ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
- - - - -

หลวงพ่อ ตอบปัญหา


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 3 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 Dd2683

Dd2683
  • Members
  • 2477 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:กรุงเทพ มหานคร
  • Interests:ความรู้ในพระพุทธศาสนา-วิชชาธรรมกาย<br />ผลแห่งการปฏิบัติธรรม

โพสต์เมื่อ 29 November 2007 - 11:32 PM


เมื่อผมได้อ่านพระพุทธประวัติ พบว่า
ตอนที่พระพุทธมารดาตั้งพระครรภ์ทรงสามารถมองเห็นพระโพธิสัตว์นั่งขัดสมาธิอยู่ในท้อง
อ่านแล้วก็ไม่ค่อยเข้าใจ

อยากให้หลวงพ่อช่วยอธิบายเหตุผลของเรื่องนี้ด้วยครับ?


#2 Dd2683

Dd2683
  • Members
  • 2477 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:กรุงเทพ มหานคร
  • Interests:ความรู้ในพระพุทธศาสนา-วิชชาธรรมกาย<br />ผลแห่งการปฏิบัติธรรม

โพสต์เมื่อ 30 November 2007 - 12:20 AM



สิ่งที่อยากจะอธิบายพวกเราก่อนก็คือ

ในพระไตรปิฎกซึ่งเป็นบันทึกที่สำคัญของประวัติศาสตร์โลกและของพระพุทธศาสนา

ได้บันทึกเอาไว้ชัดเจนเกี่ยวกับการประสูติของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

และข้อความที่ได้บันทึกเอาไว้นี้ เป็นความรู้ที่ทรงคุณค่าแก่ชาวโลกอย่างยิ่ง

เพราะนอกจากจะให้ความรู้ทางประวัติศาสตร์แล้ว

ยังได้ส่องถึงหลักธรรมที่ลึกซึ้งให้แก่ชาวโลกอย่างยิ่งอีกด้วย

ในพระไตรปิฎกกล่าวไว้ว่า

ก่อนที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าของเราจะประสูติ
พระพุทธมารดาหรือแม่ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าบรมครูของเรา

ได้มีสิ่งที่ประพฤติปฏิบัติเป็นต้นแบบเอาไว้ให้แม่ของชาวโลกได้ประพฤติเป็นตัวอย่าง

แต่ว่าแม่ของชาวโลกในยุคนี้ไม่ค่อยได้ศึกษา ไม่ค่อยทราบกัน

หลวงพ่อจึงนำเอาเรื่องเหล่านี้มาฝากพวกเรา
ในพระไตรปิฎกกล่าวไว้ชัดเจนว่า

พระพุทธมารดาตั้งแต่รู้ตัวว่าทรงมีครรภ์พระโพธิสัตว์แล้ว

ถ้าเป็นชาวโลกทั้งหลาย จะมีอาการที่เรียกว่าแพ้ท้อง

ซึ่งจะมีอาการกระวนกระวายต่างๆ นานากัน

คุณแม่หลายๆ ท่านคงนึกออกว่าเมื่อตอนที่ตั้งครรภ์ เวลาแพ้ท้องแล้วทุกข์ทรมานอย่างไร

หรือพวกเราที่เป็นลูกคงจะได้ยินคุณแม่เล่าให้ฟังว่า

เมื่อคุณแม่แพ้ท้องตอนที่เราอยู่ในครรภ์นั้น ท่านลำบากหนักหนาสาหัสอย่างไร

แต่ว่าเมื่อพระพุทธมารดาทรงมีอาการแพ้ท้องอย่างที่ว่านี้

แทนที่จะนึกอยากกินโน่นกินนี่ อยากจะอะไรที่ไม่เหมาะไม่ควร เช่น

อย่างพระมารดาของพระเจ้าอชาตศัตรู เวลาแพ้ท้อง
นึกอยากเสวยเลือดของพระเจ้าพิมพิสาร

พระเจ้าพิมพิสารทรงรู้เข้า ด้วยความรักลูกที่อยู่ในท้องพระมเหสี
ต้องเอาพระขรรค์มาเชือดขา รองเลือดที่ไหลออกมาเอาไปให้มเหสีดื่ม
จึงจะหายอาการแพ้ท้อง

แต่ว่าพระพุทธมารดาไม่ได้เป็นอย่างนั้น

ตรงกันข้ามกลับทรงอยากรักษาศีลอยากให้ทานกับสมณะชีพราหมณ์ให้ยิ่งๆ ขึ้นไป

ยิ่งกว่านั้น จากพื้นฐานที่พระพุทธมารดารักษาศีลแล้วฝึกสมาธิมามาก


QUOTE
ครั้งใดที่ท่านนั่งหลับตาทำสมาธิ
ท่านทรงเห็นพระโพธิสัตว์ผู้ทรงจะมาตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าของเรา
ที่อยู่ในครรภ์นั่งหลับตาทำสมาธิเหมือนอย่างกับพระโพธิสัตว์อยู่นอกพระครรภ์


หรือถ้าปัจจุบันก็เหมือนกับการทำอุลตร้าซาวด์ ( ultra sound )ให้เห็น

ซึ่งมนุษย์ทั้งหลายในโลกนี้ไม่มีโอกาสที่จะเป็นอย่างนี้


#3 Dd2683

Dd2683
  • Members
  • 2477 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:กรุงเทพ มหานคร
  • Interests:ความรู้ในพระพุทธศาสนา-วิชชาธรรมกาย<br />ผลแห่งการปฏิบัติธรรม

โพสต์เมื่อ 30 November 2007 - 02:35 AM


ข้อมูลเพิ่มเติม

ในขณะที่พระมหาบุรุษราชลงมาสู่ปฏิสนธิในมาตุครรโภทร แลบุพนิมิต ๓๒ นั้นคือ

บังเกิดกัมปนาทหวาดไหว แลรัศมีสว่างไปทั่วหมื่นโลกธาตุ ๑

ในโลกันตมหานรกที่มืดเป็นนิตย์นั้นก็บันดาลเป็นแสงสว่าง ๑

ชนที่จักษุอันธกาลก็แลเห็นรูปวัตถุต่าง ๆ ๑

คนที่หูหนวกก็ได้ยินศัพท์สำเนียง คนที่เป็นใบ้ก็เจราจาออกได้
คนที่หลังคดค้อมก็เหยียดขึ้นตรงได้ คนที่เป็นเปลี้ยก็เดินได้ ๑

สัตว์ทั้งหลายที่ต้องพันธนาการ ก็หลุดจากพันธนา ๑

เพลิงในนรกทั้งหลาย มีอเวจี เป็นต้น ก็ดับ ๑

ความอยากข้าวและน้ำในเปตวิสัยก็รำงับ ๑

บานประตูแลหน้าต่างซึ่งปิดไว้ก็เปิดออกเอง ๑

สำเภาแลนาวาทั้งหลายอันแล่นไปในทิศต่าง ๆ ก็ไปถึงท่าที่ปรารถนาจะไปนั้น ๑

ภัยแห่งสัตว์เดียรฉานทั้งหลายก็มิได้มีในขณะนั้น ๑

กิเลสัคคีแลโรคแห่งสัตว์ทั้งหลายก็รำงับ ๑

สัตว์ซึ่งเป็นเวรแก่กันก็มีจิตเมตตาต่อกัน ๑

สัตว์ทั้งหลายก็กล่าววาจาเป็นที่รักแก่กัน แลหมู่ม้าทั้งหลายเปล่งเสียงหฤหรรษ์แก่กัน ๑

ฝูงหัตถีชาติก็บันลือเสียงกึกก้อง ๑

สรรพดุริยางค์ก็เปล่งศัพท์สำเนียงขึ้นเอง ๑

อาภรณ์แห่งมนุษย์ทั้งหลายก็เปล่งแสงโอภาสและกระทบซึ่งกัน บันลือเสียงปรากฏ ๑

ทิศทั้งหลายก็โอภาสสว่าง ๑

มหาวาตะ พายุใหญ่ก็มิได้พัดผ่าน ๑

มันทวาตะ ลมพัดอ่อน ๆ พอเย็นเป็นสุขแก่สัตว์ทั้งปวงก็บังเกิดมี ๑

อกาลเมฆบันดาลให้วัสโสทกตกลง ๑

ท่อธารทำลายปฐพีพุ่งขึ้นมาแล้วไหลไปในที่ทั้งปวง ๑

ฝูงปักษีชาติทั้งหลาย ละเสียอาการอันบินในอากาศ ลงมาท่องเที่ยวในภูมิภาค ๑

กระแสน้ำในนที มิได้หลั่งไหล หยุดดุจน้ำในสระ ๑

โลโณทกะวารี ในมหาสมุทรแปรเป็นมธุรส ๑

สรรพปทุมชาติมีพรรณ ๕ ก็บังเกิดปรากฏเดียรดาษไปในสาครนทีแลปฐพีดล ๑

สรรพบุปผาชาติทั้งหลาย บรรดาเกิดในน้ำ บนบก ก็มีกลีบอันเบิกบานทั้งสิ้น
สรรพพฤษาลดาชาติทั้งหลาย ก็บังเกิดดอกปทุมชาติ ออกดอกตามลำต้นแลกิ่งแลเครือ ๑

มัณฑปทุมชาติทั้งหลาย ล้วนมีก้านทำลายพื้นแผ่นศิลาผุดขึ้นมาแห่งละ ๗ ดอก ในศิลาทั้งปวง
แลโอลัมพกะปทุมชาติทั้งหลายก็บังเกิดปรากฏห้อยย้อยบนอากาศ ๑


บรรดารุกขชาติทั้งหลายที่เป็นไม้ดอกไม้ผล ก็เผล็ดดอกผลในขณะนั้นทั้งสิ้น ๑

ห่าฝนดอกไม้ทิพย์ มีมณฑาบุปผาชาติ เป็นต้น ก็ตกลงในที่ทั้งปวงโดยรอบ ๑

ทิพยดุริยางค์ ก็บันลือศัพท์สำเนียงเองในอากาศ ๑

และระเบียงถ่องแถวทิพยธวัช ก็ปรากฏเต็มไปเป็นอันหนึ่งอันเดียว ๑

ทั่วทั้งหมื่นโลกธาตุ มีโอภาสยิ่งนักเป็นมหัศจรรย์ ๑



ที่มา : ปฐมสมโพธิกถา พระนิพนธ์สมเด็จกรมพระปรมานุชิตชิโนรส
ปริจเฉทที่ ๓ คัพภานิกขมนปริวัตต์ หน้าที่ ๔o และ ๔๑
ใจหยุดที่สุดแห่งบุญ มุ่งสู่ที่สุดแห่งธรรม

#4 suppy001

suppy001
  • Members
  • 2210 โพสต์

โพสต์เมื่อ 02 December 2007 - 06:28 AM

_/|\_ Krub