ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
- - - - -

หัวใจทองคำพองโต เต้นไม่เป็นจังหวะแล้วค่ะ


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 8 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 usr25920

usr25920
  • Members
  • 76 โพสต์

โพสต์เมื่อ 09 October 2008 - 04:15 PM

ไปส่งคุณแม่กับคุณน้าขึ้นรถไปวัดมาค่ะ
ผู้สร้างบุญทั้งหลาย alert กันใหญ่
หัวใจพองโตตามเลยค่ะ ขับรถกลับมาถึงบ้านแล้วใจก็ยังเต้นไม่เป็นจังหวะเลยค่ะ

ไม่ได้ไปด้วย แต่ส่งใจไปเกินร้อยค่ะ

สาธุ กับผู้มีบุญที่ได้ไปร่วมงานบุญอันยิ่งใหญ่ หาที่เปรียบมิได้ด้วยคนนะคะ

#2 DJ.

DJ.
  • Members
  • 1212 โพสต์

โพสต์เมื่อ 09 October 2008 - 04:54 PM

สาธุ

#3 usr25687

usr25687
  • Members
  • 56 โพสต์

โพสต์เมื่อ 10 October 2008 - 09:01 AM

สาธุค่ะ

#4 พุทธนิกาย

พุทธนิกาย
  • Members
  • 8 โพสต์

โพสต์เมื่อ 10 October 2008 - 03:42 PM

ขออนุโมทนากับทุกท่านที่ปรารถนาความบริสุทธิ์แห่งจิตใจนะครับ ปรารถนาสิ่งใดหากเป็นสิ่งที่ไม่เบียดเบียนใครขอให้สมหวังทุกประการ happy.gif แต่อย่าลืมนะว่าเทวดาส่วนใหญ่ขึ้นสวรรค์แล้วพอหมดบุญต้องลงนรกไปชดใช้บาปกรรมทันที ทำไมน่ะเหรอก็สวรรค์นั้นไปไม่ยากหรอกหากก่อนตายคิดเรื่องเป็นกุศลให้มั่นคง แต่บาปกรรมมันหนีกันไม่พ้น ถ้าจะให้ดีละโลภ โกรธ หลง เข้านิพพานกันดีกว่ามั้ย? ตรองดูเถิดนักแสวงบุญทั้งหลาย.

#5 Crystal Man

Crystal Man
  • Members
  • 11 โพสต์

โพสต์เมื่อ 10 October 2008 - 11:38 PM

การละ โลภ โกรธ หลงนั้นต้องอาศัยการทำทาน รักษาศีล และเจริญภาวนา ซึ่งทั้งหมดที่กล่าวมานี้ได้บุญทั้งสิ้น

คุณพุทธนิกายครับ หมู่คณะของเราไม่ได้ต้องการไปสวรรค์เท่านั้น แต่ปรารถนาที่จะพาสรรพสัตว์ทั้งหลายเข้าสู่พระนิพพานที่สุดแห่งธรรม แต่ถ้ายังทำไม่สำเร็จก็จะไปพักที่สวรรค์ชั้นดุสิต

การจัดงานบุญใหญ่แต่ละงานนั้นก็เพื่อจะได้ไปกระตุ้นต่อมความดีที่มีอยู่ในมนุษย์ทุกคนให้หันมาทำความดี(ทำทาน รักษาศีล และเจริญภาวนา) ซึ่งย่อมจะได้บุญแน่นอน และถ้าสามารถทำให้ได้คนทำความดีได้มากเท่าไหร่ก็จะได้บุญมากขึ้นเท่านั้น

ผมเห็นความเห็นที่คุณพุทธนิกายตอบแล้ว มีความรู้สึกว่าคุณไม่เข้าใจเป้าหมายของหมู่คณะเลย จึงเข้ามาตอบคำถามแบบเจือโมหะโดยคุณไม่รู้ตัว ซึ่งอาจทำให้กรรมนิมิตรก่อนตายไม่ผ่องใส ไม่เพียงแต่ไม่ได้ไปสู่สวรรค์เท่านั้น แต่อาจไปอบายได้เลยนะครับ

เลยอยากชวนคุณพุทธนิกายมาแสวงบุญด้วยกันจะได้เข้าใจเป้าหมายของหมู่คณะมากขึ้นครับ

อย่าได้ประมาทในการสั่งสมเสบียงบุญเลยครับ ดั่งคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ว่า "ภิกษุทั้งหลาย! จงดำเนินชีวิตด้วยความไม่ประมาทเถิด"

#6 Ozeria

Ozeria
  • Members
  • 879 โพสต์

โพสต์เมื่อ 11 October 2008 - 08:44 AM

ไปงานหล่อหลวงปู่มาอยู่จนเลิกงาน ปลื้มมากค่ะ

เอาบุญมาฝากนะคะ



สาธุ อนุโมทนาบุญค่ะ

ลูกพระธัมฯ หลานหลวงปู่ หลานคุณยาย

#7 sphere

sphere
  • Members
  • 50 โพสต์

โพสต์เมื่อ 11 October 2008 - 01:28 PM

QUOTE
แต่อย่าลืมนะว่าเทวดาส่วนใหญ่ขึ้นสวรรค์แล้วพอหมดบุญต้องลงนรกไปชดใช้บาปกรรมทันที ทำไมน่ะเหรอก็สวรรค์นั้นไปไม่ยากหรอกหากก่อนตายคิดเรื่องเป็นกุศลให้มั่นคง


ขอตอบคุณ พุทธนิกาย นะคะ ถ้าเราอ่านเรื่องพระไตรปิฎกแล้วจะเข้าใจว่า ไม่ใช่ว่าใครไปบังเกิดเป็นเทวดา และพอหมดบุญจะจุติไปยังนรกทันที อันนี้ sphere ว่า คุณพุทธนิกาย กำลังเข้าใจผิดค่ะ เพราะในพระไตรปิฎก มีคำตรัสของพระสัมมาสัมพุทธเจ้ากับเรื่องการเกิดในสังสารวัฎ ซึ่งแบ่งไว้เป็น 4 ประเภทคือ

1. มืดมา-มืดไป คือ ผู้ที่เกิดมาจากอบายภูมิ และพอตายก็ตกไปอยู่ในอบายภูมิอีก เนื่องจากกรรมที่ทำชั่วเอาไว้ในโลกมนุษย์
2. มืดมา- สว่างไป คือ ผู้ที่เกิดมาจากอบายภูมิเพราะผลแห่งกรรมชั่วในอดีต แต่พอเกิดมาอีกครั้งหมั่นทำความดีจึงเปลี่ยนภพภูมิไปอยู่ในที่ที่เป็นสุขคติ
3. สว่างมา - มืดไป คือ ผู้ที่เกิดมาจากสุขคติ เนื่องจากผลกรรมดีที่เคยก่อไว้ในอดีต แต่พอชาตินี้กลับคิดไม่ได้ ทำแต่ความชั่วจึงพลัดไปสู่อบายภูมิ
4. สว่างมา-สว่างไป คือ ผู้ที่เกิดมาจากสุขคติ ด้วยผลแห่งกรรมดีที่เคยทำไว้ พอมาชาตินี้ก็หมั่นสั่งสมความดีเป็นนิตย์ จึงได้กลับขึ้นไปสุขคติอีกครั้ง

ดังนั้น สิ่งที่คุณพุทธนิกายกล่าวมา คงยังไม่ถูกต้องทั้งหมดนะคะ ถ้าจะบอกว่ามันขึ้นอยู่กับก่อนตายคิดเป็นกุศลได้อย่างมั่นคงรึเปล่า เราลองนึกดูสิคะ ถ้าคน ๆ หนึ่งทำความชั่วมาตลอดทั้งชีวิต จะมีเวลาคิดถึงความดีมั้ย แน่นอน ผู้ที่ไม่เคยทำความดี หรือทำน้อยมาก ก็อาจจะคิดไม่ได้เลย เนื่องจากภาพที่มาปรากฎคงจะเป็นแต่ภาพที่ไม่ดี ในทางกลับกัน ผู้ที่ทำความดีมาตลอดชีวิตต่างหาก ที่จะมีจิตเป็นกุศลได้ก่อนละจากโลก น่าจะเป็นอย่างนี้มากกว่านะคะ

#8 Sunshine

Sunshine
  • Members
  • 363 โพสต์

โพสต์เมื่อ 11 October 2008 - 09:09 PM




O.K. เข้านิพพานกันเถอะนะ แต่ด้วยมันสมองอันน้อยนิด

ก็จะขอไปกับหมู่คณะ เพื่อนำพาสรรพสัตว์ไปด้วย เพียงขอเข้าเป็นคนสุดท้าย

อิฉันว่ามันเป็นมโนปณิธานที่ยิ่งใหญ่ และเป็นการกระทำเพื่อมวลมนุษยชาติเชียวนา



#9 ณ ๐๗๒

ณ ๐๗๒
  • Members
  • 1340 โพสต์
  • Location:Ladkrabang

โพสต์เมื่อ 11 October 2008 - 11:02 PM

มาระลึกความหลัง ว่า ตั้งนาน กว่าจะหลับได้ ตื่นเข้ามาก็คิดๆ สงสัยคงตื่นเต้นละมั้ง

ถึงจะมีใครมาขัดขวางความตื่นเต้นของเรา ก็ไม่เป็นผลหรอกน่ะ เพราะเห็นเที่่ยวตามโพสต์ทุกกระทู้
คงหวังให้พวกเราใจหมอง ขอบอกว่า ยากส์์์์ส์ส์ ค่ะ พวกเรามีภฺมิคุ้มกันดีค่ะ

ความพร้อมเกิดขึ้น เมื่อเริ่มต้นลงมือทำ (โอวาทหลวงพ่อ 27/4/51)

ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจบุรุษให้หลงใหลได้มากเท่ากับสตรี  ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจสตรีให้หลงใหลได้มากเท่ากับบุรุษ
แท้จริงแล้วความรักก็เปรียบดั่งเครื่องพันธนาการ  ที่มัดตรึงเหนียวแน่น ให้ลุ่มหลงอยู่ ย่อมจะต้องเวียนว่ายตายเกิดและจมอยู่ในกองทุกข์ร่ำไป