ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
* * * * * 3 คะแนน

การควบคุมความฝัน หรือ "lucid dreaming"


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 27 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 หยุดอะตอมใจ

หยุดอะตอมใจ
  • Members
  • 729 โพสต์
  • Gender:Male

โพสต์เมื่อ 12 January 2006 - 04:04 AM

การควบคุมความฝัน หรือ สภาวะฝันที่ชัดแจ้ง (lucid dreaming)


[attachmentid=1124]


นิยามของ Lucid dreaming คือ สถาวะที่คนเรา สามารถที่จะรู้สึกตัว และตระหนักได้ว่าตนเองนั้นอยู่ในความฝัน ในขณะที่ตัวเองฝันอยู่ ทำให้สามารถควบคุมความฝันของตนเองได้ เช่น เมื่อเรากำลังฝันร้าย พบสิงโต ถ้าสามารถควบคุมความฝันได้ ก็จะสามารถเปลี่ยนสิงโตที่ดุร้าย เป็นแมวเชื่องๆ ได้ แล้วก็จะไม่พบกับฝันร้ายอีกต่อไป ทำให้มีสุขภาพจิตที่ดี และนอนเต็มอิ่ม

สำหรับ lucid dreaming นี้ นาย Stepen LaBerge ซึ่งเป็นนักเขียน และนักทดลองชื่อดัง ได้อธิบายไว้สั้นๆ ว่า

เป็นสภาวะ "ที่คุณสามารถฝัน ในขณะที่รู้ว่าตัวคุณเองกำลังฝันอยู่" (ฝันในฝัน?)


มีคำถามมากมายเกี่ยวกับ lucid dreaming และก็เกี่ยวกับสภาวะที่เรียกว่า "ความฝัน" ของมนุษย์ LaBerge และคณะ ได้เรียกกลุ่มคนที่ได้พยายามหาวิธีที่จะควบคุมความฝันว่า Oneironauts หรือ ตามภาษากรีกว่า "dream explorers" หรือ ผู้ท่องเที่ยวไปในความฝัน มีกลุ่มคนหลายกลุ่มที่สนใจเกี่ยวกับเรื่อง lucid dreaming เช่น นักจิตวิทยา, นักเขียน, นักวิทยาศาสตร์, ศิลปิน และ คนทั่วไป แต่อย่างไรก็ตาม แต่ละกลุ่ม ก็มีนิยาม และมีวิธีการเข้าถึง lucid dream ที่แตกต่างกัน และไม่ค่อยจะเหมือนกันเลย ไม่มีใครเข้าใจชัดเจนถึงกลไลที่จะทำให้เกิด lucid dreaming ซึ่งก็ดูเหมือนจะเป็นศาสตร์ที่ต้องหลักฐานวิทยาศาสตร์เพิ่มเติม และรอการพิสูจน์จากนักวิทยาศาสตร์ในอนาคต

การเข้าถึงสภาวะ lucid dreaming

สิ่งที่สำคัญ และดูเหมือนจะเป็นประเด็นหลักของการทำ lucid dreaming ก็คือ การรู้สึกตัว และมีสติอยู่เสมอ เมื่อกำลังหลับอยู่ ถ้าเมื่อไหร่ ที่สามารถจะรู้ตัวเองได้ ในความฝัน ว่านี่แหละฉันกำลังอยู่ในฝัน ฉันฝันไป และสามารถจะเปลี่ยนแปลงควบคุม ความฝันได้ นั่นแหละ คุณก็กำลังอยู่ในสภาวะ lucid dreaming แล้ว

มีคนจำนวนหนึ่งที่ได้อ้างว่า ตัวเองเคยมีประสบการณ์เกี่ยวกับ lucid dreaming มาก่อน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง "ในวัยเด็ก" แต่สำหรับคนทั่วไปแล้ว การจะเข้าสู่สภาวะ lucid dreaming ได้เป็นประจำ แม้ว่าจะมีการฝึกฝนอย่างดี ด้วยเทคนิคต่างๆ นั้น กลับเป็นเรื่องที่ยาก และก็ไม่ได้แปลว่าจะเกิดขึ้นทุกๆ วัน

[attachmentid=1127]


แต่ถึงกระนั้น ก็มีทีมวิจัยจากหลากหลายสถาบัน พยายามที่จะพัฒนาเทคนิคที่จะทำให้คนเราสามารถควบคุมความฝันได้ โดยหนึ่งในนั้นก็คือกลุ่มวิจัยจากมหาวิทยาลัย Standford และ สถาบันวิจัย Lucidity ของนาย LaBerge ในปัจจุบันไม่มีผลสรุปที่แน่ชัดว่าการฝึกฝน lucid dreaming เป็นประจำ นั้นจะมีผลเสียต่อร่างกาย และจิตใจหรือไม่ นอกจากนั้นก็ไม่มีข้อสรุปแน่ชัดว่า การเข้าถึงสภาวะ lucid dreaming จะทำให้เสียผลประโยชน์ของการฝันธรรมดา ด้วยหรือไม่? โดยนักจิตวิทยาบางท่าน ได้กล่าวว่า การฝันธรรมดา นั้นจะทำให้เกิดการเข้าใจตัวเอง (self-understanding) ได้ดีกว่าการทำ lucid dreaming

การจดจำความฝันของตนเอง (dream recall) ก็เป็นหนึ่งในสิ่งที่นักผจญภัยความฝัน (lucid dreamer) หวังว่าจะสามารถทำได้คล่องแคล่ว เพราะว่าการจดจำความฝันนั้นเอง เป็นจุดเริ่มต้นที่จะเรียนรู้การเข้าถึงสภาวะ lucid dreaming สิ่งที่นักผจญภัยความฝันทำเป็นประจำนั้นก็คือ การจดความฝันของตัวเองลงในสมุดบันทึก เป็นประจำ ในทันทีหลังจากตื่นขึ้น

ความสามารถในการประสบสภาวะ lucid dreaming นั้น นักวิจัยกล่าวว่าขึ้นกับ
  • บุคคลเอง ซึ่งบางคนสามารถมีสภาวะ lucid dreaming ได้ดีกว่าคนอื่นๆ
  • การทำสมาธิอย่างสม่ำเสมอ ก็สามารถจะทำได้เกิดสภาวะ lucid dreaming ได้ง่ายขึ้น
  • เทคนิคเหนี่ยวนำ ซึ่งจะกล่าวถึงต่อไป
เทคนิคที่ใช้โดยทั่วไป

วิธีทดสอบสภาวะความเป็นจริง (Reality Testing)

วิธีนี้จะใช้ทดสอบว่ากำลังฝันไปหรือไม่ โดยในความฝัน ผู้ฝันจะพยายามที่จะจดจำ "เวลาในนาฬิกา" หรือ "ข้อความในหนังสือ" ในความฝัน ซึ่งจากผลการเฝ้าสังเกตนั้น นักผจญภัยความฝันพบว่า "เวลาในนาฬิกา" และ "ข้อความในหนังสือ" นั้น มักจะเปลี่ยนแปลงไปเสมอ ซึ่งจะแตกต่างจากความเป็นจริง ซึ่งถ้าพบว่าดูข้อความในหนังสือเล่มเดียวกัน หรือ ก้มลงดูนาฬิกาในเวลาที่ไม่แตกต่างกัน แล้วพบว่าข้อความในหนังสือ และหรือ เวลาเปลี่ยนไป ก็ให้รู้ว่าคุณอยู่ในความฝันแล้ว นอกจากนี้ยังมีการมองภาพของตัวเองในกระจก ซึ่งก็มีการกล่าวอ้างว่า ในความฝันนั้น คุณจะไม่สามารถมองหน้าตัวเองในกระจกได้ชัดเจน เหมือนในความเป็นจริงเลย

วิธีการสังเกตเครื่องหมายแสดงถึงความฝัน (Dream Signs)

[attachmentid=1145]


การทดสอบอีกวิธีหนึ่งก็คือการสังเกต "สัญลักษณ์ความฝัน" เช่น ถ้าคุณพบช้างสีชมพูกำลังเดินพาเหรด หรือกระทั่งคุณกำลังคุยกับสุนัขตัวโปรดอยู่ นั่นแหละ "คุณกำลังฝันไป"

วิธีเทคนิคเหนี่ยวนำ (Mnemonic Induction)

วิธีนี้จะใช้ความตั้งใจในการสังเกตเครื่องหมายแสดงถึงความฝัน (dream signs) เวลาที่กำลังใกล้จะหลับ

วิธีเหนี่ยวนำโดยการกลับไปนอนใหม่ (Wake Back To Bed Induction technique (WBTB))

วิธีนี้ผู้ฝันจะกลับไปนอนใหม่ หลังจากที่ตื่นขึ้น โดยจะทำการวิเคราะห์ความฝันที่ได้ฝันในเมื่อครู่เป็นเวลาสัก 1 ชม. แล้วก็กลับไปนอนใหม่ ซึ่งนักผจญภัยความฝันได้กล่าวว่าจะเกิดสภาวะ lucid dreaming ได้ง่ายขึ้น

วิธีเหนี่ยวนำด้วยเข้าสู่สภาวะ lucid dreaming ในฉับพลัน (Waking Induction of Lucid Dreaming (WILD))

WILD เป็นวิธีที่ใช้กันมากที่สุด โดย ผู้ทดสอบจะพยายามเข้าสู่สภาวะ lucid dreaming ทันที โดยการพยายามทำตัวเองให้อยู่ในสภาวะ "hypnagogic" ซึ่งอยู่ในเส้นแบ่งระหว่างการหลับ กับไม่หลับ หรือสภาวะกึ่งหลับกึ่งตื่น ถ้าผู้ทดสอบสามารถอยู่ในสภาวะดังกล่าวได้ ก็จะสามารถควบคุมความฝันได้ โดยรู้ว่ากำลังอยู่ในความฝันอยู่ โดย นักผจญภัยความฝันกล่าวไว้ว่า มีขั้นตอน 3 ขั้นตอน ที่จะทำให้อยู่ในสภาวะนี้ได้ นั่นคือ
  • ผ่อนคลาย (Relax)
  • พยายามทำตัวให้มีสติ (Stay awake)
  • แล้วก็เข้าสู่ความฝัน (Enter your dream)
จากการทดสอบพบว่า วิธีนี้จะใช้ดีที่สุดในตอนกลางวัน เพราะตอนกลางคืน ผู้ทดสอบมักจะผลอยหลับไปซะก่อน

สิ่งที่ผู้ผจญภัยความฝันมักจะทำ เมื่ออยู่ในสภาวะ lucid dreaming

[attachmentid=1125]
  • บิน (flying) นักผจญภัยความฝันทุกคน มักจะฝันว่าตัวเองอยู่ในสภาวะที่ไร้แรงดึงดูด หลายๆ ท่านบอกว่าเขาสามารถบินได้ แล้วก็บินไปอยู่ในดินแดนแห่งความฝัน บางท่านบินด้วยความเร็วแสง ซึ่ง สามารถแซงชนะ UFO แบบไม่มีความเฉื่อย
  • เปลี่ยนแปลง (transforming) บางท่านพบว่า สามารถจะเปลี่ยนแปลงตัวเอง สัตว์ หรือสิ่งของ ชนิดหนึ่ง เป็นสัตว์หรือสิ่งของชนิดอื่นๆ ได้ บางท่านฝันว่าตัวเองสามารถมองได้ 360 องศา หรือมีโซน่าแบบค้างคาว เป็นต้น
สำหรับ lucid dreaming นั้น ท่านผู้รู้ได้ให้ทรรศนะว่า

[attachmentid=1126]


"การที่จะควบคุมความฝันได้นั้น ผู้ฝันจะต้องเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับกายฝันเสียก่อน จึงจะสามารถควบคุมความฝันได้"


ซึ่งตัวกระผมเอง ก็เชื่อด้วยว่า ความฝันที่ชัดแจ้ง ที่แท้จริงนั้น ก็จะทำให้เกิดสภาวะรู้แจ้งได้อีกด้วย

นั่นแหละครับ คือการ "ฝันในฝัน" ที่แท้จริง


แหล่งข้อมูล http://en.wikipedia..../Lucid_dreaming

ภาพประกอบ www.lucidcrossroads.co.uk, Microsoft Clip Art และ www.dhammakaya.or.th

ไฟล์แนบ

  • แนบไฟล์  dragon.jpg   17.13K   86 ดาวน์โหลด
  • แนบไฟล์  dream.jpg   10.97K   98 ดาวน์โหลด
  • แนบไฟล์  lady_topview.jpg   9.39K   87 ดาวน์โหลด
  • แนบไฟล์  lucid1.jpg   7.08K   90 ดาวน์โหลด
  • แนบไฟล์  pe.jpg   12.7K   92 ดาวน์โหลด


#2 ชาร์ป

ชาร์ป
  • Members
  • 985 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:ปทุมธานี

โพสต์เมื่อ 12 January 2006 - 08:31 AM

ขอบคุณ สำหรับความรู้ใหม่ครับ
สาธุครับ

#3 *ผู้มาเยือน*

*ผู้มาเยือน*
  • Guests

โพสต์เมื่อ 12 January 2006 - 09:55 AM

สุดยอด สาธุ ครับ
dangdee

#4 *ผู้มาเยือน*

*ผู้มาเยือน*
  • Guests

โพสต์เมื่อ 12 January 2006 - 10:56 AM

เคยทำได้ แม้กระทั่งตื่นมาแล้วฝันต่อ

ในฝันนั้นมีสติที่จะควบคุมตัวเรา แต่ยังมีจินตนาการและความลังเลสงสัยอยู่

สู้ฝันในฝันไม่ได้นิ

#5 *ผู้มาเยือน*

*ผู้มาเยือน*
  • Guests

โพสต์เมื่อ 12 January 2006 - 09:39 PM

QUOTE(ผู้มาเยือน @ 12/1/2006 12:56)  

เคยทำได้ แม้กระทั่งตื่นมาแล้วฝันต่อ

ในฝันนั้นมีสติที่จะควบคุมตัวเรา แต่ยังมีจินตนาการและความลังเลสงสัยอยู่

สู้ฝันในฝันไม่ได้นิ


It happened to me too. I can sometimes control what to be in the dream.

In fact, I would prefer no dream at all during my sleep. Who know how please tell me?

By the way, what does it mean by sleep and waking up in "uuh ta le boon"? and how?

#6 apassanant

apassanant
  • Members
  • 2 โพสต์

โพสต์เมื่อ 30 January 2006 - 09:35 PM

เพิ่งเข้ามาเป็นสมาชิกในนี้ กำลังสนใจเรื่องความฝันเหมือนกัน

จริง ๆ แล้ว ก่อนจะเข้ามาอ่านในบทความนี้ ตัวเองได้ฝันบ่อย ๆ บ่อยขนาดพยายามบังคับไม่ให้ตัวเองฝันร้ายในเรื่องเก่า ถ้าเรื่องดีก็จะนอนหัวเราะดัง ถ้าฝันร้ายมักจะฝันเรื่องที่ทำให้เสียความรู้สึกและรู้สึกเหนื่อยทำให้นอนไม่เต็มอิ่ม วิธีการแก้ที่เคยทำก็คือ พูดกับตัวเองว่า ถ้าฝันแบบเดิมอีกจะจัดการมันในความฝันเอาชนะเรื่องไม่ดีและจะไม่ให้มันฝันอีก
ก็เคยทำได้น่ะ เคยจัดการในความฝันเก่า จนบังคับไม่ให้มันฝันได้

อีกเรื่องหนึ่ง ตัวเองฝันบ่อย ๆ แล้วรู้สึกว่าจะจำได้แค่ตอนตื่นนอนหลังจากนั้นมักจะจำไม่ได้ก็เลยเสียดาย ปัจจุบันได้ทำการบันทึกความฝันเอาไว้ คิดว่าเขียนเอาไว้อ่านเหมือนนิทานดีกว่า คิดแค่นี้เอง บางทีฝันสนุกและเหมือนกับไปอยู่ในเหตุการณ์นั้นจริง ๆ ทำให้รู้สึกเสียดายและยังอยากนอนฝันต่อก็มี ฉะนั้นตอนนี้ก็มีความฝันที่จดบันทึกเอาไว้อ่านก็พอสมควร

สิ่งสำคัญอย่างหนึ่ง สงสัยว่าทำไมฝันได้ไง และ ทำไมต้องฝัน ก็เลยเอาเป็นเรื่องมาวิเคราะห์ให้กับตัวเอง ก็เลยเข้ากับบทความเบื้องต้นพอดี


#7 เถลิงเกียรติ

เถลิงเกียรติ
  • Members
  • 760 โพสต์
  • Interests:N/A

โพสต์เมื่อ 31 January 2006 - 12:20 AM

How to turn off brain?...

ในฐานะที่ข้าพเจ้าเรียนมาทางวิทยาศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ กระทู้ต่างๆ ที่ข้าพเจ้าแสดงความเห็นใน DMC.tv นี้
อาจเป็นเรื่องที่แตกต่างหรือเกี่ยวข้องกับ วิทยาศาสตร์ หรือ วิศวกรรมศาสตร์
ดังนั้นเรื่องที่ข้าพเจ้าเขียนถ้าไม่ตรงกับความคิดเห็นของท่านใด ขออย่าได้มีอคติก่อน
แต่ถ้าตรงกับความคิดเห็นของท่านผู้ใด ขออย่าได้เชื่อไปก่อน
ข้าพเจ้าขอยืนยันว่าเรื่องที่แสดงความเห็นเป็นแนวคิดของข้าพเจ้า
และข้อมูลที่ค้นคว้าเพื่อเสริมสร้างศรัทธาในพระพุทธศาสนาให้มั่นคง
ซึ่งอาจจะถูกบ้างผิดบ้างเป็นธรรมดา แต่ก็จะเป็นประโยชน์ เป็นข้อมูลหนึ่ง กับท่านที่ศึกษาทางพุทธศาสตร์
ข้าพเจ้ามีความเชื่อว่า แต่ละคนก็มีกรรมเป็นของตนเอง เราเป็นทายาทแห่งกรรม
ทำดีตามครูไม่ใหญ่ ต้องได้ดีแน่นอน
และสรุปได้ว่า การเอาธรรมในพุทธศาสนามาใช้ในการดำรงชีวิตไม่เคยล้าสมัย สามารถใช้ได้กับทุกยุคทุกสมัย

ถึงจะเป็นตะเกียงดวงน้อยด้อยแสง แต่ไฟแรงจุดติดดวงอื่นได้
ไม่เสียดายให้แสงสว่างกับผู้ใด ชักนำใจให้สว่างเพียงแต่ธรรม



#8 Somsakul V.

Somsakul V.
  • Members
  • 106 โพสต์
  • Gender:Female
  • Location:Nonthaburi, Thailand + Tochigi Japan
  • Interests:Personal Computer

โพสต์เมื่อ 13 February 2006 - 01:51 PM

เคยเหนื่อยมากๆ แล้วหลับ
ปรากฏว่าสติยังดีอยู่ แต่ร่างกายไม่เล่นด้วย
เหมือนเปนอัมพาตเลยอ่ะ

ตอนนั้นใจอยากไปไหนก็ได้ไป
แต่กลัวตาย ขอเข้าร่างก่อน
ออกแรงฮึด ถึงตื่นได้

เป็นอยู่หลายครั้งล่ะ
เคยบังคับฝันได้ตอนใกล้จะตื่น
แต่พอจะตื่นจริงๆ มันจะเคลื่อนไหวช้า จนหยุด แล้วก็ตื่นเลย
สวมร่างพอดี ขยับลำบากเลย
ตอนฝันขยับกายง่าย ไม่มีเมื่อย
ปล่อยวางซะมั่ง

#9 ป่าน072

ป่าน072
  • Members
  • 371 โพสต์
  • Location:โคราช
  • Interests:การศึกษาต่อในวิชา วิทยาศาสตร์<br />วิศวะปิโตรเคมี

โพสต์เมื่อ 23 August 2006 - 08:55 AM

เนื้อหาดีมากค่ะ
อนุโมทนาบุญด้วยนะคะ
สาธุ
เมื่อดวงตาปิดสนิมอย่างละมุน
ไม่มีลุ้นเร่งจองมองที่หมาย
ก็จะพบผู้รู้อยู่กลางกาย
ธาตุอ่อนแก่มากมายถึงปลายทาง

#10 นักท่องเที่ยว

นักท่องเที่ยว
  • Members
  • 2378 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:รู้สึกว่าจะไม่ค่อยได้อยู่กะที่อ่ะ มาดูอารายกานอ่ะ
  • Interests:มาสร้างบารมีตามติดหมู่คณะดีกว่า

โพสต์เมื่อ 23 October 2006 - 06:30 PM

ปกติบางครั้งเรานอนไม่ฝันเลย
กายธรรมควรเทิดไว้ ในใจ
เป็นสรณะภายใน เทียงแท้
กว่านี้ บ่ มีใด เทียบได้
น้อบนบท่านไว้แล ค่ำเช้าสุขเสมอ


เอาบุญมาฝากจ้า นั่งสมาธิเยี่ยมไปเลย แถมไปติดจานมาอีกด้วย เด็กชาวเขานี้น่ารักนะแม้คุยไม่รู้เรื่องก็ตามล่ะ สนุกดี

#11 CosZMosS

CosZMosS
  • Members
  • 4 โพสต์

โพสต์เมื่อ 13 December 2008 - 07:50 PM

ขอบคุณครับสำหรับความรู้

ผมทำได้ตั่งแต่ตอนเด็กๆแล้วครับ happy.gif
ในความเข้าใจของผมคือ ถ้าเรารู้ตัวว่าเราฝัน เราก็ลองคิดอย่างอื่น เช่น ผมเคยฝันว่าผมอยู่ที่บ้าน แต่บ้านผมมันแปลกๆ wacko.gif
ผมก็เลยรู้ว่าผมฝัน เลยนึกว่าตอนนี้ผมอยู่โรงเรียน แล้วภาพรอบตัวก็เปลี่ยนเป็นที่โรงเรียน glare.gif
ตั่งแต่นั้นมาผมก็เล่นอยู่ในฝันเหมือนผมเป็นพระเจ้าเลย คิดอะไรก็มีอย่างนั้นจนบางครั้งลืมตัวว่าฝันอยู่ตอนนี้ ผมเลยชอบฝันมากๆเลยครับ biggrin.gif
ผมว่ามันอยู่ที่สติของเรามากกว่า เพราะบางที่ผมก็นึกว่าเป็นความจริงเลยคุมไม่ได้ อิอิ ตอนนี้ก็พยายามนั่งสมาธิบ่อยๆอยู่ happy.gif
ตอนกลางวันก็ตั่งใจเรียน ตอนกลางคืนก็เล่นอยู่ในฝัน เหมือนได้เล่นเกมส์เป็นพระเจ้าทั้งคืนเลยครับ อิอิ (ติดเกมส์ไปหรือปาวหว่า wacko.gif )

ตอนแรกผมนึกว่าผมบ้าซะแล้ว 55+ biggrin.gif
แต่เมื่อผมได้มาอ่านบทความนี้ ทำให้ผมได้เข้าใจมากยิ่งขึ้นครับ ขอบคุณครับ happy.gif
ใครทำได้ก็ช่วยบอกกันน่อยนะครับว่าคิดกันอย่างไรครับ happy.gif
(อย่างน้อยก็จะได้รู้ว่าเราไม่ได้ทำเป็นคนเดียวอิอิ)
"ถ้าจิตมีเจตนาเป็นอกุศลก็เป็นบาป ส่วนกายทำอะไรไปนั้นไม่ได้เป็นบาปหรือบุญ"

#12 *ชิน*

*ชิน*
  • Guests

โพสต์เมื่อ 19 November 2010 - 07:34 PM

อ้อ อย่างนี้เอง ...
ผมนึกว่าเป็นคนเดียว + ใกล้เป็นบ้า..
ใครๆก็เป็นกันหรอ อิอิ
ใช่ครับ.. บินได้มันเจ๋งดี ..
แต่บางครั้งก็รู้ตัวตอนฝันร้าย แย่เหมือนกัน
ยิ่งกว่านั้นบางครั้งพยายามตื่นแต่กลับไปตื่นอีกฝันนึง ซ้อนๆกันไป ผมก็ใช้วิธีทดสอบความฝันเหมือนกันครับ
เช่นเวลาฝันอยุ่ๆ รู้สึกแปลกๆ เหมือนมีอะไรผิดปรกติจากโลกจริงๆ แล้วลองหาจุดที่ไม่มีในความเป็นจริง หลังจาก
นั้นก็สนุกผมหล่ะ แต่ เวลาอยากตื่นยากเป็นบ้าเลยครับ
ขอบคุณที่ให้ความรู้คับ smile.gif

#13 อารียา

อารียา
  • Members
  • 51 โพสต์

โพสต์เมื่อ 19 November 2010 - 08:56 PM


อยากมีประสพการณ์อย่างนี้บ้างจังเลย

#14 *ผู้มาเยือน*

*ผู้มาเยือน*
  • Guests

โพสต์เมื่อ 07 December 2010 - 08:49 AM

เคยทำเข้าไปอยู่ในลูซิดดรีม เมื่อฝันร้ายเราก็สู้กับปีศาจได้ชนะ ทำให้เหมือนกับฝันดี แต่ก็ไม่สามารถควบคุมได้อย่างใจนึกนัก และพอรู้ว่าตัวเองฝัน และบอกกับตัวเองว่าอยู่ในความฝันนิ มันก็จะหลุดออกจากความฝันนั้นทันที เหมือนกับว่ามันรู้ว่าเรารู้ตัวว่าฝันแล้ว เลยไล่เราออกมา

#15 *ผู้มาเยือน*

*ผู้มาเยือน*
  • Guests

โพสต์เมื่อ 07 December 2010 - 09:00 AM

ทำอย่างไรถึงจะควบคุมฝันได้สมบูรณ์แบบ เหมือนในหนังนะ เราควบคุมได้ส่วนเดียว ถ้าบอกตัวเองว่าฝันอยู่ล่ะก้อ มันก็จะตื่น ค่อยๆ หลุดออกมาจากความฝันทีละชั้น ทีละชั้นเลยล่ะ หรือว่าเพราะเราใช้วิธีนี้ตอนฝันร้าย ถ้าเราวันร้ายเราก็จะบอกว่านี้เราฝันอยู่ตื่นซะ แล้วมันก็ค่อย ๆ ตื่นหลุดออกมาจากความฝันทีละชั้น เหมือนกัน

#16 CosZMosS

CosZMosS
  • Members
  • 4 โพสต์

โพสต์เมื่อ 14 December 2010 - 10:54 PM

ผมเคยลองคิด เล่นๆ ว่าเราจะสามารถโทรจิตได้ไหม ผมจึงทดลองกับความฝัน เพราะมันน่าจะง่ายที่สุด biggrin.gif
พอผมฝัน ผมก็คิดถึงเพื่อนสนิดของผมคนนึง ภาพรอบๆตัวก็หายไป แล้วก็เห็นเพื่อนสนิต บริเวณรอบๆเป็นสีดำ
ก็เลยไปคุยกับเพื่อน เพื่อนผมตกใจมาก ผมก็อธิบายเกี่ยวกับการทดลอง และก็บอกว่า ถ้าทำได้จริงบอกผมที่โรงเรียนด้วย
แล้วพอผมไปโรงเรียน เพื่อนผมก็บอกว่าไม่ได้ฝันอะไรเลย
ผมจึงคิดว่าความฝันนั้น เราไม่ได้ลอยไปไหน แต่เราอยู่ในจิตของเราเอง อะนะ happy.gif
"ถ้าจิตมีเจตนาเป็นอกุศลก็เป็นบาป ส่วนกายทำอะไรไปนั้นไม่ได้เป็นบาปหรือบุญ"

#17 *ผู้มาเยือน*

*ผู้มาเยือน*
  • Guests

โพสต์เมื่อ 17 January 2011 - 11:20 AM



เคยฝันร้ายครับ ฝันเป็นภาพสีด้วย แล้วรู้สึุกว่าตัวเองฝันอยู่ ด้วยความอยากรู้ว่าตัวเองฝันอยู่หรือเปล่าก็เลยบอกให้ตัวเองตื่น มันก็ตื่นเลยครับ แต่มันไม่เหมือนตอนตื่นนอนปกติที่จะมีอาการงัวเงีย ง่วง ๆ อยู่ แต่มันเหมือนกับตื่่นมาหลายชั่วโมงแล้วครับ เหมือนแค่ลืมตาขึ้นมาเฉย ๆ ตื่นมาก็เออเมื่อกี้ฝันไปจริง ๆ


ผมคิดว่าความฝันมันก็คือความคิดตอนหลับนะแหละครับ ผมว่าคนเราส่วนใหญ่เวลาหลับก็ฝันกันเกือบหมดแหละครับ เพียงแต่จำไม่ได้ คนที่ฝึกสติ มา ถ้าสติมีกำลังพอก็รู้ทันความฝัน ครับ ว่าฝันอยู่้ ถ้าสติอ่อนกำลังเวลาฝัน มันก็คิดว่าเป็นของจริง ครับ ส่วนใหญ่ผมจำได้ว่าฝันว่าอะไร แต่ไม่รู้ว่าตัวเองกำลังฝันอยู่

ถ้าอยากฝึกสติ ศาสนาพุทธนี่ผมว่าดีที่สุดแล้วครับ จริงไม่จริงยังไง พิสูจน์ได้ด้วยตัวเองครับ



#18 *ผู้มาเยือน*

*ผู้มาเยือน*
  • Guests

โพสต์เมื่อ 27 February 2011 - 09:49 PM

ผมก็ทำได้ตั้งแต่เด็กเหมือนกันนะครับ ตอนนี้ก็ยังทำได้อยู่ ยกเว้นคืนไหนเมานะครับ หมดสิทธิ์ อยู่ที่สมาธิครับ ว่าเวลาที่เราฝัน เราจะจับจุดได้เร็วแค่ไหนว่านี่คือฝัน

แต่อย่าเล่นบ่อยไปนะครับ มีข้อเสียด้วย เพราะความฝัน ไม่ใช่ว่าจะมีแต่เรื่องสนุกอย่างนี้ ยังมี"ฝันบอกเหตุ"อีกครับ คิดดูสิครับว่าถ้าคืนไหน มีฝันบอกเหตุร้ายขึ้นมา แล้วคุณกำลัง Lucid คุณก็จะไม่ได้รับประโยชน์จากฝันบอกเหตุเลย

ในคืนที่"คาร์ฟู หาดใหญ่"ระเบิด ก่อนหน้านั้น1คืน ผมมีฝันบอกเหตุเข้ามา ผมฝันว่าผมไปคาร์ฟู <ก่อนหน้านี้ผมตั้งใจจะไปซื้อเสื้อยีนส์>ผมเดินเข้าประตูหน้า แล้วมีเปลวไฟโถมเข้าใส่ตัว ผมจึงตื่นขึ้นในคืนนั้น กลางคืนของอีกวัน ผมไม่ไปซื้อเสื้อที่คาร์ฟู ผมไปเดินเปิดท้ายแทน ระหว่างที่เดินซื้อเสื้อ แม่ค้าและผู้คนพูดกันยกใหญ่ว่าคาร์ฟูโดนระเบิด ตรงจุดที่ผมฝันพอดี

ถ้าคืนนั้นผมLucid วันนี้ผมคงไม่ได้มานั่งเล่าประสบการณ์ของผม อย่างแน่นอนครับ

ปล.ทั้งหมดที่เล่ามา เป็นความจริงจากประสบการณ์จริงของผมครับ




#19 *ผู้มาเยือน*

*ผู้มาเยือน*
  • Guests

โพสต์เมื่อ 03 March 2011 - 07:57 PM

เวลาผมควบคุมฝันผมเปลี่ยนคนรอบๆไม่ได้ และไม่สามารถสร้างคนที่อยากพบได้ แถมเวลาบินยังต้องควบคุมสติอีกแล้วก็บางครั้งไม่ได้ฝันนานเป็นอาทิตย์เลยไม่ได้เข้าไปเล่น อยากรู้ว่าทำไงถึงจะฝันได้บ่อยๆ ช่วยหามาหน่อยนะครับ

#20 *ผู้มาเยือน*

*ผู้มาเยือน*
  • Guests

โพสต์เมื่อ 23 March 2011 - 02:55 AM

คนเราปกติฝันทุกวันอยู่แล้ว แต่ว่าจำได้หรือเปล่าแค่นั้นเอง วิธีช่วยจำก็คือต้องจดความฝันไว้ทุกเช้า เวลาตื่นขึ้นมาอย่าเพิ่งขยับตัวแต่ลองนึกไปถึงฝันก่อน ถ้ามันไม่มาก็รอซักพักนึงแล้วจะนึกได้เอง
www.mortalmist.com

#21 CosZMosS

CosZMosS
  • Members
  • 4 โพสต์

โพสต์เมื่อ 01 April 2011 - 10:36 PM

ผมไม่รู้หรอกนะครับว่าวิธีที่จะให้ฝันบ่อยนะครับ ส่วนใหญ่ถ้าอยากจะฝันก่อนนอนผมจะนึกถึงสถานที่นึงอะไรก็ได้นะครับ ถ้าเราอยู่ที่ ที่เรานึกเอาไว้เราก็จะรู้ได้ว่าเราฝันอยู่ แต่ส่วนผมจะรู้สึกตัวว่าฝันประมาณ 80% นะครับ อีก 20% คือบางที่ ฝันว่าอยู่ห้องในนอน แล้วผมพึ่งตื่น(แล้วใครจะรู้ละ นึกว่าเป็นโลกของความจริง) หรือเล่นกับความฝันจนลืมตัวที่จะคงสติอยู่ = =*
โดยส่วนตัวผมคิดว่าเราจะสร้างอะไรมาได้เราต้องมี จิตนาการที่จะคงรูปขึ้น หรือจำสิ่งที่จะให้ออกมาได้ เกือบ100%นะครับ บางทีที่เราฝันแล้วภาพหายหรือตื่นนั้นเพราะเรานึกภาพต่อไปไม่ได้ครับ และอีกอย่างคือเราตกใจครับ เช่น ถ้าเวลาบินเราต้องนึกว่าเราบินได้ตลอกเวลาครับ ไม่งั้นตกพื้นครับ แล้วถ้าเวลาเราตกพื้นเราจะตกใจตื่นเพราะเราลืมนึกว่าเป็นความจริง แต่ถ้าเรามีสติรู้ว่ามันเป็นความฝันมันจะไม่ตกใจตื่นครับ

สิ่งที่ทำได้ในฝันในปัจจุบัน
-บิน
-เดินบนอากาศ
-กระโดดบนอากาศหลายๆชั้น
-ทะลุกำแพง
-ทำให้คอื่นมองไม่เห็น
-หายตัวจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง
-ควบคุมผู้อื่น
-เสกคน สิ่งของ
-เวทย์มนต์ เช่น ฝนตก แช่แข็งแมว (ตนนั้นฝันว่าถูกแมวไล่ล่าอย่างมันส์และเคยฝันว่าได้สู้กะนักเวทย์ด้วยกัน)
-และก็ ....... [18+] tongue.gif (อิอิ ไม่อยากจะบอก = =)
-ฯลฯ

หลักที่สำคัญคือเราต้องคิดว่า"นี้เป็นความฝันของเราเราเก่งสุด" และ ต้องฝึกการจิตนาการให้มีรูปร่างบ่อยเท่านั้นเอง
หลักที่สำคัญกว่าคือ มีสติอยู่ตลอดเวลา อย่าเผลอไม่งั้นหลุดทันที

ปล.สิ่งที่ผมทำไม่ได้และไม่อยากทำก็คือไปเข้าฝันคนอื่นครับ เพราะมีบางคนบอกว่ามันอันตรายมาก = =
"ถ้าจิตมีเจตนาเป็นอกุศลก็เป็นบาป ส่วนกายทำอะไรไปนั้นไม่ได้เป็นบาปหรือบุญ"

#22 *ผู้มาเยือน*

*ผู้มาเยือน*
  • Guests

โพสต์เมื่อ 14 June 2011 - 11:04 PM

เรื่องนี้ น่าจะนำมาสร้างหนังเรรื่อง อินเซบชั่น
ลักษณะฝันซ้อนฝัน

#23 **Lucifer**

**Lucifer**
  • Guests

โพสต์เมื่อ 26 November 2011 - 01:33 PM

ผมอยู่ในสภาะว่ะความฝันแบบ Lucid dreaming บ่อยมาก อาทิตหนึ่ง เป็นอยู่ 3-4 ครั้ง เพราะ ผมตื่นตี5 แล้วนอนต่อตอน9โมง-10โมง นอนประมาน3-4ชั่วโมงอ่าคัฟ แล้วเป็นแบบนี้ทุกทีเลยที่น้อนกลางวัน แบบว่า ผมสามาครควมคุมความฝันของผมเองได้อ่าคัฟ แต่พอแล้วผมจะตื่น ผมตื่นหรือจะออกจากความฝัน มันรู้สึกลืมตายากมากและขยับตัวได้ยากมาก เหมือนมีใครมากดไว้ประมาณนี้ (เหมือนทฤษฎีผีอำอ่าคัฟ) ผมอยากรู้มีนมีผลข้างเคียงอะไรไหม แล้วทำไมผมถึงอยู่ในสภาว่ะความฝันแบบ Lucid dreaming บ่อยมาก อ่าคัฟ ช่วยตอบหน่อย ผมไปคุยกับเพื่อนผมมา เพื่อนนึกว่าผมบ้า ดูหนักมากไปไหม

#24 santiphaab

santiphaab
  • Member_Facebook
  • 1 โพสต์

โพสต์เมื่อ 14 October 2013 - 05:58 PM

ตอนเด็ก เคยฝันร้ายประจำ โดนเฉพาะ เวลาดูหนังผี แต่พอฝันร้ายบ่อยๆ ก็เลยคิดกับตัวเองว่าต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อไม่ให้ฝันร้ายอีก จนตอนนี่ผมสามารถควบคุมความฝันได้แต่ทำได้ไม่ทั้งหมด ยังไงฝันร้ายก็คือฝันร้ายอยู่ดี เช่น ฝันเห็นปีศาจ ในความฝันผม ผมพยายามฆ่ามัน ด้วยทุกวิธีการที่ผมคิดได้ แต่ไม่ว่าจะทำอย่างไรมันก็ไม่ตาย และวิธีสุดท้าย คือการบินหนีไปแล้วก็สั่งให้ตัวเองตื่นจากฝันร้ายสักที แต่ไม่ว่าผมจะฝันแบบไหน ผมก็สามารถบินได้ทุกครั้งที่ต้องการ และสั่งให้ตัวเองตื่นได้ เช่นกัน 

วิธีการไม่ให้ฝันร้ายซ้ำ หรือฝันร้ายต่อจากเรื่องเดิมที่เคยฝัน 

บางคนฝันร้ายจนตกใจตื่น แล้วก็หลับต่อ แล้วก็ฝันร้ายในเรื่องเดิมอีก วิธีแก้คือ ให้พริกหมอบที่เราหนุนนอน แล้วเราจะไม่ฝันเรื่องเดิมอีก ผมทำประจำ ได้ผล แต่ลองไม่ทำเพื่ออยากรู้ว่า ช่วยได้จริงหรือป่าว สรุป คือ ยังกลับไปฝันต่อจริงๆ 

การนอนหลับที่ดีที่สุด คือการ หลับโดยที่ไม่ฝัน เพราะร่างกายจะได้พักผ่อนเต็มที่ รวมทั้ง สมอง



#25 skynoi

skynoi
  • Admin
  • 603 โพสต์
  • Gender:Male

โพสต์เมื่อ 23 January 2015 - 08:22 PM

เหตุแห่งความฝัน ๖

 

ความฝันของพระเจ้าปเสนทิโกศล และคำทำนายของพระพุทธเจ้า  :D



#26 vividu

vividu
  • Members
  • 716 โพสต์
  • Gender:Female
  • Location:Seattle, WA
  • Interests:Meditation

โพสต์เมื่อ 24 January 2015 - 10:21 AM

I was born with nightmares almost every single nights. Since studying and practicing The Middle Way Meditation (Dhammakaya), I can control my dream. When its half waking up, I realize myslef that I 'm half waking up and half sleeping. Kinda Lucid Dreaming. Some nights I still have bad dream but the mind always went to chant or just visualized Pra (such as Lunag Pu, Maha Dhattajeewo Cetiya even though I haven't been to the cetiya in reality). After that my dream will be finished and the mind will chant till I get 100% mindfulness and I further meditate right after that stage.This meditation is good and I have never had nightmares any longer. If you practice staying with center of gravity most of the time, you gain this mindfulness easily and its automatically. By the way during sleeping and I wake up and feeel that the sleep is not enough, the mind will withdraw from meditation and goes to sleeping mode once again.


I was born with nightmares almost every single nights. Since studying and practicing The Middle Way Meditation (Dhammakaya), I can control my dream. When its half waking up, I realize myslef that I 'm half waking up and half sleeping. Kinda Lucid Dreaming. Some nights I still have bad dream but the mind always went to chant or just visualized Pra (such as Lunag Pu, Maha Dhattajeewo Cetiya even though I haven't been to the cetiya in reality). After that my dream will be finished and the mind will chant till I get 100% mindfulness and I further meditate right after that stage.This meditation is good and I have never had nightmares any longer. If you practice staying with center of gravity most of the time, you gain this mindfulness easily and its automatically. By the way during sleeping and I wake up and feeel that the sleep is not enough, the mind will withdraw from meditation and goes to sleeping mode once again.

If anyone wanna have Lucid Dreaming, you may try my method. But I don't know if this works with everyone. Please tell me the result. :)


8-)


#27 kotchapornda

kotchapornda
  • Members
  • 649 โพสต์
  • Gender:Female

โพสต์เมื่อ 26 January 2015 - 10:15 AM

ขออนุโมทนาบุญกับทุกๆ ท่านด้วยค่ะ  ที่ให้ความรู้แปลกๆ ใหม่ ๆ ไม่เคยเป็น

แต่มีประสบการณ์เหมือนผีอำ ครึ่งหลับครึ่งตื่นอยู่ในห้องนอน บางครั้งได้ยินเสียงเหมือนมีคนเปิดประตูห้องแล้วจึงโดนอำ



#28 ืnok_love_you

ืnok_love_you
  • Member_Facebook
  • 1 โพสต์

โพสต์เมื่อ 11 May 2015 - 10:42 PM

เราก็ทำได้นะ รู้ตัวในฝันอ่ะ ควบคุมฝันด้วย เป็นแต่ม.1ตอนนี้ก็ยังเป็น ไม่เคยรู้มาก่อนว่ามีงานวิจัยไรพวกนี้ด้วย เราไม่ได้ฝึกไรเลยนะมันเป็นเอง บ่อยด้วย นึกว่าตัวเองเป็นคนแปลกๆซะอีก แต่ใครไม่ค่อยเชื้อหรอก แต่ว่ามันสนุกดีจิงๆนะ คุณลองคิดว่าดูในความฝันเราทำอะไรก็ได้ซึ่งเราไม่ผิดอะจะสนุกแค่ไหน>_< เวลาอยากตื่นก็ตื่น เวลามีคนเรียกไม่อยากตื่นก็ฝันต่ออย่างมัน555  อิอิ

 

บทตวามไขความกระจ่างให้ได้เลย แต่ที่บอกว่าต้องกึ่งหลับกึ่งตท่นอ่ะ เราไม่เห็นจำเป็นต้องทำเราก็ทำได้นะ


ผมอยู่ในสภาะว่ะความฝันแบบ Lucid dreaming บ่อยมาก อาทิตหนึ่ง เป็นอยู่ 3-4 ครั้ง เพราะ ผมตื่นตี5 แล้วนอนต่อตอน9โมง-10โมง นอนประมาน3-4ชั่วโมงอ่าคัฟ แล้วเป็นแบบนี้ทุกทีเลยที่น้อนกลางวัน แบบว่า ผมสามาครควมคุมความฝันของผมเองได้อ่าคัฟ แต่พอแล้วผมจะตื่น ผมตื่นหรือจะออกจากความฝัน มันรู้สึกลืมตายากมากและขยับตัวได้ยากมาก เหมือนมีใครมากดไว้ประมาณนี้ (เหมือนทฤษฎีผีอำอ่าคัฟ) ผมอยากรู้มีนมีผลข้างเคียงอะไรไหม แล้วทำไมผมถึงอยู่ในสภาว่ะความฝันแบบ Lucid dreaming บ่อยมาก อ่าคัฟ ช่วยตอบหน่อย ผมไปคุยกับเพื่อนผมมา เพื่อนนึกว่าผมบ้า ดูหนักมากไปไหม

ไม่มีหรอกน่าเราว่าเราก็เป็น  ลองกำหนดสิ ว่าวิธีตื่นของเราเป็นยังไงขึ้นมาเอง เช่นเวลาที่เราอยากตื่นของเราจะเอามือจับตาแล้วตี่(ในฝันนะ) แล้วเราก็คิดว่าเราจะตื่นมันจะตื่นมาปกติค่ะ ลองดู