ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
- - - - -

สื่อสารไร้สายในสมัยพุทธกาล


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 6 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 น้ำใส

น้ำใส
  • Members
  • 778 โพสต์
  • Gender:Male

โพสต์เมื่อ 15 January 2009 - 11:12 AM

เป็นบทความที่ชื่อหัวข้อเรื่อง "ตรงใจ" และ "ตรงงาน" ที่กำลังทำอยู่ ซึ่งท่าน พม.ดร. สมชาย ฐานะวุฒโฑ
ให้ความเมตตาเทศน์ไว้ เมื่อเร็ว ๆ นี้ ทุึกครั้งที่นำกลับมาอ่านทบทวนจะทำให้เกิดกำลังใจ ในการสร้างบารมี

อย่างท่วมท้น จึงอยากจะแบ่งปันบทความอันทรงคุณค่านี้แด่ ผู้อ่านทุกท่านด้วยค่ะ จะได้ปลื้มในบุญที่ได้ทำมา
และที่กำลังทำและจะทำในอนาคตอันใกล้นี้ ค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ
................................

การสื่อสารไร้สายในสมัยพุทธกาล

ระหว่างทางพระภิกษุทั้งหลายก็จาริกไป แล้วไปพักตามวัดใหญ่ๆ ในรายทาง พักที่ไหน
ก็บอก ประชุมสงฆ์เลย บอกว่า ข้าพเจ้าเพิ่งกลับจากเชตะวันมหาวิหารมา

บัดนี้พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้บัญญัติพระธรรมวินัยเพิ่มเติมอย่างนี้ๆๆ พระภิกษุสงฆ์ท่านก็จะมาประชุมกัน
มาฟัง มาท่องจำ มาศึกษากัน แล้วท่านก็จะจาริกต่อไปเรื่อยๆ กระจายกันไปอย่างนี้ ทำให้พระธรรมคำ

สอนที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้า สอนไว้ พระวินัยที่พระองค์บัญญัติไว้กระจายกัน ต่อๆ ไป โดยมีวัด
พระเชตวันเป็นศูนย์กลาง เป็นแหล่งอ้างอิง เป็นขุมคลังความรู้ และมีพระภิกษุสงฆ์ ที่แบ่งออกตาม

ความชำนาญเฉพาะด้าน เป็น Specialist เป็นด้านๆ ไป คือ พระวินัย พระสูตร พระอภิธรรม

นี่คือการสื่อสารไร้สาย ไม่ต้องใช้สายโทรศัพท์ อะไรเลย ตัวของพระเองกระจายได้ดีที่สุด
ต้องการทราบเรื่องอะไร สอบถามได้ ซักถามเพิ่มเติมได้ ทำให้เอกภาพของพระวินัย เอกภาพของคำสอน

และเอกภาพคณะสงฆ์เกิดขึ้น ต้องบอกว่า เทคนิคของพระสัมมาสัมพุทธเจ้านั้นสุดยอด เหตุที่เชตวันมหาวิหาร
ที่อนาถบิณฑิกเศรษฐีสร้างขึ้นได้รับความ ชื่นชมยกย่องอย่างมากๆ นั้น ไม่ใช่เป็นแต่เพียงว่าเกิดจาก

ความศรัทธาของอนาถบิณฑิกเศรษฐีอย่างเดียว ว่าทุ่มขนาดเอาเงินปูเรียงเคียงกันซื้อแผ่นดินมาสร้างวัด
นั่นเป็นแค่ส่วนประกอบแต่หัวใจสำคัญ คือว่า พอท่านทุ่มสร้างอย่างนี้แล้ว วัดใหญ่ในครั้งพุทธกาล คือ

เชตวันมหาวิหาร และบุพพาราม เลยกลายเป็นเหมือนศูนย์กลางของการเผยแผ่พระพุทธศาสนาที่
แท้จริง สร้างความเจริญรุ่งเรืองและความมั่นคง ให้เกิดขึ้นกับพระพุทธศาสนาอย่างยิ่งยวดเลย

แล้วพอไปดูประวัติของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระองค์ก่อนๆ นั้น ก็จะพบว่ามีบุคคลที่คล้ายๆ
อย่างอนาถบิณฑิกเศรษฐี มาสร้างวัดใหญ่ที่เป็นศูนย์กลางการเผยแผ่พระพุทธศาสนาในยุคนั้นๆ

ทุกพระองค์ ในบางยุคไม่ใช่เอาเงินปูเรียงเคียงกันไปซื้อแผ่นดิน แต่ใช้ทองปูเรียงเคียงกัน เพราะ
เจ้าของที่ยุคนั้นโหดกว่า บอกว่า อยากจะซื้อที่หรือ เอาทองมาเรียงก็แล้วกัน เต็มแผ่นดินถึงจะขายให้

แต่อนาถบิณฑิกเศรษฐีในยุคนั้นก็ไม่ปฏิเสธเหมือนกัน ขนทองมาเรียงเลย ปูทองเรียงซื้อแผ่นดินเลย

จะเห็นว่า นี่คือเทคนิคที่เป็นสากลในการสร้าง ความมั่นคงให้เกิดขึ้นกับพระพุทธศาสนาของ
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกพระองค์การสร้างวัดใหญ่ นั้นสร้างยาก ต้องอาศัยใจที่ศรัทธาทุ่มเทจริงๆ

แต่เมื่อสำเร็จแล้ว มีประโยชน์อย่างยิ่งใหญ่มหาศาลในการสร้างความมั่นคงให้เกิดขึ้นกับพระพุทธศาสนา
นี่คือบทบาทของเชตวันมหาวิหารในครั้งพุทธกาล แล้วจริงๆ ก็ไม่ได้มีวัดเดียว ก่อนหน้านี้ก็มีทยอยมาเรื่อยๆ

ตั้งแต่ปีแรกๆ ที่พระองค์ตรัสรู้ แค่ไป โปรดพระเจ้าพิมพิสารพระองค์ก็พาชาวเมืองมาฟังธรรมที่ลัฏฐิวัน
(สวนตาลหนุ่ม) มากันถึง ๑๒ นหุต คือ ๑๒๐,๐๐๐ คน ลองคิดดูว่ามีวัดอยู่กี่แห่งที่สามารถรองรับชาวบ้าน

มาฟังธรรมรวมกันทีละ ๑๒๐,๐๐๐ คนได้ ฟังธรรมเสร็จบรรลุธรรม ๑๑๐,๐๐๐ คน ที่เหลืออีก ๑๐,๐๐๐ คน
เข้าถึงไตรสรณคมน์ ถึงพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่ง ทำให้พระเจ้าพิมพิสารเกิดศรัทธาถวายเวฬุวันป่าไผ่

เป็นวัดแห่งแรกในพระพุทธศาสนา คล้ายๆ เป็นวัดปฏิบัติ เป็นป่า ซึ่งก็เป็นศูนย์กลางพระศาสนาในยุคต้นได้

แต่พอเวลาผ่านไปประมาณ ๒๐ ปี คณะสงฆ์ มีจำนวนมากขึ้น พระพุทธศาสนาแผ่ขยายกว้างขวาง
มากขึ้นจึงจำเป็นต้องสร้างเชตวันมหาวิหารขึ้นมาเป็นศูนย์กลางการเผยแพระพุทธศาสนาที่มั่นคงพอ

จะมองเห็นภาพหรือยังว่า ในครั้งพุทธกาล วัดแบ่งออกเป็น ๒ ประเภทใหญ่ๆ คือ

๑. วัดใหญ่ที่เป็นศูนย์กลางการเผยแผ่พระพุทธศาสนา
๒. วัดที่กระจายอยู่ทั่วแผ่นดิน ลดหลั่นกันลง ไป เป็นวัดศูนย์กลางของหัวเมือง
วัดประจำหมู่บ้าน ประจำตำบลแล้วแต่ว่าชาวบ้านจะสร้างกันอย่างไร

ซึ่งทุกวัดต่างก็ทำบทบาทตัวเองเป็นอย่างดี ถ้าเป็นวัดที่รองรับประชาชนในหมู่บ้าน
ก็ต้องสร้างขึ้นมาเป็นรูปแบบหนึ่งถ้าเป็นวัดประจำตำบลก็แบบหนึ่ง ประจำอำเภอก็ต้องโตขึ้น

ถ้าเป็นวัดประจำจังหวัดก็มีพระมากขึ้น เวลาพระภิกษุจากวัดพระเชตวันมาอยู่ที่นี่ ก็สามารถกระจาย
ข่าวจากวัดประจำจังหวัด ไปถึงวัดประจำอำเภอ ตำบล หมู่บ้าน กระจายไปทั่วแผ่นดิน โดยมี

เชตวันมหาวิหาร เป็นศูนย์กลาง

เทคนิคนี้บอกได้เลยว่าสุดยอด ไม่มีศาสนาใดมี แต่พระพุทธศาสนาทำได้อย่างดีเยี่ยม
เพราะฉะนั้น ที่อนาถบิณฑิกเศรษฐีเอาเงินปูเรียงเคียงกันไปซื้อแผ่นดินมานั้นคุ้มแสนคุ้ม แล้วในยุค

ของเราในปัจจุบันนี้เราจะทำอย่างไรถึงจะนำความรุ่งเรืองของพระพุทธศาสนาให้กลับขึ้นมาอีกครั้งหนึ่งได้

ที่พวกเราสวมหัวใจนักสร้างบารมี สวมหัวใจพระบรมโพธิสัตว์ ทุ่มกันแบบสุดๆ ช่วยกันสร้างทั้ง
มหาธรรมกายเจดีย์ ลานธรรม มหารัตนวิหารคด อาคารปฏิบัติธรรม ๖๐ ปี พระราชภาวนาวิสุทธิ์ มหาวิหารหลวงปู่

สภาธรรมกายสากล จะเสร็จกันอยู่แล้ว ถ้าเสร็จ ชุมนุมสงฆ์และประชาชนได้ครั้งหนึ่งเป็นล้านคน นี่จะเป็นจุดพลิกผัน
สำคัญในการ นำความรุ่งเรืองมาสู่พระพุทธศาสนาอีกครั้งหนึ่ง ถึงตอนนั้น คนทั้งโลกจะต้องร้องเอ๊ะเลย เอ๊ะ..

ทำไมพระภิกษุสงฆ์ ทำไมชาวพุทธมารวมเป็นล้านคน ทำให้เกิดแรงบันดาลใจ แล้วก็ต้องการ
หาคำตอบ มาศึกษาค้นคว้า แล้วเขาจะพบคำตอบ

เพราะขณะนี้จริงๆ แล้ว ทั้งโลกกำลังตื่นตัวเรื่องพระพุทธศาสนา เมื่อไม่กี่เดือนที่แล้วมีข่าวว่า
มีการสำรวจเว็บไซต์ในอินเทอร์เน็ตว่า ทางตะวันตก ทั้งในอเมริกา ยุโรป เว็บประเภทไหน หมวดหมู่ไหน

ที่คนสนใจเข้าไปดูมากที่สุด เรียงลำดับ ๑ ถึง ๑๐ ถ้าให้เราเดาคงคิดว่าน่าจะเป็นเกี่ยวกับเรื่องกีฬา
เรื่องเกมคอมพิวเตอร์ หรือข่าวสารบ้านเมือง เรื่องการเมือง รวมถึงภาพยนตร์ต่างๆ อะไรทำนองนี้

ซึ่งมันก็ถูก แต่ว่าหมวดที่คาดไม่ถึงเลยก็คือ หมวดพระพุทธศาสนานี่ติด ๑ ใน ๑๐ ที่คนยุโรป อเมริกา
ชอบไปค้นมากที่สุด รู้สึกว่าจะเป็นที่ ๕ หรือ ๖ อาตมาเห็นเข้ายังงงเลย

นึกไม่ถึงว่าในบ้านเมืองที่ไม่ใช่เมืองพุทธ เขานับถือศาสนาอื่นแท้ๆ แต่เขาสนใจศึกษา
พระพุทธศาสนามากที่สุด พยายามหาความรู้ ด้วยตัวเองว่า พระพุทธศาสนาสอนอะไร

นี่คือ แนวโน้มของโลก คือ เริ่มหาคำตอบว่าคำสอนอะไร ที่จะเป็นที่พึ่ง ที่ระลึก เป็นสรณะของ
เขาได้ในชีวิต แล้วส่วนใหญ่จะมาพบคำตอบในพระพุทธศาสนา แต่เขาแสวงหาอยู่กำลังดูว่าจะ

ไปศึกษาที่ไหนดี เพราะมีหลายแห่งกระจายกันอยู่

ถ้าเราสร้างมหารัตนวิหารคดสำเร็จสมบูรณ์ ศูนย์กลางธรรมกายของโลกสมบูรณ์
รองรับชาวโลก ได้เป็นล้านคน คำตอบของเขาชัดเลยว่า มาที่นี่แล้ว ทุกอย่างได้ครบ เท่านั้นเอง

มันจะเกิดการรวมพลังชาวพุทธครั้งยิ่งใหญ่ทั่วโลก แล้วนำความรุ่งเรืองมาสู่พระพุทธศาสนาในยุค
ปัจจุบันได้อย่างดีเยี่ยมเลย

เพราะฉะนั้น ให้ภูมิใจเถอะที่เราทุ่มสร้าง ขึ้นมา มันคุ้มแสนคุ้ม ถ้ามองดูที่เคยสร้างมาแล้ว
เช่น บรมพุทโธในอินโดนีเซีย ก็เป็นหลักฐานสร้างความรุ่งเรืองได้ในยุคหนึ่ง แล้วทำให้มีโอกาส

ฟื้นฟูพระพุทธศาสนาในอินโดนีเซียได้ดีขึ้น แต่ว่าส่วนใหญ่ ที่มีมาจะเป็นองค์เจดีย์เฉยๆ แต่ที่เราสร้าง
มีทั้งองค์เจดีย์ ลานธรรม มหารัตนวิหารคด แถมไม่พอต้อง ๒ ชั้น มีหลังคาอีก มีสภาธรรมกายสากลจุ

ได้เป็นแสนๆ คนมีอาคารปฏิบัติธรรม ๖๐ ปี มี มหาวิหารหลวงปู่อีก มีที่จอดรถที่ระบบจราจร ทุกอย่าง
พร้อมมูลเพื่อให้ความสะดวกอย่างเต็มที่ เราไม่ได้สร้างไว้เพียงเพื่อเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้ผู้คนมากราบไหว้

บูชาเพียงอย่างเดียว พูดง่ายๆ ไม่ได้สร้างไว้โชว์ แต่สร้างไว้ใช้ มหาธรรมกายเจดีย์เป็นศูนย์รวมจิตใจ
แต่มีพื้นที่รวมประชาชน รวมพระภิกษุสงฆ์ ที่มาปฏิบัติธรรมร่วมกันได้ และระบบรองรับทุกอย่างพร้อมหมด

เมื่อทำได้ครบวงจรอย่างนี้ จึงจะเป็นศูนย์กลาง สร้างความมั่นคงให้เกิดขึ้นกับพระพุทธศาสนา
ในยุคปัจจุบันได้อย่างแท้จริง อีกหน่อยเราจะปลื้มใจ ทุกๆ ครั้ง ที่เห็นคนไหลมาในชุดขาว

มาปฏิบัติธรรมทีละเป็นแสน เป็นล้านคน ทุกสัปดาห์ ทุกเดือน ทุกปี ตลอดไป เห็นแล้วก็ปลื้มว่า
เขากำลังปฏิบัติธรรม ที่ลานธรรม ที่มหารัตนวิหารคดที่เรามีส่วนสร้าง ได้อาศัยร่มเงาของหลังคา

มหารัตนวิหารคดที่เรามีส่วนสร้าง เขากำลังกราบไหว้องค์เจดีย์ ที่มีพระของเราประดิษฐานอยู่
ปลื้มตลอด แล้วความปลื้มนี่แหละ จะน้อมนำใจของเราให้นุ่มนวล แล้วสามารถ เข้าถึงธรรมได้

อย่างสะดวกสบาย เราจะได้ทั้ง บุญหยาบ บุญละเอียด ละโลกไปแล้วก็ไม่ไปที่อื่น
ขอไปพักดุสิตบุรีสักพักหนึ่ง แล้วมาลุยสร้างบารมีกันต่อไป
…………………………………………. ………………………………………………

เหมือนดอกบัวทะยานตัวขึ้นสู่ผิวน้ำ เปิดกลีบรับแสงตะวันธรรม

น้อมนำสู่วิถีอันดีงาม


#2 น้ำใส

น้ำใส
  • Members
  • 778 โพสต์
  • Gender:Male

โพสต์เมื่อ 15 January 2009 - 11:54 AM

โห.....ขึ้น 2 กระทู้เลย ผิดไปแล้ววววววววว

เหมือนดอกบัวทะยานตัวขึ้นสู่ผิวน้ำ เปิดกลีบรับแสงตะวันธรรม

น้อมนำสู่วิถีอันดีงาม


#3 ตำรวจรักบุญ

ตำรวจรักบุญ
  • Members
  • 985 โพสต์

โพสต์เมื่อ 15 January 2009 - 07:01 PM

ดังนั้น วัดพระธรรมกายจึงต้องสร้างให้ใหญ่จะได้เป็นศูนย์กลางของการเผยแพร่และศึกษาคำสอนทางพระพุทธศาสนาของ

ชาวโลกทั้งมวล สาธุครับ

#4 072 ยิ้มแล้วครับ

072 ยิ้มแล้วครับ
  • Members
  • 3 โพสต์

โพสต์เมื่อ 17 January 2009 - 01:18 PM

อ่านแล้วทำให้มีความสุขมากขึ้นจริงๆ อนุโมทนา สา...ธุ ครับ

#5 tanatorn

tanatorn
  • Members
  • 12 โพสต์

โพสต์เมื่อ 17 January 2009 - 08:58 PM

ขออนุโมทนาด้วยนะ


#6 Tree

Tree
  • Members
  • 2076 โพสต์

โพสต์เมื่อ 27 January 2009 - 02:27 AM

สาธุ ครับผม

#7 ธี

ธี
  • Members
  • 16 โพสต์

โพสต์เมื่อ 10 March 2009 - 01:37 PM

ถ้าเราไม่ได้พบพระพุทธศานาก็คงจะมืดมิดอยู่เลยนะเนี่ยครับ