ถามเรื่องพันล้านปลื้ม
#1
โพสต์เมื่อ 20 September 2014 - 01:17 PM
ให้ปลื้มเหมือนเป็นพันล้าน คืออะไรคะ ทำได้อย่างไรคะ????
#2
โพสต์เมื่อ 20 September 2014 - 03:34 PM
อันที่จริง คือ ทานของสัตตบุรุษที่ถวายแด่ทักขิไณยบุคคล ตามหลักทานสูตร ด้วยศรัทธา ด้วยความเคารพ ด้วยจิตอนุเคราะห์ ด้วยถูกกาล ด้วยไม่เดือดร้อนกระทบตนและผู้อื่น แท้ที่จริงแล้วทำ 1 ปลื้มยิ่งกว่าพันล้านเสียอีก
ทบทวนปาฏิปุคคลิกทาน จาก ทักขิณาวิภังคสูตร ให้ทาน1 กับ....เดียรัฐฉาน ได้อานิสงส์ 100เท่า, ....คนทุศีล ได้พันเท่า, ....คนมีศีลได้แสนเท่า, ....นักบวชมีฌานได้แสนโกฏิ(10 ยกกำลัง 12) แค่นี้ก็ล้านล้าน มากกว่าพันล้านแล้ว
ให้สมมุติสงฆ์ผู้ดำเนินจิตสู่โลกุตตรภูมิ ได้อสงไขยเท่า(10 ยกกำลัง 140)
ถวายแด่พระอริยบุคคล นับประมาณมิได้ สูงขึ้นไปก็พระปัจเจกพุทธเจ้า พระสัมมาสัมพุทธเจ้า จนกระทั่งสังฆทานอันเป็นประมุขแห่งบุญ ยิ่งมีพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นประธานก็ยิ่งมาก
ดังนั้น 1บาทนี้ คือทำสังฆทานอันเป็นประมุขแห่งบุญ โดยมีธาตุเจดีย์ที่เสมือนเป็นตัวแทนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นประธาน ปลื้มพันล้านดูจะน้อยไปนะ
ปลื้มทั้งก่อนให้ ปลื้มขณะให้ และปลื้มหลังให้
ไฟล์แนบ
#3
โพสต์เมื่อ 22 September 2014 - 11:18 AM
ขอแสดงความเห็นเพิ่มเติม ผมเข้าใจว่านะครับ....
เป็นความห่วงใยของครูบาอาจารย์ที่พิจารณาเห็นว่า...... ก็ในเมื่อบุญทีจะเกิดขึ้นกับผู้ได้ทำ มันมากมายนับไม่ถ้วนอย่างไรบ้าง(ดังที่ท่านได้นำมาแสดงข้างต้น) เพียงแต่ว่า....
จะทำอย่างไรผู้ที่สละทานนั้น จะตระหนักถึงความสำคัญของการสร้าง "ความปลื้มปีติใจ" ให้เกิดขึ้นให้มากที่สุด เพราะ "ความปลื้มปีติใจ" ที่เกิดขึ้นจากการทำทานนี้ เป็นเหตุสำคัญมากทีเดียวว่าจะได้ กำไรบุญ มากหรือน้อยกว่ากัน (ขอเปรียบเทียบใช้คำว่า กำไรบุญ แทนเพื่อที่พอจะให้เข้าใจง่ายขึ้นนะครับ) เช่น
เราทำบุญ 1 บาท แบบเฉยๆ
เราทำบุญ 1 บาท แบบดีใจ
เราทำบุญ 1 บาท แบบปลื้มปีติใจสุดๆ...
หากปัจจัยแวดล้อมการทำบุญทั้ง 3 ครั้งนี้เหมือนกันหมดทุกประการ ยกเว้น ความปลื้มปีติใจไม่เท่ากัน... การทำบุญแบบสุดท้ายจะทำให้เราได้บุญมากที่สุด.... ได้กำไรบุญ มากที่สุด
แนวคิดคำสอนอย่างนี้มีผลต่อใครบ้าง.... สำหรับผมคิดว่า... มีผลมากๆต่อพวกเราที่มีปัจจัยทำบุญไม่มากเหมือนเศรษฐี มหาเศรษฐี หรือคนอื่นๆ ที่ได้ขึ้นไปเล่าเรื่องราวในรายการสู้ต่อไป... โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อาสาสมัคร หรือผู้ที่รับบุญอยู่ในวัด ในองค์กรอาจดูเบาในทรัพย์ที่ตนได้สละทำทานออกไป เพราะทำยังไงๆบางท่านอาจจะทำได้เพียงหลักสิบ หลักร้อย นานๆทีหลักพัน และยากเต็มทีหลักหมื่น....
ฉะนั้น สุดยอดมหาปูชนียาจารย์จึงได้เตือน จึงได้ชี้ขุมทรัพย์ให้พวกเราได้ตระหนัก ได้ปลื้มปีติใจ โดยต้องทำให้ถูกหลักวิชชา... นั่นเองครับ... สาธุ