสต์เมื่อ 28 June 2007 - 06:27 PM
อนุโมทนาบุญกับคุณExtra และทุกๆ คนในเคสด้วยนะครับ สาธุๆๆ
#5
โพสต์เมื่อ 07 December 2007 - 08:50 PM
สาธุ
พระพุทธเจ้ารู้
และท่านก็ตรัสสรุป
ว่าทางเดียวที่จะรู้ตามท่าน
ตลอดจนหยุดตามท่าน
คือการมองเข้าข้างใน
และการหยั่งรู้สรรพสิ่งออกมาจากภายใน
คือสัญลักษณ์สำคัญของพุทธแท้
พุทธแท้จะรู้ว่าการพยายามมองออกข้างนอก
เป็นวิธีที่ไม่ทำให้รู้จักประโยชน์สูงสุด
อันพึงมีพึงได้จากความเป็นมนุษย์
และท่านก็ตรัสสรุป
ว่าทางเดียวที่จะรู้ตามท่าน
ตลอดจนหยุดตามท่าน
คือการมองเข้าข้างใน
และการหยั่งรู้สรรพสิ่งออกมาจากภายใน
คือสัญลักษณ์สำคัญของพุทธแท้
พุทธแท้จะรู้ว่าการพยายามมองออกข้างนอก
เป็นวิธีที่ไม่ทำให้รู้จักประโยชน์สูงสุด
อันพึงมีพึงได้จากความเป็นมนุษย์