ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
* * * * * 1 คะแนน

ใครจะอยู่เป็นโสด


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 34 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#31 ลูกพระธัมฯ Merry Ma

ลูกพระธัมฯ Merry Ma

    The STRONGEST is the GENTLEST!!!

  • Members
  • 891 โพสต์
  • Gender:Female
  • Location:Bangkok, Thailand

โพสต์เมื่อ 30 March 2006 - 03:28 AM

ขออยู่เป็นโสดด้วยคนค่ะ เป็นสุขกายสุขใจดีแล้วในขณะนี้ "สบายส่วนตัวอย่างที่ ไม่เคยรู้สึกมาก่อน.
เคยคิดว่าเกิดเป็นผู้หญิงก็คงต้องหาคนดีๆสักคนเคียงข้าง แต่ปัจจุบันนี้รู้สึกสบายใจกับความเกลี้ยงของใจ
เรามีสุขภาพกาย และสุขภาพจิตที่ดี จนไม่คิดกลับไปหาความสุขหลอกๆแบบชีวิตคู่อีกเลยค่ะ

เห็นด้วยคุณ Muralath นำเอาคำสอนหลวงปู่ คุณยายมาเตือนใจ

พระมงคลเทพมุนี

“เกิดมาว่าจะมาหาแก้ว พบแล้วไม่กำ จะเกิดมาทำอะไร
สิ่งที่อยากก็หลอก สิ่งที่หยอกเขาก็ลวง ทำให้จิตเป็นห่วงใย
เลิกอยากลาหยอก รีบออกจากกาม เดินตามขันธ์สามเรื่อยไป
เสร็จกิจสิบหก ไม่ตกกันดาร เรียกว่านิพพานก็ได้”


"...ไม่เข้าไปค้นตัวให้ถึงที่สุด เป็นมนุษย์กับเขาทั้งที เพราะเชื่อ กิเลสเหลวไหลเหล่านี้ล่ะ ทำให้เลอะเลือน จะครองเรือนไปซักกี่ร้อยปี ก็ครองไปเถิด งานเรื่องของคนอื่นเขาทั้งนั้น เรื่องของพญามารทั้งนั้น ไม่ใร่องของตัว ไม่ใช่งานของตัว ไปทำงานให้พญามารเค้าทั้งวันทั้งคืน เอาเรื่องอะไรไม่ได้ อะไรล่ะ เพราะไม่รู้อีโหน่อีเหน่ เกิดมาพบยังไงก็ไปอย่างนั้นแหละ เพราะไม่ได้ฟังธรรมพระพุทธเจ้าพระอรหันต์ ไม่ได้ฝึกใจของพระอรหันต์ ไม่ได้ฟังธรรมของสัตบุรุษ ไม่ได้ฝึกใจของสัตบุรุษ ความเห็นก็พิรุษไปอย่างนี้..."




มหาอุบาสิกาจันทร์ ขนนกยูง

ตอนนี้มีเงิน 100 บาท ทำบุญได้ 50 บาท
ถ้าไปมีครอบครัว อย่างมากก็ได้ 5 บาท
ยิ่งถ้ามีลูกอีกละก็ ได้ทำ 50 สตางค์ก็บุญโขแล้ว
การมีครอบครัวมันตัดรอนการสร้างบารมีอย่างนี้แหละ

สิ่งที่ตั้งมโนปณิธานว่าจะทำ...
1. มีรูปสมบัติที่ดี (ไม่ได้ชมตนเองนะคะ แค่พูดตามพื้นความจริง) สุขภาพแข็งแรง แต่ก็ไม่ได้ประมาทในความสวย ในวัย ในความไร้โรค
ขอใช้ส่วนนี้ในการทำหน้าที่ประชาสัมพันธ์ เผยแพร่ เพราะว่าการดูดีย่อมทำให้คนที่เห็นรู้สึกเชื่อได้ง่าย ว่าทาน ศีล ภาวนาทั้งในอดีตและปัจจุบันชาติ ทำให้เราเป็นแบบนี้ เราเป็นต้นแบบให้เห็นว่าเป็นผลของความเพียรในอดีต แล้วไม่ประมาทในเวลา ใช้ผลบุญต่อบุญทับทวีต่อไป

2. มีความรู้ทางด้านภาษาอังกฤษ และจีน คอมพิวเตอร์ ปัจจุบันได้ช่วยงานสำนักต่างประเทศ ในการต้อนรับชาวต่างชาติ แปลธรรมะCase Study ใช้ Vegusทำ English Subtitle ยังคงอยากจะรองรับงานบุญยิ่งๆกว่านี้ แต่ไม่ได้รีบเร่งอะไร
ในวงบุญของเรา ความสำเร็จจะไม่ได้วัดที่ความเก่งของวิชชาความรู้ทางโลก บุคคลที่จะได้รับบุญ จะต้องฝึกตน
- ให้มีศีล 5แน่นเป็นปกติและถือศึล8ได้มากขึ้นเรื่อยๆ
- นั่งสมาธิทุกวันอย่างน้อย 2-4 ชั่วโมง หมั่นขัดเกลาจิตใจตนเองให้ใส สะอาด สงบ ละเอียดปราณีตเป็นมหากุศลขึ้นเรื่อยๆ
- อธิษฐานจิตทุกวันทุกวินาทีว่าขอให้ตนได้สร้างบุญใหญ่สร้างผลงานใหญ่อย่างยิ่งยวด เพื่อฟื้นฟูพระพุทธศาสนา บูชาธรรมพระรัตนตรัย+มหาปูชนียาจารย์วิชชาธรรมกาย
- แผ่เมตตาให้แก่สรรพสัตว์ (มีวิธีค่ะ ลึกๆด้วย ขอบอกแค่ว่า ตนเองจะส่งบุญถึงบุคคลที่มีบุญมากที่สุดในภาพ 3 ก่อน ไล่ไปจนถึงอบายภูมิทั้ง 4) ให้บ่อยๆ ที่สุด แล้วใจเราจะละจากโทสะได้ง่ายขึ้น สว่างขึ้น ใสได้ทั้งวัน และยังเป็นวิธีจูนบุญกับเทวดาทั้งหลาย เวลาที่เราต้องการให้ช่วยรับบุญจากเรา เราจะขอท่านเหล่านั้นช่วยได้ง่าย
- ฝึกอุเบกขา ไม่เอาใจไปเกาะเกี่ยวกับใคร อะไร ปล่อยวางซะ เอาใจไว้ที่ตัวเราเอง อะไรภายนอกมันเปลี่ยนไปเองตามคำอธิษฐานของเรา แต่ถ้าบุญยังไม่ชนะบาปก็อย่าไปคิดมาก และอย่าใจตก เช่นเราอยากจะให้พ่อแม่พี่น้อง เรามีสัมมาทิฐิ เรารักพวกเค้า แต่เค้ายังไม่เป็น ก็ไม่ต้องไปคิดอะไร เข้มแข็งยอมรับให้ได้ว่า บุญเราน้อยไป เราต้องสว่างกว่านี้ แล้วเค้าก็จะได้ช่องสว่างเอง ด้วยบุญของเราและช่องบุญของเค้าเปิดให้ ถ้าเรายังไม่พ้นขี้นนี้ไป บุญเราจะยังไม่พอ ก็อย่าไปถู่ซี้ พลักตัวเองให้แข็งใจเดินหน้าต่อไป ถ้ามันดีขึ้นก็อย่าเพิ่งไปดีใจกับมัน มันอาจจะแค่ประเดี๋ยวประด๋าว เราทำคุณสมบัติของเราให้มั่นคงหนักแน่นต่อไป เพื่อให้บุญของเราไปอัดประจุบวกเปลี่ยนผังของเค้าต่อไป สักวันถ้าเราเพียรไม่ยั้งด้วยอุเบกขา จนคุณสมบัติเรารุดหน้าไปแล้ว เดี๋ยวเค้าก็จะเปลี่ยนแปลงไปดังใจเราเอง อาจจะเรียกว่า "มโนมยิทธิ" มั้ง

3. มีความรู้ความสามารถทางด้านธุรกิจ เคยมีกิจการมีลูกน้อง มีเงินหมุนในมือ เคยหลงระเริงกับความคล่องตัวในทางโลก เคยไปอยู่ต่างประเทศมา แต่ก็ละวางมันลงเพื่ออยากจะลิขิตชีวิตตนเอง มีพลังในตนเองที่จะชี้ชัดว่าเราจะเดินหน้าด้วย Ethical Way of Life เท่านั้น ตอนนี้ใจนิ่งสงบขึ้นแล้ว ก็มีกำลังใจที่จะเอาความรู้ ประสบการณ์เหล่านั้นมาสร้างองค์กรที่เป็นดั่งดุสิตธานี ทุกคนดำเนินชีวิตด้วยสัมมาอาชีวะ สัมมาทิฐิ (มรรคมีองค์ 8) ปฏิบัติตนด้วยทาน+ศีล+ภาวนา (บุญกริยา 10) โดยที่เราจะเป็นผู้นำ เป็นเจ้าของกิจการอีกครั้ง ก็ใช้หลักการของพระเดชพระคุณหลวงพ่อ งานก็ทำ เก่งก็ต้องให้ทันคนทางโลก ศีลแน่นและภาวนาตลอดวัน บุญกริยา 10 ให้ครบทุกวัน และทำทานให้ถูกเนื้อนาบุญ ทำเต็มที่ เต็มกำลัง อยากสอนนักธุรกิจรุ่นใหม่ให้ฝ่าวิกฤติเศรษฐกิจด้วยวิธีกุศลอย่างพวกเรา เป็นกัลยาณมิตร ในอนาคตอยากจะเป็น Ethical Business Personระดับโลก จะต้องสร้างตนเองให้สำเร็จก่อน อธิษฐานว่าจะต้องเป็นประธานใหญ่กฐินบรมจักรพรรดิให้ได้ในอนาคตอย่างแน่นอน

4. มีพื้นฐานในเรื่องการทำใจหยุด ปล่อยวางสิ่งภายนอกตัว มาตั้งแต่เด็กๆ อยากได้ฝึกวิชชาธรรมกายชั้นสูง ต้องการจะได้วิชชาความรู้แท้จริงให้สูงขึ้นกว่าชาติก่อน เพื่อที่จะได้นำมาปรับคดีกฎแห่งกรรมของตนเอง เชื่อว่าถ้าเราได้รู้ความจริงลึกกว่าที่เราเคยรู้ ความรู้ตรงนั้นคือการทำลายสถิติเดิม เป็นความรู้ที่จะใช้แก้ผังของเราได้ เพราะที่ทำอยู่ตอนนี้ก็ทำดีที่สุด เค้นให้ตนเองทำให้ดีที่สุดแล้วแต่ได้แค่นี้ เพราะว่าขอบเขตสูงสุดของความรู้มีแค่นี้ ความรู้ความเห็นของเราก็ยังคงอยู่ในกรอบเดิมเพียงแต่พยายามเร่งให้กลับไปรู้ได้เท่าเดิม เมื่อไหร่ที่รู้ได้ลึกขึ้น หรืออาจจะเรียกว่าเข้าถึงองค์พระที่ใหญ่ขึ้น ประเสริฐขึ้นกว่าที่เราเคยเข้าไปถึง เมื่อนั้นความสว่าง ความรู้ตรงนั้นก็จะทำให้เราประมวลเรื่องราวทั้งหมดได้กระจ่างขึ้น การถูกผูกติดในขอบเขตเดิม ในเงื่อนไข สมการเดิมจะหมดไป ทำให้เราละวางกิเลสได้ละเอียดขึ้น มันจะไปปรับชะตาทั้งหมด เมื่อเราแผ่เมตตาในตอนนี้นให้แก่สรรพสัตว์ ผังที่กฎแห่งกรรมตั้งไว้ให้เราก็จะถูกชำระล้างออกไป มันจะปฏิรูปใหม่เหลือแต่ผังที่เรายังไม่มีความรู้ความสว่างพอที่จะไปแก้มันได้ แต่ลักษณะกายมหาบุรุษจะถูกปรับให้ใกล้เคียงขึ้น

ฉะนั้นสุดยอดของงานชีวิตคือ ข้อ 4 ค่ะ เพราะว่าข้อ 1, 2 , 3 ก็ยังทำไปตามผังสำเร็จเดิมที่เราเคยทำไว้ อาจจะละเอียดขี้นหรือแย่ลงบ้าง
แต่ข้อที่ 4 เป็นงานชิ้นสุดยอด ที่คิดแบบนี้เพราะว่าตอนอายุ 18 ปี กำลังเซ็งกับชีวิตว่าทำไมต้องเป็นผู้หญิงด้วย ทำไมต้องมีหน้าทีเกี่ยวกับครอบครัว ทำไมใจเราจึงควบคุมไม่ได้เหมือนแต่ก่อน ไปปรึกษาท่านรองเจ้าอาวาสวัดยานนาวา ท่านสอนว่าคิดอะไรก็ให้คิดในท้อง อย่าเอาไปคิดที่หัวนะ แล้วก็ให้หนังสือโลกานาถทีปนี อ่านแล้วเชื่อหมดว่าภพภูมิมีจริง อยากเข้าถึงกระแสนิพพาน เชื่อว่าพระนิพพานมีจริง

จึงบอกกับตนเองว่า สักวันนึงเราจะต้องกลับคืนสู่จิตดั้งเดิมของเรา สานต่องานชีวิตมหากุศล และถางทางที่ยังไม่ได้ถาง ทำลายสถิติเดิมที่เคยไปถึง





#32 Jengiskhan

Jengiskhan
  • Members
  • 560 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:กุงเท่

โพสต์เมื่อ 20 July 2006 - 09:14 PM

อยู่เป็นโสดเช่นกันครับ ตั้งใจไว้แล้วเพราะเห็นโทษของการครองเรือน มากๆ

#33 บุญเย็น

บุญเย็น
  • Members
  • 812 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:thailand

โพสต์เมื่อ 07 October 2006 - 01:21 PM

เคล็ดลับสำหรับท่านที่อยากอยู่เป็นโสด
คุณผู้ชาย ให้นำชุดขาว(ชุดแม่ชี) สักชุด ตั้งจิตอธิษฐาน ว่า ถ้ามีเนื้อคู้ก็ขอจงอย่าได้มาอยู่คู่กัน ในชาตินี้ขอให้ข้าพเจ้าได้ประพฤติพรหมจรรย์ ไ้ด้่ครองคู่อยู่กับพรหมจรรย์ เหมือนกับผ้าขาวนี้ด้วยเทอญ ดังนี้ แล้วนำผ้าชุดขาวนี้ไปถวายไว้กับแม่ชี (ที่มีอายุมากหน่อยนะครับ ๖๐ ขึ้นไปยิ่งดี) เพื่อให้ท่านได้ใช้ครองเพื่อประพฤติพรหมจรรย์ต่อไป
คุณผู้หญิง ให้นำไตรจีวร แล้วทำโดยนัยเดียวกัน แต่เปลี่ยนเป็นถวายแด่หลวงพ่อที่มีอายุหน่อยนะครับ
เพียงเท่านี้ครับผมรับรองว่า จะไม่มีมารมาผจญ คือเพศตรงข้ามที่จะมาสามารถทำให้ท่านเคลื่อนจากพรหมจรรย์ได้แน่นอน
อันนี้ผมลองมาแล้วครับ แคล้วคลาดปลอดภัยดีนักแล
นำมอ ตี่ จ่าง อ้วง ผู่ สัก

#34 Nu

Nu
  • Members
  • 224 โพสต์

โพสต์เมื่อ 07 October 2006 - 04:20 PM

ตอบจากใจว่าไม่เคยคิดอยากเป็นโสดเลย จนกระทั่งคนที่เราเคยสัญญากันว่าจะอยู่ด้วยกันจนแก่เฒ่าเขาลืมคำที่เขาเคยพูดไว้

ก็เลยจำใจเป็นโสดค่ะ .... ตกกระไดพลอยโสด

แต่ก็ตั้งใจว่าหมดจากคนนี้แล้วจะไม่มองหาใครอีกแล้ว เบื่อแล้วค่ะ

#35 ต้มข่าไก่

ต้มข่าไก่
  • Members
  • 193 โพสต์

โพสต์เมื่อ 24 September 2007 - 05:05 PM

สมัยตอนที่คุณยายยังอยู่ ท่านมักชวนคนที่มาวัดว่า อยู่วัดกับยายนะ ซึ่งก็คงต้องศีล 8 ด้วยกันทั้งหมดนะ
สมัยนั้นได้ยิน แล้วก็รู้สึกแปลก ไม่เห็นว่าจะมีโทษอย่างไร

แต่พอผ่านร้อนผ่านหนาวมาหลายๆปี ก็เริ่มมองเห็นว่า ถ้าครองตัวเป็นโสดได้ ก็จะสบายเหมือนนกไร้รัง ที่อิสระที่ผกผินไปที่ไห้ก็ได้ นอกจากการตั้งใจทำงานให้ดี มีบุพการีที่ดูแลไม่ขาด ก็ไม่ต้องมีกังวลกับอะไร

ถึงแม้ผมจะลาออกจากการเป็นโสดแล้วเมื่อ 4 ปีที่แล้ว ก็ยังนำพาคนที่เรารัก เข้าวัดด้วย และตกลงกันว่าว่าจะไม่มีทายาท (ลองสวนกระแส เพราะถ้า ท้ายสุดบุญที่ยังจะพอมีกับเขาบ้าง ก็อาจจะโชคดีได้บวชครับ )

โยมเอง แม้จะมีศีลเป็นที่ตั้ง แต่ก็น้อยกว่าพระ แต่ขอให้ระวังไว้เสมอๆครับ เพราะกระแสทางโลกยังแรงอยู่และยิ่งอยู่ในวงบุญพิเศษด้วยละก้อ ทหารของหลวงพ่อตั้งหลายๆรูป หลายๆคน ยังถูกเด็ดหัวเลย
เพราะฉนั้น อย่าประมาทครับ และขอให้เพียรฝึกตัว ทั้งหยาบและละเอียดครับ

ถ้าไม่รัก ก็จะไม่ว่า ถ้าไม่นำพา ก็จะนิ่งเฉย เป็นลูกเป็นหลาน จะให้ละเลย เพิกเฉยได้อยู่ใย