ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
* * * * * 1 คะแนน

บูชามหาธรรมกายเจดีย์


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 7 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 สองฝั่งของ(ฝั่งโขง)

สองฝั่งของ(ฝั่งโขง)
  • Members
  • 335 โพสต์
  • Location:North Carolina, USA
  • Interests:dhamma

โพสต์เมื่อ 08 May 2008 - 10:40 PM

พิธี บูชา มหาธรรมกายเจดีย์ ถ่ายทอดสดจริงหรือเปล่าคะ สงสัยค่ะ เพราะรู้สึกว่าจะถูก รายการข่าว เบียด เวลาไปมาก
ไม่ได้ยินพระอาจารย์เชิญชวนมาบูชามหาธรรมกายเจดีย์ ๓ ภาษา ไทย จีน และ English เหมือนแต่ก่อน หลายครั้งที่ ไม่มีการถ่ายทอด นำกราบพระ และบูชาพระรัตนตรัย

#2 panu

panu
  • Members
  • 530 โพสต์

โพสต์เมื่อ 09 May 2008 - 02:46 PM

เป็นเวลาที่ตรงกับบูชามหาธรรมกายเจดีย์ ถ้าเราน้อมใจตรึกระลึก นึกบูชา ก็ได้อานิสงผลบุญอย่างแน่นอน ไม่ว่าเสียงนั้นจะมาจากการถ่ายถอดสดหรือไม่ก็ตามครับ ดังนั้นอย่าไปกังวลเลยครับ

#3 สองฝั่งของ(ฝั่งโขง)

สองฝั่งของ(ฝั่งโขง)
  • Members
  • 335 โพสต์
  • Location:North Carolina, USA
  • Interests:dhamma

โพสต์เมื่อ 09 May 2008 - 11:39 PM

อานิสงผลบุญอย่างแน่นอน ไม่ว่าเสียงนั้นจะมาจากการถ่ายถอดสดหรือไม่ก็ตามครับ ดังนั้นอย่าไปกังวลเลยครับ

เห็นด้วยอย่างยิ่งค่ะ สำหรับคนที่ไม่มีโอกาสมาวัด หรือ ศูนย์สาขา ก็ได้ DMC นี่แหละคะ เป็นสะพานบุญให้

เหตุผลที่ post เพราะ เดี๋ยวนี้ บ่อยครั้งที่ไม่มีโอกาส ได้บูชาพระรัตนตรัยกับพระอาจารย์ เนื่องจากเวลาถูกแบ่งไปให้กับรายการข่าว กว่าจะถ่ายทอดก็อย่างที่ได้ยินนั่นแหละ

#4 เด็กผู้น้อย

เด็กผู้น้อย
  • Members
  • 436 โพสต์

โพสต์เมื่อ 12 May 2008 - 07:41 AM

อันนี้ผมก็ไม่สันทัดนะครับ แต่มีการบูชาทุกวันอยู่แล้ว จะถ่ายทอดสดเพียงเสียง หากทางวัดเกิดติดขัดอะไรก็อาจจะช้าได้สรุปทำใจใส ๆ นะครับ นึกน้อมบูชา ย่อมมีอานิสงส์ไม่มีประมาณ

#5 ตะกร้าอีกใบ072

ตะกร้าอีกใบ072
  • Members
  • 152 โพสต์
  • Gender:Male

โพสต์เมื่อ 14 May 2015 - 08:54 PM

เป็นการยากหากใครที่บูชาเจดีย์เป็นปกติทุกวันที่วัด ก็จะทราบว่ามีข้อจำกัดเยอะถ้าจะถ่ายทอดสด  แต่ปีนีจะครบปีที่15 แล้ว ทุกวันไม่เคยขาด พระเจ้าจักรพรรดิ ยังไม่มีโอกาสดีเท่าผู้ที่ได้บูชาทุกวัน เพราะผู้บูชาทุกๆวันมีอยู่จริง ไม่เคยขาดแม้วันเดียว 


แนบไฟล์  11129636_861327033925079_2999829668746931090_n.jpg   34.12K   12 ดาวน์โหลด

 

 

 

 

 

แนบไฟล์  10811762_872163109491002_1991804788_n.jpg   57.66K   18 ดาวน์โหลด



#6 vividu

vividu
  • Members
  • 716 โพสต์
  • Gender:Female
  • Location:Seattle, WA
  • Interests:Meditation

โพสต์เมื่อ 16 May 2015 - 07:29 AM

I always pay homage to Maha Dhammakaya Cetiya and The Great teachers myself once getting up as I have many sicknesses and they burden me not to be able to pay homage to the cetiya in the evening at the time being broadcasted at the temple. But I believe that if the mind really set at 072 and paying homage to the Cetiya, the fruit is exactly the same as people who do it at the temple ka. Krap kob pra koon of Dhammatan from K. Tagra 072 ka.


เป็นเวลาที่ตรงกับบูชามหาธรรมกายเจดีย์ ถ้าเราน้อมใจตรึกระลึก นึกบูชา ก็ได้อานิสงผลบุญอย่างแน่นอน ไม่ว่าเสียงนั้นจะมาจากการถ่ายถอดสดหรือไม่ก็ตามครับ ดังนั้นอย่าไปกังวลเลยครับ

Anumotanaboon with K. Panu ka


อันนี้ผมก็ไม่สันทัดนะครับ แต่มีการบูชาทุกวันอยู่แล้ว จะถ่ายทอดสดเพียงเสียง หากทางวัดเกิดติดขัดอะไรก็อาจจะช้าได้สรุปทำใจใส ๆ นะครับ นึกน้อมบูชา ย่อมมีอานิสงส์ไม่มีประมาณ

Anumotanaboon with K. Dek Pu Noi ka


8-)


#7 อารยาดุสิต

อารยาดุสิต
  • Members
  • 104 โพสต์
  • Gender:Female

โพสต์เมื่อ 17 May 2015 - 09:47 PM

     ในคัมภีร์พระไตรปิฎก ได้กล่าวถึงการบูชาเจดีย์ ดังนี้

     พระมหากัสสปะเถระ ได้กล่าวถึงบุพกรรมของท่าน

      มหากัสสปเถราปทานที่ ()ว่าด้วยผลแห่งการสร้างพุทธเจดีย์

      ในกาลเมื่อพระผู้มีพระภาคพระนามว่าปทุมุตตระเชฏฐบุรุษของโลก ผู้คงที่ ผู้เป็นนาถะของโลก นิพพานแล้ว ชนทั้งหลายทำการบูชาพระศาสดา หมู่ชนมีจิตร่าเริง เบิกบาน บันเทิง เมื่อเขาเหล่านั้นเกิดความสังเวช ปีติย่อมเกิดแก่เรา เราประชุมญาติและมิตรแล้ว ได้กล่าวคำนี้ว่า พระมหาวีรเจ้าปรินิพพานแล้ว เชิญเรามาทำการบูชากันเถิด พวกเขารับคำว่าสาธุ    แล้วทำความร่าเริงให้เกิดแก่เราอย่างยิ่งว่า พวกเราจักทำทานก่อสร้างบุญ ในพระพุทธเจ้าผู้เป็นนาถะของโลก

     เราได้สร้างเจดีย์อันมีค่าทำอย่างเรียบร้อยสูงร้อยศอก สร้างปราสาทร้อยห้าสิบศอก สูงจรดท้องฟ้า ครั้นสร้างเจดีย์อันมีค่างดงามด้วยระเบียบอันดีไว้ที่นั้นแล้ว ได้ยังจิตของตนให้เลื่อมใส บูชาเจดีย์อันอุดม ปราสาทย่อมรุ่งเรือง ดังกองไฟโพลงอยู่ในอากาศ เช่นพระยารังกำลังดอกบาน ย่อมสว่างจ้าทั่วสี่ทิศเหมือนสายฟ้าในอากาศ

     เรายังจิตให้เลื่อมใสในห้องพระบรมธาตุนั้น ก่อสร้างกุศลเป็นอันมาก ระลึก ถึงกรรมเก่าแล้ว ได้เข้าถึงไตรทศ เราอยู่บนยานทิพย์อันเทียมด้วยม้าสินธพพันตัว วิมานของเราสูงตระหง่าน สูงสุดเจ็ดชั้น กูฏาคาร (ปราสาท)พันหนึ่ง สำเร็จด้วยทองคำล้วน ย่อมรุ่งเรือง ยังทิศทั้งปวงให้สว่างไสว ด้วยเดชของตน ในกาลนั้น ศาลาหน้ามุขแม้เหล่าอื่นอันสำเร็จด้วยแก้วมณี มีอยู่ แม้ศาลาหน้ามุขเหล่านั้นก็โชติช่วงด้วยรัศมีทั่วสี่ทิศโดยรอบกูฏาคาร   อันบังเกิดขึ้นด้วยบุญกรรม อันบุญกรรมนิรมิตไว้เรียบร้อย สำเร็จด้วยแก้วมณีโชติช่วงทั่วทิศน้อยทิศใหญ่โดยรอบ โอภาสแห่งกูฏาคารอันโชติช่วง อยู่เหล่านั้น เป็นสิ่งไพบูลย์ เราย่อมครอบงำเทวดาทั้งปวงได้ นี้เป็นผล แห่งบุญกรรม เราได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิครอบครองแผ่นดิน มีสมุทร สาครสี่เป็นขอบเขต ในหกหมื่นกัลป์

     ในภัทรกัลป์นี้ เราได้เป็นเหมือนอย่างนั้น ๓๓ ครั้ง เป็นพระเจ้าจักรพรรดิผู้มีกำลังมาก ยินดีในกรรมของตน สมบูรณ์ด้วยรัตนะ ประการ เป็นใหญ่ในทวีปทั้ง ในครั้งนั้น ปราสาท ของเราสว่างไสวดังสายฟ้า ด้านยาว ๒๔ โยชน์ ด้านกว้าง ๑๒ โยชน์ พระนครชื่อรัมมกะ มีกำแพงและค่ายมั่นคงด้านยาว ๕๐๐ โยชน์ ด้านกว้าง๒๕๐ โยชน์ คับคั่งด้วยหมู่ชน เหมือนเทพนครของชาวไตรทศ เข็ม ๒๕ เล่มเขาใส่ไว้ในกล่องเข็ม ย่อมกระทบกันและกัน เบียดเสียดกันเป็นนิจ ฉันใดแม้นครของเราก็ฉันนั้น เกลื่อนด้วยช้างม้าและรถ คับคั่งด้วยหมู่มนุษย์น่ารื่นรมย์ เป็นนครอุดม เรากินและดื่มอยู่ในนครนั้น แล้วไปเกิดเป็น เทวดาอีกในภพที่สุด

     กุศลสมบัติได้มีแล้วแก่เรา เราสมภพในสกุลพราหมณ์สั่งสมรัตนะมาก ละเงินประมาณ ๘๐ โกฏิ เสียแล้วออกบวช คุณวิเศษ เหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา วิโมกข์ และอภิญญา เราทำให้แจ้งแล้วพระพุทธศาสนาเราได้ทำเสร็จแล้ว ฉะนี้แล.

พระไตรปิฎก ฉบับบาลีสยามรัฐ (ภาษาไทย) เล่มที่ ๓๒พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๒๔ ขุททกนิกาย อปทาน ภาค ๑ข้อที่๕ หน้าที่ ๓๐ ๓๑

   พระปุฬินุปปาทกเถระ กล่าวถึงบุพกรรมของท่านดังนี้

  ปุฬินุปปาทกเถราปทานที่ ๗ ว่าด้วยผลแห่งการก่อเจดีย์ทราย

   เราเป็นดาบสชื่อเทวละ อาศัยอยู่ที่ภูเขาหิมพานต์ ที่จงกรมของเราเป็นที่อันอมนุษย์ เนรมิตให้ ภูเขานั้น ครั้งนั้นเรามุ่นมวยผม สะพายคนโทน้ำ เมื่อจะแสวงหาประโยชน์อันสูงสุด ได้ออกจากป่าใหญ่ไป

     ครั้งนั้น ศิษย์ ,๔๐๐๐ คน อุปัฏฐากเรา เขาทั้งหลายขวนขวายเฉพาะกรรมของตนอยู่ในป่าใหญ่

    เราออกจากอาศรมก่อพระเจดีย์ทรายแล้วรวบรวมเอาดอกไม้นานาชนิดมาบูชาพระเจดีย์นั้นเรายังจิตให้เลื่อมใสในพระเจดีย์นั้นแล้ว เข้าไปสู่อาศรม

    พวกศิษย์ได้มาประชุมพร้อมกันทุกคนแล้ว ถามถึงความข้อนี้ว่า ข้าแต่ท่านผู้ประเสริฐ สถูปที่ท่านนมัสการก่อด้วยทราย แม้ข้าพเจ้าทั้งหลายก็อยากจะรู้ ท่านอันข้าพเจ้าทั้งหลายถามแล้วขอจงบอกแก่ข้าพเจ้าทั้งหลาย.

    เราตอบว่า พระพุทธเจ้าทั้งหลายผู้มีพระจักษุ มียศใหญ่ ท่านทั้งหลายได้พบแล้วในบทมนต์ของเรามิใช่หรือ เรานมัสการพระพุทธเจ้าผู้ประเสริฐสุดมียศใหญ่เหล่านั้น.

    ศิษย์เหล่านั้นได้ถามอีกว่า พระพุทธเจ้าผู้มีความเพียรใหญ่รู้ไญยธรรมทั้งปวง ทรงเป็นผู้นำโลกเหล่านั้น เป็นเช่นไร มีคุณเป็นอย่างไร มีศีลเป็นอย่างไร พระพุทธเจ้าผู้มีพระยศใหญ่เหล่านั้นเป็นดังฤา.

    เราได้ตอบว่า พระพุทธเจ้าทั้งหลาย มีพระมหาปุริสลักษณะ๓๒ ประการ มีพระทนต์ครบ ๔๐ ทัศ มีดวงพระเนตรดังตาแห่งโคและเหมือนผลมะกล่ำ

    อนึ่ง พระพุทธเจ้าเหล่านั้นเมื่อเสด็จดำเนินไป ก็ย่อมทอดพระเนตรดูเพียงชั่วแอก พระชานุของพระองค์ไม่ลั่น ใครๆ ไม่ได้ยินเสียงที่ต่อ

     อนึ่ง พระสุคตทั้งหลาย เมื่อเสด็จดำเนินไป ย่อมไม่รีบร้อนเสด็จดำเนินไป ทรงก้าวพระบาทเบื้องขวาก่อน นี้เป็นธรรมดาของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย

     และพระพุทธเจ้าเหล่านั้น เป็นผู้ไม่หวาดกลัว เปรียบเหมือนไกรสรมฤคราช ฉะนั้น พระพุทธเจ้าเหล่านั้น ไม่ทรงยกพระองค์และไม่ทรงข่มขี่สัตว์ทั้งหลาย ทรงหลุดพ้นจากการถือตัว และดูหมิ่นท่านเป็นผู้มีพระองค์เสมอในสัตว์ทั้งปวง

     พระพุทธเจ้าทั้งหลายเป็นผู้ไม่ทรงยกพระองค์ นี้เป็นธรรมดาของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย และพระพุทธเจ้าทั้งหลายเมื่อเสด็จอุบัติขึ้นพระองค์

    ทรงแสดงแสงสว่าง ทรงประกาศวิการ ๖ทั่วพื้นแผ่นดินนี้ทั้งสิ้น

    ทั้งพระองค์ทรงเห็นนรกด้วย ครั้งนั้น ไฟนรกดับ มหาเมฆยังฝนให้ตก นี้เป็นธรรมดาของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย พระพุทธเจ้าผู้มหานาคเหล่านั้น เป็นเช่นนี้ พระพุทธเจ้าผู้มียศใหญ่เหล่านั้น ไม่มีใครเทียมเท่า พระตถาคตทั้งหลาย เป็นผู้มีพระคุณหาประมาณมิได้ ใครๆไม่เกินพระองค์ไปโดยเกียรติคุณ.ศิษย์ทุกคนเป็นผู้มีความเคารพ ชื่นชมถ้อยคำของเรา ต่างได้ปฏิบัติเช่นนั้น ตามสติกำลัง พวกเขามีความเพลิดเพลินในกรรมของตนเชื่อฟังถ้อยคำของเรา มีฉันทะอัธยาศัยน้อมไปในความเป็นพระพุทธเจ้า พากันบูชาพระเจดีย์ทราย

    ในกาลนั้น เทพบุตรผู้มียศใหญ่ จุติจากชั้นดุสิต บังเกิดในพระครรภ์ของพระมารดา หมื่นโลกธาตุหวั่นไหว เรายืนอยู่ในที่จงกรมไม่ไกลอาศรม ศิษย์ทุกคนได้มาประชุมพร้อมกันในสำนักของเรา ถามว่า แผ่นดินบันลือลั่นดุจโคอุสภะ คำรณดุจมฤคราช ร้องดุจจระเข้ จักมีผลเป็นอย่างไร.เราตอบว่า พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ใดที่เราประกาศ ที่ใกล้พระสถูปคือกองทราย บัดนี้ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าผู้มีโชค เป็นศาสดา พระองค์นั้น เสด็จลงสู่พระครรภ์พระมารดาแล้ว.

    เราแสดงธรรมกถาแก่พวกศิษย์เหล่านั้นแล้ว กล่าวสดุดีพระมหามุนี   ส่งศิษย์ของตนไปแล้ว นั่งขัดสมาธิ ก็เราเป็นผู้สิ้นกำลังหนอเจ็บหนัก ระลึกถึงพระพุทธเจ้าผู้ประเสริฐสุด ทำกาลกิริยา ณ ที่นั้นเอง ครั้งนั้น ศิษย์ทุกคนพร้อมกันทำเชิงตะกอนแล้ว ยกซากศพของเราขึ้นเชิงตะกอน พวกเขาล้อมเชิงตะกอน ประนมอัญชลีเหนือเศียร อันลูกศรคือ ความโศกครอบงำ ชวนกันมาคร่ำครวญเมื่อศิษย์เหล่านั้นพิไรรำพันอยู่ เราได้ไปใกล้เชิงตะกอน สั่งสอนพวกเขาว่า เราคืออาจารย์ของท่าน แน่ะท่านผู้มีปัญญาดีทั้งหลายท่านทั้งหลายอย่าได้เศร้าโศกเลย ท่านทั้งหลายควรเป็นผู้ไม่

เกียจคร้าน พยายามในประโยชน์ของตน ทั้งกลางคืนและกลางวันานทั้งหลายอย่าได้ประมาท ควรทำขณะเวลาให้ถึงเฉพาะ เราพร่ำสอนศิษย์ของตนแล้วกลับไปยังเทวโลก เราได้อยู่ในเทวโลกถึง๑๘ กัป ได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ ๕๐๐ ครั้ง และได้เสวยราชสมบัติในเทวโลกเกินร้อยครั้ง ในกัปที่เหลือ เราได้ท่องเที่ยวไปอย่างสับสน แต่ก็ไม่รู้จักทุคติเลย นี้เป็นผลแห่งการก่อเจดีย์ทรายในเดือนที่ดอกโกมุทบาน ต้นไม้เป็นอันมากต่างก็ออกดอกบานฉันใดเราก็เป็นผู้อันพระศาสดาผู้แสวงหาคุณอันยิ่งใหญ่ให้บานแล้วในสมัยฉันนั้นเหมือนกัน

     ความเพียรของเรานำธุระน้อยใหญ่ไป นำเอาธรรมที่เป็นแดนเกษมจากโยคะมา เราตัดกิเลสเครื่องผูก ดังช้างตัดเชือกแล้ว เป็นผู้ไม่มีอาสวะอยู่ ในกัปที่แสนแต่กัปนี้ เราได้สรรเสริญพระพุทธเจ้าใด ด้วยการสรรเสริญนั้น เราไม่รู้จักทุคติเลยนี้เป็นผลแห่งการสรรเสริญ เราเผากิเลสทั้งหลายแล้ว ... พระพุทธศาสนาเราได้ทำเสร็จแล้ว ดังนี้.

พระไตรปิฎก ฉบับบาลีสยามรัฐ (ภาษาไทย) เล่มที่ ๓๓พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๒๕ ขุททกนิกาย อปทาน ภาค -พุทธวังสะ-จริยาปิฎก ข้อที่๗๗หน้าที่๗๔-๗๗

   นี่เป็นผลของการบูชาพระเจดีย์  ที่ทำให้ได้มาเป็นพระเจ้าจักรพรรดิ ในกรณีของพระปุฬินุปปาทกเถระ  ท่านนำทรายมาก่อเป็นพระเจดีย์เพื่อเป็นเครื่องสักการะให้ระลึกถึงพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

    ผลของการบูชาพระเจดีย์  แม้ได้เกิดมาเป็นพระเจ้าจักรพรรดิผู้ได้ครอบครองรัตนะทั้งเจ็ดประการ  แต่สิ่งสำคัญในประโยชน์สุด คือการได้เข้าถึงธรรมะภายใน อันเป็นรัตนะอันสูงสุด และงดงามที่สุด เป็นเหตุให้พระมหาเถระทั้งสองรูป ละจากรัตนะภายนอกเข้ามาสู่รัตนะภายใน อันเป็นรัตนะอันประเสริฐยิ่งกว่ารัตนะใดๆ



#8 น้ำส้มตั้งใจทำความดี

น้ำส้มตั้งใจทำความดี
  • Member_Facebook
  • 1 โพสต์

โพสต์เมื่อ 26 May 2015 - 12:19 PM

ถ้าถ่ายทอดสดเิดไม่ได้เวลาหกโมงเย็นก็เปิด youtube พร้อมน้อมถวายดอกไม้บูชาที่ห้องเลยค่ะ (โลกนี้ยังมีyoutube^^)