ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
- - - - -

เมื่ิอชีวิตเรื่อย ๆ เฉื่อย ๆ เซ็ง ๆ บทที่ 1

เม ื่อเห็นประโยชน์จึงม ีใจอยากจะทำ

  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
ไม่มีการตอบกลับในกระทู้นี้

#1 Suphatra

Suphatra
  • Members
  • 24 โพสต์
  • Gender:Female

โพสต์เมื่อ 31 May 2018 - 10:10 AM

เมื่อชีวิตเรื่อยๆ เฉื่อยๆเซ็งๆ
ตอน เมื่อเห็นประโยชน์จึงมีใจอยากจะทำ
 
     หลายคนคงเคยมีความรู้สึกเรื่อยๆ  เฉื่อย ๆ เซ็งๆ หมดอารมณ์หมดไฟในการทำงาน ถามว่า สิ่งที่เกิดขึ้นเหล่านี้เป็นเพราะอะไร แล้วเราควรจะแก้ไขอย่างไร
 
เมื่อเห็นประโยชน์ จึงมีใจ อยากจะทำ 
 
     ในทางพระพุทธศาสนา พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสว่า การจะทำงานให้สำเร็จได้ องค์ประกอบที่สำคัญ คือ “อิทธิบาท 4”ได้แก่”ฉันทะ”ความรักความพอใจที่จะทำงานนั้น”วิริยะ”ความเพียร”จิตตะ”ความมีใจจดจ่อ และ”วิมังสา”ความรู้ความเข้าใจที่สามารถทำได้อย่างถูกวิธีตามลำดับขั้นตอนจนกระทั่งงานสำเร็จ
 
     เรื่องภาวะหมดไฟเกี่ยวข้องกับข้อแรกโดยตรง คือ”ฉันทะ”ความรักความพอใจในการทำงานจะเกิดขึ้นต่อเมื่อ”เห็นประโยชน์จึงมีใจอยากจะทำ”ถ้าไม่เห็นประโยชน์ มันก็หมดไฟ
 
     แล้วทำไมแต่ก่อนเรามีไฟ แต่พอทำงานไปหลายปีถึงเฉื่อยชาจนหมดไฟไปได้ล่ะ ให้ลองสังเกตคนที่ทำงานอยู่ในภาวะกดดันในการทำงานแบบสุดๆ อย่างทหารในสงคราม พลาดนิดเดียวคือบาดเจ็บล้มตาย ต้องเห็นเพื่อนร่วมรบตายไปทีละคน มองไปทางซ่ายเพื่อนก็โดนกระสุนบาดเจ็บ มองไปทางขวาก็ตาย มองไปหน้าหลังก็โดนระเบิดมันรู้สึกกดดันตลอดเวลา
 
     บางสงครามยืดเยื้อหลายปี อย่างสงครามโลกครั้งที่ 2 กว่าจะจบกินเวลานานถึง 6 ปี หรือสงครามในประเทศจีน ตอนที่ เหมาเจ๋อตุง (Mao Tse-tung) ต่อสู้กับ เจียง ไคเชก (Chiang Kai-Shek) กินเวลานานเป็นสิบปีเลยทีเดียว การทำงานในสงครามต่างๆ ล้วนใช้เวลานานมาก แล้วทำไมทหารถึงยังมีไฟออกไปสู้รบได้ขนาดนั้น
 
     ถ้าสังเกตจะพบว่า พวกเขามีเป้าหมายและเล็งเห็นประโยชน์พวกเขารู้ว่าเมื่อทำไปแล้วจะได้อะไรกลับมา เช่น ในสงครามระหว่างประเทศ แต่ละคนออกรบเพื่อปกป้องประเทศชาติ ถ้าแพ้ก็ตกเป็นเมืองขึ้น ดังนั้น ทุกคนต้องสู้ถึงตายก็ยอม ศึกหนักหนาสาหัสเท่าไรก็ยอม น้ำไม่ได้อาบ เนื้อตัวเหนียวหนึบ แถมโดนลูกกระสุนได้แผลก็ยังต้องคว้าปืนออกไปรบอีก
 
     บางทียาไม่มี อาหารไม่พอ อากาศหนาว ยุงกัด ทากดูดเลือด เจอสารพัดปัญหาแต่ยังมุ่งมั่นสู้ตลอด เพราะเขาเห็นประโยชน์จากสิ่งที่ตนเองทำว่า “มีคุณค่า”
 
     ทหารได้รับการปลูกฝังว่า หน้าที่ของทหาร คือ “รั้วของชาติ”ถ้าแพ้นั่นหมายถึงครอบครัว ลูก เมีย ญาติ พี่ น้อง และประชาชนร่วมชาติต้องตกที่นั่งลำบากย่ำแย่กันหมด ทุกคนจึงออกไปรบด้วยใจที่ห้าวหาญอดทนและมีไฟตลอดเวลา ไม่ว่าจะลำบากเท่าใดก็ตาม
 
     เราอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่สุขสบาย บางคนนั่งทำงานในห้องแอร์นอนในห้องแอร์ ข้าวปลาอาหารบริบูรณ์ พอเบื่อก็ออกไปชอปปิง แต่บางคนแม้จะอยู่ดีมีสภาวะแวดล้อมที่ดีกว่าทหารมาก แต่กลับอยู่ในภาวะหมดไฟเพราะไม่มีใจจะทำงาน
 
     เราลองมาเปรียบเทียบดูกับการรบอีกครั้ง สหรัฐอเมริกาเข้ารบสงครามโลกครั้งที่ 2 สู้จนชนะทั้งฟากยุโรป เอาชนะ อดอล์ฟฮิตเลอร์(Adolf Hitler)ได้ ในทางเอเชียก็สู้รบชนะญี่ปุ่นได้แต่พอมาเจอสงครามเวียดนาม ทหารอเมริกันมีความพร้อมมากกว่าทั้งอาวุธ ปืนรบ รถถัง ปืนใหญ่ มีสารพัดอาวุธที่ชาวเวียดกงสู้ไม่ได้แต่กลับรบแพ้
 
     เวียดกงแทบจะนุ่งผ้าเตี่ยวคว้าปืนออกรบ มีอาหาร คือ ขนมโก๋ ขนมปัง เพราะเก็บได้หลายวัน แล้วคว้าปืนนุ่งผ้าเตี่ยวออกรบในขณะที่ทหารอเมริกันมีพร้อมทุกอย่าง พอขอกำลังเสริม ก็มีเครื่องบินบี 52 มาทิ้งระเบิด แต่สุดท้ายกลับแพ้สงครามเวียดนามกลายเป็นบาดแผลที่เจ็บปวดที่สุดสำหรับสหรัฐอเมริกา เพียงเพราะทหารอเมริกันหมดไฟ
 
     “ภาวะหมดไฟ” สำคัญขนาดที่ทำให้กองทัพเกรียงไกรอันดับหนึ่งของโลกพ่ายแพ้กกองทัพนุ่งผ้าเตี่ยวเวียดกง เพราะกองทัพผ้าเตี่ยวมีไฟเต็มที่ ทุกคนรู้ว่าตนเองกำลังปกป้องประเทศชาติ ต้องเอาเอกราชของชาติคืนมาจากมือของต่างชาติให้ได้
 
     แต่ทหารอเมริกันถูกส่งมารบในขณะที่มีความรู้สึกว่า ไม่ใช่บ้านเมืองของเรา ทำไม่เราต้องมารบกันในบ้านเมืองของเขา เขาไม่ได้อยากให้เรามา มันเป็นเรื่องสงครามภายในประเทศ เมืองเราไปจุ้นจ้านเขา ทหารอเมริกันส่วนใหญ่จึงมีความรู้สึกว่า มารบแบบไร้สาระ มองไม่เห็นประโยชน์ รบไปเพื่ออะไร เพียงมีคำสั่งให้มารบก็มารบเท่านั้น พอรบไปรบมาเห็นเพื่อนข้างๆ บาดเจ็บล้มตายก็เครียดจนเกิดภาวะหมดไฟ
 
     แล้วทหารก็หาทางออกด้วยการใช้ยาเสพติด อาวุธฆ่าศึกที่ร้ายแรงที่สุดที่ทำให้ทหารอเมริกันรบแพ้เวียดนามไม่ใช่กระสุน แต่คือยาเสพติด พอทหารอเมริกันเครียดจึงไปพึ่งยาเสพติด ทำให้สุขภาพกายใจยิ่งแย่ไปใหญ่ สุดท้ายแพ้สงคราม ต้อค่อยๆ ล่าถอยกลับไป
 
     แต่ถ้าเราลองคิดว่า ที่ทหารเวียดกงรบชนะเพราะเขารบเก่งก็ลองเอาทหารเวียดกงไปบุกรบสหรัฐอเมริกา อย่างนี้รับรองว่า แพ้ราบคาบ เพราะคราวนี้ทหารอเมริกันจะรบอย่างมีไฟทันที หากใครบังอาจมาบุกรุกแผ่นดิน ทหารอเมริกันจะลุกพรึบวิ่งเข้าใส่ รบชนะอย่างแน่นอน
 
จากหนังสือ 24 ชั่วโมงที่ฉันหายใจ
โดยพระครูปลัดสุวัฒนโพธิคุณ
(สมชาย ฐานวุฑโฒ)