ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
- - - - -

นิพพาน


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 18 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 sukrit

sukrit
  • Members
  • 12 โพสต์

โพสต์เมื่อ 03 November 2006 - 10:58 AM

นิพพาน คือการหลุดพ้นจาก การเกิด แก่ เจ็บ ตาย หรือการหมดสิ้นจากกิเลสอาสวะทั้งปวง
*นิพพาน การดับกิเลสและกองทุกข์เป็นโลกุตตรธรรม และเป็นจุดหมายสูงสุดในพระพุทธศาสนา
นิพพานธาตุ ภาวะแห่งนิพพาน; นิพพาน หรือนิพพานธาตุ ๒ คือ สอุปาทิเสสนิพพาน ดับกิเลสมีเบญจขันธ์เหลือ ๑
อนุปาทิเสสนิพพาน ดับกิเลสไม่มีเบญจขันธ์เหลือ ๑
ที่มา : พจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับประมวลศัพท์ โดย พระธรรมปิฎก(ป.อ. ปยุตฺโต)

นิพพาน ตามทัศนะของโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยานั้นต่างกันหรือเหมือนกันกับที่กล่าวมาแล้วข้างต้นอย่างไร?
อายตนะนิพพาน กับนิพพานดังที่กล่าวมามีความเหมือนหรือต่างกันอย่างไร?(ฝันในฝัน)

#2 น้ำฝน มัชฌิมหญิงรุ่น14

น้ำฝน มัชฌิมหญิงรุ่น14

    เราคือ นักรบกล้าอาสาสมัคร กองทัพธรรม

  • Members
  • 1961 โพสต์
  • Gender:Female
  • Interests:ช่วยงานบุญที่วัด ให้ถึงที่สุดกำลัง ตราบวันที่ชีวิตจะสิ้นลมหายใจ

โพสต์เมื่อ 03 November 2006 - 11:18 AM

เรียกนิพพานว่าเป็น อายตนะ
"ดูกร ภิษุทั้งหลาย อายตนะนั้นมีอยู่ ดิน น้ำ ลม ไฟ อากาสานัญจายตนะ วิญญานัญจายตนะ อากิญจัญญายตนะ เนวสัญญานาสัญญายตนะ โลกนี้ โลกหน้า พระจันทร์ และพระอาทิตย์ทั้งสอง ย่อมไม่มีในอายตนะนั้น
ดูกร ภิกษุทั้งหลาย เราย่อมไม่กล่าวซึ่งอายตนะนั้นว่า เป็นการมา การไป เป็นการตั้งอยู่ เป็นการจุติ เป็นการอุปปัตติ อายตนะนั้นหาที่ตั้งอาศัยมิได้ มิได้เป็นไป หาอารมณ์มิได้ นี้แลเป็นที่สุดแห่งทุกข์"
๐ นิพพานคือ อสังขตธรรม
"ดูกร ภิกษุทั้งหลาย อสังขตลักษณะ ของอสังขตธรรม 3 ประการนี้ 3 ประการเป็นไฉน คือ
๑ ไม่ปรากฎความเกิด
๒ ไม่ปรากฎความเสื่อม
๓ เมื่อตั้งอยู่ไม่ปรากฏความแปรปรวน
ดูกร ภิกษุทั้งหลาย อสังขตลักษณะของอสังขตธรรม 3 ประการ นี้แลฯ"
ความนี้สนับสนุน ความเป็น นิจจัง สุขัง อัตตา ของ ธรรมกาย และ นิพพาน นั่นเอง
"ด้วยใจกล้าอาสา พัฒนาไม่หยุดยั้ง"

น้ำฝนลูกพระธัมฯ

#3 หัดฝัน

หัดฝัน
  • Members
  • 4531 โพสต์
  • Gender:Male
  • Interests:ธรรมะ

โพสต์เมื่อ 03 November 2006 - 11:46 AM

ในทัศนะของโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยานั้น คุณครูบอกว่า นิพพานเป็นสุขอย่างยิ่งน่ะครับ ที่ชวนนักเรียนสร้างกุศลกันมากๆ เพราะอยากจะให้ทำพระนิพพานให้แจ้ง แสวงบุญ สร้างบารมีกันให้หมด จะได้แต่มีความสุขกันหมดทั้งโลก สันติสุขที่แท้จริงจะบังเกิดขึ้นไงครับ

ซึ่งนิพพานเป็นบรมสุขนี้ ก็ตรงกับที่พระพุทธเจ้าท่านตรัสไว้ในพระไตรปิฎกครับ แม้เนื้อความของท่านปยุต ที่คุณเจ้าของกระทู้ยกมา จะไม่มีคำว่า บรมสุข ก็ตาม แต่ก็มีคำว่า ดับกิเลส และกองทุกข์ ซึ่งก็เป็นความหมายเดียวกันครับ

ส่วนว่า นิพพานจะเป็นอัตตาอนัตตาอะไรก็ตาม คุณครูท่านบอกว่า ลูกๆ ยังเป็นนักเรียนอนุบาลอยู่ค่อยๆ เรียนไป เดิ๋ยวเมื่อเข้าถึงก็จะเข้าใจได้เองล่ะครับ

ในอดีตกาล พระจูลปัณถก มีสติปัญญาทึบมาก เรียนคาถาแค่ 4 บาท (บรรทัดเดียว) เป็นเวลา 4 เดือน ก็ยังจำไม่ได้ ป่วยการไปพูดถึงว่า ท่านรู้ธรรมะที่ลึกซึ้งกว่านั้นหรือไม่ เช่น นิพพาน เป็นต้น เพราะท่านไม่รู้แน่นอน

แต่ในเวลาเพียงชั่วโมงสองชั่วโมง ที่พระพุทธเจ้าเนรมิตผ้าขาว ให้ท่านใช้เช็ดมือ แล้วท่องว่า รโชหรณัง (ผ้าเช็ดธุลี) ท่องไปเรื่อยๆ ปรากฏว่า ผ้าขาวเปลี่ยนเป็นดำ พร้อมกับจิตท่านเป็นสมาธิ ท่านเห็นผ้าดำก็สลดใจ พระพุทธเจ้าเทศน์โปรดอีกนิด ท่านซึ่งมีใจเป็นสมาธิแล้ว เจริญวิปัสสนา ก็บรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์ทันที (รู้แจ้งหมด นิพพาน ภพสาม โลกันตร์)

ข้อคิด
1. พระจุลปัณถกท่านทราบก่อนหรือไม่ว่านิพพานเป็นอะไร หรือธรรมะที่ลึกซึ้งมีอะไรบ้าง
2. ถ้าท่านไม่ทราบก่อน เหตุใดท่านจึงบรรลุธรรม ด้วยการแค่ท่องว่า ผ้าเช็ดธุลี
ได้ดี เพราะมีกัลยาณมิตร

#4 sukrit

sukrit
  • Members
  • 12 โพสต์

โพสต์เมื่อ 03 November 2006 - 12:07 PM

สรุปตามที่คุณ SoperNora ว่ามาก็แสดงว่า อายตนะนิพพานนั้น เป็นภพภูมิหรือสถานที่แห่งหนึ่ง แต่ไม่มี ดิน น้ำ ลม ไฟ อากาสานัญจายตนะ วิญญานัญจายตนะ อากิญจัญญายตนะ เนวสัญญานาสัญญายตนะ โลกนี้ โลกหน้า พระจันทร์ และพระอาทิตย์ทั้งสอง ย่อมไม่มีในอายตนะนั้น

#5 นักท่องเที่ยว

นักท่องเที่ยว
  • Members
  • 2378 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:รู้สึกว่าจะไม่ค่อยได้อยู่กะที่อ่ะ มาดูอารายกานอ่ะ
  • Interests:มาสร้างบารมีตามติดหมู่คณะดีกว่า

โพสต์เมื่อ 03 November 2006 - 01:24 PM

ถ้าคุยเรื่องนี้เท่าไรจึงจะจบล่ะครับ เทียงกันมานานแล้ว
กายธรรมควรเทิดไว้ ในใจ
เป็นสรณะภายใน เทียงแท้
กว่านี้ บ่ มีใด เทียบได้
น้อบนบท่านไว้แล ค่ำเช้าสุขเสมอ


เอาบุญมาฝากจ้า นั่งสมาธิเยี่ยมไปเลย แถมไปติดจานมาอีกด้วย เด็กชาวเขานี้น่ารักนะแม้คุยไม่รู้เรื่องก็ตามล่ะ สนุกดี

#6 koonpatt

koonpatt
  • Members
  • 616 โพสต์
  • Gender:Female

โพสต์เมื่อ 03 November 2006 - 01:43 PM

QUOTE
ในทัศนะของโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยานั้น คุณครูบอกว่า นิพพานเป็นสุขอย่างยิ่งน่ะครับ ที่ชวนนักเรียนสร้างกุศลกันมากๆ เพราะอยากจะให้ทำพระนิพพานให้แจ้ง แสวงบุญ สร้างบารมีกันให้หมด จะได้แต่มีความสุขกันหมดทั้งโลก สันติสุขที่แท้จริงจะบังเกิดขึ้นไงครับ


เหรอคะ koonpatt ฟังเข้าใจว่า ให้ได้ไปพักผ่อนกลางทางที่ดุสิตบุรีวงบุญพิเศษ เพื่อจะได้ติดตาม หลวงปู่ หลวงพ่อ คุณยาย กลับมาสร้างบารมี อีกรอบ เพื่อรื้อสัตว์ ขนสัตว์ และไปให้ถึงที่สุดแห่งธรรม

คือ ประมาณว่า ยังไง๊ ยังไง ชาตินี้ก็เข้าไม่ถึงที่สุดแห่งธรรมกันอยู่แล้ว ไม่ได้หวังนิพพานอยู่แล้ว ก็สร้างบุญบารมีกับหมู่คณะกันมากๆ จะได้ไม่พลัดจากหมู่คณะ ตายไปชาตินี้ ก็ไปพักผ่อนกันก่อน ที่ดุสิตบุรี แล้วก็ตามติด หลวงปู่ หลวงพ่อ คุณยาย มาสร้างบารมีกันอีกในครั้งต่อไป

เพราะ ยังสอนให้ ตั้งอธิษฐานจิตให้เกิดเป็นผู้ชาย ให้ได้บวช ให้ได้เกิดในร่มเงาพุทธศาสนา ให้ได้มาสร้างบารมี กับ หลวงปู่ หลวงพ่อ คุณยาย อันอีก

ให้ยึดติดหมู่คณะ ให้ยึดติด หลวงปู่ หลวงพ่อ คุณยาย
คือ ยังสอนให้ยึดติด เพื่อ ติดตาม หลวงปู่ หลวงพ่อ คุณยาย อยู่เลย แล้วจะถึงนิพพานได้ยังไงคะ ก็คือ ยังหวังจะมาเกิดอีกรอบ

เพราะถ้านิพพาน ตามที่ koonpatt เข้าใจแปลว่า หลุดไปแล้ว พ้นไปแล้ว ไม่ยึดติด เกาะเกี่ยวกับ สิ่งใดแล้ว ไม่ต้องกลับมาเวียนว่ายตายเกิดอีกแล้ว ไม่ใช่หรือคะ

หรือ koonpatt ก่งก๊ง

.......................................................................................................................................................

ความแตกต่างของนิกาย เถรวาท และ มหายาน

การหลุดพ้นของนิกายเถรวาทเป็นไปในลักษณะที่รีบด่วน หลุดพ้นจากความทุกข์ มุ่งหวังนิพพาน
ส่วนมหายานจะไม่รีบด่วนไปสู่ความดับทุกข์จนกว่าจะช่วยสรรพสัตว์ให้พ้นทุกข์ ดังนั้น ชาวมหายานจึงมีปณิธานที่ว่า “ หากยังมีสัตว์ที่ต้องตกทุกข์ได้ยากอยู่ก็จักไม่ขอปรารถนาบรรลุพุทธภูมิ ”

นิกายเถรวาทปฏิเสธเรื่องราวของพระพุทธองค์หลังปรินิพพาน
นิกายมหายานเชื่อว่า หลังจากที่พระพุทธองค์ปรินิพพานแล้ว พระองค์ยังคงมีอยู่และรับรู้เรื่องราวต่าง ๆ ในโลกนี้ และจะเสด็จกลับมาสู่โลกนี้อีกเพื่อโปรดสรรพสัตว์
จึงยังคง เชื่อมั่นและศรัทธาใน "รัก" เหมือนอย่างที่เคย...เสมอมา...และจะตลอดไป
แด่
เธอ...ผู้นำแสงสว่างสู่...กลางใจ

#7 ชาร์ป

ชาร์ป
  • Members
  • 985 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:ปทุมธานี

โพสต์เมื่อ 03 November 2006 - 02:10 PM

QUOTE
นิพพาน ตามทัศนะของโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยานั้นต่างกันหรือเหมือนกันกับที่กล่าวมาแล้วข้างต้นอย่างไร?


เหมือนกัน

QUOTE
อายตนะนิพพาน กับนิพพานดังที่กล่าวมามีความเหมือนหรือต่างกันอย่างไร?


อายตนะนิพพาน คือดินแดนที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระปัจเจก พระอรหันต์ ดับขันแล้ว กายธรรมท่านไปอยู่ที่นี้


#8 ณ.ใจ

ณ.ใจ
  • Members
  • 84 โพสต์

โพสต์เมื่อ 03 November 2006 - 03:21 PM

โรงเรียนอนุบาลก้อสอนเกี่ยวกับศาสนาพุทธทั้งหมด ที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้ โดยมีประไตรปิกฏ

เพราะฉนั้นความหมายของนิพพาน ก้อเหมือนกันหมดค่ะ
ดิฉันไม่สนใจเลย ว่าในโรงเรียนฝันในฝัน จะแตกต่างกับที่อื่นหรือเป่า ค่ะคุณใบลานเปล่า
อิ อิ อิ อิ (ดิฉันก้อเป็นนักเรียนใหม่ แต่ตั้งใจเรียนตามที่คุณครูสอน)
ดิฉันจึงไม่สงสัย คุณครูไม่ใหญ่บอกให้ทำบุญอะไรดิฉันทำสุดเหวี่ยง สุดกำลัง บอกให้ดิฉันหลับตาบ่อยๆๆ ผ่อนคลายสบาย ดิฉันก้อทำ
ทำวันละหลายๆๆ รอบ ทำการบ้านครบทุก 10 ข้อ ความรู้สึกแตกต่างหรือขัดแย้งก้อหมดไป หลงเหลือไว้แต่ใจใสๆๆๆๆ ทุกวันค่ะ

ดิฉันจึงไม่สงสัยอารัย

ไม่มีอะไรใหม่ต้องแสวงหาอีกแล้ว
[email protected]

#9 สัมมาอะระหัง

สัมมาอะระหัง
  • Members
  • 235 โพสต์
  • Gender:Male
  • Interests:computer,dhamma

โพสต์เมื่อ 03 November 2006 - 05:10 PM

ในฐานะนักเรียนอนุบาลฝันในฝันคนหนึ่งอยากบอกคุณ koonpatt ว่า ไม่เคยมีความคิดในทำนองว่า หมู่คณะนี้ "สอนให้ยึดติด เพื่อ ติดตาม หลวงปู่ หลวงพ่อ คุณยาย " อะไรอย่างที่คุณ koonpat กล่าวเลย เพราะเป็นอุดมการณ์ส่วนบุคคล คล้ายๆกับการยินดีในการทำบุญของที่วัด ซึ่งไม่ได้มีการบังคับให้ใครต้องทำ ขึ้นกับ "ความพร้อมและความสมัครใจเฉพาะตน" เช่นกันในการสร้างบารมีนั้น ถ้านิยมแบบเร็วดังที่กล่าว ก็เป็นเรื่องน่ายินดีนะครับ คิดว่าถ้าคุณ koonpat หวังและทำได้เช่นนั้น ทุกคนในที่นี้ก็อนุโมทนาและอยากให้คุณตรัสรู้ธรรมได้เร็วๆโดยไม่ต้องยึดติดใครๆนะครับ

ความจริงแล้วการสร้างบารมีร่วมกัน ผลแห่งบุญนั้นก็จะเป็นเหตุให้ได้ไปเกิดร่วมยุคกันและบรรลุธรรมในสมัยนั้นๆเอง อย่างอนาถบิณฑิกเศรษฐี หรือ มหาอุบาสิกาวิสาขา ก็ได้สร้างบารมีร่วมกับพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ปัจจุบันมาหลายๆชาติ คงไม่คิดว่ายึดติดอะไรอย่างนั้น แต่เป็นความปรารถนาที่อยากได้ร่วมสร้างความดีกันอีกเรื่อยๆต่างหาก ซึ่งแน่นอนว่าในระหว่างการเดินทางในวัฏสงสารอันยาวไกลนี้ เมื่อถึงคราวพักก็ควรเลือสถานที่ที่เหมาะแก่การไม่ทำเราให้ประมาท ดังนั้นหลวงพ่อจึงแนะให้ไปพักในที่ที่บัณฑิต มีพระโพธิสัตว์เป็นต้น ไปพักระหว่างทางที่นั่น ซึ่งก็เป็นเรื่องดีอยู่แล้วนี้นา ดีกว่าไปอยู่สวรรค์ชั้นอื่นๆที่มีกามสุขให้หลงเพลิน พอมาเกิดอีกก็พลัดไปทำบาปกรรมอีก ก็วนเวียนไม่จบสิ้น ซึ่งถือว่าเป็นอันตรายอย่างหนึ่งในการเดินทางข้ามวัฏสงสารนี้

สำหรับเรื่องแบ่งว่าเป็นเถรวาทหรือมหายาน ก็เกิดขึ้นในภายหลังพุทธกาลนะครับ แบ่งแยกกันด้วยวัตรปฏิบัติรวมถึงแนวคิด แต่ผมสนใจใจแง่ที่เรารู้จักมองแต่แง่ดี เราก็จะสามารถสร้างความสมานฉันท์ในเหล่าพุทธบริษัทมากกว่า

สรุปก็คือ เรื่องนิพพานก็ดี หรือเรื่องการสร้างบารมีกระทั่งตรัสรู้ธรรมก็ดี เป็นเรื่องที่จักรู้และเข้าใจได้อย่างถ่องแท้ด้วยการรู้เห็นเองเป็นปัจจัตตัง ก็ย่อมต้องใช้วิธีเพื่อการรู้เห็นได้ด้วยการปฏิบัติ การพูดคุยเรืองนี้ในหมู่ผู้ที่ยังไม่เข้าถึงสภาวะธรรมที่สูงกว่าตนมีพระอรหันต์เป็นต้น มีแต่จะนำมาซึ่งความฟุ้งซ่าน

[attachmentid=9938]

ไฟล์แนบ


ศีล..เป็นเบื้องต้น เป็นที่ตั้ง เป็นบ่อเกิดแห่งคุณความดีทั้งหลาย และเป็นประธานแห่งธรรมทั้งปวง บุคคลใดชำระศีลให้บริสุทธิ์แล้ว จะเป็นเหตุให้เว้นจากความทุจริต จิตจะร่าเริงแจ่มใส และเป็นท่า หยั่งลงมหาสมุทร คือ นิพพาน

#10 หัดฝัน

หัดฝัน
  • Members
  • 4531 โพสต์
  • Gender:Male
  • Interests:ธรรมะ

โพสต์เมื่อ 03 November 2006 - 05:17 PM

ตอบคุณใบลานเปล่าครับ

ที่คุณ SoperNora ยกมานั่นเป็นคำพูดของพระพุทธเจ้าในพระไตรปิฎกน่ะครับ เมื่อพระพุทธเจ้าท่านตรัสเช่นนี้ ท่านใดจะคิดว่า เป็นดินแดนหนึ่งที่คล้ายๆ โลกหรือจักรวาลนี้ หรืออะไร ก็แล้วแต่ เอาเป็นว่า เป็นสุขก็แล้วกัน จะรู้จริงก็ต้องเข้าถึงน่ะครับ

ตอบคุณ koonpatt

ถ้าได้เข้าฟังในโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยาเต็มเวลา ทุกๆ วันนะครับ จะได้ยินคุณครูขึ้นต้นเลยว่า เราเกิดมาเพื่ออะไรจ๊ะ
นักเรียนก็จะตอบว่า ทำพระนิพพานให้แจ้ง แสวงบุญสร้างบารมี
คุณครูก็จะถามว่า นิพพานอยู่ที่ไหน
นักเรียนก็จะตอบว่า อยู่ในตัวของเรา
คุณครูก็จะถามว่า เริ่มต้นที่
นักเรียนก็จะตอบว่า ศูนย์กลางกายฐานที่ 7

ถามตอบอย่างนี้กันทุกวันเลยล่ะครับ

ทีนี้คุณอาจจะสงสัยว่า อ้าว แล้วมันไปเกี่ยวอะไรกับที่สุดแห่งธรรม มีส่วนเกี่ยวกับตรงที่ว่า ที่สุดแห่งธรรม หมายถึง ทุกๆ ชีวิตพ้นจากทุกข์ทั้งปวง

ส่วนนิพพาน หมายถึง ชีวิตนั้นๆ พ้นจากทุกข์ทั้งปวง ทีนี้ถ้าเราตั้งเป้าหมายให้ทุกๆ ชีวิต นิพพาน อ้าว ย่อมหมายความว่า ทุกๆ ชีวิตพ้นจากทุกข์ทั้งปวง อ้าว เมื่อทุกๆ ชีวิตทำพระนิพพานให้แจ้ง บิงโก ก็ที่สุดแห่งธรรมไงครับ
ได้ดี เพราะมีกัลยาณมิตร

#11 Defilement Destroyer

Defilement Destroyer
  • Members
  • 274 โพสต์
  • Gender:Male

โพสต์เมื่อ 03 November 2006 - 05:51 PM

ลำดับเรื่องนิดนะครับ ที่พระพุทธเจ้าไม่ตรัสให้ชัดในเรื่องนิพพานจนเป็นเหตุให้มีการถกเถียงกันต่างๆนาๆ คงเป็นเพราะว่า มันเกินความคิดที่ปุถุชนทั่วไปที่จะหยั่งถึงได้แม้รู้ก็ไม่เกิดประโยชน์ในการบรรลุธรรม พระองค์จึงเน้นในวิธีการในการที่จะเข้าให้ถึงนิพพาน ให้รู้ด้วยตนเอง เหมือนมีแกงหม้อ ๑ มีชาย ๕ คน เห็นแกงนั้น ก็จะเดารสชาติไปตามความเห็นที่ตนอาจได้เห็น ได้กลิ่น แต่จะรู้ได้จริงๆก็คือชิมไปแล้วนั้นเอง แต่นิพพานสำหรับคนที่ยังไม่แจ้ง แค่ได้ยินชื่อว่า นิพพาน แล้วนำมาคิดยากที่จะเข้าใจถึงนิพพานได้มีแต่จะทำให้ฟุ้งซ่าน ดั้งนั้นเราน้อมนำวิธีการ ที่ได้จากพระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็ดี จากมหาปูชนียาจารย์ก็ดี มาปฏิบัติเพื่อให้รู้ด้วยตนเองดีกว่านะครับ แต่ถึงจะยังไม่ถึงได้กุศลนิมิตก็ดีกว่าจะมานั่งคิดให้ปวดหัวนะครับ
หยุดนั้นแหละ ตั้งแต่เบื้องต้นจนถึงพระอรหันต์
พระมงคลเทพมุนี
ภูเขาศิลาล้วนย่อมตั้งมั่น ไม่หวั่นไหวเพราะแรงลมฉันใด
ผู้ที่ทำนิพพานให้แจ้งแล้ว ก็ย่อมมีจิตตั้งมั่น
ไม่หวั่นไหวในโลกธรรมทั้งหลายฉันนั้น
(พุทธพจน์)

#12 koonpatt

koonpatt
  • Members
  • 616 โพสต์
  • Gender:Female

โพสต์เมื่อ 03 November 2006 - 09:09 PM

confused_smile.gif ขออภัยค่ะ สงสัย koonpatt ตอบสั้นไปหน่อย( ตอบในเวลางานน่ะค่ะ ชอบแวบหันข้างมาอ่าน แล้วก็ตอบ) คือ koonpatt ไม่ได้มี ความคิดที่ไม่ดีนะคะ

เพียงแต่ว่า อย่างที่ koonpatt ยกเอา ความแตกต่าง ของแนวทางปฎิบัติที่ต่างกันของนิกาย (อันนั้นไม่ได้คิดเองนะคะ เอามาจากหนังสือ เรื่องแบบนี้ยังคิดเองไม่ได้ค่ะ)

คือ koonpatt คิดว่า ความตั้งใจของหลวงพ่อ คือ รื้อสัตว์ ขนสัตว์ เพื่อช่วยเหลือสรรพสัตว์ ทั้งปวงก่อน แล้วจึงไปถึงที่สุดแห่งธรรม

มิได้หวังนิพพานเพียงลำพังน่ะค่ะ ซึ่งเป็นการเสียสละ มากกว่า

เพราะ ถ้าหวังนิพพานเพียงลำพังก็คือ ไม่ได้คิดติดตามหลวงปู่ หลวงพ่อ คุณยาย เพื่อกลับมาสร้างบารมีอีกรอบน่ะค่ะ

koonpatt อาจสื่อความเข้าใจไม่ครบเลยอาจทำให้หลายท่านเข้าใจเจตนาของ koonpatt ผิดไปหน่อย

ขออโหสิกรรมด้วยนะคะ

คุณสัมมาอะระหัง อย่าเพิ่งเคืองนะคะ เอาเมตตาข่มก่อน cry_smile.gif cry_smile.gif cry_smile.gif

ตัว koonpatt เอง ไม่ได้คำนึงถึงความแตกต่างของนิกาย เพราะอย่างที่เรียนให้ทราบเสมอๆ ว่า ยังศึกษาเรื่องนี้น้อยมาก เพียงแต่บางครั้ง ถ้ามีประเด็นให้คิด ก็คิดตามเท่านั้นเอง

เพราะ koonpatt เคยเรียนชี้แจงแล้วว่า การเข้ามา ตั้งกระทู้ หรือ ตอบกระทู้ของ koonpatt เพื่อหาความรู้และ ตอบเพื่อให้ท่านที่ เข้าวัดมานานกว่า อธิบาย และ ปรับความคิดเห็นที่อาจยังไม่ถูกต้อง ให้ถูกต้อง

koonpatt ไม่เคยเข้าวัดแบบเป็นเรื่องเป็นราวมาก่อนเลย เพิ่งจะเข้าวัดเป็นเรื่องเป็นราวครั้งแรกปีนี้ และก็ที่นี่ เริ่มศึกษาธรรมะก็เพราะได้เข้ามาในบอร์ดนี้

ดังนั้น บางครั้ง การอธิบายของ koonpatt จึงทำให้ไม่ครบใจความ ตกหล่นบ้าง แต่มิได้มีเจตนาที่ไม่ดีแน่ๆ ค่ะ

ขอขอบพระคุณคุณหัดฝัน ที่ได้ชี้แนะเพิ่มเติมนะคะ

คุณสัมมาอะระหังก็อย่าเพิ่ง ขับไล่ไสส่ง ให้ koonpatt นิพพานไปตามลำพังเลยค่ะ (ถึงจะอยากก็เถอะนะคะ เพราะเบื่อชีวิตในโลกมนุษย์อันวุ่นวายเต็มที ไม่เกิดอีกได้ก็ดีน่ะค่ะ กลัวพลาดไปไกล เกิดมาเที่ยวนี้ ยังเกือบมาไม่ทันเลยค่ะ)

ตอนนี้ขอเกาะติดไปด้วยก่อนแล้วกันนะคะ ยังไม่คิดแยกวงค่ะ สา...ธุ laugh.gif laugh.gif laugh.gif
จึงยังคง เชื่อมั่นและศรัทธาใน "รัก" เหมือนอย่างที่เคย...เสมอมา...และจะตลอดไป
แด่
เธอ...ผู้นำแสงสว่างสู่...กลางใจ

#13 พักผ่อน

พักผ่อน
  • Members
  • 422 โพสต์
  • Gender:Male

โพสต์เมื่อ 04 November 2006 - 09:24 AM

นิพพาน มีคำกล่าวไว้ว่า เป็นสภาวะที่ไม่มีใครสามารถขบคิดด้วยการพิจารณาเชิงลึกแล้วจะเข้าใจได้

เรื่องของนิพพาน เราจึงควรศึกษาในแง่ที่ว่า

- มีจริงหรือไม่
- ดีจริงหรือไม่
- ควรกระทำให้แจ้งหรือไม่
- ผู้เข้าถึงนิพพานมีหรือไม่

เป็นต้น

#14 LiL' Faery

LiL' Faery
  • Members
  • 1160 โพสต์
  • Location:@ Time : Europe
  • Interests:Basic and Advance Meditation;วิชชา ธรรมกาย<br />Birth Day : 19 January

โพสต์เมื่อ 04 November 2006 - 07:54 PM

นิพพาน is a place that only Pra Arunharn and the " teaching BUdddha " live/stay there. But other people can visit นิพพาน with Phra Dhammakay kah happy.gif

@ นิพพาน ONLY YOU พ้นจากทุกข์ & kiles ทั้งปวง * @ ที่สุดแห่งธรรม you help ALL LIFE to พ้นจากทุกข์ & kiles ทั้งปวง
คุณครูไม่ใหญ่ บอกว่า :
1. อดีตที่ผิดพลาด ลืมให้หมด 2. บาปทุกชนิดไม่ทำเพิ่มเด็ดขาด 3. หมั่นนึกถึงบุญอย่างสม่ำเสมอ
4. บุญทุกบุญทำให้เข้มข้นทับทวี 5. ปฏิบัติธรรมให้เข้าถึงพระธรรมกาย

ขออนุโมทนาบุญด้วยนะค่ะ _/|\_ สาธุ สาธุ สาธุ ^_^ ด้วยรักจากใจ ด้วยห่วงใย จากใจจริง

#15 peter10

peter10
  • Members
  • 331 โพสต์

โพสต์เมื่อ 06 November 2006 - 12:30 AM

คุณไม่ใหญ่ เคยบอกว่าเรื่องแบบนี้ เริ่มต้น ให้เริ่มที่ ลงมือปฏฺบัติ
ไม่ใช่ สงสัยปากเปล่า บรรทัดนี้ว่าเอง
เมื่อลงมือทำแล้วสงสัย จงถาม

เลือกเอา บัวมีสี่เหล่า
เลือกเอา ใจใสๆ

#16 feyhong

feyhong
  • Members
  • 119 โพสต์
  • Location:13 หมู่ 1 ต.ท่าคล้อ อ.ก่งคอย จ.สระบุรี
  • Interests:computer,multimedai,wushu,miditation,the king

โพสต์เมื่อ 06 November 2006 - 07:37 PM

จะคุยเรื่องนิพพาน เราทั้งหมดก็ควรจะสามารถเห็นนิพพานได้นะครับ

นิพพานัง ปรมัง สุขขัง
นิพพานัง ปรมัง สุญญัง


#17 WISH

WISH
  • Moderators
  • 3579 โพสต์

โพสต์เมื่อ 06 November 2006 - 08:59 PM

แนะนำให้ลองสดับพระธรรมเทศนาของพระมงคลเทพมุนีเรื่อง"มรรค ผล นิพพาน"นะ

พระเดชพระคุณหลวงปู่ฯอธิบาย"นิพพาน"ในเชิงปฏิบัติได้สั้น กระชับ แจ่มแจ้งมาก
ทำไมต้อง หาคำตอบ ณ แดนไกล ลืมหรือไร ว่าอยู่ใกล้ DMC

#18 บารมีธรรม

บารมีธรรม
  • Members
  • 212 โพสต์
  • Gender:Male

โพสต์เมื่อ 11 November 2006 - 11:53 PM

14 พระธรรมเทศนา พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) กัณฑ์ที่ 4
เล่มที่ 4 หน้า 14

เมื่อเรารู้จักหลักจริงดังนี้แล้วให้ปฏิบัติไปตามแนวนี้
ถ้าผิดแนวนี้ จะผิดทาง มรรคผลนิพพาน
อะไรเป็นมรรค?
อะไรเป็นผล?
อะไรเป็นนิพพาน?


มรรคผลนิพพาน

กายธรรมอย่างหยาบ กายธรรมโคตรภู โสดา สกทาคา อนาคา อรหัตอย่าง หยาบนั่นแหละเป็นตัวมรรค
กายธรรมอย่างละเอียด โสดาอย่างละเอียด สกทาคาอย่างละเอียด อนาคา อย่างละเอียด อรหัตอย่างละเอียด นั่นแหละเป็นตัวผล

นั่นแหละมรรคนั่นแหละผล

แล้วนิพพานล่ะ
ธรรมที่ทำให้เป็นกายโคตรภู โสดา สกทาคา อนาคา อรหัต พอถึงธรรมที่ทำให้เป็นพระอรหัตก็ถึงนิพพานกัน
นิพพานอยู่อย่างนี้ ถ้าไม่มีธรรมที่ทำ ให้เป็นพระอรหัต ก็ไปนิพพานไม่ได้


ธรรมที่ทำให้เป็นพระอรหัตเป็นวิราคธาตุวิราคธรรม

ตัวนิพพานเป็นวิราคธาตุ วิราคธรรมเขาก็ดึงดูดกัน
พอถูกส่วนเข้าก็ดึงดูดกันรั้งกันไปเอง
เหมือนมนุษย์ในโลกนี้ คนมั่งมีเขาก็เหนี่ยวรั้งคนมั่งมีไปรวมกัน
คนยากจนมันก็เหนี่ยวรั้งคนยากคนจนไปรวมกัน
นักเลงสุรามันก็เหนี่ยวรั้งนักเลงสุราไปรวมกัน
นักเลงฝิ่นมันก็เหนี่ยวรั้งนักเลงฝิ่นไปรวมกัน
ภิกษุก็เหนี่ยวพวกภิกษุไปรวมกัน
สามเณรก็เหนี่ยวพวกสามเณรไปรวมกัน
อุบาสกก็เหนี่ยวพวกอุบาสกไปรวมกัน


#19 สาคร

สาคร
  • Members
  • 764 โพสต์

โพสต์เมื่อ 12 November 2006 - 08:28 AM

QUOTE
คุณสัมมาอะระหังก็อย่าเพิ่ง ขับไล่ไสส่ง ให้ koonpatt นิพพานไปตามลำพังเลยค่ะ (ถึงจะอยากก็เถอะนะคะ เพราะเบื่อชีวิตในโลกมนุษย์อันวุ่นวายเต็มที ไม่เกิดอีกได้ก็ดีน่ะค่ะ กลัวพลาดไปไกล เกิดมาเที่ยวนี้ ยังเกือบมาไม่ทันเลยค่ะ)

ตอนนี้ขอเกาะติดไปด้วยก่อนแล้วกันนะคะ ยังไม่คิดแยกวงค่ะ สา...ธุ




ดีๆkoonpattอย่าพึ่งแตกแถว พวกเราไปกันเป็นกลุ่มอย่างนี้ดีแล้ว จะได้คอยเป็นกัลยาณมิตรที่ดี ที่คอยช่วยเตือนสติกัน คนอย่างkoonpattต้องมีมากๆเข้าไว้ พุทธศาสนาจะยั่งยืนได้ถ้ามีคนอย่างพวกเรานี่แหล่ะ สาธุครับ laugh.gif
ความรักความเมตตาและการให้อภัยเป็นสิ่งที่คนดีเขามีกัน


[email protected]