ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
* * * * * 1 คะแนน

เรื่องเล่าข้างอ่างล้างจาน ๑


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 14 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 นับดาว

นับดาว
  • Members
  • 422 โพสต์

โพสต์เมื่อ 08 July 2006 - 04:03 PM

วันอาทิตย์ต้นเดือน เป็นอีกวันหนึ่งที่ฉันมักจะเฝ้ารอคอยอยู่ด้วยใจจรดจ่ออยู่เสมอๆ

เพราะนอกจากจะเป็นวันที่ได้บุญใหญ่จากพิธีบูชาข้าวพระแล้ว ยังเป็นวันที่ฉันจะได้ใช้ความสามารถพิเศษ

ที่ไม่ค่อยจะยอมเปิดเผยให้ใครรู้ในการเพิ่มพูนบุญให้กับตัวเอง

ความสามารถดังกล่าวนั้นก็คือ ฝีมือสุดยอดเยี่ยมเทียมทานในการ “ล้างจาน”

ซึ่งได้ถูกนำมาประยุกต์ใช้สำหรับการล้างภาชนะบูชาข้าวพระนั่นเอง

ก็ไม่รู้เหมือนกัน ว่าทำไมฉันจึงชอบงานนี้มากๆ เคยมีคนสันนิษฐานว่า

อาจจะเป็นเพราะฉันเกิดตอนต้นฤดูฝน จึงชอบอะไรที่เกี่ยวกับน้ำ

จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะชอบงานล้างจานซึ่งต้องอยู่กับน้ำ และเนื่องจากเป็นคนชอบน้ำดังกล่าว

จึงเลือกงานล้างภาชนะบูชาข้าวพระมาเป็นบุญพิเศษประจำตัวที่ทำอย่างต่อเนื่องและคิดว่าจะทำตลอดไป


การล้างภาชนะบูชาข้าวพระ เป็นงานที่ต้องอาศัยความละเอียดประณีต และพละกำลัง(จริงๆนะคะ)

เพราะภาชนะทุกชิ้น ถูกคัดสรรมาอย่างประณีต

มีความงามอันละเอียดอ่อนตามแบบฉบับอยู่ในตัวของมันเอง

(และบางชิ้นก็มีน้ำหนักมากทั้งๆที่ดูบอบบางจนคาดไม่ถึง)

กระบวนการล้างทำความสะอาด เริ่มตั้งแต่การล้างน้ำแรกเพื่อขจัดเศษอาหารให้หลุดจากภาชนะ

จากนั้น ก็จะผ่านไปไปยังอ่าง 2 ซึ่งผสมน้ำยาล้างจานที่มีความเข้มข้นพอเหมาะ

แล้วจึงผ่านไปน้ำ 3 และน้ำ 4 ซึ่งในระหว่างขั้นตอนนี้ ก็จะมีการ QC ด้วย

หากพบว่ามีความมันลื่นหลงเหลืออยู่

ก็จะต้องกลับมาที่อ่าง 2 ใหม่อีกครั้งหนึ่ง

ในระหว่างที่ภาชนะแต่ละใบอยู่ในมือนั้น ใจของผู้ล้างก็จะถูกชำระล้างให้สะอาดไปด้วย

เพราะภาชนะแต่ละใบ คือเครื่องหมายของความตั้งใจของมหาปูชนียาจารย์ ที่จะสรรหาบุญอันประณีต

มาให้กับลูกหลานของท่าน คือพวกเราได้กระทำกัน เวลาที่ฉันรับบุญเหล่านี้

ใจก็จะเกาะเกี่ยวอยู่กับคุณยายโดยอัตโนมัติ

ความรู้สึกอ่อนโยนและเป็นสุขเกิดขึ้นทุกครั้งเมื่อระลึกไปถึงว่า

ในสมัยก่อนโน้น คุณยายก็คงจะได้ล้างภาชนะบูชาข้าวพระเช่นเดียวกัน

และวันนี้ฉันกำลังเป็นผู้สืบสานวัฒนธรรมของคุณยาย...

ด้วยอานิสงส์นี้..จะทำให้ได้มีสายบุญเชื่อมต่อกับท่าน..

และเมื่อได้มีโอกาสฟังเรื่องเล่าจากพี่ๆที่ทำหน้าที่ตรงนี้มาก่อน ทั้งในเรื่องของสิ่งที่คุณยายสอน

และเรื่องความพิเศษของภาชนะแต่ละใบ ใจก็ยิ่งมีความสุขมากขึ้น..

ตอนหน้า...ฉันจะมาเล่าเรื่องของภาชนะใบพิเศษของหลวงพ่อที่ท่านนำมามอบให้ทีมบูชาข้าวพระจัดให้ฟังนะคะ..[/font
[size=7]
ถ้าใจใส

เรื่องดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน

#2 MIHARU

MIHARU
  • Members
  • 620 โพสต์
  • Interests:พระพุทธศาสนา<br />วิทยาศาสตร์

โพสต์เมื่อ 08 July 2006 - 05:37 PM

ดีจังค่ะ อนุโมทนาบุญด้วยนะคะ จิตใจเกาะเกี่ยวอยู่กับบุญทุกนาทีจริงๆค่ะ
Relax & Alert

#3 นักรบทิศตะวันตก

นักรบทิศตะวันตก
  • Members
  • 354 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:Bangkok Thailand
  • Interests:...หยุด...

โพสต์เมื่อ 08 July 2006 - 07:04 PM

เป็นบุญพิเศษจริงๆ
อนุโมทนาบุญครับ
ผู้มีความกล้า....ย่อมมีความหวัง...

.
ฟังเรื่องราวดีๆได้ที่นี่ครับ

#4 luckynara

luckynara
  • Members
  • 714 โพสต์

โพสต์เมื่อ 08 July 2006 - 07:35 PM

ขอกราบอนุโมทนาบุญด้วยค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ
แล้วรีบๆมาเล่าตอนหน้าให้อ่านเร็วๆนะคะ

#5 MiraclE...DrEaM

MiraclE...DrEaM
  • Members
  • 1368 โพสต์

โพสต์เมื่อ 08 July 2006 - 08:11 PM

สาธุครับ ผมก็เคยไปล้างครับ ต้องใช้ความประณีต และ ความระมัดระวังอย่างมากเลยครับ อย่างพวกโถใบใหญ่ๆ ขอบอกว่า หนักมากกก
สิ่งอัศจรรย์ ปรากฏ บนผืนหล้า
มหาวิหาร จรัสฟ้า ค่ายิ่งใหญ่
รูปทอง ผ่องผุด ดุจยองใย
สะท้อนถึง ห้วงดวงใจ สุดบูชา

*********************

รักษ์ร่างพอสร่างร้าย ..... รอดตน
ยอดเยี่ยม "ธรรมกาย" ผล ..... ผ่องแผ้ว

เลอเลิศล่วงกุศล ..... ใดอื่น
เชิญท่านถือเอาแก้ว ..... ก่องหล้าเรืองสกล


คำสอนของเดชพระคุณหลวงพ่อ
พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) ผู้ค้นพบวิชชาธรรมกาย

#6 นิ่งๆ นุ่มๆ

นิ่งๆ นุ่มๆ
  • Members
  • 618 โพสต์

โพสต์เมื่อ 08 July 2006 - 08:59 PM

กราบอนุโมทนาบุญด้วยค่ะ เป็นบุญพิเศษที่หาทำได้ยากจริงๆ วิมานคุณจะต้องใสยิ่งกว่าเพรชอีก happy.gif
อย่าทำตัวเหมือนเรือ ที่เก็บขยะในมหาสมุทร ใครเขาจะพูดอะไร จะว่าอะไรเราให้ใจขุ่น ก็อย่าไปสนใจ ปากก็ของเขา ความคิดก็ของเขา อย่าเอามาแบกไว้ เพราะสุดท้ายเรือจะล่มอยู่กลางมหาสมุทร ไปไม่รอด
น้าจี้

#7 อ้วน บ่อโยก

อ้วน บ่อโยก
  • Members
  • 646 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:rayong

โพสต์เมื่อ 09 July 2006 - 09:41 PM

อนุโมทนาบุญนะครับ
สำหรับผู้รู้จักแสวงหาบุญใส่ตัว
ในอดีต คุณยายทองสุก ล้างกระโถน จนเห็นองค์พระเลยนะครับ

ดังนั้น ล้างจาน แล้วรักษาใจด้วยนะครับ

#8 บุญโต

บุญโต
  • Members
  • 2192 โพสต์
  • Gender:Female
  • Location:อนุเสาวรีย์ชัยสมรภูมิ
  • Interests:ปฏิบัติธรรม

โพสต์เมื่อ 10 July 2006 - 10:44 AM

กราบอนุโมทนาบุญด้วยค่ะ

#9 gioia

gioia
  • Members
  • 593 โพสต์

โพสต์เมื่อ 10 July 2006 - 05:09 PM

ล้างจานจนได้ธรรมะ
ก็มีมาแล้วนะคะ...
อนุโมทนาบุญค่ะ

#10 light mint

light mint

    ขออนุโมทนาบุญค่ะ

  • Members
  • 1423 โพสต์
  • Gender:Female
  • Location:THAILAND
  • Interests:ธรรมะ

โพสต์เมื่อ 10 July 2006 - 10:56 PM

อนุโมทนาบุญ สาธุ กับคุณนับดาว คุณMiracle Dream นะคะ

บุญล้างจาน
เป็นบุญที่ทำแล้วเย็นมือ
แล้วก็เย็นใจ
ล้างเสร็จแล้วก็ชื่นใจ ที่เห็นผลงานสะอาดหมดจด ใสปิ๊ง
ชอบจังค่ะ happy.gif
ขออนุโมทนาบุญนะคะ สาธุ


#11 นับดาว

นับดาว
  • Members
  • 422 โพสต์

โพสต์เมื่อ 12 July 2006 - 03:43 PM

แบ่งบุญให้ทุกท่านเลยนะคะ

ตอนต่อไปต้องรออีกนิดนะคะ เพราะช่วงนี้งานยุ่งจนหัวปั่น

แต่จะเขียนมาให้อ่านแน่ๆค่ะ

อนุโมทนาบุญกับทุกท่านค่ะ
ถ้าใจใส

เรื่องดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน

#12 Jengiskhan

Jengiskhan
  • Members
  • 560 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:กุงเท่

โพสต์เมื่อ 12 July 2006 - 09:15 PM

อนุโมทนาบุญด้วยครับ อ่านแล้วปลื้มไปด้วยเลยครับ ขอให้บุญนี้มีสายเชื่อมโยงให้ผมด้วยนะครับ

#13 นับดาว

นับดาว
  • Members
  • 422 โพสต์

โพสต์เมื่อ 13 July 2006 - 02:35 PM

QUOTE
อนุโมทนาบุญด้วยครับ อ่านแล้วปลื้มไปด้วยเลยครับ ขอให้บุญนี้มีสายเชื่อมโยงให้ผมด้วยนะครับ

ได้เลยค่ะ ขอให้มีส่วนในบุญเท่าๆกันเลยนะคะ..สาธุ
ถ้าใจใส

เรื่องดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน

#14 นักท่องเที่ยว

นักท่องเที่ยว
  • Members
  • 2378 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:รู้สึกว่าจะไม่ค่อยได้อยู่กะที่อ่ะ มาดูอารายกานอ่ะ
  • Interests:มาสร้างบารมีตามติดหมู่คณะดีกว่า

โพสต์เมื่อ 25 September 2006 - 08:15 PM

อนุโมทนาด้วย
กายธรรมควรเทิดไว้ ในใจ
เป็นสรณะภายใน เทียงแท้
กว่านี้ บ่ มีใด เทียบได้
น้อบนบท่านไว้แล ค่ำเช้าสุขเสมอ


เอาบุญมาฝากจ้า นั่งสมาธิเยี่ยมไปเลย แถมไปติดจานมาอีกด้วย เด็กชาวเขานี้น่ารักนะแม้คุยไม่รู้เรื่องก็ตามล่ะ สนุกดี

#15 nut33

nut33
  • Members
  • 142 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:Bangkok
  • Interests:http://www.dhammakaya.tv
    http://www.dhammakaya.biz

    android Application ธรรมกาย
    https://play.google.com/store/apps/details?id=com.conduit.app_96f25c33fb1b4867b3b98cc85a26a854.app

โพสต์เมื่อ 29 January 2008 - 09:45 PM

บุญอันประณีต

บุญจะปรากฏอย่างสะอาด บริสุทธิ์ และให้ผลอย่างรุ่งเรือง สมบูรณ์ที่สุดขึ้นอยู่ที่เหตุที่ปัจจัย ซึ่งอยู่ที่ ๑) ผู้ให้ คือ ทายก ๒) ผู้รับ ปฏิคาหก จะเป็นบุคคลหรือคณะบุคคล ๓) ทรัพย์สินหรือสิ่งของที่เราให้ ถ้าหากว่าบริสุทธิ์ใน ๓ ฝ่ายนี้แล้ว ก็ได้ชื่อว่าทานกุศลนั้นมีความบริสุทธิ์ใน ๓ ฝ่าย ฝ่ายผู้ให้ ฝ่ายผู้รับ และสิ่งที่ให้ ความบริสุทธิ์ของทานกุศลประเภทนี้เองที่ให้ผลเป็นความเจริญรุ่งเรืองและสันติสุข สะท้อนย้อนกลับมาสู่ผู้ให้เป็นทับทวีนับภพนับชาติไม่ถ้วน ติดตามให้ผลจนกว่าจะได้บรรลุถึงมรรค ผล นิพพาน เป็นที่สุดแห่งทุกข์นั้น

ผู้ใดต้องการบำเพ็ญบุญบารมีให้เจริญต้องทำเอง และเป็นผู้ให้เอง อยู่เฉยๆ จะให้มีบุญบารมีขึ้นมาอย่างนั้นย่อมไม่ได้ อุปมาดั่งอาหาร ใครกิน ใครอิ่ม ไม่กินก็ไม่อิ่ม ผู้มีบารมีก็เพราะเขาได้สร้างบารมี ถ้าไม่สร้าง ยังจดๆ จ้องๆ อยู่ บุญบารมีก็ไม่เกิดขึ้น เพราะฉะนั้นบุญบารมีเป็นสิ่งที่ต้องสร้างขึ้นในฝ่ายตัวเราและด้วยตัวเราเป็นสำคัญ

การสร้างบารมีนั้นทั้งทำเองและทั้งชักนำผู้อื่นเข้ามาด้วย จึงจะส่งผลให้เต็มที่และสมบูรณ์ ว่าเราได้ประกอบบำเพ็ญทั้งอามิสทานและธรรมทาน ว่าเราได้เป็นผู้ปฏิบัติธรรมในทาน ศีล ภาวนา เพื่อให้เจตนาความคิดอ่านทั้งหลายบริสุทธิ์และรอบรู้สิ่งที่เป็นสาระและไม่เป็นสาระ

เมื่อเราจะให้จึงต้องบริสุทธิ์ที่เจตนาและบริสุทธิ์ที่กาย วาจา ใจ ใจนั้นต้องบริสุทธิ์ที่ปัญญาอีกด้วย นี้เป็นอาการของบัณฑิต พระพุทธองค์ทรงแสดงไว้ว่าการทำบุญนั้น จริงๆ แล้วท่านสรรเสริญการเลือกทำบุญ รู้จักการทำบุญที่บริสุทธิ์และให้บุญนั้นส่งผลให้อย่างสมบูรณ์ที่สุด เสมือนการปลูกต้นไม้ย่อมมุ่งหมายที่จะได้ผลดก รสดียิ่งๆ ขึ้นไป เพราะฉะนั้น ฝ่ายผู้ที่จะให้ต้องทำตนให้บริสุทธิ์ด้วยกาย ด้วยวาจา ด้วยใจ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งด้วยปัญญาว่า ควรทำบุญเพื่อบำรุงโครงการหรือกิจกรรมใด ของคณะบุคคลใดหรือสำนักใด จึงจะเกิดประโยชน์ในทางช่วยขจัดขัดเกลากิเลสตนและผู้อื่น เพื่อสร้าง “พระในใจคน และในใจตน” เพื่อบำบัดทุกข์บำรุงสุขแก่มวลมนุษย์อย่างกว้างขวางที่สุด ก็จะเป็นผลดีที่สมบูรณ์ที่สุด

รู้จักเลือกให้

การให้หรือทำบุญกับบุคคลที่ไม่ควรให้ และไม่ให้หรือไม่ทำบุญกับคนหรือคณะบุคคลที่ควรให้ เวลามีอันตรายแล้วไม่มีสหายที่จริงใจมาช่วยเกื้อหนุนเรา นี้เป็นพุทธวจนะ

อเทยฺเยสุ อททํ ทานํ, เทยฺเยสุ โย ปเวจฺฉติ, พยสนํ ปตฺโต สหายํ อธิคจฺฉติ. ผู้ใดไม่ให้ทานในคนที่ไม่ควรให้ ยอมให้ในคนทึ่ควรให้ ผู้นั้นประสบความเสื่อมเพราะอันตราย ย่อมได้สหาย
อเทยฺเยสุ ททํ ทานํ, เทยฺเยสุ นปฺปเวจฺฉติ, อาปาสุ พยสนํ ปตฺโต สหายํ นาธิคจฺฉติ. ผู้ใดให้ทานในบุคคลที่ไม่ควรให้ ไม่ให้ในคนที่ควรให้ ผู้นั้นถึงความเสื่อมเพราะอันตราย ย่อมไม่ได้สหาย (ขุ.ชา.จตุกก.๒๗/๑๒๙)

กล่าวเนื้อความว่า ผู้ใดทำบุญให้ทานกับบุคคลที่ไม่ควรให้ แต่ไม่ให้กับบุคคลที่ควรให้ ผู้นั้นเวลามีอันตรายจะไร้สหายที่พึ่งอันประเสริฐ คือ จะไม่มีกัลยาณมิตรที่เป็นที่พึ่งได้จริง จะพบแต่มิตร##### (มิตรเทียม) เอาเป็นที่พึ่งแท้จริงไม่ได้ นี้เป็นความหมายอย่างหนึ่ง

แต่ถ้าผู้ที่รู้จักทำบุญให้ทานกับคนที่ควรทำหรือคณะบุคคลที่ควรทำ (วิเจยฺย ทานํ สุคตปฺปสตถํ การเลือกให้อันพระสุคตทรงสรรเสริญ (ส.ส.๑๕/๓๐, ขุ.ชา.อฏฐก. ๒๗/๒๔๙, เปต.๒๖/๑๙๗) ไม่จำเป็นต้องทำในบุคคลหรือคณะที่ไม่ควรทำ เวลามีอันตรายแล้ว ผู้ที่ทำถูกต้องย่อมได้สหายอันประเสริฐ กล่าวคือ จะได้กัลยาณมิตรแท้เป็นสหายที่พึ่งได้จริง แต่ถ้าทำผิด คือ ให้ทานกับบุคคลที่ไม่ควรให้ และไม่ให้กับบุคคลหรือคณะที่ควรให้ เวลามีอันตรายไม่ได้ที่พึ่งอันประเสริฐ นี้เป็นคำสอนของพระพุทธเจ้าที่มีอยู่ บางท่านอาจเข้าใจว่า ให้ทานไม่ควรเลือกให้ ขึ้นชื่อว่าทานไม่ว่าจะให้แก่สรรพสัตว์ใดก็ตาม ย่อมได้ผลเป็นบุญทั้งสิ้น แต่ผลที่ได้มานั้นจะเป็นผลแต่ในทางรุ่งเรืองเสมอไปนั้น ไม่ใช่อย่างนั้น เช่น

บุคคลที่ทำทานกับบุคคลหรือคณะบุคคลที่เป็นพาลชน หรือมีจิตใจที่เป็นพาล (คำว่า “พาล” แปลว่า อ่อน หมายถึงสติปัญญาอ่อน) ก็ได้แก่ ผู้ประพฤติผิดศีล ทุศีล เป็นต้น แม้ผลบุญจะส่งมาให้เป็นความเจริญรุ่งเรือง เป็นโภคทรัพย์ แต่โภคทรัพย์นั้นเมื่อได้รับเข้ามาแล้วกลับกลายเป็นโภคทรัพย์ที่นำมาซึ่งความเดือดร้อน อย่างเช่น ท่านทั้งหลายคงจะได้ยินประเทศในตะวันออกกลางมีทรัพยากรน้ำมันเป็นเศรษฐี แต่ไม่ได้อยู่ดีมีสุข รบราฆ่าฟันกันไม่หยุดหย่อน นี่เป็นตัวอย่างที่เห็นได้ มิได้หมายความว่าทำบุญแล้วจะไม่ได้บุญ บุญนั้นได้ แต่ได้บุญที่คละเคล้าด้วยบาปของปฏิคาหกคือบุคคลผู้รับ ให้ผลมาเป็นทรัพยากรที่กลับกลายมาสร้างความเดือดร้อนให้แก่ตนเอง เพราะฉะนั้นการทำบุญต้องเลือกพอสมควร สำหรับเราที่มีทรัพยากรน้อย เพราะว่าการทำบุญกับใคร ย่อมได้รับผลบุญหรือได้เสวยบุญร่วมกับบุคคลนั้น ถ้าบุคคลนั้นเป็นคนทุศีล ไม่จริงใจ หรือคณะบุคคลนั้นทำงานในสิ่งที่ไร้สาระ ทำงานที่ประกอบไปด้วยกิเลส ตัณหา อุปาทาน ผลที่ออกมาก็ไปเสวยผลบุญจากท่านกุศลเช่นนั้น และผลบุญนั้นก็จะกลับกลายให้เป็นมิจฉาทิฏฐิ และถึงรบราฆ่าฟัน หรือห่างไกลจากพระสัทธรรมของพระพุทธเจ้า ทำให้การดำเนินชีวิตและบำเพ็ญบารมีนั้นเนิ่นออกไป กว่าที่จะเข้าถึงมรรค ผล นิพพาน ได้โดยทางตรง ง่าย ลัด ก็จะเนิ่นออกไป เพราะฉะนั้นพระพุทธองค์จึงทรงแสดงความจริงข้อนี้ไว้

แต่พึงเข้าใจว่า ไม่ว่าจะให้แก่สัตว์ดิรัจฉาน คนพาล หรือบัณฑิต ผลของท่านย่อมส่งให้เสมอ แต่ส่งในลักษณะใดก็เป็นดังตัวอย่างที่ยกไว้ให้ทราบแล้ว

ชื่อว่าบัณฑิต

ถ้าทำบุญกับบุคคลหรือคณะบุคคลที่ประพฤติปฏิบัติสะอาดบริสุทธิ์ ให้สะอาดบริสุทธิ์ยิ่งๆ ขึ้นไปและยังช่วยให้ผู้อื่นประพฤติปฏิบัติที่ดีที่ชอบยิ่งๆ ขึ้นไป เช่น การสร้างพระในใจคน และสร้างแม่พิมพ์คือ พระวิปัสสนาจารย์เพื่อให้สร้างพระในใจคนยิ่งๆ ขึ้นไปอย่างนี้ นี้เป็นตัวอย่าง มิใช่เฉพาะสถาบันพุทธภาวนาวิชชาธรรมกาย วัดหลวงพ่อสดธรรมกายาราม เท่านั้น ที่ไหนก็ได้ที่เขาทำดีอย่างนี้ มากกว่านี้ ผลบุญจะได้ทั้งมนุษย์สมบัติ สวรรค์สมบัติ และจะเป็นพลวปัจจัยให้ถึงนิพพานสมบัติได้ตรง เพราะกอปรด้วยสติปัญญาอันเห็นชอบทั้งฝ่ายปฏิคาหก ทั้งฝ่ายทายก เห็นว่าการทำบุญนี้ เป็นสาระประโยชน์จริงๆ และฝ่ายปฏิคาหกซึ่งเป็นผู้ที่ประกอบบำเพ็ญความดีสร้างแม่พิมพ์คือวิทยากรที่จะให้ไปสั่งสอน ชักนำ และปฏิบัติตนให้ดียิ่งๆ ขึ้นเรื่อยๆ เป็นทับทวี อย่างนี้มีผลสูงมาก และมุ่งตรงไปยังมรรค ผล นิพพาน ไม่อ้อมค้อม เพราะคนเราจะดีหรือชั่ว อยู่ที่ปัญญาบริสุทธิ์ ความบริสุทธิ์กาย วาจา ใจ จะเกิดขึ้นด้วยปัญญาอันบริสุทธิ์ ซึ่งมีพื้นฐานมาจากสัมมาสมาธิ ศีล และทานที่บริสุทธิ์ ผู้ที่เข้าใจสิ่งที่เป็นสาระตามที่เป็นจริงชื่อว่าบัณฑิตและผู้รู้จักประโยชน์ปัจจุบัน ประโยชน์อนาคต รู้จักหาบุญได้ใช้บุญเป็น ก็ชื่อว่าบัณฑิต

ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน
http://www.dhammakaya.tv