ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
* * * * * 1 คะแนน

เวียนว่าย-ตาย-เกิด


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 4 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 ดอกอุบล

ดอกอุบล
  • Members
  • 926 โพสต์

โพสต์เมื่อ 13 July 2008 - 10:00 PM

พระพุทธเจ้าทรงยอมรับว่าแม้พระองค์จะทรงรู้แจ้งความจริงของทุกสิ่งทั้งปวงแล้วแต่พระองค์ก็ไม่สามารถทำให้ใครเข้าถึงความจริงนั้นได้ทั้งหมดจนกว่าเขาผู้นั้นจะเข้าถึงได้ด้วยความเพียรแห่งตนเอง พระองค์เป็นเพียงผู้ชี้ทางเท่านั้นดั่งพุทธพจน์ว่านิพพานมีอยู่ ทางไปนิพพานมีอยู่เรา(ตถาคต)ผู้ชักชวนมีอยู่เมื่อเป็นเช่นนี้สาวกที่เราสั่งสอนอยู่อย่างนี้พร่ำสอนอยู่อย่างนี้บางพวกสำเร็จนิพพานอันถึงที่สุดโดยส่วนเดียวบางพวกก็ไม่สำเร็จในเรื่องนี้เราจะทำอย่างไรได้ตถาคตก็เป็นแต่ผู้บอกทาง พระพุทธเจ้าก็เพียงบอกทางให้บุคคลผู้ปฏิบัติด้วยตนเองจะพึงหลุดพ้นได้ด้วยประการฉะนี้ พระพุทธเจ้ามิใช่ปฏิเสธเรื่องเทพเจ้าแต่ไม่ให้ความสำคัญและไม่ใส่ใจที่จะไปพึ่งพายึดถือเพราะพระพุทธเจ้าทรงรู้แจ้งกฎธรรมชาติว่าการได้เป็นเทพหรือการไปเกิดอยู่ในวิมานในสวรรค์แล้วยังมิใช่สุขแท้สุขถาวรที่ไม่ต้องกลับมาเป็นทุกข์อีกคือแม้จะได้เกิดเป็นเทวดาแล้วก็ยังต้องเวียนว่ายตายเกิดอยู่ตกนรกบ้างขึ้นสวรรค์บ้างถ้ายังต้องเวียนว่ายตายเกิดอยู่ก็มีโอกาสที่จะตกนรกเพราะคนที่เกิดมาแล้วไม่ทำบาปเลยไม่มีเพราะมนุษย์ตกอยู่ในอวิชาคือความไม่รู้ พระพุทธเจ้ามุ่งศึกษาแต่ในประเด็นว่าทำอย่างไรจึงจะหลุดพ้นไปจากกฏเกณฑ์ทั้งปวงได้ไม่ต้องยอมสยบอยู่กับอำนาจใดๆของพญามารทั้งสิ้นในที่สุดพระพุทธเจ้าก็ทรงค้นพบวิธีการนั้นนั่นก็คือการปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานให้เข้าถึงพระธรรมะภายในที่จะทำผู้ปฏิบัติหลุดพ้นจากกฏเกณฑ์ทั้งปวงไม่ให้ตกอยู่ใต้อำนาจสิ่งใดทั้งสิ้นในวัฎสงสารไม่ต้องเวียนว่ายตายเกิดอีกแล้วและที่สำคัญอย่างยิ่งคือเราสามารถปฏิบัติให้เห็นผลได้จริงในชาติปัจจุบันผู้ปฏิบัติสามารถพิสูจน์ให้เห็นจริงได้ด้วยตนเองในชาตินี้ไม่ต้องรอให้ตายเสียก่อนซึ่งมีพระอริยเจ้าในพระพุทธศาสนาสามารถพิสูจน์ทราบจนเห็นประจักษ์แล้วนำออกเผยแผ่สืบทอดต่อๆกันมาจนถึงปัจจุบัน พระพุทธเจ้าทรงรู้แจ้งกฎแห่งกรรมว่าสัตว์ทุกชีวิตเคยเวียนว่ายตายเกิดมาแล้วนับชาติไม่ถ้วนบางชาติเกิดเป็นเทพบางชาติเกิดเป็นพรหมบางชาติเป็นมนุษย์บางชาติเป็นสัตว์เดรัจฉานบางชาติเกิดเป็นเปรตบางชาติเกิดเป็นอสุรกายบางชาติต้องเกิดเป็นสัตว์นรกต้องเวียนว่ายตายเกิดอยู่อย่างนี้ไม่มีที่สิ้นสุดตามอำนาจบุญและบาปที่ตนเองได้ทำไว้เหตุการณ์ทุกอย่างที่เราประสบอยู่ทุกวันนี้ไม่มีคำว่าโชคหรือบังเอิญทุกอย่างเป็นผลสืบเนื่องมาจากการกระทำของเราในอดีตทั้งสิ้นเมื่อเรายังต้องเกิดอีกสิ่งที่จะตามมาด้วยคือความแก่ความเจ็บความตายและความทุกข์กายทุกข์ใจฉะนั้นวิธีที่จะรอดพ้นจากความแก่ความเจ็บความตายและความทุกข์ทั้งหลายทั้งปวงได้ก็มีอยู่เพียงวิธีเดียวเท่านั้นนั่นก็คือการไม่เกิดอีกเป้าหมายสูงสุดคือเจริญวิปัสสนาภาวนาสมาธิจนบรรลุเข้าถึงพระธรรมะภายในเข้าสู่มรรคผลนิพพานตัดกระแสธรรมชาติให้ขาดสะบั้นลงได้อย่างเด็ดขาดสิ้นเชิงกำจัดสาเหตุที่ก่อให้เกิดการถือกำเนิดในภพใหม่เพราะเมื่อไม่เกิดอีกเราก็ไม่ต้องแก่ไม่ต้องเจ็บไม่ต้องตายและไม่ต้องทุกข์กายทุกข์ใจอีกต่อไป พระพุทธเจ้าตรัสว่าในภัทรกัปนี้โลกใบนี้เคยมีพระพุทธเจ้ามาอุบัติแล้ว๔พระองค์คือ ๑.พระกกุสันธะ ๒.พระโกนาคมนะ ๓.พระกัสสปะ ๔.พระโคดม(พระพุทธเจ้าพระองค์ปัจจุบัน)หลังจากนั้นโลกก็จะเสื่อมโทรมมนุษย์จะเข่นฆ่ากันเอง(แต่โลกยังไม่แตก)มนุษย์ส่วนหนื่งที่มีบาปมากกว่าก่อจะไปเกิดเป็นสัตว์นรก มนุษย์ส่วนหนื่งที่มีบุญมากกว่าก่อจะไปเกิดบนสวรรค์ พระพุทธเจ้าตรัสบอกอีกว่าในกัปของโลกนี้จะมีพระพุทธเจ้ามาอุบัติเพียง 5พระองค์แล้วโลกก็จะแตกพินาศไปเพราะไฟ( ดวงอาทิตย์เรียงกัน ๗ดวง )หลังจากพระพุทธเจ้าองค์ที่ ๕คือพระศรีอริยเมตตรัยอุบัติขึ้นแล้ว
แต่สรรพสัตว์มิได้มีจุดจบอยู่แค่นี้หลังจากโลกพินาศแล้วสัตว์ส่วนหนึ่งที่มีบุญบารมีมากๆจะไปเกิดในพรหมโลกชั้นสูงๆขึ้นไป และสัตว์ที่มีบุญน้อยมีบาปมากก็จะพลัดไปเกิดในจักรวาลอื่นเมื่อโลกอุบัติขึ้นใหม่ก็จะกลับมาเกิดเป็นสรรพสัตว์ในโลกอีก....สรรพสัตว์ก็ยังมาเกิดในโลกดวงใหม่แบบนี้ต่อไปอีก...เป็นอย่างนี้ไม่มีที่สิ้นสุดในเมื่อธรรมชาติเป็นเช่นนี้การได้ไปอยู่บนสรรค์ก็ยังมิใช่ที่ปลอดภัยเพราะเมื่อหมดบุญแล้วก็ต้องกลับมาเกิดอีกถ้ายังไม่บรรลุพระอรหันต์เข้าถึงพระนิพพานก็ยังต้องเวียนว่ายตายเกิดอยู่ร่ำไปโดยไม่ขึ้นกับศาสนาหรือศาสดาองค์ใดเพราะนี่คือกฎธรรมชาติกฎแห่งกรรมกฎของพญามารถึงจะมีผู้คนจำนวนมากในโลกไม่เชื่อก็ยังคงเป็นอย่างนี้เพราะนี้คือกฎธรรมชาติ

#2 Poti

Poti
  • Members
  • 254 โพสต์

โพสต์เมื่อ 16 July 2008 - 04:50 PM

สาธุ ได้ความรู้ใหม่

#3 usr24550

usr24550
  • Members
  • 1 โพสต์

โพสต์เมื่อ 18 July 2008 - 06:57 AM

น้อม รับ จะนำไปปฏิบัติ ให้ถึงแก่นธรรม

#4 Bruce Wayne

Bruce Wayne
  • Members
  • 184 โพสต์

โพสต์เมื่อ 18 July 2008 - 09:55 AM


1กัปมี 4 อสงไขยกัป (แต่ละอสงไขยกัปมี64อันตรกัปรวม256อันตรกัป)แต่มีเพียง 1อสงไขยกัปที่มนุษย์และสัตว์สามารถมีชีวิตอยู่ได้
1 อสงไขยกัปนั้นมี64 อันตรกัป
แบ่งเป็น อันตรกัปที่พระพุทธเจ้ามาตรัสรู้ได้แก่ (ต้องเป็นกัปไขลงเท่านั้น)
อันตรกัปที่ 9 พระกกุสันธพุทธเจ้า ----- พระชนมายุ 40,000 ปี
อันตรกัปที่ 10 พระโกนาคมนพุทธเจ้า ----- พระชนมายุ 30,000 ปี
อันตรกัปที่ 11 พระกัสสปพุทธเจ้า ----- พระชนมายุ 20,000 ปี
อันตรกัปที่ 12 พระสมณโคดม (องค์ปัจจุบัน) ----- พระชนมายุ 100 ปี (80)
อันตรกัปที่ 13 พระศรีอาริยเมตตรัย (อันตรกัปหน้า) ----- พระชนมายุ 80,000 ปี



#5 usr24336

usr24336
  • Members
  • 8 โพสต์

โพสต์เมื่อ 14 February 2009 - 12:30 PM

ขออนุโมทนา สาธุการ กับธรรมะด้วยนะคับ ดีมากๆ