ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
* * * * * 1 คะแนน

ทวยเทพผู้สถิต ณ ผาดำเอย


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 27 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 อริย 072

อริย 072
  • Members
  • 440 โพสต์

โพสต์เมื่อ 02 September 2008 - 04:23 PM

ทวยเทพผู้สถิต ณ ผาดำเอย
ข้าฯ ผู้ครองผ้ากาสาวพัสตร์ อันเป็นธงชัยของพระอรหันต์
ขอปักธงรบอหิงสา ปรโมธัมโม ขึ้น ณ ที่นี้
ด้วยดวงใจข้า เหนือขุนเขาอันเป็นสิริ
ข้าฯ ขอประกาศว่า
ตราบใดที่ สรรพสัตว์ทั้งหลายยังอยู่ในความทุกข์
และยังเป็นบ่าวทาสของพญามาร
ข้าฯ จะขออยู่เยี่ยงนี้
ย่ำธรรมเภรี สืบต่อไป
และจะขอเข้าพระนิพพานเป็นคนสุดท้าย
ขอสรรพสัตว์ทั้งหลายจงมีแต่ความสุขเทอญ

ธมมฺชโย ภิกขุ

พระราชภาวนาวิสุทธิ์ มีนามเดิมว่า ไชยบูลย์ สุทธิผล ถือกำเนิดเมื่อวันเสาร์ที่ 22 เมษายน พ.ศ.2487 ตรงกับวันขึ้น 1 ค่ำ เดือน 6 ปีวอก เวลา 18.๐๐ น. ณ บ้านริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ต.บ้านแป้ง อ.พรหมบุรี จ.สิงห์บุรี ท่านเป็นบุตรของนายช่างใหญ่ กรมโรงงานอุตสาหกรรม นามว่าจรรยงค์ สุทธิผล กับคุณแม่จุรี สุทธิผล ในวันที่ท่านเกิด ญาติพี่น้องที่เคยโกรธเคืองกัน ไม่ไปมาหาสู่กันเป็นเวลานาน ได้หันหน้ามาคืนดีกัน ด้วยมีความชื่นชมยินดีในวันเกิดของหลานชายคนแรก

การเกิดของท่าน จึงเป็นดั่งศุภนิมิตแห่งความสมานสามัคคี ประดุจน้ำฝนตกลงบนพื้นดินเหนียวที่แตกระแหง แล้วประสานรอยร้าวของเนื้อดินนั้นให้เรียบสนิทเป็นผืนแผ่นดินเดียว

เนื่องจากคุณพ่อมีอาชีพรับราชการ ซึ่งต้องเดินทางไปปฏิบัติราชการในต่างจังหวัดบ่อยครั้ง ชีวิตวัยเยาว์ของท่านจึงได้รับการดูแลทั้งจากมารดาและญาติพี่น้อง รวมถึงต้องย้ายที่อยู่เสมอๆ ต่อมาคุณพ่อได้คำนึงถึงอนาคตด้านการศึกษาจึงได้ฝากบุตรชายไว้กับครูบา อาจารย์ในโรงเรียนประจำชื่อโรงเรียนตะละภัฎศึกษา แถวเสาชิงช้า ในชั้นประถมศึกษาปีที่ 1

และนับเป็นความโชคดีของท่าน เพราะเมื่อครั้งอยู่โรงเรียนประจำนั้น เจ้าของโรงเรียนซึ่งเป็นเชื้อพระวงศ์และไม่มีบุตร รู้สึกรักและเอ็นดูถึงกับจะเอ่ยปากขอเป็นบุตรบุญธรรมเพื่อให้สืบทอดมรดก เนื่องจากขณะนั้นคุณพ่อมีบุตรชายเพียงคนเดียวซึ่งเป็นที่รักและหวงแหนจึงไม่ ยอมยกให้ แต่ถึงกระนั้นท่านเจ้าของโรงเรียนก็ยังคงรักใคร่เอ็นดู และพาติดสอยห้อยตามเข้าออกวังสระปทุมอยู่เสมอๆ จนทำให้ได้เรียนรู้ขนบธรรมเนียมของชาววังตั้งแต่นั้นมา และขณะเดียวกันก็ได้มีโอกาสติดตามไปร่วมทำบุญไหว้พระด้วยเสมอ จึงมีความใกล้ชิดกับพระสงฆ์องคเจ้าทำให้จิตใจใฝ่ธรรมะมาตั้งแต่เยาว์วัย

ในปี พ.ศ.2493 คุณพ่อได้รับคำสั่งให้ย้ายไปรับราชการที่จังหวัดเพชรบุรี ท่านจึงจำเป็นต้องลาจากเจ้าของโรงเรียนผู้มีพระคุณ เพราะคุณพ่อได้มารับไปอยู่ด้วย และได้เข้าเรียนในโรงเรียนอรุณประดิษฐ์ ในชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 อยู่กับคุณพ่อได้ปีเศษ ก็ย้ายไปอยู่ที่โรงเรียนสารสิทธิพิทยาลัย ในอำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี เป็นโรงเรียนที่มีชื่อเสียง โดยคุณพ่อพาไปฝากไว้กับคุณครูสมาน แสงอรุณ ซึ่งเป็นครูที่ใจดีและมีจิตใจโอบอ้อมอารี ท่านเรียนอยู่ ณ ที่แห่งนี้จนจบชั้นมัธยมปีที่ 3

ขณะที่มีอายุได้ 13 ขวบ ท่านสามารถสอบแข่งขันเข้าเรียนในชั้นมัธยมปีที่ 4 ของโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย กรุงเทพมหานคร ได้เป็นผลสำเร็จ โดยสอบติด 1 ใน 150 คน จากผู้สมัครกว่า 500 คน วิถีชีวิตที่ต้องดูแลตัวเองตามลำพัง ต้องรู้จักประหยัด อดออม เช่นนี้ จึงหล่อหลอมให้ท่านมีความเข้มแข็งอดทน มีความเชื่อมั่นและรับผิดชอบตนเองสูง แตกต่างจากเด็กชายที่เติบโตจากครอบครัวที่พร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกสบาย ทั่วไป

เนื่องจากฐานะทางครอบครัวไม่ค่อยจะดีมากนัก ท่านจึงต้องประหยัดและอดออมเพื่อใช้เงินเพื่อเป็นค่าอาหารเท่านั้น ท่านไม่สามารถใช้เงินเพื่อซื้อของเล่นได้เหมือนเด็กอื่นๆ บางวันท่านมีเพียงข้าวปล่าวเป็นอาหารกลางวันเท่านั้น ท่านจึงต้องอาศัยความสามารถในการเล่าเรื่องตลกของท่านเพื่อแลกกับกับข้าวเป็นอาหารกลางวัน ชีวิตในช่วงปฐมวัยจึงเปรียบประดุจการเตรียมความพร้อม และหล่อหลอมให้ท่านพร้อมที่จะเติบโตขึ้นมารับภารกิจอันยิ่งใหญ่ ซึ่งเป็นความใฝ่ฝันที่มีมาตั้งแต่เยาว์วัย และได้กลายเป็นจริงในปัจจุบัน

เนื่องจากท่านเป็นคนรักการอ่าน แต่ไม่มีเงินที่จะซื้อหนังสือเก็บไว้เป็นของตนเอง ท่านจึงหาเวลาว่างไปร้านหนังสือ แล้วอ่านเล่มที่ชอบจนกระทั่งถูกเจ้าของร้านไล่ ท่านจึงต้องย้ายไปอ่านเล่มเดิมที่ร้านใหม่ ทำอย่างนี้เรื่อยๆ จากร้านแรกจนกระทั่งร้านสุดท้าย ก็อ่านหนังสือจบพอดี และแล้ววันหนึ่งท่านได้พบหนังสือชื่อ “ธรรมกาย” ซึ่งเขียนตามแนวเทศนาของพระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) หลวงพ่อวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ มีข้อความว่า “ถ้าจะเดินให้ถูกต้องร่องรอยของพระศาสนา ต้องปฏิบัติให้ได้ทั้งรู้ทั้งเห็น” ตอนท้ายเรื่องมีคำยืนยันว่า “วัดปากน้ำนี้เรียนได้ ทั้งรู้ทั้งเห็น” ข้อความดังกล่าว ยิ่งทำให้ท่านเกิดความปีติยินดี ราวกับว่า เดินมาถูกทางแล้ว จึงทำให้ท่านมีความปรารถนาอย่างแรงกล้า ที่จะไปศึกษาธรรมปฏิบัติที่วัดปากน้ำ แล้วความคิดหนึ่งก็พลันบังเกิดขึ้นว่า “วัดปากน้ำอยู่ ณ แห่งหนใด”

ในปี 2506 เมื่อท่านมีอายุได้ 19 ปี ท่านได้เตรียมตัวเพื่อที่จะสอบเข้ามหาวิทยาลัย ก่อนหน้านั้นท่านได้ไปวัดปากน้ำเพื่อเสาะหา “คุณแม่ลูกจันทร์” ซึ่งเป็นอาจารย์สอนสมาธิที่ได้กล่าวไว้ในนิตยาสาร เมื่อได้ไปถึงวัดปากน้ำ แต่ท่านก้อไม่พบ มีแต่คนบอกว่ามีแต่ อาจารย์จันทร์ ซึ่งท่านคิดว่าคงเป็นคนละคน จึงทำให้ได้ไม่ได้พบกับอาจารย์ดังที่ตั้งใจไว้ แล้วท่านก็ได้กลับไปจนสามารถสอบเข้ามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ได้สำเร็จ

ในปีการศึกษาแรกท่านจึงได้เดินทางมาวัดปากน้ำอีกครั้ง ในครั้งนี้ท่านได้ไปศึกษาสมาธิกับพระอาจารย์องค์อื่นก่อน และได้มารู้ในภายหลังว่า คุณแม่จันทร์ กับ อาจารย์จันทร์นั้นเป็นบุคคลคนเดียวกัน และในที่สุดท่านจึงพบกับอาจารย์ที่ทำให้ความฝันของท่านเป็นจริง ท่านรักและเคารพอาจารย์ของท่านมาก และมักจะเรียกอาจารย์ว่าคุณยาย ซึ่งทำให้เมความสนิทสนมเหมือนญาติผู้ใหญ่มากกว่าอาจารย์กับศิษย์

หลายปีผ่านไป ท่านได้ฝึกสมาธิจนกระทั่งเชี่ยวชาญชำนาญ สมดังใจที่ตนเองปรารถนาไว้ ได้รู้และได้เห็นธรรมะตามพระสัมมาสัมมาพุทธเจ้า และได้รู้ว่าด้วยสมาธิเท่านั้น จะทำให้มวลมนุษยชาติพ้นจากทุกข์และภัยจากสังสารวัฏ ในที่สุดก็จะพบกับความสุขที่ยิ่งใหญ่ คือ พระนิพพาน ท่านจึงได้ขออนุญาตจากยายว่าจะบวชเพื่อศึกษาธรรมะให้ยิ่งๆขึ้นไป ซึ่งยายก็อนุญาตหลังจากท่านเรียนจบมหาวิทยาลัยแล้ว ในวันคล้ายวันเกิดของคุณยายในปี พ.ศ. 2511 ท่านจึงแสดงความกตัญญูกตเวทีต่อคุณยาย ด้วยการตั้งสัจจะอธิษฐานขอประพฤติพรหมจรรย์ไปตลอดชีวิต เป็นของขวัญวันเกิดแด่คุณยายอาจารย์ซึ่งถือเป็นของขวัญอันล้ำค่ายิ่ง

หลังจากบวชแล้วท่านได้กล่าวถึงอุดมการณ์ในการออกบวช ไว้ตอนหนึ่งว่า:
“การบวชเป็นพระไม่ใช่ของง่าย หาใช่ครองผ้ากาสาวพัสตร์แล้วจะเป็นพระได้ จะต้องปฏิบัติกิจวัตรของสงฆ์ซึ่งมีศีล ๒๒๗ ข้อ ให้ถูกต้องตามพระธรรมวินัย… การบวชนั้นถ้าจะให้ได้บุญกุศล ควรจะเป็นที่พึ่งของพระศาสนาได้ด้วย ไม่ใช่บวชมาเพื่อพึ่งพระศาสนาอย่างเดียว"

ปีนี้เป็นปีที่ 39 ในเพศสมณะของท่าน ท่านได้อุทิศแรงกายแรงใจ ในการทำงานเพื่อพระพุทธศาสนาและสันติภาพโลก มาอย่างตลอดต่อเนื่อง เพราะท่านทราบดีว่า สันติสุขของมวลมนุษยชาติจะเกิดขึ้นได้ด้วยสันติสุขภายในเท่านั้น และด้วยสันติภาพภายใน มนุษย์จึงจะมีความสุขอย่างแท้จริง

ที่มา DMC.TV


#2 สาธุธรรม

สาธุธรรม
  • Members
  • 1124 โพสต์

โพสต์เมื่อ 02 September 2008 - 04:48 PM

สาธู๊ ค่ะ
หยุดนิ่งนั้นแหละไซร้ พรหมจรรย์
พระผุดผ่านทุกวัน สะอาดเกลี้ยง
นิวรณ์หมดสุขสันต์ สดชื่น
ชีพรื่นธรรมหล่อเลี้ยง ผ่องทั้งกายใจ

สุนทรพ่อ

#3 ฟ้ายังฟ้าอยู่

ฟ้ายังฟ้าอยู่
  • Members
  • 2511 โพสต์

โพสต์เมื่อ 02 September 2008 - 08:33 PM

- อนุโมทนาบุญกับเจ้าของกระทู้ค่ะ

- ข้อมูลนี้เป็นบทความที่เขียนขึ้นเพื่อวันธรรมชัย สำหรับเว็บมูลนิธิธรรมกายค่ะ (เีขียนโดยคุณ innerspot)

- สงวนสิทธิ์ในการโพสท์รูปพระเดชพระคุณหลวงพ่อทุกกรณีค่ะ ภาพที่อยู่ที่นิทรรศการ สามารถไปชมได้ที่นิทรรศการแต่เพียงเท่านั้นค่ะ ขออภัยเป็นอย่า่งสูง
"เกิดมาว่าจะมาหาแก้ว พบแล้วไม่กำจะเกิดมาทำไม
อ้ายที่อยากมันก็หลอก อ้ายที่หยอกมันก็ลวง ทำให้จิตเป็นห่วงเป็นใย.."
พระมงคลเทพมุนี (สด จันทสโร)


#4 รับบุญ

รับบุญ
  • Members
  • 120 โพสต์
  • Gender:Female

โพสต์เมื่อ 02 September 2008 - 08:49 PM

เข้าวัดมาหลายปีเพิ่งรู้วันนี้ เพราะไม่เคยเห็นมีการจัดพิมพ์เป็นหนังสือประวัติหลวงพ่อเลย อยากให้มีหนังสือที่รวมประวัติหลวงปู่ฯ คุณยายฯ และหลวงพ่อฯ จัง อนุโมทนาบุญด้วยค่ะ

#5 KAMOLPORN

KAMOLPORN
  • Members
  • 51 โพสต์

โพสต์เมื่อ 02 September 2008 - 09:33 PM

anumothana.....sathu sathu sathu
ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว
ทำดีได้กับตัว ทำชั่วไม่ได้ดี

#6 somchet

somchet
  • Members
  • 900 โพสต์

โพสต์เมื่อ 02 September 2008 - 09:33 PM

สาธุครับ

#7 kong_072

kong_072
  • Members
  • 38 โพสต์

โพสต์เมื่อ 02 September 2008 - 09:56 PM

อนุโมทนาบุญด้วยครับ น่าปลื้มใจจริงๆครับ ทุกอย่างเลย

#8 บุญโต

บุญโต
  • Members
  • 2192 โพสต์
  • Gender:Female
  • Location:อนุเสาวรีย์ชัยสมรภูมิ
  • Interests:ปฏิบัติธรรม

โพสต์เมื่อ 02 September 2008 - 09:57 PM

สาธุ สาธุ สาธุ

#9 วันใส

วันใส
  • Members
  • 93 โพสต์

โพสต์เมื่อ 02 September 2008 - 10:55 PM

สาธุค่ะสำหรับเจ้าของกระทู้ที่นำประวัติของพระเดชพระคุณหลวงพ่อฯ มาให้ได้ทราบกัน
อ่านแล้วยิ่งรู้สึกซาบซึ้งในมโนปณิธานของหลวงพ่อมาก ที่ท่านกล่าวว่าพระจะต้องเป็นที่พึ่งให้แก่พระศาสนาได้ ไม่ใช่จะมาพึ่งแต่พระศาสนา แล้วท่านก็ทำให้เห็นจริงว่าท่านสามารถเป็นที่พึ่งแก่พระศาสนาและพุทธบริษัทได้
อยากให้หลวงพ่อดูแลสุขภาพด้วยค่ะ
แม้มืดตื้อมืดมิดก็มีสิทธิเข้าถึงธรรม

#10 hung

hung
  • Members
  • 51 โพสต์
  • Location:19/3 ซ.สาธุประดิษฐ์ 57 บางโพงพาง ยานนาวา กทม. 10120
  • Interests:พระพุทธศาสนา ฟูตบอล

โพสต์เมื่อ 03 September 2008 - 08:19 AM

อ่านแล้ว ก็ซาบซึ้ง พวกเราโชคดีที่มีแสงสว่างส่องนำชีวิตตลอดทุกภพทุกชาติ สาธุ

#11 นักรบเผ่าพันธุ์ตะวัน

นักรบเผ่าพันธุ์ตะวัน
  • Members
  • 380 โพสต์
  • Gender:Male

โพสต์เมื่อ 03 September 2008 - 08:56 AM

ขอกราบอนุโมทนาบุญด้วยน่ะครับ สาธุ สาธุ สาธุ
เพราะเป้าหมายของพวกเราคือ "ที่สุดแห่งธรรม"

#12 usr23268

usr23268
  • Members
  • 81 โพสต์

โพสต์เมื่อ 03 September 2008 - 10:11 AM

สาธุ ครับ

#13 WISH

WISH
  • Moderators
  • 3579 โพสต์

โพสต์เมื่อ 03 September 2008 - 11:02 AM

สาธุ....
ทำไมต้อง หาคำตอบ ณ แดนไกล ลืมหรือไร ว่าอยู่ใกล้ DMC

#14 Ozeria

Ozeria
  • Members
  • 879 โพสต์

โพสต์เมื่อ 03 September 2008 - 12:06 PM

สาธุค่ะ

ได้อ่านบทความแบบนี้หลายครั้งแล้ว แต่อ่านทุกครั้งก็ซาบซึ้งใจ ทุกครั้งเลยค่ะ

ขอตามติดหลวงพ่อ หลวงปู่ คุณยาย และหมู่คณะไปทุกภพ ทุกชาติ จนถึงที่สุดแห่งธรรมเลยค่ะ

ใครไปด้วย ยกมือขึ้น

สาธุ อนุโมทนาบุญค่ะ

ลูกพระธัมฯ หลานหลวงปู่ หลานคุณยาย

#15 usr20663

usr20663
  • Members
  • 65 โพสต์

โพสต์เมื่อ 03 September 2008 - 12:25 PM

สาธุ สาธุ สาธุ ครับ

#16 v.chiap

v.chiap
  • Members
  • 109 โพสต์

โพสต์เมื่อ 03 September 2008 - 12:56 PM

ถ้อยคำเก่าแก่แต่ล้ำค่า ไม่ได้ยินมาร่วม๒๐ปีแล้ว
สาธุ ขอบคุณท่านเจ้าของกระทุ้เป็นอย่างยิ่งครับท่าน
ขอติดตามสร้างบารมีกับพระเดชพระคุณหลวงปู่ หลวงพ่อ คุณยาย ไปจนกว่าจะถึงที่สุดแห่งธรรม

#17 ต้มข่าไก่

ต้มข่าไก่
  • Members
  • 193 โพสต์

โพสต์เมื่อ 03 September 2008 - 01:14 PM

สาธุครับ


#18 แก้วกุญชร

แก้วกุญชร
  • Members
  • 8 โพสต์
  • Gender:Female

โพสต์เมื่อ 03 September 2008 - 02:09 PM

กราบแทบเท้าพระเดชพระคุณหลวงพ่อ โชคดีที่ลูกหญิงได้มาเจอพระเดชพระคุณหลวงพ่อ ได้มารู้เรื่องจริงของชีวิตที่แท้จริงได้ศึกษา ได้เรียนรู้ ได้ปฎิบัติตาม จะขอทำให้ดียิ่งๆ ขึ้นไป และขอติดตามไปตราบถึงที่สุดแห่งธรรมค่ะ

#19 ปัจเจกชน บนทางสายกลาง

ปัจเจกชน บนทางสายกลาง
  • Members
  • 4109 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:จ. สงขลา

โพสต์เมื่อ 03 September 2008 - 02:13 PM

อนุโมทนาบุญด้วยนะครับ สาธุ

#20 usr23287

usr23287
  • Members
  • 20 โพสต์

โพสต์เมื่อ 03 September 2008 - 03:43 PM

สาธุค่ะ

#21 อริย 072

อริย 072
  • Members
  • 440 โพสต์

โพสต์เมื่อ 03 September 2008 - 04:04 PM

ผู้โพสต์ ได้ไปอ่านมา ตอนอ่านรู้สึกปลื้ม..จนขนลุก
...ปิติมาก โดยเฉพาะ เวลาอ่าน ปณิธาน ของท่าน
เลยอยากเอามาให้ชาวกระทู้ได้อ่านง่ายๆ กันจ้า
จะได้รู้ ได้เห็น ประวัติของพระพ่อ กันบ่อยๆ จะได้จำได้ด้วยนะ
ก็เราเป็น ลูกในใส้กลางท่านนี่นา...
...
ขออนุโมทนา กับท่าน INNER SPOT ผู้เรียบเรียง
และ คุณ ฟ้าร้าง ที่ได้ชี้แจง รายละเอียดเพิ่มเติมนะจ๊ะ
เพราะผู้โพสต์ ได้แต่แจ้งที่มา ให้ไว้เฉยๆ


#22 บ่าวอุบล

บ่าวอุบล
  • Members
  • 632 โพสต์

โพสต์เมื่อ 03 September 2008 - 05:13 PM

สาธุครับ ได้รู้ข้อมูลที่ไม่เคยรู้มาก่อน

#23 ณ ๐๗๒

ณ ๐๗๒
  • Members
  • 1340 โพสต์
  • Location:Ladkrabang

โพสต์เมื่อ 03 September 2008 - 06:18 PM

ผาดำ อยู่ส่วนไหนของประเทศไทย อยู่ที่จังหวัดไหน??

ลองค้นใน google ดู อยู่ในจังหวัดสงขลา และพเยาว์ สองแห่งนี้เป็นที่ไหนกันแน่?



ดอยผาดำ จ.พเยาว์
เป็นหน้าผาหินปูนขนาดใหญ่ที่ตั้งตระหง่านอยู่ตรงกันข้างกับถ้ำผาแดง และถ้ำน้ำลอด บนหน้าฝา สามารถชมวิวทิวทัศน์ได้รอบด้าน

ดอยผาดำอยู่ในอุทยานแห่งชาติภูซาง

อุทยานแห่งชาติภูซาง
อุทยาน แห่งชาติภูซาง เป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาดอยผาหม่น อยู่ในเขตกิ่งอำเภอภูซาง อำเภอเชียงคำ จังหวัดพะเยา และอำเภอเทิง จังหวัดเชียงราย มีอาณาเขตติดต่อกับสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวเป็นแนวเขตยาวประมาณ 30 กิโลเมตร มีพื้นที่ทั้งหมด 178,049 ไร่ พื้นที่ดังกล่าวเป็นป่าดิบเขา ป่าดิบแล้ง และป่าเบญจพรรณ พันธุ์ไม้ที่มีค่า ได้แก่ ไม้ยาง ไม้ตะเคียน จำปีป่า ยมหอม ประดู่ สัก และรัง เป็นต้น พื้นที่มีลักษณะเป็นเทือกเขาสูงสลับซับซ้อน มียอดเขาดอยผาหม่น ซึ่งเป็นแหล่งต้นน้ำของแม่น้ำลาว น้ำเปื่อย น้ำบง และน้ำญวณ เพื่อใช้หล่อเลี้ยงพื้นที่เกษตรกรรมของอำเภอเชียงคำ กิ่งอำเภอภูซาง จังหวัดพะเยา และอำเภอเทิง จังหวัดเชียงราย นอกจากธรรมชาติที่สมบูรณ์ บริเวณอุทยานฯ ยังมีเต่าปูลู ซึ่งเป็นเต่าพันธุ์ที่หายากและใกล้สูญพันธ์ มีขนาดเล็ก ตัวเตี้ย หางยาว และด้วยเป็นเต่าพันธุ์หัวโต ขาทั้ง 4 ข้างและหางไม่สามารถหดเข้ากระดองได้ เวลามีศัตรูหรือภัยมา โดยเฉพาะเวลาเกิดไฟไหม้ป่าจะพบเต่าปูลูถูกไฟไหม้ตายเป็นประจำ เต่าปูลูจึงถูกนำมาเป็นสัญลักษณ์ในการป้องกันไฟป่าของเมืองไทย เต่าปูลูเป็นเต่าที่ชอบอยู่ในป่าอุดมสมบูรณ์บนภูเขาสูงใกล้น้ำตกหรือลำห้วย ที่มีน้ำใสไหลผ่านตลอดเวลา สามารถชมเต่าพันธุ์นี้ได้ในเวลากลางคืนขณะ กำลังออกหากิน อุทยานมีสถานที่น่าสนใจ ได้แก่

น้ำตกภูซาง เป็นน้ำตกขนาดเล็ก มีน้ำตลอดปี สูง 25 เมตร เป็นน้ำตกที่เป็นน้ำอุ่น ๓๓ องศาเซลเซียส น้ำใส ไม่มีกลิ่นของกำมะถัน น้ำตกนี้ตั้งอยู่ริมถนนอยู่ห่างจากที่ทำการอุทยาน 300 เมตร ฝั่งตรงข้ามน้ำตกมีร้านสวัสดิการสามารถนั่งพักผ่อนและรับประทานอาหารได้
บ่อ น้ำซับอุ่น เป็นบ่อซับอุ่นตามธรรมชาติอุณหภูมิประมาณ 35 องศาเซลเซียส เป็นต้นกำเนิดของน้ำตกภูซาง ด้านบนของน้ำตกภูซางสภาพป่าโดยรอบเป็นป่าดิบชื้นและป่าพรุที่สมบูรณ์

ถ้ำผาแดง เป็นถ้ำหินปูนขนาดใหญ่ ลึก 450 เมตร เป็นถ้ำที่มีหินงอกหินย้อยสวยงาม อยู่ห่างจากอุทยานฯ 48 กิโลเมตร การเดินเที่ยวชมถ้ำต้องมีเจ้าหน้าที่นำทาง และควรแจ้งล่วงหน้า
ถ้ำน้ำ ลอด เป็นถ้ำหินขนาดเล็กอยู่เชิงดอยผาแดง ห่างจากถ้ำผาแดงประมาณ 10เมตร ถ้ำลึก 250เมตร มีธารน้ำไหลผ่านตลอดทั้งถ้ำ ระดับน้ำลึก 50–100เซนติเมตร การเที่ยวชมภายในถ้ำต้องเดินลุยน้ำตลอด และต้องมีคนนำทาง

ดอยผาดำ เป็นภูเขาที่มีหน้าผาขนาดใหญ่เป็นปฎิมากรรมของธรรมชาติที่มีความสวยงามอีก รูปแบบหนึ่ง มีความสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ประมาณ 1,096เมตร ดอยผาดำตั้งตระหง่านอยู่เหนือหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติภูซางที่ 1 (ผาแดง) อยู่ในพื้นที่ตำบลร่มเย็น อำเภอเชียงคำ จังหวัดพะเยา อยู่ห่างจากอุทยานฯ 47กิโลเมตร การเดินเที่ยวชมต้องใช้เวลา 3-4ชั่วโมง และควรมีเจ้าหน้าที่นำทาง

ถ้ำหลวง เป็นถ้ำหินปูนขนาดใหญ่ ลักษณะถ้ำกว้างแต่ไม่ลึก ประมาณ 200 เมตร เป็นที่ตั้งของหน่วยพิทักษ์อุทยานที่ 2 (ห้วยสา) ห่างจากหน่วยพิทักษ์ฯ 500 เมตร และห่างจากที่ทำการอุทยาน 32 กิโลเมตร การเดินเข้าชมถ้ำต้องปีนเขาบ้างเล็กน้อย และควรมีเจ้าหน้าที่นำทางถ้ำน้ำดัง เป็นถ้ำขนาดใหญ่มีน้ำตก ภายในมีหินงอกหินย้อยที่สวยงามมาก เคยเป็นที่ซ่อนของ ผกค.

เส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ อุทยานฯ มี 3 เส้นทาง ระยะทาง 1,400 เมตร (เส้นห้วยเมี่ยง ) ระยะทาง 1,700 เมตร (เส้นน้ำตกภูซาง) และระยะทาง 2,400 เมตร (เส้นห้วยสา) แต่ละเส้นทางใช้เวลาเดินประมาณ 2 ชั่วโมง จะมีป้ายสื่อความหมายสามารถเดินเองได้

สิ่งอำนวยความสะดวก
อุทยานมีบ้านพักและสถานที่กาง เต็นท์ และร้านค้าสวัสดิการบริการนักท่องเที่ยว สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ อุทยานแห่งชาติภูซาง ตำบลภูซาง กิ่งอำเภอภูซาง จังหวัดพะเยา 56110 โทร. 0 5440 1099

การเดินทาง
รถยนต์ อุทยานฯ อยู่ห่างจากจังหวัดพะเยา 90 กิโลเมตร ไปตามเส้นทางสายพะเยา-ดอกคำใต้ –จุน-เฃียงคำ และห่างจากอำเภอเชียงคำไปตามทางหลวงหมายเลข 1093 ประมาณ 20กิโลเมตร จากเชียงคำก่อนถึงโรงเรียนภูซางวิทยาคมเลี้ยวขวาเข้ามาผ่านที่ว่าการกิ่ง อำเภอภูซาง หรือเดินทางจากจังหวัดเชียงราย-เทิง-เชียงคำ ระยะทาง 100 กิโลเมตร ตามทางหลวงหมายเลข1021

รถประจำทาง นั่งรถสายพะเยา-อำเภอเชียงคำ หรือจากเชียงราย-อำเภอเชียงคำ แล้วต่อรถโดยสารประจำทางขนาดเล็กสายเชียงคำ-บ้านฮวก รถจะผ่านที่ทำการอุทยานตามทางหลวงหมายเลข 1093 ประมาณ 20 กิโลเมตร

ความพร้อมเกิดขึ้น เมื่อเริ่มต้นลงมือทำ (โอวาทหลวงพ่อ 27/4/51)

ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจบุรุษให้หลงใหลได้มากเท่ากับสตรี  ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจสตรีให้หลงใหลได้มากเท่ากับบุรุษ
แท้จริงแล้วความรักก็เปรียบดั่งเครื่องพันธนาการ  ที่มัดตรึงเหนียวแน่น ให้ลุ่มหลงอยู่ ย่อมจะต้องเวียนว่ายตายเกิดและจมอยู่ในกองทุกข์ร่ำไป


#24 Dd2683

Dd2683
  • Members
  • 2477 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:กรุงเทพ มหานคร
  • Interests:ความรู้ในพระพุทธศาสนา-วิชชาธรรมกาย<br />ผลแห่งการปฏิบัติธรรม

โพสต์เมื่อ 03 September 2008 - 11:41 PM

อนุโมทนา เจ้าของกระทู้ ที่นำบันทึก มโนปณิธานของพระเดชพระคุณ หลวงพ่อ ธัมมชโย มาฝากครับ
สาธุ สาธุ สาธุ

และจาก มโนปณิธานนี้ ส่งผลให้เกิดการสร้างบารมีอื่น ๆ อีกมากมายตามมา
จึงทำให้ผมคิดว่า ท่านเป็นคน แบบว่า

1 ) ตรงไปตรงมาอย่างอ้อมค้อม

- ตรง
หมายความว่า เป้าหมาย ความปรารถนาและมโนปณิธานของท่าน เที่ยงตรงและชัดเจน

เป้าหมาย คือ ที่สุดแห่งธรรม

ความปรารถนา คือ อยากให้มนุษย์ทุกคน ทุก เชื้อชาติ และเผ่าพันธุ์ เข้าถึงสันติสุขอันไพบูลย์
คือ พระรัตนตรัยภายใน เข้าถึงพระธรรมกายและวิชชาธรรมกาย

มโนปณิธาน คือ รื้อขนสรรพสัตว์ให้บรรลุ มรรค ผล นิพพาน เข้าสู่ที่สุดแห่งธรรม

และที่ไม่มีในพจนานุกรมหรือคัมภีร์ฉบับใดๆ คือ ท่านขอเข้าพระนิพพานเป็นคนสุดท้าย ....

โดยเฉพาะยิ่งความคิด มโนปณิธานแบบนี้เป็นอะไรที่อัศ+มหัศจรรย์ เกินที่ใครๆๆจะคิดได้นะครับ
ไม่ใช่แค่อัศจรรย์พันลึก แต่ต้องเป็นมหัศ x อัศจรรย์อสงไขยลึกแล้วครับ

เพราะแม้แต่นักสร้างบารมีที่เป็นพระบรมนิยตโพธิสัตว์ ผู้ที่เข้าใจสภาพสังสารวัฎฎ์อย่างถ่องแท้
ก็ยังไม่ปรากฏว่า มีท่านใดมีมโนปณิธาน อะไรแบบนี้
ทั้งนี้เพราะ สังสารวัฎฎ์มีอันตรายยิ่งนัก อบายภูมิมีทุกข์ยาวนานยิ่งนัก
ลำพังแค่เอาตัวให้หลุดพ้นจาก กามภพ ก็ยากแสนยากยิ่งแล้ว
มิต้องกล่าวถึงการหลุดพ้นจาก รูปภพและอรูปภพ

เพราะฉะนั้นบุคคลใดที่อาสา ย่ำธรรมเภรี เพื่อรื้อขนปวงสรรพสัตว์ให้หลุดพ้นวัฏฏะสงสาร
ต้องสร้างบารมีให้ยิ่งยวดกว่าผู้อื่น ต้องเหน็ดเหนื่อย ยอมพลีกาย ลำบากแสนสาหัส

ดังอุปมา

แม้นว่าพระอนุตรสัมมาสัมโพธิญาณ อยู่ในอเวจีมหานรก ต้องแหวกว่าย ดำดิ่งฝ่าทะเลน้ำกรดนรก
เพื่อนำอนุตรสัมมาสัมโพธิญาณ มาช่วยปวงสรรพสัตว์ให้พ้นทะเลทุกข์ในสังสารวัฏฏ์ .... ก็ยอม

บุคคล ที่มีความปรารถนาและมโนปณิธานเช่นนี้หาได้ยาก ...
ปวงมนุษย์และเทวา จึงเคารพ เลื่อมใส แซ่ซ้องสาธุการและสักการะ บุคคลเช่นนี้.

ลองตรองดู ....
มนุษย์ผู้เป็นทหารของพระนิพพาน กี่ยุคกี่สมัย กี่กัป กี่อสงไขยกัป
ได้บรรลุมรรค ผล นิพพานแล้วนับอสงไขยไม่ถ้วน
แต่อีกเท่าไหร่ ที่ยังเวียนเกิดสร้างบารมีเพื่อให้หลุดพ้นวัฏฏะแห่งมาร เข้าสู่มหาอมตนฤพาน
จำนวนนักรบที่ยังตกค้างช่าง ... มีมากมายมหาศาลเหลือเกิน

เพราะฉะนั้นบุคคลใดที่อาสา ย่ำธรรมเภรี เพื่อรื้อขนปวงสรรพสัตว์
และขอเข้าพระนิพพานเป็นคนสุดท้าย

จึงเป็นอะไรที่ผมมิอาจหาถ้อยคำใดๆ พรรณนาได้ในที่นี้.

มโนปณิธานเช่นนี้ มิบังควรที่ใครๆ โต้แย้งว่า เป็นการเพ้อฝันหรือเว่อร์เกินไป
แต่บังควร ยินดี อนุโมธนา สาธุการกับบุคคลผู้มีและมุ่งมั่นทำมโนปณิธานนี้ให้สำเร็จ
บังควรสนับสนุน การก่อการดีอันประเสริฐของท่าน

ส่วนเป็นคนอ้อมค้อม
หมายความว่า
ชีวิตท่านสร้างบารมี เพื่อให้มนุษย์ทุกคน ทุก เชื้อชาติ และเผ่าพันธุ์ เข้าถึงสันติสุขอันไพบูลย์
แต่เนื่องจากระดับของสัมมาทิฎฐิ ระดับของความเห็นแจ้ง
ระดับของความสะอาดและละเอียดของญาณทัสสนะของบุคคลทั่วไป มีไม่เท่าของท่าน
จึงพลอยไม่เข้าใจในสิ่งที่ท่านคิด ในสิ่งที่ท่านพูด ในสิ่งที่ท่านทำไปด้วย

ดังนั้นท่างจึงต้อง อ้อมค้อม สร้างโปรเจ๊กท์บุญมากมาย เช่น
สร้างพุทธ-ศาสนสถาน
สถาปนาศูนย์พุทธจักปฏิบัติธรรม วัดพระธรรมกาย , มหาธรรมกายเจดีย์ , มหาสภาธรรมกายสากล ,
มหาวิหารพระมงคลเทพมุนี , มหาวิหารคุณยายอาจารย์ และมหารัตนวิหารคดในปัจจุบัน ฯลฯ

ทุกสิ่งทุกอย่างที่ท่านทำ ตรงไปตรงมาอย่างยิ่งยวด คือ
เพื่อให้มนุษย์ทุกคน ทุก เชื้อชาติ และเผ่าพันธุ์ เข้าถึงสันติสุขอันไพบูลย์
เพื่อให้มนุษย์ทุกคน ทุก เชื้อชาติ และเผ่าพันธุ์ ได้บรรลุ มรรค ผล นิพพาน

แต่ต้องทำแบบอ้อมค้อม ผ่านโครงการบุญต่างๆมากมาย เพื่อให้เข้าถึงมนุษย์ที่มี
ระดับความรู้ ความเข้าใจ ความเชื่อ ความศรัทธา
ระดับทิฎฐิ ศีล สมาธิ ปัญญา วิมุติ วิมุติญาณทัสสนะต่างๆกัน
ดังนี้แล

2 ) ผมคิดว่า ท่านเป็นคน แบบว่า

อ้อมค้อม แบบตรงไปตรงมา

หมายความว่า

ฉากหน้าท่านต้องอ้อมค้อม สร้างโครงการบุญต่างๆ เพื่อให้มนุษย์ได้โอกาสสร้างบุญบารมี
และเมื่อสั่งสมบุญกันเข้มข้นมากขึ้น
ระดับความรู้ ความเข้าใจ ความเชื่อ ความศรัทธา
ระดับทิฎฐิ ศีล สมาธิ ปัญญา วิมุติ วิมุติญาณทัสสนะ
ความสะอาดของใจ เห็น จำ คิด รู้ และธาตุธรรมภายใน อยู่ใกล้เคียงกันมากขึ้น
ทุกๆคนจะเข้าใจได้เอง ว่า

ฉากหลัง คือ การเข้าถึงสันติสุขอันไพบูลย์ ทั้งในโลกนี้และโลกหน้า
ซึ่งเป็นการทำแบบอ้อมค้อม เพื่อหวังผลโดยตรง อย่างตรงไปตรงมา
ตรงหนทางพระนิพพานที่สุด คือ

ใจเราต้องฝึก ... หยุด ... อยู่ตรงที่ ศูนย์กลางกายฐานที่ 7 ทั้งกลางวันและกลางคืน ทั้งหลับและตื่น
ทั้งอิริยาบถ นั่ง นอน ยืน เดิน

สมดังสุนทรพ่อ

ให้ลูก หยุดนิ่งไว้ กลางกาย

พระไม่ถ้วน มากมาย ผุดซ้อน

ยิ่งหยุด ยิ่งขยาย ไม่หยุด

ต้นสุดมาร เร่าร้อน ออดอ้อน กลัวสลาย
.

ท้ายนี้ขอน้อมนำบทกวีของสามเณรอภิญญา ที่ระลึกถึงพระเดชพระคุณดังนี้ครับ


พระ พ่อผู้ยิ่งใหญ่ ธ เกริกไกรในธาตุธรรม
ผู้ สั่งสอนแนะนำ ทางสุขล้ำกลางกายา
ชี้ ส่องในกมล เพื่อหลุดพ้นวนสังสาร์
ทาง เอกแห่งชีวา เป็นทางพาจนสุดธรรม.

***
ใจหยุดที่สุดแห่งบุญ มุ่งสู่ที่สุดแห่งธรรม

#25 แก้วกุญชร

แก้วกุญชร
  • Members
  • 8 โพสต์
  • Gender:Female

โพสต์เมื่อ 04 September 2008 - 10:39 AM

ขอกราบอนุโมทนาถ้อยคำอันทรงพลังทุกตัวอักษร และผู้ที่นำมาเปิดเผยทุกท่าน เคยได้ยินพระอาจารย์เล่าให้ฟังถึงมโนปนิธานของหลวงพ่อ ความรู้สึกก็เกินจะบรรยายอยู่แล้ว ยิ่งได้มาอ่านเจอเต็ม ๆ แบบนี้ ยิ่งมั่นใจค่ะ ว่าต้องสู้ด้วยธรรมจึงจะชนะ

#26 usr17119

usr17119
  • Members
  • 47 โพสต์

โพสต์เมื่อ 04 September 2008 - 05:55 PM

อนุโมทนาบุญ สาธุค่ะ


#27 I3_A_IN_IK

I3_A_IN_IK
  • Members
  • 38 โพสต์

โพสต์เมื่อ 05 September 2008 - 05:21 AM

สาธุครับ... cool.gif
------------------------------------------

ขออนุโมทนา
กับทุกรอยยิ้ม
เพื่อการสร้างบารมี

-------------------------------------------

#28 Jengiskhan

Jengiskhan
  • Members
  • 560 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:กุงเท่

โพสต์เมื่อ 05 September 2008 - 05:17 PM

ตอนที่บวช ธรรมทายาท รุ่นบูชาธรรมเฟส 1
มีออกข้อสอบด้วยนะครับ คาดไม่ถึงว่าจะเอามาออกสอบ
ให้เขียนคำปณิธานนี้ของหลวงพ่อน่ะครับ
มาเฉลยข้อสอบให้แล้วนะครับ ถ้างั้นใครจะบวช อย่าลืมท่องให้ขึ้นใจก่อนเข้าไปบวชนะครับ
ระวังจะทำข้อสอบไม่ได้ บอกแล้วนะครับ