ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
- - - - -

2549-04-03: ห้า..ห้า..ห้า..


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 4 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 n00m

n00m
  • Moderators
  • 637 โพสต์
  • Location:Patumthanee

โพสต์เมื่อ 06 April 2006 - 03:03 PM

สรุปกรณีศึกษากฎแห่งกรรม

วันจันทร์ที่ 3 เมษายน 2549


[attachmentid=3598]


เจ้าของเคสเป็นนักเรียนฝันในฝันได้ไม่นานโดยการชักนำของกัลยาณมิตร จึงมีโอกาสมาปฏิบัติธรรมและมาวัดพระธรรมกายตั้งแต่นั้นมา เจ้าของเคสได้มีโอกาสพูดคุย แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับกัลยาณมิตรท่านอื่นๆ จึงขอถ่ายทอดเรื่องราวที่น่าประหลาดใจของกัลยาณมิตรท่านหนึ่งที่ได้พูดคุยซึ่งมีประเด็นที่น่าสนใจ โดยได้ถ่ายทอดเรียบเรียงมาเป็นคำถามดังนี้

(1) เจ้าของเคสเข้าวัดเมื่อปี 2541 โดยการชักชวนแกมบังคับของกัลยาณมิตรที่เป็นเพื่อนกับน้าของเจ้าของเคส ขณะนั้นเจ้าของเคสตกงาน เมื่อได้มาวัดก็รู้สึกตกตะลึงกับบรรยากาศสงบและสะอาด แต่ในขณะนั้นเจ้าของเคสก็คิดได้แต่เพียงว่าวัดก็คงมีดีเฉพาะที่มีคนเยอะและสะอาด และไม่ได้รู้สึกอยากจะมาอีกแต่อย่างใด อาทิตย์ต่อมาเจ้าของเคสก็ชวนให้มาวัดอีก ครั้งนี้เจ้าของเคสได้มีโอกาสไปกราบรูปหล่อหลวงปู่วัดปากน้ำทองคำ น้าของเจ้าของเคสกล่าวว่าท่านศักสิทธ์มาก ทำให้เจ้าของเคสอยากลอง จึงนั่งลงแล้วหลับตาอฐิษฐานว่า ที่มาเพราะถูกบังคับให้มา ไม่ได้เกิดจากความศรัทธา ไม่รู้ว่าหลวงปู่คือใคร แต่ถ้าหลวงปู่ศักสิทธ์จริงขอให้เจ้าของเคสถูกหวย จากนั้นเจ้าของเคสก็ซื้อหวยเป็นเงิน 10 บาท โดยไม่รู้ว่าจะซื้อเลขอะไรจึงบอกมั่วๆ ไปว่า 55 ตกเย็นเจ้ามือหวยก็เอาเงินรางวัลมาให้เจ้าของเคส ซึ่งก็สร้างความประหลาดจให้กับเจ้าของเคสเป็นอย่างมาก

อาทิตย์ต่อมาเจ้าของเคสก็ได้มาวัดอีกครั้ง โดยได้ไปกราบหลวงปู่อีกครั้ง ในขณะนั้นเจ้าของเคสยังคิดว่าเรื่องที่ถูกหวยเป็นเรื่องบังเอิญ จึงยังไม่เกิดศรัทธาเต็มที่ เจ้าของเคสจึงได้อฐิษฐานอีกครั้งโดยขอให้ได้งานทำภายใน 7 วัน โดยถ้าไม่ได้งานก็จะไม่กลับมาที่วัดพระธรรมกายอีก 6 วันนับจากนั้นเจ้าของเคสก็ยังไม่ได้งาน จึงได้แต่รำพึงกับหลวงปู่ในใจว่าใกล้จะครบกำหนดแล้ว ทำไมยังไม่ได้งานอีก แต่ขณะเดียวกันก็คิดว่าเป็นเพราะไม่เคยออกไปหางาน จึงทำให้ยังไม่ได้งานทำสักที

ในวันที่ 7 เวลาประมาณบ่ายโมงเจ้าของเคสบังเอิญไปเห็นพระมหาสิริราชธาตุของน้าชาย จึงนึกถึงเรื่องที่อฐิษฐานกับหลวงปู่ไว้ เจ้าของเคสจึงหยิบเอาพระมหาสิริราชธาตุมากำไว้ในมือ นั่งหลับตาแล้วอฐิษฐานว่าขอให้ได้งาน และเย็นวันเดียวกันเพื่อนของเจ้าของเคสก็เดินทางมาหาที่บ้าน โดยได้เดินทางมาบอกเรื่องงานว่าผู้จัดการให้เจ้าของเคสไปเริ่มงานได้เลยในวันรุ่งขึ้น เจ้าของเคสเริ่มสับสนจึงได้สอบถามเรื่องราว ซึ่งเพื่อนของเจ้าของเคสก็ได้ตอบว่าเจ้าของเคสได้โทรไปหาเจ้านายของเพื่อน ได้คุยกันหลายเรื่องแต่พอจะตกลงกันเรื่องงาน เจ้าของเคสก็วางสายเสียก่อน เมื่อได้ฟังดังนั้นเจ้าของเคสก็ถามย้ำอีกหลายครั้งว่าเจ้านายของเพื่อนได้คุยกับตนเองจริงๆ จนเพื่อนเจ้าของเคสรู้สึกรำคาญจึงได้ตอบว่าจริงเพราะตนเองก็นั่งฟังอยู่ด้วย ทั้งนี้เพื่อนเจ้าของเคสได้เล่าให้ฟังว่าเจ้าของเคสโทรไปประมาณบ่ายโมงเศษๆ เมื่อได้ยินดังนั้นเจ้าของเคสก็ตกใจจนพูดอะไรไม่ออกเพราะเวลาดังกล่าวเป็นเวลาเดียวกันกับที่เจ้าของเคสนำเอาพระมหาสิริราชธาตุมากำและอฐิษฐานขอให้ได้งานจากหลวงปู่อีกครั้ง เจ้าของเคสพยายามอธิบายว่าไม่ได้โทรไป แต่เมื่อเพื่อนของเจ้าของเคสได้ยินดังนั้นก็ตัดบทว่าให้ไปเจอกันที่ทำงานพรุ่งนี้แล้วก็เดินจากไป ตั้งแต่นั้นมาเจ้าของเคสก็เกิดความศรัทธาและมาร่วมงานเป็นอาสาสมัครของวัดพระธรรมกายอยู่ที่กองรักษาบรรยากาศ

(2) เตี่ยของเจ้าของเคสเป็นคนจีน อพยพมาเมืองไทยเมื่อปี 2489 ทำงานเป็นลูกจ้างอยู่ที่สำเพ็ง และได้ย้ายไปตั้งรกรากที่จังหวัดสุพรรณบุรี ได้แต่งงานกับแม่ของเจ้าของเคสและเริ่มทำการค้าขาย ต่อมาเมื่อมีลูกได้สองคน เตี่ยของเจ้าของเคสก็แอบไปมีภรรยาน้อย ซึ่งก็คือพี่สาวของแม่ของเจ้าของเคส เพื่อลูกๆ แม่ของเจ้าของเคสก็เลยยอม ต่อมาเตี่ยของเจ้าของเคสก็ขยายกิจการรับซื้อพืชไร่ และเปิดโรงงานมันเส้น ทำให้มีฐานะทางครอบครัวที่ดีขึ้น จากนั้นเตี่ยก็ด้แอบไปมีภรรยาน้อยเป็นเด็กในโรงงาน

เตี่ยมีลูกกับแม่ของเจ้าของเคส 6 คน กับภรรยาคนที่สอง 3 คน แต่ไม่มีลูกกับภรรยาคนที่สาม ทั้งหมดอาศัยอยู่ในบ้านหลังเดียวกัน เตี่ยเป็ฯคนไม่มีศรัทธาในพระพุทธศาสนา ช่วงแรกที่เจ้าของเคสเริ่มมาวัดพระธรรมกาย เตี่ยก็ยังไม่เข้าใจ จนกระทั่งเจ้าของเคสติดจานดาวธรรมที่บ้านให้เตี่ยดู คอยเปิดเทปธรรมะหรือเคสฝันในฝันให้ฟัง จนเจ้าของเคสสังเกตว่าเตี่ยเริ่มเปิดใจบ้างแล้ว จึงเอ่ยปากชวนเตี่ยสร้างองค์พระ จากนั้นเตี๋ยก็ทำบุญตามคำแนะนำของเจ้าของเคสมาเรื่อยๆ

เตี่ยของเจ้าของเคสป่วยเป็นมะเร็งตั้งแต่ปี 2544 และได้รับการรักษาเรื่อยมา ช่วงนั้นมีกัลยาณมิตรคอยดูแลและชักชวนให้เตี่ยอยู่ในบุญตลอดเวลาโดยไม่เห็นกับเหน็ดเหนื่อย ซึ่งเจ้าของเคสก็ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงทุ่มเทขนาดนี้ ก่อนเตี่ยเสียชีวิตได้สองวัน เตี่ยถามว่าจะมีงานอะไร เพราะเตี่ยเห็นพระเป็นพันๆ รูปสีทองไปหมด อีกวันหนึ่งเตี่ยก็ฝันว่ากำลังจะจุดธูปไหว้พระ แต่พอดรตื่นขึ้นมาก่อน เมื่อตื่นขึ้นก็คว้าหาธูปไม่เจอ เจ้าของเคสได้แต่บอกว่าเห็นพระก็ดีแล้ว เตี่ยจะได้หายเร็วๆ คืนก่อนที่เตี่ยจะเสียชีวิต กัลยาณมิตรได้ประสานงานนิมนต์พระมาที่โรงพยาบาล เพื่อเป็นที่พึ่ในช่วงท้ายของชีวิต ขณะพระมาถึงเตี่ยทุรนทุรายมาก เจ้าของเคสรู้สึกสงสารเตี่ยเป็นอันมาก แต่ก็ต้องกลั้นน้ำตาไว้ตามคำสั่งสอนของคุณครูไม่ใหญ่ จากนั้นก็ชวนพี่ๆ น้องๆ พูดแต่เรื่องบุญที่เตี่ยสั่งสมมา และนำผ้าไตรให้เตี่ยอฐิษฐาน และถวายปัจจัยที่รวบรวมกันมาเพื่อถวาย 238 วัดภาคใต้ รวมทั้งบุญอื่นๆ แก่พระอาจารย์ จากนั้นพระอาจารย์ก็นำนั่งสมาธิ จากนั้นพยาบาลก็เรียกให้ไปดูใจเตี่ยเป็นครั้งสุดท้าย จากนั้นเตี่ยก็เสียชีวิตด้วยวัย 80 ปี

เจ้าของเคสถึงจะเข้าวัดได้ไม่นาน แต่ก็ทุ่มเทสร้างบุญบารมีกับหมู่คณะในทุกๆ บุญไม่เคยขาด ปัจจุบันเจ้าของเคสแต่งงานแล้ว มีลูกชาย 1 คน แต่ก็มีปัญหาการประคับประคองชีวิตคู่เนื่องจากสามีดื่มเหล้า เที่ยวกลางคืน และไม่ชอบวัดพระธรรมกาย อีกทั้งมีอาการป่วยที่ตับ ทั้งๆ ที่เจ้าของเคสก็ไม่ดื่มเหล้า สูบบุหรี่ โดยหมอก็ไม่สามารถอธิบายสาเหตุได้

QUOTE
หลับตา ฝันเป็นตุเป็นตะ ตื่นขึ้นมา หาวหนึ่งที แล้วนำมาเล่าให้ฟังเป็นนิยายปรัมปรา


Q: เตี่ยเห็นพระนับพันองค์ และฝันว่ากำลังจุดธูปแต่ตื่นขึ้นมาก็หาธูปไม่เจอนั้นเกิดจากอะไร หมายความว่าอย่างไร เป็นคตินิมิตรของเตี่ยใช่หรือไม่ ก่อนเตี่ยเสียชีวิต เตี่ยรับรู้เรื่องบุญหรือไม่ มีสภาพใจอย่างไร เตี่ยตายแล้วไปไหน ฝากบอกอะไรมาหรือเปล่า ได้รับบุญกุศลที่อุทิศไปให้หรือไม่ บุญใดที่เตี่ยต้องการมากทีสุด และเจ้าของเคสจะติดต่อเตี่ยได้อย่างไร
[attachmentid=3578][attachmentid=3579]

A: เตี่ยเห็นเช่นนั้นเกิดจากจิตที่เป็นกุศล เป็นกุศลกรรมนิมิตรที่จะทำให้เตี่ยไปที่สว่าง เตี่ยตายแล้วไปเกิดในสวรรค์ชั้นดางดึงค์เฟส 3
[attachmentid=3580]

ด้วยบุญที่เจ้าของเคสชวนให้ทำช่วงสุดท้ายทุกอย่าง ทั้งยังพยายามทำตามหลักวิชชา ถึงแม้ร่างกายจะทรมานเป็นอย่างมาก แต่ก็ทำให้จิตของเตี่ยผ่องใส ถึงแม้จะไม่ได้เข้าใจเรื่องยุญอย่างถ่องแท้ แต่ด้วยบุญที่ทำให้ช่วงท้ายมาส่งผลก่อนจึงไปเกิดในสุขติภูมิ เตี่ยได้รับบุญที่อุทิศไปให้แล้ว ต้องการบุญทุกบุญเพราะต้องการเสวยผลบุญในสวรรค์นานๆ และเพื่อให้มีสภาพที่ดีขึ้น เจ้าของเคสจะติดต่อกับเตี่ยได้ด้วยวิชชาธรรมกาย


Q: วิบากกรรมใดที่ทำให้ภรรยาของเตี่ยทั้งสาม และลูกๆ ของเตี่ยต้องมาอยู่ร่วมบ้านเดียวกัน ทำไมภรรยาคนที่สองและคนที่สามไม่ค่อยลงรอยกัน อีกทั้งเพราะเหตุใดภรรยาคนที่สามจึงไม่เป็นที่รักและยกย่องเท่ากับคนอื่น
[attachmentid=3581]

A: เพราะอดีตเกิดในสังคมที่มีความเชื่อเรื่องการมีภรรยาหลายๆ คนในบ้านเดียวกัน กับทุกคนก็มีวิบากกรรมส่วนตัวที่มีสามีคนเดียวกัน อาจจะคนละชาติหรือชาติเดียวกัน หรือเคยเป็นสามีที่มีภรรยาหลายคนในบ้านเดียวกันในอดีตที่เกิดเป็นผู้ชายเป็นผังติดตัวมา
[attachmentid=3582]

ภรรยาคนที่สองและคนที่สามไม่ลงรอยกันเพราะปัจจุบันมีอัธยาศัยไม่ตรงกัน และไม่ค่อยจะยอมกัน แต่ไม่มีวิบากกรรมในอดีตร่วมกันแต่อย่างใด
[attachmentid=3583]

ภรรยาคนที่สามไม่ได้รับการยกย่องเพราะวิบากกรรมในอดีตไม่ถวายทานด้วยความเคารพ เวลาทำทานก็ทำด้วยของไม่ปราณีต และไม่มีความชื่นชมเมื่อคนอื่นทำความดี จึงส่งผลให้ไม่เป็นที่รักและไม่ได้รับการยกย่องเท่าคนอื่น


Q: เรื่องราวของกัลยาณมิตรที่พบเรื่องอัศจรรย์จากความศักสิทธิ์ของหลวงปู่แท้จริงแล้วเป็นอย่างไร ทำไมจึงถูกหวยได้ ความคิดที่จะซื้อเลข 55 นั้นมาจากไหน เพราะบุญเก่าหรือหลวงปู่ดลบันดาล เสียงโทรศัพท์นั้นดป็นเสียงใครเกิดขึ้นได้อย่างไรทั้งๆ ที่เจ้าของเคสเองไม่ได้โทรไป การท้าทายเช่นนี้แม้จะทำให้เกิดศรัทธา แต่จะเป็นการลบหลู่หลวงปู่หรือไม่ จะทำให้เกิดบาปหรือไม่ ถ้ามีจะต้องทำอย่างไร เจ้าของเคสเคยสร้างบารมีมากับหมู่คณะอย่างไร
[attachmentid=3584][attachmentid=3585]

A: เพราะเคยมีสายบุญเก่าในอดีตร่วมกับหลวงปู่ อีกทั้งยังเคยทำบุญเรื่องสลากภัตร (จับสลากอาหาร) และเคยอฐิษฐานข้อให้มีลาภลอยเป็นต้น เสียงโทรศัพท์นั้นเป็นเพราะบุญเก่าที่ทำมา และอานุภาพบารมีธรรมของหลวงปู่บันดาลให้เกิดสิ่งที่เหลือเชื่อดังกล่าว
[attachmentid=3586][attachmentid=3588]

การท้าทายเช่นนี้เป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ ถึงจะทำให้เกิดศรัทธา แต่ก็จะเป็นการลบหลู่เพราะทำด้วยจิตที่ลบหลู่จึงมีส่วนในบาป จะเป็นวิบากกรรมให้มีอุปสรรคในการสร้างบารมีกับหลวงปู่เช่น จะมีผู้ที่ไม่มีศรัทธามาห้ามปรามเมื่อต้องการมาสร้างบารมีกับหลวงปู่ หรือทำให้มาพบกับหลวงปู่และหมู่คณะช้ากว่าที่ควรจะเป็น รวมถึงทำให้ใจหมอง และส่งผลให้ผลบุญหรือสมบัติตกหล่น ได้รับไม่เต็มที่ ให้เจ้าของเคสตั้งใจสร้างบารมีให้เต็มที่ และอฐิษฐานจิตให้พ้นจากวิบากกรรมดังกล่าว


Q: เจ้าของเคสมีวิบากกรรมใดจึงป่วยเป็นโรคตับเสื่อม และจะมีชีวิตยืนยาวได้ปฏิบัติสมาธิภาวนาเพื่อติดตามหมู่คณะไปถึงที่สุดแห่งธรรมหรือไม่
[attachmentid=3589][attachmentid=3590]

A: เพราะกรรมในอดีตที่ต้ม ฆ่าสัตว์ทำกับแกล้มเป็นประจำ ตามคำสั่งของเจ้านายเศรษฐีที่ทำเพื่อเลี้ยงเพื่อนที่มาที่บ้าน ให้เจ้าของเคสทำบุญทุกบุญทั้งทาน ศีลและภาวนา ปล่อยสัตว์ปล่อยปลาแล้วอุทิศบุญกุศลไปให้สัตว์ที่เคยเบียดเบียนเอาไว้ ก็จะช่วยให้หนักเป็นเบา หรือเบาก็จะหาย รวมถึงจะทำให้ชีวิตไม่สั้น

Q: เจ้าของเคส สามีและลูกชายเคยสร้างบารมีมากับหมู่คณะอย่างไร ครอบครัวของเจ้าของเคสมีโอกาสเป็นครอบครัวธรรมกายหรือไม่
[attachmentid=3591]

A: เคสสร้างบารมีมาแบบกองเสบียง มีโอกาสที่จะเป็นครอบครัวธรรมกายได้แม้จะยังไม่สามารถชักชวนสามีได้ในปัจจุบัน ให้นึกถึงบุญและอฐิษฐานจิตทุกครั้งให้บุญบันดาลให้เป็นครอบครัวธรรมกาย ขอให้ลูกชายได้บวช ขอให้สามีมีกุศลศรัทธาในการสร้างบารมีเป็นต้น

Q: ลุกชายของเจ้าของเคสเคยมีบุญบวชหรือไม่ และในปัจจุบันจะมีโอกาสได้บวชอุทิศชีวิตเพื่อพระพุทธศาสนาหรือไม่
[attachmentid=3592]

A: ลูกชายของเจ้าของเคสเคยบวชช่วงสั้นมากับหมู่คณะ

Q: น้องที่เป็นกัลยาณมิตร ที่คอยชักชวนให้เจ้าของเคสสร้างบารมีมีความเกี่ยวข้องกับเจ้าของเคสมาอย่างไร เคยสร้างบารมีมากับหมู่คณะอย่างไร ทำไมจึงรักในการทำหน้าที่เป็นอย่างมาก และจะมีอานิสงค์จากการทำหน้าที่อย่างไร
[attachmentid=3593][attachmentid=3594]

A: เคยเป็นเพื่อกัลยาณมิตรกันมา เคยสร้างบารมีกับหมู่คณะมา โดยพุทธันดรที่ผ่านมาได้เป็นกุลบุตร เคยมีความคิดจะบวชแต่ก็ไปแต่งงานมีครอบครัวเสียก่อน อีกทั้งมีกรรมเจ้าชู้ในอดีตจึงทำให้มาเกิดเป็นผู้หญิง ที่รักในหน้าที่เพราะความตั้งใจที่ไม่ได้บวชในอดีตชาติจึงตั้งใจมาเป็นหน่วยสนับสนุน ซึ่งในอดีตชาติก็ได้บวชช่วงสั้น
[attachmentid=3595]

การทำหน้าที่จะมีอานิสงค์ให้อยู่ในหมู่คณะ มีพรรคพวกบริวารมากมาย ทำให้ได้สมบัติทั้งสามคือ รูปสมบัติ ทรัพย์สมบัติ และคุณสมบัติ และบรรลุธรรมเป็นต้น


Q: วิบากกรรมใดที่ทำให้น้องกัลยาณมิตรต้องเกิดในครอบครัวที่มีความขัดแย้งทางความคิดอย่างรุนแรง ทั้งในเรื่องการเมือง ศาสนา จะต้องทำอย่างไรในการเป็นกัลยาณมิตรให้ครอบครัว และหมู่ญาติได้
[attachmentid=3596][attachmentid=3597]

A: เพราะวิบากกรรมในพุทธันดรที่ผ่านได้เกิดเป็นผู้ชาย และก่อนที่จะมาเจอหมู่คณะก็ไม่มีความเข้าใจ จึงได้ห้ามปรามผู้อื่น และมีการโต้เถียงกับคนอื่นที่มีความเห็นไม่ตรงกันอย่างรุนแรง รวมทั้งหลังๆ ก็ไม่ได้อฐิษฐานให้เกิดในครอบครัวธรรมกาย ครอบครับสัมมาทิฐิจึงไปเกิดในครอบครัวลักษณะดังกล่าว ให้ทำบุญทุกบุญและหมั่นอฐิษฐานจิตให้ได้เป็นครอบครัวธรรมกาย เมื่อบุญส่งผลก็จะมีสภาพที่ดีขึ้น

ชาตินี้เมื่อมาเจอกันแล้วก็ให้ตั้งใจสร้างบารมีในทุกๆ บุญอย่างเต็มที่
และอฐิษฐานจิต ตามติดไปดุสิตบุรี อย่าได้พลัดกันอีกเลย

ไฟล์แนบ



#2 gioia

gioia
  • Members
  • 593 โพสต์

โพสต์เมื่อ 06 April 2006 - 05:41 PM

อนุโมทนาบุญค่ะ สาธุ

#3 CEO

CEO
  • Members
  • 577 โพสต์
  • Gender:Male
  • Interests:พระพุทธศาสนา วิชชาธรรมกาย

โพสต์เมื่อ 06 April 2006 - 06:27 PM

ขออนุโมทนาบุญด้วยนะครับ
สาธุ สาธุ สาธุ ครับ
สร้างบารมีทุกวินาที
แม้ชีวิตนี้ก็ให้ได้

#4 มองอย่างแมว

มองอย่างแมว
  • Members
  • 722 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:NYC

โพสต์เมื่อ 07 April 2006 - 01:41 AM

น่ากลัวนะครับ เรื่องไปท้าทายหลวงปู่เนี่ย
"ฉุดมันเอาไว้ หยุดมันเอาไว้ ไม่ให้มันรวนเร ต้องหยุดนิ่งสุดใจ หยุดมันเอาไว้ ฉุดมันเอาไว้ ไม่ให้มันซวนเซ ต้องฉุดให้ใจหยุด"
- ไมโคร (เพลง หยุดมันเอาไว้)
"แค่หลับตา... (ลบเลือนทุกสิ่ง เหลือเพียงหนึ่งเดียว) เธอจะเห็นยามเธอหลับตา... (ใช้ใจสัมผัสและมองสิ่งนั้น) เธอจะเห็นตัวฉันเป็นอย่างที่เป็น"
- อุ๊ หฤทัย (เพลง แค่หลับตา)

#5 แก้วประเสริฐ

แก้วประเสริฐ
  • Members
  • 513 โพสต์

โพสต์เมื่อ 07 April 2006 - 02:05 PM

ตัวเองก็ไม่ได้เกิดในครอบครัวธรรมกาย เข้าวัดคนเดียว มา 16 ปีโดยที่ครอบครัว
ก็ไม่เข้าใจสักเท่าไร