ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
- - - - -

2549-06-19: หายากกว่าโคตรเพชร


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 1 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 n00m

n00m
  • Moderators
  • 637 โพสต์
  • Location:Patumthanee

โพสต์เมื่อ 27 June 2006 - 09:35 AM

สรุปกรณีศึกษากฎแห่งกรรม
วันจันทร์ที่ 19 มิถุนายน 2549
หายากกว่าโคตรเพชร


เจ้าของเคสมาวัดพระธรรมกายตั้งแต่อายุได้ 10 ปีเศษโดยการชักนำของพ่อของเจ้าของเคส นอกจากเจ้าของเคสแล้วพ่อของเจ้าของเคสยังชักนำให้ทุกคนในครอบครัวมาวัดพระธรรมกายกันหมดทั้งครอบครัว จนทำให้เมื่อลูกๆ แต่งงานมีครอบครัวแล้ว ก็ยังพากันมาวัดพระธรรมกายเหมือนเดิม ทุกคนมาวัดพระธรรมกายด้วยความเต็มใจ พร้อมๆ กันในทุกๆ วันอาทิตย์

พ่อของเจ้าของเคสรับราชการอยู่กรมชลประทาน พ่อของเจ้าของเคสเป็นต้นบุญต้นแบบของครอบครัว ได้ชักนำครอบครัวให้มาสร้างบุญบารมีกันตั้งแต่สมัยสร้างโบสถ์ โดยพ่อของเจ้าของเคสจะพาเจ้าของเคสมาช่วยงานขนหิน ดินและทราย เป็นประจำหลังเลิกเรียน บางครั้งก็มาช่วยมุงหลังคาจาก นอกจากนี้พ่อของเจ้าของเคสยังได้มีโอกาสทำบุญทอดผ้าป่าที่วัดพระธรรมกายเป็นประจำ ตามกำลังที่มีอยู่ ทั้งยังเป็นคนไม่สูบบุหรี่ แต่จะดื่มเหล้าปีละครั้งช่วงงานเทศกาลที่มีการเลี้ยงฉลองกันที่ทำงาน

ครั้งหนึ่งเมื่อพ่อของเจ้าของเคสอายุได้ 59 ปี พ่อมีอาการเจ็บหน้าอกมาก น้องชายของเจ้าของเคสจึงพาไปหาหมอที่คลีนิค ซึ่งหมอก็ได้ให้ยาจนอาการดีขึ้น ขณะที่กำลังล้มตัวลงนอนเพื่อพักผ่อน อยู่ๆ พ่อของเจ้าของเคสก็สิ้นใจไปเสียเฉยๆ ซึ่งหมอก็ได้วินิจฉัยว่าเป็นเพราะมีไขมันในเส้นเลือดสูง เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้เจ้าของเคสรู้ซึ้งถึงความเป็นจริงว่าความตายเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้

เมื่อพ่อของเจ้าของเคสเสียชีวิตแล้ว แม่ของเจ้าของเคสซึ่งในขณะนั้นยังทำงานเป็นลูกจ้างประจำอยู่ที่กรมชลประทาน ก็ได้ถูกผู้บังคับบัญชากลั่นแกล้ง โดยได้แจ้งความดำเนินคดีโดยกล่าวหาแม่ของเจ้าของเคสว่าลักทรัพย์ ซึ่งแม่และเจ้าของเคสซึ่งในขณะนั้นรับราชการเป็นตำรวจก็ได้ฟ้องหมิ่นประมาทกลับไป เจ้าของเคสโกรธมากถึงขนาดเคยวางแผนที่จะฆ่าคู่กรณีทิ้งเสีย แต่วันหนึ่งได้มีโอกาสมากราบหลวงพ่อทัตตะที่วัด ซึ่งพระเดชพระคุณหลวงพ่อก็ได้เมตตาเตือนโดยบังเอิญว่า "เป็นตำรวจ จะทำอะไรก็ทำแต่อย่าฆ่าคนเป็นอันขาด ไม่อย่างนั้นบุญที่ทำมาจะหมดเลยนะ" ซึ่งก็ทำให้เจ้าของเคสหยุดคิดเรื่องนี้ และคิดอโหสิทันที

พ่อและแม่ของเจ้าของเคสมีลูกทั้งหมด 4 คน มีฐานะปานกลาง แต่ด้วยความที่พ่อของเจ้าของเคสเป็นคนไม่เที่ยว ไม่ดื่มเหล้า ไม่เจ้าชู้ จึงทำให้มีเงินส่งเสียลูกทุกคนให้มีการศึกษาตามที่สติปัญญาจะสามารถเรียนได้ เจ้าของเคสเป็นลูกคนโต ปัจจุบันน้องสาวคนที่สองรับราชการทหาร น้องชายคนที่สามเป็นเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ น้องสาวคนที่สี่เป็นแม่บ้าน พ่อและแม่ของเจ้าของเคสยังมีลูกบุญธรรมอีกหนึ่งคนซึ่งเป็นคนเกเรมาก ก่อเหตุลักโขมยของภายในบ้าน ทั้งยังเคยทะเลาะวิวาทและได้ใช้มีดแทงน้องชายคนที่สามจนได้รับบาดเจ็บ ต่อมาก็ติดคุกจากคดีลักทรัพย์ เมื่อพ้นโทษก้"ด้กลับมาอาศัยอยู่กับพี่น้อง

ตาของเจ้าของเคสเป็นคนเอาจริงเอาจัง ได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้ใหญ่บ้านเพราะต้องการให้ปราบโจรผู้ร้ายในหมู่บ้านละแวกนั้น ซึ่งตาของเจ้าของเคสก็ทำได้ จนทำให้ชาวบ้านนับถือเสมือนคุณตาของเจ้าของเคสเป็นตำรวจ ตาของเจ้าของเคสเป็ฯคนไม่ดื่มเหล้า แต่ก็ไม่ชอบทำบุญ ตาของเจ้าของเคสเสียชีวิตเมื่ออายุได้ 80 ปีเศษ ยายของเจ้าของเคสเป็นคนใจดี ชอบทำบุญโดยเฉพาะทุกๆ วันพระ ยายของเจ้าของเคสชอบทำบุญตามเทศกาลแบบชาวบ้านทั่วไป เมื่ออายุได้ 80 ปีเศษ ยายป่วยเป็นโรคเริม ได้รับความเจ็บปวดมาก จนต้องร้องออกมาดังๆ อยู่เป็นอาทิตย์จนเสียชีวิต เพราะหมอไม่มียารักษา

เจ้าของเคสได้เป็นตำรวจโดยไม่ได้คาดคิด คือเมื่อเรียนจบไปสมัครงานที่ไหนก็ไม่มีใครรับ ไม่มีใครช่วยทั้งๆ ที่มีผลการเรียนค่อนข้างดี จนต้องมาสอบเป็นพลตำรวจซึ่งเจ้าของเคสก็ไม่ได้ตั้งใจ แต่เนื่องจากยังไม่มีงานทำจึงลองไปสอบดู วันสอบเจ้าของเคสทำข้อสอบวิชาคณิตศาสตณ 10 ข้อด้วยการเดาทั้งหมดเนื่องจากลืมไปหมดแล้ว ปรากฎว่าถูกถึง 8 ข้อ จึงทำให้เจ้าของเคสต้องมาเป็นพลตำรวจ ต่อมาเมื่ออายุได้ 25 ปี กรมตำรวจเปิดสอบวุฒินิติศาสตร์ เจ้าของเคสจึงตัดสินใจสอบดู ซึ่งเจ้าของเคสก็ทำข้อสอบแบบเดิม จึงคิดว่าคงสอบไม่ติด จึงไม่ไปฟังผล จนเพื่อนโทรมาบอกให้ไปรายงานตัวเพราะสอบได้เป็นตัวจริง ซึ่งเจ้าของเคสก็ยังงงอยู่ แต่ก็รับราชการตำรวจมาจนถึงปัจจุบัน บางครั้งก็ยังสงสัยว่าที่มาเป็นตำรวจ เป็นเพราะวิบากกรรมใด เพราะช่วงที่คนทั่วไปหลับพักผ่อน จะต้องมาเข้าเวรรับฟังเรื่องราวสารพัดอยู่ตลอดเวลา งานก็เสี่ยง อีกทั้งสังคมของตำรวจก็มักจะเกี่ยวกับสุรา นารีและอบายมุขต่างๆ

เจ้าของเคสเคยบวชธรรมทายาทรุ่นที่ 13 ซึ่งตอนลาสิกกขาหลวงพ่อทัตตะก็ได้ขอให้ตั้งสัจจะถือศีล 5 ข้อใดข้อหนึ่งตลอดชีวิต ซึ่งเจ้าของเคสก็ได้ตั้งสัจจะขอถือศีลข้อ 5 ตลอดชีวิต ซึ่งเจ้าของเคสก็ไม่ได้ดื่มเหล้าเลยตั้งแต่นั้นมา จนกระทั่งวันหนึ่งได้ยินหลวงพ่อกล่าวขณะนำนั่งสมาธิว่า "เราเกิดมาสร้างบารมี" ซึ่งก็โดนใจของเจ้าของเคสเป็นอันมาก จึงเข้าวัดมาสร้างบุญบารมีเป็นประจำจนถึงปัจจุบันเป็นระยะเวลากว่า 23 ปี

เจ้าของเคสและภรรยาไม่เคยขัดกันเรื่องทำบุญเลย ทุกครั้งที่ทำบุญก็จะนึกถึงจิตใจของมหาทุคตะเป็นแบบอย่างมาโดยตลอด ซึ่งก็ทำให้เจ้าของเคสปิดบัญชีมาทำบุญอยู่หลายครั้งหลายครา แล้วก็เริ่มต้นเก็บเงินใหม่ เมื่อคุณครูไม่ใหญ่เอ่ยปากชวนทำบุญ ก็จะปิดบัญชีมาทำบุญเช่นนี้อีกเรื่อยๆ เจ้าของคสกล่าวกับภรรยาเสมอๆ ว่าถ้าไม่ทำตอนนี้เมื่อวัดเสร็จ แม้มีเงินก็ไม่สามารถทำได้แล้ว ซึ่งภรรยาก็เห็นด้วยทุกครั้ง และทุกๆ ครั้งที่ทำบุญเจ้าของเคสก็จะใส่ชื่อพ่อของเจ้าของเคสด้วยทุกครั้ง หลายครั้งที่มีเพื่อนหรือผู้บังคับบัญชาห้ามปรามไม่ให้ทำบุญเช่นนี้ แต่เจ้าของเคสก็ไม่ได้สนใจและจะไม่ทำบุญก็เพราะไม่มีเงินเท่านั้น แต่เพราะเจ้าของเคสเป็นคนไม่ดื่มเหล้า ไม่สูบบุหรี่ ไม่เล่นการพนัน จึงทำให้พอมีเงินใช้จ่าย เหลือเก็บทำบุญได้มาเกือบทุกบุญตลอดมา

น้องชายคนที่สามเป็นผู้คุมนักโทษ ซึ่งสร้างความลำบากใจให้กับน้องชายคนที่สามเป็นอย่างมาก วันแรกที่ไปอยู่เรือนจำน้องชายคนที่สามรู้สึกกลัวมากๆ เพราะนึกไม่ถึงว่าในคุกจะมีสภาพความเป็นอยู่แบบนี้ นักโทษบางคนมีรอยสักเต็มตัว ผู้คุมบางคนก็จะใช้วิธีลงโทษโดยการใช้กระบองตีที่หลังของนักโทษ แต่การลงโทษที่หนักที่สุดคงจะเป็นการใช้ด้ามหวายยาว ซึ่งปลายข้างหนึ่งมีหนังยางพันไว้เป็นลูกตุ้มขนาดใหญ่ เวลาลงโทษก็จะใช้ปลายด้านที่มีลูกตุ้มตีไปที่หลัง นักโทษจะดิ้นเหมือนปลาถูกทุบ จะมีอาการช้ำใน

QUOTE
หลับตา ฝันเป็นตุเป็นตะ ตื่นขึ้นมา หาวหนึ่งที แล้วนำมาเล่าให้ฟังเป็นนิยายปรัมปรา


Q: เพราะเหตุใดพ่อของเจ้าของเคสจึงด่วนเสียชีวิตกะทันหัน ก่อนเสียชีวิตมีคตินิมิตรอย่างไร เสียชีวิตแล้วไปอยู่ที่ไหน ได้รับบุญที่ทำอุทิศไปให้หรือไม่ และมีข้อความอะไรฝากมากหรือไม่
[attachmentid=5724]

A: พ่อของเจ้าของเคสจึงด่วนเสียชีวิตกะทันหันเพราะกรรมในอดีตที่เกิดเป็นทหาร ได้ออกรบและฆ่าข้าศึกตายเป็นจำนวนมาก รวมกับกรรมปาณาติบาตอีกชาติหนึ่งที่ได้สั่งให้บริวารฆ่าสัตว์มาทำอาการเลี้ยงแขกเหรื่อที่มาเยี่ยมเยียน
[attachmentid=5725]

ก่อนตายมีคตินิมิตรสว่างไสว ตายแล้วก็ตื่นขึ้นในวิมานทอง ในสวรรค์ชั้นดุสิตบุรี วงบุญพิเศษเขตเสบียง ได้รับบุญที่อุทิศไปให้แล้ว ส่งผลให้มีทิพยสมบัติมากขึ้นทุกด้าน ตอนนี้กำลังมีความสุขกับทิพยสมบัติ ฝากความระลึกถึงทุกคนในครอบครัว โดยเฉพาะแม่ของเจ้าของเคส ทั้งยังขอให้ทุกตั้งใจสร้างบุญบารมี จะได้กลับดุสิตบุรี วงบุญพิเศษกันได้ทุกคน


Q: ทำไมแม่ของเจ้าของเคสต้องถูกใส่ความเรื่องการลักทรัพย์ และมีเรื่องกับผู้บังคับบัญชาคนนี้มาก เป็นเพราะวิบากกรรมใด
[attachmentid=5726]

A: แม่ของเจ้าของเคสต้องถูกใส่ความเรื่องการลักทรัพย์ และมีเรื่องกับผู้บังคับบัญชาคนนี้มาเพราะจองเวรกันมา โดยในอดีตชาติหนึ่งที่แม่ของเจ้าของเคสเกิดเป็นผู้ชาย มียศตำแหน่งสูง และผู้บังคับบัญชาในชาตินี้ได้เกิดเป็นลูกน้องแม่ของเจ้าของเคส ซึ่งแม่ของเจ้าของเคสก็ไม่ชอบหน้า และด้วยความหมั่นไส้จึงได้กลั่นแกล้งตั้งข้อกล่าวหา เพื่อบีบให้ลาออก จึงจองเวรกันตั้งแต่นั้นมา เกิดมาเจอกันเมื่อใดก็จะผลัดกันทำเช่นนี้ สิ่งที่แม่ของเจ้าของเคสเจอก็คือภาพในอดีตของตนเอง
[attachmentid=5727]

ดังนั้นให้แม่ของเจ้าของเคสระงับการจองเวร หากแม่ของเจ้าของเคสชนะคดีที่ถูกกล่าวหาแล้ว ก็ควรถอนฟ้องและให้อโหสิกรรมเพื่อเป็นการตัดเวร


Q: ตาและยายของเจ้าของเคสเสียชีวิตแล้วอยู่ที่ไหน หากท่านอยู่ในสภาวะลำบาก จะสามารถช่วยเหลือท่านได้อย่างไร
[attachmentid=5728]

A: ตาของเจ้าของเคสเสียชีวิตแล้วไปเกิดเป็นกุมภัณฑ์ที่ยมโลก รับหน้าที่ทรมานสัตว์นรกเพราะมีทั้งบุญและบาปจากการทำหน้าที่ แต่ก็มีบุญที่ทำไว้ในพุทธศาสนามาช่วยตัดรอนวิบากกรรมไว้ จึงไม่ต้องไปมหานรก ให้เจ้าของเคสทำบุญอุทิศไปให้เรื่อยๆ
[attachmentid=5729]

ยายของเจ้าของเคสเสียชีวิตไปเกิดเป็นเทพธิดา ในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์เฟสสาม ด้วยบุญที่ทำไว้ในพระพุทธศาสนา


Q: น้องชายบุญธรรมมีกรรมใดมากับครอบครัวของเจ้าของเคส จึงเป็นคนเกเร สร้างเรื่องราวให้ครอบครัวของเจ้าของเคสต้องดูแล
[attachmentid=5730]

A: น้องชายบุญธรรมเป็นคนเกเร ต้องให้ครอบครัวของเจ้าของเคสมาดูแลเพราะเคยสร้างบุญร่วมกันมาในอดีต ทั้งยังเคยเป็นพี่น้องกันมา แต่ไปคบคนพาล เกเรเหมือนในปัจจุบัน ต่อมาก็หนีออกจากบ้านไป แต่มากลับใจได้ตอนอายุมากแล้ว

Q: น้องชายคนที่สามมีผังชีวิตมาอย่างไร จึงต้องมาเป็นผู้คุมนักโทษ น้องชายคนที่สามเคยเป็นทหารของพระราชาองค์ที่ออกบวชหรือไม่ ชาตินี้มีสิทธฺเข้าถึงพระธรรมกายหรือไม่ มีบุญวาสนาจะได้บวช รับใช้พระศาสนาไปตลอดชีวิตหรือไม่
[attachmentid=5732]

A: น้องชายคนที่สามเป็นผู้คุมนักโทษเพราะพุทธันดรที่ผ่านมาน้องชายคนที่สามของเจ้าของเคสเป็นทหารของพระราชาองค์ที่ออกบวช ทำหน้าที่คุมนักโทษเชลยศึก ทั้งในชาติก่อนๆ นังเคยเป็นกุมภัณฑ์ เป็นเจ้าหน้าที่ดูแลสัตว์นรกในยมโลกมาหลายชาติ วิบากกรรมดังกล่าวยังไม่หมดจึงมีผังให้ต้องมาเป็นผู้คุมนักโทษในปัจจุบัน
[attachmentid=5733]

ในพุทธันดรที่ผ่านมาก็ได้ออกบวชเมื่อตอนอายุมาก และก็เสียชีวิตในผ้าเหลือง มีผลการปฎิบัติธรรมพอเอาตัวรอดกลับดุสิตบุรีได้ ชาตินี้จึงมีสิทธิเข้าถึงพระธรรมกายได้ ถ้าตั้งใจจริง และทำให้ถูกหลักวิชชา และถ้าตั้งใจจะบวชตลอดชีวิตจริงก็สามารถทำได้ แต่ต้องใช้กำลังใจสูง


Q: ผู้คุมนักโทษที่ต้องลงโทษนักโทษด้วยวิธีการต่างๆ จะได้รับวิบากกรรมอย่างไรหรือไม่ ควรจะใช้ชีวิตการเป็นผู้คุมอย่างไรให้มีวิบากกรรมน้อยที่สุด
[attachmentid=5734]

A: ผู้คุมนักโทษที่ต้องลงโทษนักโทษด้วยวิธีการต่างๆ จะมีวิบากกรรมไม่มากก็น้อย หากนักโทษจองเวรก็จะผลัดกันทำเช่นนี้ไปเรื่อยๆ ต้องอยู่ในวงจรนี้ไปอีกนาน เพราะมีบุญปนบาป
[attachmentid=5735]

การเป็นผู้คุมอย่างไรให้มีวิบากกรรมน้อยที่สุดทำได้โดยเวลาลงโทษอย่าทำด้วยอารมณ์โกรธ หรือเพราะเจตนาแกล้ง ให้ทำเพราะหน้าที่ ก็จะมีวิบากน้อยกว่า และควรจะช่วยชี้แนะ สั่งสอนนักโทษให้มีความรู้เรื่องธรรมะ การทำสมาธิก็จะช่วยให้เกิดบุญมากขึ้น


Q: เพื่อนร่วมงานคนหนึ่งของเจ้าของเคส ซึ่งคุณครูไม่ให้เคยฝันว่าเพื่อนของเจ้าของเคสคนนี้เคยเป็นหัวหน้าองครักษ์ เจ้าของเคสและเพื่อนผูกพันกันมาอย่างไร จึงได้มาทำงานร่วมกัน โดยเพื่อนจะเป็นฝ่ายจับกุมและเจ้าของเคสดูแลเรื่องการสอบสวน
[attachmentid=5736]

A: เจ้าของเคสและเพื่อนผูกพันกันคือในพุทธันดรที่ผ่านมาก็ได้เป็นเป็นทหารของพระราชาองค์ที่ออกบวชทั้งคู่ โดยทำหน้าที่เป็นทหารองครักษ์ ชาตินี้จึงได้มาทำงานร่วมกันอีก

Q: การที่เจ้าของเคสติดตามจับกุมบุคคลที่โขมยของวัด และนำของที่โขมยไปมาคืนวัดจะมีอานิสงค์อย่างไร การเดินตรวจรักษาความปลอดภัยภายในวัดจะมีอานิสงค์อย่างไร
[attachmentid=5737][attachmentid=5738]

A: การที่เจ้าของเคสติดตามจับกุมบุคคลที่โขมยของวัด และนำของที่โขมยไปมาคืนวัดจะมีอานิสงค์คือสมบัติของเจ้าของเคสจะไม่วิบัติด้วยภัยต่างๆ ด้วยบุญที่รักษาสมบัติพระศาสนา จะเป็นผู้มีปัญญา ฉลาดรู้เท่าทันเหลี่ยมคูของคนอื่น การเดินตรวจรักษาความปลอดภัยภายในวัดจะมีอานิสงค์คือจะมีความปลอดภัยในทุกสถานที่ มีคนคอยดูแลคุ้มครองไม่ให่เดือดร้อนจากภัยต่างๆ

Q: หลายครั้งที่การสอบสวนผู้ต้องหาทำให้ใจของเจ้าของเคสขุ่นมัว เนื่องจากไม่สามารถพูดดีๆ กับผู้ต้องหาได้ บางครั้งถึงกับต้องใช้วิธีแบบตำรวจ การทำเช่นนี้จะมีบุญหรือบาปมากกว่ากัน และเจ้าของเคสควรจะทำอย่างไรดีเมื่อต้องใช้วิธีการแบบตำรวจในการสอบสวนผู้ต้องหา
[attachmentid=5739][attachmentid=5740]

A: การทำหน้าที่เช่นนี้ก็จะมีบุญปนบาปคือมีบุญจากการทำหน้าที่ดูแลบ้านเมือง แต่ก็อาจมีบาปจากการจองเวรของผู้ต้องหา ส่งผลให้ไปเป็นกุมภัณฑ์ทำหน้าที่ในยมโลก ให้เจ้าของเคสทำใจออกความขุ่นให้เร็ว อย่าขุ่นเคืองจนเป็นปกตินิสัย ทั้งยังต้องสั่งสมบุญ ทั้งทาน ศีล ภาวนา เพื่อให้บุญมากกว่าบาป

Q: ทำไมเจ้าของเคสจึงเป็นตำรวจ เพราะบุญหรือบาปจึงทำให้มีผังชีวิตเช่นนี้ เจ้าของเคสเคยสร้างบุญกับหมู่คณะมาอย่างไร ทำไมจึงมีอุปสรรคหรือมีความยากลำบากในชีวิต และจะประสบความสำเร็จในชีวิตภายภาคหน้าหรือไม่ จะมีโอกาสทำทานอย่างที่ตั้งใจไว้หรือไม่
[attachmentid=5741][attachmentid=5742]

A: เจ้าของเคสจึงเป็นตำรวจเป็นผังเดิมที่ติดตัวมา ที่มีอุปสรรคและความยากลำบากก็เพราะกำลังทานบารมีที่ทำไว้ยังไม่มาก ให้เจ้าของเคสตั้งใจสั่งสมบุญ บุญที่ทำจะช่วยให้ชีวิตดีขึ้นเรื่อยๆ เจ้าของเคสสร้างบารมีมากับหมู่คณะแบบกองเสบียง ชาติที่แล้วไม่ได้ออกบวชตามพระราชา มีผลการปฎิบัติธรรมเห็นดวงใสพอเอาตัวรอดกลับดุสิตบุรีได้

Q: น้องเขยของเจ้าของเคส ไม่มีบุตร เป็นคนสันโดษ น้องเขยของเจ้าของเคสตั้งใจว่าเมื่อได้บำนาญแล้วจะขอบวชตลอดชีวิต น้องเขยของเจ้าของเคสคนนี้มีผังชีวิตอย่างไร จะทำอย่างที่ตั้งใจไว้ได้หรือไม่
[attachmentid=5743]

A: น้องเขยของเจ้าของเคสตั้งใจว่าเมื่อได้บำนาญแล้วจะขอบวชตลอดชีวิตเพราะมีบุญบวชมาในอดีต จึงมีอุปนิสัยน้อมนำไปในทางนั้น ชาตินี้ถ้าตั้งใจจริงก็จะทำได้อย่างไม่ยาก

[attachmentid=5744]

ชาตินี้เมื่อมาเจอกันแล้วก็ให้ตั้งใจสร้างบารมีในทุกๆ บุญอย่างเต็มที่
และอฐิษฐานจิต ตามติดไปดุสิตบุรี อย่าได้พลัดกันอีกเลย

ไฟล์แนบ



#2 **supawat**

**supawat**
  • Guests

โพสต์เมื่อ 08 July 2006 - 08:47 AM

หมดอารมณ์เลย เจอคำว่าเจ้าของเคส ใช้คำอื่นไม่ได้หรือ ทำไมไม่คิดทำอะไรที่มันเป็นไทยๆบ้าง เป็นขี้ข้าฝรั่งซะเคย
ถ้าจะเถียงไม่ต้องเลย แสดงว่าหลงตัวเองมากๆ