ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
- - - - -

อะไรกันนี่...คุณหมอ...ใจร้ายจัง


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 38 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 บุญโต

บุญโต
  • Members
  • 2192 โพสต์
  • Gender:Female
  • Location:อนุเสาวรีย์ชัยสมรภูมิ
  • Interests:ปฏิบัติธรรม

โพสต์เมื่อ 16 May 2006 - 12:44 PM

สักครู่นี้...พอดีน้องที่ออฟฟิศได้รับโทรศัพท์จากทางบ้าน
ต้องไปหาคุณยายที่โรงพยาบาลด่วน
คุณยายไตวาย......
ที่บ้านของน้องพูดว่า หมอถามว่า "ให้เลือกเอาว่า...จะล้างไตหรือจะปล่อยให้ไป......เลย....ถ้าเลือกล้างไตต้องเสียค่าใช้จ่ายสูงนะ"[i]
น้องน้ำตาซึม..รีบกลับบ้านไปแล้วค่ะ บอกว่ายังงัยก็จะจ่าย

#2 n00m

n00m
  • Moderators
  • 637 โพสต์
  • Location:Patumthanee

โพสต์เมื่อ 16 May 2006 - 01:26 PM

ไม่เป็นไรครับ อย่าไปขุ่นเคืองเพราะเรื่องแบบนี้เลย หมอท่านนั้นคงไม่ได้เรียนรู้ความจริงของชีวิต หรือถึงจะมีท่านก็คงลืมเอาศิลปะการพูดมาจากบ้าน อย่าไปถือโทษ โกรธแค้นเลยครับ ท่านก็จะมีวิบากของท่านเองแหละครับ

ทำใจสบาย อยู่ในบุญ แล้วทำตามหลักวิชชาดีกว่าครับ ไม่ว่าเจ็บป่วยหรือจะดียังไง พระรัตนตรัยเท่านั้นที่เป็นที่พึ่งที่แท้จริง ขอให้บุญรักษานะครับ

#3 MiraclE...DrEaM

MiraclE...DrEaM
  • Members
  • 1368 โพสต์

โพสต์เมื่อ 16 May 2006 - 02:22 PM

QUOTE
คุณยายไตวาย......

โรคเกี่ยวกับไต เป็นโรคที่เกิดจากวิบากกรรมปล่อยกู้ดอกโหดครับ พวกขูดรีดขูดเนื้อมาก่อน

สิ่งอัศจรรย์ ปรากฏ บนผืนหล้า
มหาวิหาร จรัสฟ้า ค่ายิ่งใหญ่
รูปทอง ผ่องผุด ดุจยองใย
สะท้อนถึง ห้วงดวงใจ สุดบูชา

*********************

รักษ์ร่างพอสร่างร้าย ..... รอดตน
ยอดเยี่ยม "ธรรมกาย" ผล ..... ผ่องแผ้ว

เลอเลิศล่วงกุศล ..... ใดอื่น
เชิญท่านถือเอาแก้ว ..... ก่องหล้าเรืองสกล


คำสอนของเดชพระคุณหลวงพ่อ
พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) ผู้ค้นพบวิชชาธรรมกาย

#4 บุญโต

บุญโต
  • Members
  • 2192 โพสต์
  • Gender:Female
  • Location:อนุเสาวรีย์ชัยสมรภูมิ
  • Interests:ปฏิบัติธรรม

โพสต์เมื่อ 16 May 2006 - 02:42 PM

โรคเกี่ยวกับไต เป็นโรคที่เกิดจากวิบากกรรมปล่อยกู้ดอกโหดครับ พวกขูดรีดขูดเนื้อมาก่อน

หมายถึงวิบากกรรมจากอดีตชาติใช่มั๊ยค่ะ...
สำหรับปัจจุบันเดี๋ยวจะลองถามประวัติของคุณยายท่านจากน้องดู

"อยากให้ช่วยสอนวิธีทำ QUOTE นิดนึงค่ะ" (ทำไม่เป็นค่ะ)...ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ

#5 ฟ้ายังฟ้าอยู่

ฟ้ายังฟ้าอยู่
  • Members
  • 2511 โพสต์

โพสต์เมื่อ 16 May 2006 - 02:43 PM

เรื่องนี้เป็นเรื่องของวิบากกรรมค่ะ อย่าเก็บไปคิดมากเลยนะคะ ปล่อยคำพูดให้ลอยไปตามลมเถอะค่ะ ความตาย เป็นเรื่องจริงของชีวิตที่ไม่มีใครหลีกหนีพ้น

แต่การยืดอายุคุณยาย ให้ท่านอยู่สร้างบุญสร้างกุศล ยังไงก็ต้องทำค่ะ
ก็ล้างไตของคุณยายท่านไปก่อน แล้วหาทางเปลี่ยนไตทีหลัง ไม่น่าใช่เรื่องยาก เพราะความกตัญญู เป็นคุณสมบัติของคนดีค่ะ ส่วนเรื่องเงิน ถ้าไม่มีก็สามารถหยิบยืมไปก่อน แล้วหาทางชำระในภายหลัง ขอให้กำลังใจนะคะ
"เกิดมาว่าจะมาหาแก้ว พบแล้วไม่กำจะเกิดมาทำไม
อ้ายที่อยากมันก็หลอก อ้ายที่หยอกมันก็ลวง ทำให้จิตเป็นห่วงเป็นใย.."
พระมงคลเทพมุนี (สด จันทสโร)


#6 WISH

WISH
  • Moderators
  • 3579 โพสต์

โพสต์เมื่อ 16 May 2006 - 02:58 PM

glare.gif ขอเสนอความคิดเห็นนะ จากประโยคต้นกระทู้ที่ว่า ที่บ้านของน้องพูดว่า หมอถามว่า "ให้เลือกเอาว่า...จะล้างไตหรือจะปล่อยให้ไป......เลย....ถ้าเลือกล้างไตต้องเสียค่าใช้จ่ายสูงนะ"

nerd_smile.gif แสดงว่าคำกล่าวมาจากน้องที่ออฟฟิต ผู้ตั้งกระทู้ไม่ได้ยินมากับหูเอง ควรพิจารณาเนื้อหาน่าจะดีกว่า เพราะเรื่องเล่าต่อๆกันอาจถูกปรุงแต่ง ไม่เน้นใจความ แต่กลับไปเน้นเรื่องบุคคลซึ่งเราผูกพันธุ์ ก่อให้เกิดเป็นอารมณ์กันขึ้นมา พาใจออกจากศูนย์นำไปสู่ความขุ่นมัว ควรตรึกนึกเสมอว่า"ลมปากนี่น่ากลัวกว่าลมพายุ"

cool.gif แพทย์ก็เป็นปุถุชน บางท่านอาจฝีกทักษะหรือศิลปะในการสื่อสารกับญาติปู้ป่วยมาน้อย โดยเนื้อหาใจความที่กล่าวมาเป็นทางเลือกหรือข้อแนะนำมากกว่า มิได้ใจร้ายหรือดูถูกเหยียดหยามผู้ป่วยแต่อย่างใด

cry_smile.gif ความหมายน่าจะเป็นทำนอง หากเป็นโรคไตวาย(ระยะท้าย?)จริง ญาติคงต้องเลือกและร่วมกันตัดสินว่า จะให้ผู้ป่วยสิ้นสุดด้วยธรรมชาติของโรค หรือ จะดำเนินชีวิตผู้ป่วยต่อด้วยอุปกรณ์ไตเทียมซึ่งต้องมีค่าใช้จ่าย ดังคำกล่าวที่ว่า"ไม่มีเงิน มีชีวิตอยู่ไม่ได้"
ทำไมต้อง หาคำตอบ ณ แดนไกล ลืมหรือไร ว่าอยู่ใกล้ DMC

#7 บุญโต

บุญโต
  • Members
  • 2192 โพสต์
  • Gender:Female
  • Location:อนุเสาวรีย์ชัยสมรภูมิ
  • Interests:ปฏิบัติธรรม

โพสต์เมื่อ 16 May 2006 - 03:04 PM

ขอบคุณคุณ WISH ค่ะ

ใช่ค่ะ ตะกี้ก็นั่งคิดอยู่เหมือนกันว่า เราเป็นผู้ฟังมาอีกทีนึง อาจผิดเพี้ยนก็ได้ ทางญาติเค้าอาจตีความไปเองก็ได้ค่ะ...จริง ๆ แล้วคุณยายของน้องเค้าอาจจะอายุมากแล้วและอาจหมอพิจารณาดูแล้วว่าควรเป็นอย่างไร...อาจเป็นเรื่องปัญหาของการสื่อสารจริง ๆ ค่ะ ... จะเอาข้อความดีๆนี้ให้น้องเค้าอ่านนะคะ

#8 ยิ่งนั่ง-ยิ่งง่าย-สบายจัง

ยิ่งนั่ง-ยิ่งง่าย-สบายจัง
  • Members
  • 75 โพสต์
  • Gender:Male

โพสต์เมื่อ 16 May 2006 - 03:08 PM

ขอตอบในฐานะแพทย์นะครับ
โดยทั่วไปเมื่อผู้สูงอายุเป็นโรคไตวาย การรักษาในขั้นสุดท้ายคือการล้างไต
การล้างไตจะต้องมาล้างไตอย่างสม่ำเสมอ สัปดาห์ละ2วัน ห้ามเลื่อนห้ามขาด
ก่อนวันที่ล้างไตผู้ป่วยจะมีอาการเหนื่อยเนื่องจากไตไม่สามารถขับปัสสาวะได้ปกติ ทำให้ปริมาณน้ำในร่างกายเกินปกติจึงล้นไปท่วมปวดส่วนนึง จึงทำให้คนไข้หายใจได้ไม่เต็มที่มีอาการเหนื่อยหอบ
หลังวันล้างไต บางคนก็มีผลข้างเคียงจากการล้างไต เช่นบวม เหนื่อย เพลีย
สรุปว่าใน 1สัปดาห์ ผู้ป่วยที่ทำการล้างไตจะมีความรู้สึกแข็งแรงใกล้เคียงคนปกติธรรมดาซักหน่อย ประมาณไม่เกิน 1-2 วัน นอกนั้นจะต้องทนทุกข์ทรมานกับอาการของไตวายและผลข้างเคียงในการล้างไต
นี่เป็นข้อแรกนะครับ ในเรื่องของประโยชน์จากการล้างไต
ข้อสอง - ค่าใช้จ่ายในการล้างไต - ในปัจจุบันการล้างไตยังไม่ถูกรวมอยู่ในโครงการ30บาทฯ
ดังนั้นเราจึงต้องเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายเองทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นรพ.รัฐหรือเอกชน(ยิ่งเอกชนก็ยิ่งแพงกว่า) เฉพาะถ้าเป็นรพ.รัฐค่าใช้จ่ายก็ตกประมาณ 2หมื่นกว่าบาทต่อเดือน
ข้อสาม - การล้างไตจะทำๆหยุดๆไม่ได้เด็ดขาด คือเมื่อเริ่มทำแล้วต้องทำต่อเนื่องทุกๆสัปดาห์ ไม่ใช่ว่า 6เดือนแรกมีเงินสู้ไหวจึงสู้เต็มที่ พอเดือนที่7เกิดช็อตเงินขาดมือ เลยขอพักซัก2สัปดาห์ หาเงินก่อน มีเงินค่อยทำต่อ อย่างนี้ไม่ได้นะครับ จะยิ่งเกิดผลร้ายต่อคนไข้
ข้อสี่ - นอกจากการล้างไตต้องทำต่อเนื่องห้ามขาดแล้ว ยังต้องทำไป***ตลอดชีวิต***
การล้างไตไม่สามารถรักษาไตวายให้หายได้ เป็นการรักษาประคับประคองเพื่อยืดเวลาให้คนไข้ออกไปเท่านั้น โดยไม่สามารถทำให้โรคไตวายหายขาดได้เลย ดังนั้นหากคุณตัดสินใจทำแล้ว ก็จะต้องเดินหน้าต่อไปอย่างห้ามถอยหลังกลับเด็ดขาด และหยุดทำไม่ได้เพราะหยุดทำปุ๊บคนไข้ก็จะแย่ลงทันที

จากที่ผมอธิบายคร่าวๆมาข้างต้นจะเห็นว่า การล้างไตไม่ได้เป็นการรักษาไตวายให้หายขาดแต่อย่างใดเลย หากเป็นการยืดชีวิตคนไข้(ให้ทรมาน)ต่อไปเรื่อยๆเท่านั้น และระหว่างที่เราพยายามยื้อชีวิตคนไข้ให้ยืดไปนั้น คนไข้ก็ไม่ใช่จะแข็งแรงมีคุณภาพชีวิตที่ดีเฉกเช่นคนทั่วไป แต่เขาจะทรมาน5ใน7วันของ1สัปดาห์ มีช่วงที่ดีขึ้นบ้างเพียง1-2วันเท่านั้น
อจ.แพทย์เคยเล่าให้ฟังว่า บางคนเมื่อเริ่มล้างไตลูกขับรถเบนซ์มาส่งรพ.เมื่อล้างไตไปได้2-3ปี ก็ต้องนั่งสามล้อมาล้างไต จนเงินหมดจึงต้องเลิกล้างไตและเสียชีวิตในที่สุด

ผมไม่รู้ว่าคุณหมอท่านนั้น จะอธิบายอย่างที่ผมเขียนมาให้น้องคุณรึป่าว แต่โดยส่วนใหญ่ที่หมอมักจะถามแบบนี้ ก็เพราะเหตุผลที่ผมเล่าทั้งหมดนี่แหละครับ เพียงแต่คุณหมออาจจะมีเวลาน้อยในการอธิบายหรือเป็นคนที่สื่อสารได้ไม่ค่อยดีก็เป็นได้ครับ
หมอที่ใจร้ายใจยักษ์จริงๆมักไม่ค่อยมีหรอกครับ หมอทุกคนอยากให้คนไข้มีความสุขและหายจากโรคทั้งนั้นแหละครับ เพียงแต่ต้องดูด้วยว่าโรคบางอย่างนอกจากรักษาไม่หายแล้วญาติยังต้องหมดเงินหมดทองโดยที่คนไข้ก็ไม่ได้มีความสุขซักเท่าไหร่ ถ้าคุณเป็นแพทย์จะแนะนำคนไข้อย่างไร
ทุกอย่างญาติๆต้องช่วยกันตัดสินใจนะครับ อย่าคิดแค่ว่ายื้อๆไปก่อนถือว่ากตัญญู เราต้องดูด้วยว่าเรากตัญญูถูกวิธีรึปล่าว ในเมื่อเรายื้อท่านจากมัจจุราชไม่ได้ เราควรเปลี่ยนมาเป็นช่วยท่านสู้ศึกชิงภพจะดีกว่ามั้ยครับ เงินหลายแสนเป็นล้านสามารถใช้ได้หลายวิธีนะครับ คิดดูให้ดีครับ
อนุโมทนาครับ
*** เล่นเนทอย่างไรให้ได้บุญ ***

#9 บุญโต

บุญโต
  • Members
  • 2192 โพสต์
  • Gender:Female
  • Location:อนุเสาวรีย์ชัยสมรภูมิ
  • Interests:ปฏิบัติธรรม

โพสต์เมื่อ 16 May 2006 - 03:16 PM

ขอบคุณ..คุณหมอยิ้มแล้วครับ...มากเลยนะคะ ส่งข้อมูลที่แนะนำไปให้น้องแล้วค่ะ

#10 หัดฝัน

หัดฝัน
  • Members
  • 4531 โพสต์
  • Gender:Male
  • Interests:ธรรมะ

โพสต์เมื่อ 16 May 2006 - 03:19 PM

สาธุครับ ได้ข้อมูลจากคุณหมอมาเอง นี่ดีจังเลยครับ ทำให้ผมก็พลอยได้รับความรู้เรื่องนี้ไปด้วย
ได้ดี เพราะมีกัลยาณมิตร

#11 BOG-BOG

BOG-BOG
  • Members
  • 293 โพสต์

โพสต์เมื่อ 16 May 2006 - 03:40 PM

ได้อ่านเนื้อหาที่คุณ ยิ้มแล้วครับ พอจะเข้าใจหมอแล้วจ๊ะ





คนดีชอบแก้ไข คนจัญไรชอบแก้ตัว คนชั่วชอบทำลาย คนมักง่ายชอบทิ้ง คนจริงชอบทำ คนระยำชอบติ !!!!

#12 MiraclE...DrEaM

MiraclE...DrEaM
  • Members
  • 1368 โพสต์

โพสต์เมื่อ 16 May 2006 - 03:56 PM

พอจะเข้าใจแล้วครับ ว่าทำไมวิบากกรรมโรคไต จึงไปเกี่ยวกับปล่อยกู้ดอกโหด
เพราะเคยไปขูดเลือดขูดเนื้อจนเค้าหมดตัว ชาตินี้เลยโดนโรคที่ต้องทำให้มีโอกาสหมดเนื้อหมดตัว เพราะต้องใช้เงินซื้อเวลา ต่อชีวิตนี่เอง...เฮ้อออ
สิ่งอัศจรรย์ ปรากฏ บนผืนหล้า
มหาวิหาร จรัสฟ้า ค่ายิ่งใหญ่
รูปทอง ผ่องผุด ดุจยองใย
สะท้อนถึง ห้วงดวงใจ สุดบูชา

*********************

รักษ์ร่างพอสร่างร้าย ..... รอดตน
ยอดเยี่ยม "ธรรมกาย" ผล ..... ผ่องแผ้ว

เลอเลิศล่วงกุศล ..... ใดอื่น
เชิญท่านถือเอาแก้ว ..... ก่องหล้าเรืองสกล


คำสอนของเดชพระคุณหลวงพ่อ
พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) ผู้ค้นพบวิชชาธรรมกาย

#13 ยิ่งนั่ง-ยิ่งง่าย-สบายจัง

ยิ่งนั่ง-ยิ่งง่าย-สบายจัง
  • Members
  • 75 โพสต์
  • Gender:Male

โพสต์เมื่อ 16 May 2006 - 04:31 PM

ยินดีครับ
ผมเองก็ไม่ได้มีความรู้อะไรมากมายหรอกครับ
บางอย่างถ้าพอจะเป็นวิทยาทานได้ ก็เต็มใจแวะเวียนมาโพสครับ
ปล. ขออนุญาตแนะนำตรงๆเลยละกันนะครับ ถ้าเป็นแม่ผมเองนะครับ
1.ผมบวชก่อนเลยครับ
2.นำเงินแม่ที่มีอยู่ทั้งหมด มาให้แม่ทำบุญด้วยมือของท่านเอง
3.นำใบอนุโมทนาบัตรที่ท่านเคยทำบุญและเราเก็บรวบรวมไว้นำมาอ่านให้ท่านฟังบ่อยๆหลายๆรอบ
4.ที่เหลือก็ตามหลักวิชชาของพระเดชพระคุณหลวงพ่อเลยครับ
ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับญาติๆเราด้วยนะครับว่าเป็นสัมมาทิฎฐิและเข้าใจเรื่องบุญเสมอกับเรารึปล่าว หากเสมอกันก็ไม่มีปัญหาครับ เดินหน้าเต็มที่ตามหลักวิชชาได้เลย
แต่หากทิฏฐิไม่เสมอกัน กรณีนี้แนะนำให้สายกลางครับ คือต้องฟังความเห็นคนอื่นด้วยครับแต่เราก็ต้องไม่ทิ้งหลักวิชชาด้วยเช่นกัน หย่อนเชือกให้พอดีๆ แต่ต้องมีแรงดึงอยู่ด้วย โดยให้ลูกหลานทะเลาะกันให้น้อยที่สุดและคุณแม่ได้ประโยชน์ในศึกชิงภพสูงสุดครับ

ปล.2 จริงๆถ้าเราจับดีนะครับ การที่เราเป็นโรคที่รู้ว่าจะต้องเสียชีวิตในเวลาอันสั้นๆแน่ๆ หากมองอีกด้าน ถือว่าได้เปรียบนะครับ เรามีโอกาสทุ่มเทและวางแผนในการทำบุญได้อย่างดีเยี่ยมทีเดียวล่ะครับ ดีกว่าบางคนที่มีกรรมมาตัดรอนฉับพลันประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต อย่างนี้ไม่มีโอกาสเตรียมตัวเลยครับ เงินที่อุตส่าห์หามาทั้งชีวิตก็ตกเป็นของลูกหลานไป หากลูกหลานเข้าใจในบุญทำบุญอุทิศให้ด้วยเงินนั้นก็ถือว่าโชคดีไป แต่หากลูกหลานไม่เข้าใจเรื่องบุญนำเงินไปใช้สุรุ่ยสุร่ายอันนี้ถือว่าโชคร้ายกว่าคนที่รู้วันตายอีกนะครับ
อนุโมทนาอีกครั้งครับ
*** เล่นเนทอย่างไรให้ได้บุญ ***

#14 ลูกพระธัม

ลูกพระธัม
  • Members
  • 5 โพสต์

โพสต์เมื่อ 16 May 2006 - 04:52 PM

อนุโมทนากับคำตอบของคุณหมอครับผม สาธุๆๆ smile.gif smile.gif smile.gif laugh.gif

#15 นับดาว

นับดาว
  • Members
  • 422 โพสต์

โพสต์เมื่อ 16 May 2006 - 05:03 PM

อ่านกระทู้นี้ได้ทั้งความรู้และข้อคิดดีๆ

อนุโมทนาบุญค่ะ
ถ้าใจใส

เรื่องดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน

#16 MIHARU

MIHARU
  • Members
  • 620 โพสต์
  • Interests:พระพุทธศาสนา<br />วิทยาศาสตร์

โพสต์เมื่อ 16 May 2006 - 05:39 PM

อนุโมทนาบุญกับคุณหมอด้วยนะคะ ที่ให้ความกระจ่างกับหลายๆคน
Relax & Alert

#17 gioia

gioia
  • Members
  • 593 โพสต์

โพสต์เมื่อ 16 May 2006 - 06:02 PM

ขอบคุณคุณหมอที่มาเปิดเผยความจริงค่ะ
อนุโมทนาบุญกับธรรมทานด้วยค่ะ

ได้ฟังอย่างนี้แล้วก็ได้คิดมากขึ้นค่ะ
เพราะมีคุณแม่ที่กำลังป่วยอยู่เหมือนกัน

QUOTE
"อยากให้ช่วยสอนวิธีทำ QUOTE นิดนึงค่ะ" (ทำไม่เป็นค่ะ)...ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ

ทำได้ดังนี้ค่ะ (ถ้ามีวิธีอื่น กรุณาเพิ่มเติมด้วยนะคะ)
1. คลิคสี่เหลี่ยมเล็กที่สองจากขวามือค่ะ (ซ้ายมือของ #) " Wrap in a Quote"
2. เลือกข้อความที่ต้องการ QUOTE (copy มา)
3.ซ้ำข้อ 1




#18 Streamdhamma

Streamdhamma

    หยุด นิ่ง เฉย ได้ไหม

  • Members
  • 528 โพสต์
  • Gender:Male

โพสต์เมื่อ 16 May 2006 - 06:29 PM

ดีจังค่ะ ได้ทราบข้อมูลที่ไม่เคยทราบจากคุณหมอโดยตรงเลย สาธุๆ
เรื่องคุณหมอคงเป็นธรรมชาติของหมอนะค่ะ ที่ต้องให้ญาติคนไข้เลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง
"เมื่อดวงอาทิตย์อุทัยอยู่
ย่อมมีแสงอรุณขึ้นก่อน
เป็นบุพนิมิตฉันใด
ความเป็นกัลยาณมิตรก็เป็นตัวนำ
เป็นบุพนิมิตแห่งการเกิดขึ้น
ของหนทางพระนิพพาน ฉันนั้น"



#19 บุญรักษา

บุญรักษา
  • Members
  • 189 โพสต์
  • Interests:ขอชีวิตงดงามตามที่ฝัน ขอทุกวันเป็นวันอันสดใส ขอทุกก้าวคือก้าวที่มั่นใจ ขอวันใหม่ก้าวไกลไปกว่าเดิม

โพสต์เมื่อ 17 May 2006 - 12:52 AM

เห็นด้วยกับคุณ WISH ครับ
แล้วก็กราบขอบพระคุณ คุณหมอด้วยที่อุตส่าห์แวะมาให้ความรู้ด้านนี้
ไม่มีสิ่งใดจะมอบให้ นอกจาก....ความจริงใจที่เต็มปรี่ เริ่มต้นผูกพันกันวันนี้ เพื่อมิตรไมตรีที่ดี..ตลอดไป เราต่างก็...มีไฟฝัน พร้อมจะสร้างสรรค์..เพื่อวันใหม่ ขอให้เรา....ต่างเป็นกำลังใจ เพื่อไปสู่จุดหมายที่...ยังรอ

#20 extra

extra
  • Members
  • 409 โพสต์

โพสต์เมื่อ 17 May 2006 - 01:13 AM

ขอเสริมคุณหมอ "ยิ้มแล้วครับ" ค่ะ
เรื่องการสื่อสาร เป็นปัญหาที่สำคัญ ระหว่างแพทย์กับคนไข้ค่ะ
เพราะคำศัพท์ทางการแพทย์ที่เป็นรากศัพท์มาจากภาษาละติน
แต่คำพูดกับคนไข้นั้น แม้จะมีการศึกษาสูงขนาดไหน
ก็ต้องมีการอธิบายเป็นภาษาไทย เห็นได้ว่า มันช่างต่างกันมากจริงๆ
การที่แพทย์จะปรับคำอธิบายจากภาษาละตินเป็นภาษาไทย จึงไม่ใช่เรื่องง่าย
เพราะแพทย์ไม่ใช่นักภาษาศาสตร์ หรือนักพูด
แต่จำเป็นต้องพูดเพื่ออธิบายให้คนไข้และญาติ จะให้คนอื่นอธิบายแทนก็ไม่ได้
เพราะผู้ที่ไม่ได้มาเรียนด้านนี้โดยเฉพาะ ก็เข้าใจยากไปใหญ่
ตัวเองเคยได้คุยกับอาจารย์ที่ดูแลแพทยสภา
ท่านบอกได้ชัดเจนมากๆ ว่า "ไม่มีทางที่คนไข้และญาติจะเข้าใจที่แพทย์อธิบายได้ทั้งหมด"
ตัวเองทำงานในฐานะเป็นจิตแพทย์มานาน 4 ปี เห็นปัญหานี้ ซ้ำแล้วซ้ำอีก
และมีส่วนในการปรับความเข้าใจให้ผู้ป่วยและญาติมาตลอด
ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้ว เป็นเรื่องเนื้อหาของโรค
รวมถึงการรักษาที่มีรายละเอียดมาก ซับซ้อน เข้าใจยาก
น้ำเสียงของแพทย์อาจไม่น่าฟัง ท่าทางของแพทย์อาจดูไม่อบอุ่น
จึงทำให้คนไข้และญาติแปลเป็นในแง่ลบไปได้ง่ายๆ

ตัวเองได้ทำการวิจัยเรื่องเจตคติของแพทย์ที่มีต่อผู้ป่วยที่มีอาการทางกายที่ไม่ทราบสาเหตุ
ได้ผลออกมาว่า แพทย์รู้สึกสงสาร เห็นใจ เป็นห่วงเป็นใย อยากช่วยแก้ปัญหาให้คนไข้
จึงได้เห็นว่า สมมติฐานที่ว่า แพทย์น่าจะมีเจตคติในแง่ลบต่อผู้ป่วยกลุ่มนี้ กลับไม่เป็นความจริง

หากจะลองคำนวณดูว่า แพทย์ใน รพ รัฐ ตรวจคนไข้วันละ 100 คน
1 ปี ทำงาน 200 วัน (หักวันหยุดเสาร์อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ออกไป)
เท่ากับตรวจคนไข้ ปีละ 20,000 คน
5 ปี ตรวจ 100,000 คน ถือเป็นจำนวนไม่น้อยทีเดียว
ดังนั้น แพทย์จึงไม่มีเวลาอธิบายรายละเอียดได้มากเท่าที่ควร
จะพูดด้วยน้ำเสียงที่น่าฟัง หรือมีท่าทีที่อบอุ่น ก็คงทำไม่ได้ตลอด
คนไข้ก็ทุกข์ทรมานกับความเจ็บป่วย และญาติเองก็มุ่งที่จะเห็นอกเห็นใจคนไข้
ปัจจัยนี้ อาจทำให้คนไข้และญาติฟังคำอธิบายของแพทย์ได้ไม่เข้าใจทั้งหมด
และส่วนใหญ่แล้ว มักไม่กล้าถามแพทย์อีกครั้ง เนื่องจากเกรงใจ ยอมไม่รู้เรื่องดีกว่า
จนเกิดการตีความเองตามความเข้าใจของตน ซึ่งหลายต่อหลายครั้ง
นำไปสู่ความขัดแย้งอันไม่น่าจะเกิดขึ้น

ตัวเองเห็นใจทั้งคนไข้ และแพทย์ค่ะ เพราะไม่มีใครอยากให้ผลลัพธ์ออกมา
ในลักษณะที่เป็นความสูญเสียทางร่างกายและจิตใจ
อาจารย์แพทย์สอนให้ตัวเองคิดเสมอในเวลาเรารู้สึกเหนื่อยว่า คนไข้ลำบากกว่าเรามากนัก
เราเองอาจเพียงแค่รู้สึกผิดที่ช่วยคนไข้ไม่สำเร็จ รู้สึกแย่กับตัวเองที่ทำได้ไม่ดีอย่างที่หวัง
แต่คนไข้อาจสูญเสียความสามารถ สูญเสียอวัยวะ เสียชีวิต
และญาติอาจสูญเสียพ่อ แม่ สามี ภรรยา ลูก หลาน ญาติผู้ใหญ่ อันเป็นที่รัก
ซึ่งถือเป็นความสูญเสียที่มากมายที่เทียบกันไม่ได้เลย

ตัวเองเชื่อว่า หากทั้งแพทย์และคนไข้ หันมาดู dmc
แล้วสร้างบรรยากาศที่ดีด้วยรอยยิ้มและปิยวาจา
คงจะไม่มีการตั้งกระทู้ว่า "คุณหมอใจร้าย" อีกแน่ๆ ค่ะ happy.gif






#21 นิ่งๆ นุ่มๆ

นิ่งๆ นุ่มๆ
  • Members
  • 618 โพสต์

โพสต์เมื่อ 17 May 2006 - 02:19 AM

อนุโมทนาบุญกับคุณหมอด้วยค่ะ ได้ความรู้เยอะเลย
อย่าทำตัวเหมือนเรือ ที่เก็บขยะในมหาสมุทร ใครเขาจะพูดอะไร จะว่าอะไรเราให้ใจขุ่น ก็อย่าไปสนใจ ปากก็ของเขา ความคิดก็ของเขา อย่าเอามาแบกไว้ เพราะสุดท้ายเรือจะล่มอยู่กลางมหาสมุทร ไปไม่รอด
น้าจี้

#22 SmilingCat

SmilingCat
  • Members
  • 1209 โพสต์

โพสต์เมื่อ 17 May 2006 - 03:09 AM

คำพูดที่ตรงเกินไปบางทีก็รับไม่ได้เหมือนกัน ทั้ง ๆ ที่มันก็เป็นความจริงที่จำเป็นต้อง
ยอมรับ ทั้งที่ผู้พูดก็มีเจตนาบริสุทธิ์ ผู้ฟังควรเข้าใจหมอมากกว่านี้ก็ไม่เกิดอะไรขึ้น และข้าง
ฝ่ายหมอก็ต้องเข้าใจความรู้สึกของผู้ฟังมากกว่านี้ก็จะพูดได้ดีกว่านี้ แค่แจ้งยอดค่าใช้จ่ายให้
ทราบก็พอแล้ว ส่วนจะปล่อยให้...ไปเลยนั้น ก็เหมือนกับบาป บาปนี้อาจจะเกิดกับหมอก็ได้
ไม่รู้นะ เราคิดว่า หมอควรบอกว่า " ค่าใช้จ่ายนั้นประมาณเท่าไร ? และโอกาศรอดประมาณ
กี่เปอร์เซ็นต์
" แล้วให้เจ้าของไข้เขาไปคิดกันเอาเองดีกว่า
หยุดคือตัวสำเร็จ

#23 pp_072

pp_072
  • Members
  • 209 โพสต์
  • Interests:ดีครับ

โพสต์เมื่อ 17 May 2006 - 07:28 AM

อนุโมทนากับคำตอบของคุณหมอครับผม สาธุๆๆ laugh.gif laugh.gif
พุทธบุตรต้องเป็นหนึ่งเดียวกัน เหมือนดวงตะวันที่มีดวงเดียว

พุทธบริษัท 4 ต้องเป็นหนึ่งเดียวกัน เหมือนตะวันที่มีดวงเดียว

#24 niwat

niwat
  • Members
  • 1420 โพสต์
  • Gender:Male

โพสต์เมื่อ 17 May 2006 - 08:04 AM

อนุโมทนาบุญกับทุกท่านด้วยน่ะครับ โดยเฉพาะพี่"ยิ้มแล้วครับ" ที่ได้นำความรู้ที่มีประโยชน์มาอธิบายเป็นวิทยาทาน smile.gif


QUOTE
"อยากให้ช่วยสอนวิธีทำ QUOTE นิดนึงค่ะ" (ทำไม่เป็นค่ะ)...ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ

ทำได้ดังนี้ค่ะ (ถ้ามีวิธีอื่น กรุณาเพิ่มเติมด้วยนะคะ)
1. คลิคสี่เหลี่ยมเล็กที่สองจากขวามือค่ะ (ซ้ายมือของ #) " Wrap in a Quote"
2. เลือกข้อความที่ต้องการ QUOTE (copy มา)
3.ซ้ำข้อ 1
IPB Image


หรืออีกวิธีน่ะครับ....คือกดพิมพ์คำสั่งเลยว่า [ quote ] แล้วตามด้วยข้อความที่เราจะอ้างอิงจากนั้นก็พิมพ์ [ /quote ] เพื่อเป็นการปิด quote ครับ smile.gif

#25 บุญโต

บุญโต
  • Members
  • 2192 โพสต์
  • Gender:Female
  • Location:อนุเสาวรีย์ชัยสมรภูมิ
  • Interests:ปฏิบัติธรรม

โพสต์เมื่อ 17 May 2006 - 10:50 AM

ขอบคุณสำหรับการแนะนำการทำ QUOTE นะคะ
ได้ทดลองทำแล้วและทำเป็นแล้วค่ะ
ขอบคุณค่ะ


#26 ยิ่งนั่ง-ยิ่งง่าย-สบายจัง

ยิ่งนั่ง-ยิ่งง่าย-สบายจัง
  • Members
  • 75 โพสต์
  • Gender:Male

โพสต์เมื่อ 17 May 2006 - 03:16 PM

ขอบคุณ อ.extra นะครับ ที่กรุณานำผลการวิจัยมาเสริมข้อมูลที่ผมให้ไว้อีกที
ผมเองอยากให้ทั้งแพทย์และคนไข้เข้าอกเข้าใจซึ่งกันและกันมากๆนะครับ
แอบดีใจแทนคนไข้จิตเวชที่ได้มีโอกาสรักษากับ อ.extra
คงจะได้ทั้งยา รอยยิ้ม และธรรมะ กลับบ้านไปอย่างอิ่มเอมแน่ๆเลย

ผมเองหากมีโอกาสก็พยายามชวนคนไข้ติดจานดาวธรรมอยู่เหมือนกันครับ
*** เล่นเนทอย่างไรให้ได้บุญ ***

#27 PS-Junior

PS-Junior
  • Members
  • 247 โพสต์
  • Location:Bangkok
  • Interests:Meditation

โพสต์เมื่อ 17 May 2006 - 08:35 PM

เห็นด้วยกับทั้งคุณหมอยิ้มแล้วครับ กับคุณหมอ extra นะค่ะ

เพราะโดยส่วนใหญ่แล้ว หมอทุกคนไม่มีเจตนาจะทำร้ายผู้ป่วยและญาติหรอกนะค่ะ แต่ก็ไม่ได้ทุกคนค่ะ คนที่ไม่ดีมีอยู่ในทุกอาชีพค่ะ อย่าเพิ่งเหมารวมคนทั้งกลุ่มนะค่ะ ไม่งั้นหมอก็หมดกำลังใจแย่ แค่เดี๋ยวนี้หมอก็ถูกฟ้องกันไม่รู้เท่าไหร่แล้วค่ะ แม้บางทีไม่ได้ผิดอะไรเลยค่ะ และคนที่มาฟ้องก็เป็นหมอเหมือนกันเองอีกซะด้วย

กลับมาถึงประเด็นหัวข้อนี้ มองได้ 2 แง่ค่ะ คนฟังจับเฉพาะใจความที่อยากฟังมาเป็นจุดๆ สื่อความหมายมาเลยดูเป็นคุณหมอใจร้ายไป เพราะบางทีหมออธิบายแล้ว บางคนไม่มีทักษะอธิบายไปยืดยาว คนฟังไม่มีพื้นมาก่อนก็ไม่เข้าใจหาว่าหมออย่างโน้นอย่างนี้ไป ยิ่งปากต่อปากเลยแย่ไปใหญ่ค่ะ และอีกอย่างหมอมักจะได้รับการสอนมาเลยว่า ถ้าผู้ป่วยอย่างไรก็ไม่รอดแล้ว หมอก็จะไม่พยายามไปยื้อ ยกตัวอย่างเช่น คนไข้มะเร็งระยะสุดท้าย หรือแม้แต่ไตวายเอง ถ้าระยะสุดท้ายแล้วทำอะไรก็ไม่ดีขึ้น แค่ประทังอาการไปวันๆเท่านั้น คุณภาพชีวิตก็ไม่ดีขึ้น อันนี้หมายถึงกรณีที่โรคเรื้อรังระยะสุดท้ายนะค่ะ ไม่ได้หมายถึงว่า ถ้ารักษาประคับประคองแล้วสามารถออกไปทำการงานได้ มีความสุขกับชีวิตได้ ทำบุญได้อีก อันนี้ก็ต้องรักษาต่อค่ะ

แต่ถ้าไม่ไหวจริงๆ นอนติดเตียง หายใจก็จะไม่ไหว การไปให้ยาหรือ ทำอะไรเพื่อประคองชีวิตหรือยื้อ พูดง่ายๆ มันดูทรมานมากค่ะ ถ้าใครเคยไปเห็นนะค่ะ เพราะฉะนั้นแพทย์ก็มักจะคุยกับญาติก่อนเลยถ้าดูเป็นหักว่าจะ เลือกรักษาแบบไหนหน่ะค่ะ แต่ไม่ว่ายังไงก็ขึ้นอยู่กับญาติและตัวผู้ป่วยนะค่ะที่จะเลือก ไม่ใช่แพทย์ตัดสินใจ

หรืออีกอย่างคือ คุณหมอพูดสั้นหรือเจตนาพูดไม่ดีแบบนั้น อันนั้นก็ตกเป็นกรรมของหมอท่านนั้นไปค่ะ อย่าไปใส่ใจเลยนะค่ะ

ขอฝากข้อคิดนิดนึงค่ะ ถึงแม้แพทย์จะถูกสอนกันต่อๆมาอย่างที่กล่าวแล้ว แต่ลองฟังเรื่องที่หลวงพ่อทัตตะ เคยตอบปัญหาไว้นะค่ะ

มีลูกไปถามท่านว่า แม่เป็นไตวายเรื้อรัง เริ่มเพ้อ ด่าทอลูกตลอด แบบคนที่ไม่สบายและเริ่มไม่รู้ตัวค่ะ การไปฟอกไตค่าใช้จ่ายก็แพงมากๆๆ อย่างนี้ควรเลิกฟอกไตให้แม่หรือไม่

ท่านถามกลับว่า ลองคิดดูว่าถ้าตอนนี้กลับกัน ตอนที่ลูกยังเด็กๆ ถ้าลูกไม่สบายมากๆๆๆ แล้วแม่ของลูกคนนี้เนี่ยจะหยุดหารรักษา หรือจะทุ่มการรักษาอย่างสุดชีวิต

ลองไปคิดเองนะค่ะ.....

#28 เถลิงเกียรติ

เถลิงเกียรติ
  • Members
  • 760 โพสต์
  • Interests:N/A

โพสต์เมื่อ 17 May 2006 - 09:22 PM

คุณหมอจังกึมตอบดีจัง...

ในฐานะที่ข้าพเจ้าเรียนมาทางวิทยาศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ กระทู้ต่างๆ ที่ข้าพเจ้าแสดงความเห็นใน DMC.tv นี้
อาจเป็นเรื่องที่แตกต่างหรือเกี่ยวข้องกับ วิทยาศาสตร์ หรือ วิศวกรรมศาสตร์
ดังนั้นเรื่องที่ข้าพเจ้าเขียนถ้าไม่ตรงกับความคิดเห็นของท่านใด ขออย่าได้มีอคติก่อน
แต่ถ้าตรงกับความคิดเห็นของท่านผู้ใด ขออย่าได้เชื่อไปก่อน
ข้าพเจ้าขอยืนยันว่าเรื่องที่แสดงความเห็นเป็นแนวคิดของข้าพเจ้า
และข้อมูลที่ค้นคว้าเพื่อเสริมสร้างศรัทธาในพระพุทธศาสนาให้มั่นคง
ซึ่งอาจจะถูกบ้างผิดบ้างเป็นธรรมดา แต่ก็จะเป็นประโยชน์ เป็นข้อมูลหนึ่ง กับท่านที่ศึกษาทางพุทธศาสตร์
ข้าพเจ้ามีความเชื่อว่า แต่ละคนก็มีกรรมเป็นของตนเอง เราเป็นทายาทแห่งกรรม
ทำดีตามครูไม่ใหญ่ ต้องได้ดีแน่นอน
และสรุปได้ว่า การเอาธรรมในพุทธศาสนามาใช้ในการดำรงชีวิตไม่เคยล้าสมัย สามารถใช้ได้กับทุกยุคทุกสมัย

ถึงจะเป็นตะเกียงดวงน้อยด้อยแสง แต่ไฟแรงจุดติดดวงอื่นได้
ไม่เสียดายให้แสงสว่างกับผู้ใด ชักนำใจให้สว่างเพียงแต่ธรรม



#29 หัดฝัน

หัดฝัน
  • Members
  • 4531 โพสต์
  • Gender:Male
  • Interests:ธรรมะ

โพสต์เมื่อ 18 May 2006 - 10:44 AM

คุณจังกึม เป็นหมอด้วยหรือครับเนี่ย ผมเพิ่งทราบ สาธุกับอาชีพดีๆ ด้วยนะครับ
ได้ดี เพราะมีกัลยาณมิตร

#30 บุญโต

บุญโต
  • Members
  • 2192 โพสต์
  • Gender:Female
  • Location:อนุเสาวรีย์ชัยสมรภูมิ
  • Interests:ปฏิบัติธรรม

โพสต์เมื่อ 18 May 2006 - 12:40 PM

...เช้าวันนี้คุณยายเสียแล้วค่ะ...