ไปที่เนื้อหา


หัดฝัน

เป็นสมาชิกตั้งแต่ 31 Mar 2005
ออฟไลน์ ใช้งานล่าสุด Nov 09 2015 07:30 AM
*****

โพสต์ที่ฉันโพสต์

ในกระทู้: ทำอย่างไรคนจะเข้ามาในกระทู้ มากมาย เหมือนแต่ก่อน

22 July 2014 - 05:45 PM

ภารกิจการงานที่รัดตัวยิ่งขึ้นด้วยล่ะครับ ยิ่งตำแหน่งสูงขึ้น หน้าที่ภารกิจรับผิดชอบก็ยิ่งมีมากขึ้นเป็นเงาตามตัว


ในกระทู้: ถามเรื่อง เหตุที่ทำให้เราได้ทำบุญ และการได้บุญโดยอัตโนมัติ ครับ

20 July 2014 - 04:17 PM

เพิ่งมีจังหวะเวลาว่าง อิอิ ขอบคุณ คุณทศพล มาช่วยตอบนะครับ ดังที่คุณทศพลว่าไว้น่ะครับ ว่าตนแลเป็นที่พึ่งแห่งตน ไม่มีชะตาชีวิตมากำหนกความเจริญหรือเสื่อมให้เรา อีกทั้งไม่เกี่ยวกับศัตรูด้วยครับ

การที่คนเราจะเจริญหรือเสื่อมขึ้นกับว่า สะสมเหตุแห่งความเจริญหรือเสื่อมมาน่ะครับ เหตุแห่งความเจริญ ได้แก่วุฒิธรรม 4 ประการ คือหาครูดี ฟังคำครู คิดตามครู ปฏิบัติตามคำครู โดยสรุปเหตุแห่งความเจริญ คือ คบกัลยาณมิตร นั่นเอง

ส่วนเหตุแห่งเสื่อม ก็ คบคนพาลนั่นเอง ทำไมบางช่วงชีวิตตกต่ำ มีศัตรูไล่ล่า ก็เพราะบาปจากการคบคนพาลชาติอดีต และปัจจุบัน มาส่งผล ส่วนแล้วทำไมกลับมาเจริญได้ อ๋อ ก็บุญจากการคบคนดี ปฏิบัติวุฒิธรรมทั้งในอดีตและปัจจุบันมาส่งผลไงล่ะครับ

ในกระทู้: ถามเรื่อง เหตุที่ทำให้เราได้ทำบุญ และการได้บุญโดยอัตโนมัติ ครับ

19 July 2014 - 12:42 PM

ตอบในประเด็นข้อที่บอกว่า ถ้าอุทิศบุญให้ศัตรู เขาจะมาทำร้ายเรา นั้น ในทางพระพุทธศาสนา ไม่ได้สอนแบบน่ะครับ

 

ในทางพระพุทธศาสนานั้น สอนให้อุทิศบุญให้กับสรรพสัตว์ทั้งหลาย ทั้งที่เป็นมิตรกับเรา และเป็นศัตรูกับเราน่ะครับ แม้แต่ในบทสวดมนต์ทำวัตรเย็น ก็จะมีการอุทิศบุญให้กับมาร (สรรพสัตว์ที่เป็นศัตรูเรา) ด้วยครับ อีกทั้ง ในท้ายบทสวดมนต์ทำวัตรเย็นยังระบุว่า ด้วยผลบุญที่อุทิศให้มารด้วยเช่นนี้ ขอบุญนั้นดลบันดาลให้ "มาร" ทำอะไรเราไม่ได้ ด้วยล่ะครับ

 

ทั้งนี้เพราะ บุญที่ได้รับจากการที่เขาอุทิศบุญให้ ไม่มีทางสู้บุญที่เราทำเองได้ครับ นั่นคือ เมื่อเราอุทิศบุญให้ ศัตรู ย่อมชื่อว่า เราเป็นผู้ทำบุญ(ด้วยตัวเราเอง) เพราะการนึกอุทิศบุญ เป็นหนึ่งในการสร้างบุญ(ด้วยตัวเอง) ที่เรียกว่า บุญกิริยาวัตถุ 10 ประการครับ ส่วนผู้ได้เราอุทิศให้ เป็นเพียงผู้รับส่วนบุญจากเรา แม้เขาจะมีบุญมากขึ้น แต่จะน้อยกว่าเรามากๆ ครับ เพราะเราทำ(อุทิศ)ด้วยตัวเราเอง เราไม่ได้ฝากให้เพื่อน อุทิศ ให้ศัตรู แทนเรา

ลองเปรียบเทียบผลดีผลเสียนะครับ
1) เราทำบุญ แต่ไม่อุทิศให้ศัตรู แม้ว่า ศัตรูจะไม่ได้บุญอุทิศ(จากเรา) แต่เราก็ไม่ได้มีบุญเพิ่ม(จากการนึกอุทิศบุญ) เช่นกัน

2) เราทำบุญ แต่อุทิศบุญให้ศัตรู แน่นอนว่า ศัตรูจะมีบุญเพิ่มนิดนิด(ถ้าเขารับบุญนั้นได้) แต่เรามีบุญเพิ่มมากกว่าเขามากมาย แน่นอน เพราะทำเอง เข้าใจไหมครับ ส่วนคำถามเดี๋ยวค่อยตอบนะครับ เพราะได้เวลาทำงานแล้ว


ในกระทู้: จิตหยาบ

15 July 2014 - 02:05 PM

ถ้ามองในระบบอุตสาหกรรม ปรกติแล้ว ชิ้นงานต่างๆ จะมี Spec (ข้อกำหนด) เช่น ความหนา 5.80-6.00 มิลลิเมตร แล้วจะมีเส้นควบคุม เรียกว่า Control Chart หากความหนาอยู่ใน Spec คือ ไม่มากแล้วไม่น้อยเกินไป ก็เรียกว่า อยู่ในเส้นควบคุม Control Chart 

 

แต่หากความหนาชิ้นงาน มากหรือน้อยเกินไป จะเรียกว่า Out of Control Chart คือ ออกนอกเส้นควบคุม ผมเลยมองใจละเอียด ว่าคือ ใจที่อยู่ในเส้นควมคุม หากใจไม่พบเจอกลิ่นเหม็นๆ รสชาดกลืนไม่เข้า ฯลฯ อย่างนี้ ใจก็จะอึดอัด หยาบ ต่ำกว่าเส้นควบคุม  ส่วนใจที่พบกลิ่นหอมๆ รูปสวยๆ สัมผัสนุ่มๆ ชวนให้หลงไหลไปตามนั้น ก็เรียกว่า มากเกินเส้นควบคุม

 

ต้องใจที่เป็นกลางๆ นี่แหละครับ ถึงจะละเอียด นุ่มนวล ควรแก่การงาน อยู่ในเส้นควบคุม ไม่หยาบในด้านน้อย หรือ มากเกินไป


ในกระทู้: เพราะเหตุใด พระวังคีสะ จึงจับกระโหลกศรีษะพระอรหันต์ที่นิพพานไปแล้ว จึงไม่รู้ว...

14 July 2014 - 05:07 PM

ทำไมถึงไม่รู้ เพราะ อวิชชา(ความไม่รู้) ที่เป็นหัวหน้ากิเลสในตัวมนุษย์ทุกคน คอยครอบงำมนุษย์และสรรพสัตว์ทั้งหลายไว้ ไม่ให้รู้จักนิพพาน และเส้นทางพระนิพพาน นะสิครับ ดังนั้น บรรดาสรรพวิชาอะไรทั้งหลายที่มีในโลกและจักรวาล ย่อมไม่อาจหยั่งรู้หนทางพระนิพพานได้ครับ ตราบใดที่อวิชชายังอยู่ในใจมนุษย์