ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
- - - - -

2549-01-12: คุณจะเลือกใคร ก็แล้วแต่ใจของคุณ


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 3 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 aoi

aoi
  • Members
  • 356 โพสต์

โพสต์เมื่อ 21 January 2006 - 04:21 PM

สรุปกรณีศึกษากฎแห่งกรรม
เรื่องคุณจะเลือกใคร ก็แล้วแต่ใจของคุณ
วันพฤหัสบดีที่ 12 มกราคม 2549


เจ้าของเคสเป็นคนไทยอยู่ที่เยอรมัน เข้าวัดเมื่อมิย. 48 ด้วยจูนพบสัญญาณดาวธรรมเข้าด้วยความบังเอิญ คุณพ่อเจ้าของเคสเป็นชาวบางแคมีรูปร่างหน้าตาดี และมาพบรักกับคุณแม่ที่เป็นชาวบางมด แล้วย้ายไปอยู่ด้วยกันที่สลัมคลองเตย ชีวิตส่วนใหญ่ของคุณพ่อจะหมดไปกับการดื่มเหล้า สูบบุหรี่ หาเรื่องชกต่อยผู้คนไปวันๆ และยังตั้งตนเป็นนักเลงประจำสลัมอีกด้วย หาเรื่องเดือดร้อนเสียเงินมาให้ครอบครัวเสมอ ซ้ำยังมีสาวๆ มาควงให้คุณแม่เห็นเป็นประจำอีกด้วย บั้นปลายชีวิตของท่านได้อาศัยอยู่กับภรรยาน้อย ขณะนี้ท่านมีอายุได้ 78 ปีแล้ว

คุณแม่เจ้าของเคสเป็นคนดี มีอาชีพค้าขาย ท่านมีลูกทั้งหมด 7 คน ผู้หญิง 5 คน ผู้ชาย 2 คน เจ้าของเคสเป็นลูกสาวคนที่ 4 ตลอดชีวิตของคุณแม่พบแต่ความลำบากต้องหาบเร่ค้าขายของเพื่อหาเงินมาจุนเจือครอบครัว โดยที่คุณพ่อไม่เคยช่วยเหลือเลย บ่อยครั้งที่เห็นท่านร้องไห้ แต่ท่านก็ต้องทนอยู่กับคุณพ่อเพราะรักลูกๆ ท่านต้องตื่นขายของตั้งแต่ตี 3 กลับบ้านอีกทีก็หลัง 2 ทุ่ม ถ้าวันไหนไม่กลับดึกก็จะคอยสอนลูกๆ ว่า " ทำงานมาเหนื่อยมาก ต้องกินดีอยู่ดี เพราะเราไม่รู้ว่าพรุ่งนี้จะเกิดอะไรขึ้น เพราะฉะนั้นวันนี้เราต้องกินให้ดี กินให้อิ่ม " ท่านจะเสียสละให้ทุกคนในบ้านกินข้าวให้อิ่มก่อนทุกมื้อ แล้วท่านจะทานเป็นคนสุดท้าย โดยเฉพาะช่วงมื้อเย็น 3-4 ทุ่ม หลังจากกลับค้าขายจะเห็นท่านหลับคาจานข้าวที่ทานอยู่เป็นประจำ และด้วยความขยันของท่านจึงมีหัวหน้าจับกังท่าเรือคลองเตยคนหนึ่งชวนท่านไปทำงานด้วย โดยให้เป็นหัวหน้าจับกังคุมคนงานซึ่งในตอนนั้นมีคนงานเป็นพันคน แบกหามสินค้าส่งออกที่ท่าเรือ แม้แต่คุณแม่เองก็ต้องแบกหามเหมือนกับคนงานเหล่านั้นด้วย ท่านทำงานหามรุ่งหามค่ำ เวลาพักผ่อนแทบไม่มี ท่านจึงล้มป่วยด้วยโรคความดันสูง และโรคเบาหวาน ต่อมาปี 2543 ท่านป่วยเป็นโรคตาต้อทั้ง 2 ข้าง จึงไปหาหมอเพื่อรักษาลอกต้อออก แต่รักษาได้เพียง 3 วัน ตาทั้งสองข้างของท่านก็บอดสนิท จึงเป็นเหตุให้ท่านล้มก้นกระแทกพื้นเป็นอัมพฤกษ์ครึ่งตัว ต้องนอนอยู่บ้านเฉยๆ ซ้ำยังมาทราบข่าวร้ายว่าลูกชายตายด้วยโรคอาหารเป็นพิษ จึงทำให้ท่านตรอมใจ โรคความดันสูงและโรคเบาหวานจึงกำเริบ และเสียชีวิตเมื่ออายุได้ 66 ปี

เจ้าของเคสตั้งแต่เกิดอาศัยอยู่ที่สลัมคลองเตย โตขึ้นมาก็ไม่ได้เรียนหนังสือ จนอายุได้ 11 ขวบ ถูกเกณฑ์เข้าโรงเรียนเทศบาลเรียนจบแค่ป.1 ก็ต้องออกมาช่วยค้าขายหางานทำช่วยคุณแม่ พออายุได้ 12 ปี ก็ไปรับจ้างก่อสร้างได้เงินมาเท่าไหร่ก็ให้คุณแม่หมด พออายุได้ 17 ปี จึงไปเป็นลูกจ้างจับกังเรือคลองเตยช่วยคุณแม่ (ซึ่งตอนนั้นเป็นหัวหน้าจับกัง) ช่วงนั้นคุณแม่ทาบทามผู้ชายมาให้แต่งงานด้วย แต่เจ้าของเคสไม่ได้ชอบเลย พอใกล้วันแต่งงานเจ้าของเคสจึงให้เพื่อนจับกังคนหนึ่งซึ่งนับถือเป็นพี่ชายพาหนีไป แต่เหมือนหนีเสือปะจระเข้เพราะเค้าพาเจ้าของเคสหนีไปอยู่บ้านพ่อแม่ของเค้าที่จ.นครปฐม แล้วขืนใจจนตั้งท้องได้ 6 เดือน และเพิ่งมารู้ว่าเค้ามีภรรยาและลูกอยู่ก่อนแล้ว แม่ของเค้าก็ดุด่าด้วยคำหยาบคายกับเจ้าของเคสทุกวัน เจ้าของเคสทนไม่ไหวจึงกลับมาอยู่กับคุณพ่อคุณแม่จนคลอดบุตรสาวเค้าจึงตามมาอยู่ด้วย แต่อยู่ได้ไม่นานเค้าก็หนีไปอีก

ตอนอายุ 18 ปี ก็มีหนุ่มๆ เข้ามาจีบ แต่เจ้าของเคสก็ไม่ได้ชอบใครเลย แล้ววันหนึ่งก็ถูกคนงานที่ท่าเรือคนหนึ่งข่มขืน แต่เจ้าของเคสไม่เอาเรื่องและไม่ยุ่งเกี่ยวอีกเพราะเค้ามีภรรยาอยู่แล้ว จนอายุ 20 ปี เจ้าของเคสก็ยังไม่มีงานทำเป็นหลักแหล่ง ลูกสาวก็โตขึ้นเรื่อยๆ ส่วนคุณแม่ก็ตกงานเพราะไปทะเลาะกับผู้คุมหัวหน้าจับกังท่าเรือ ช่วงนั้นไปทำงานที่ไหนใครก็ไม่รับ จึงอดข้าวกันทั้งบ้านเป็นเวลา 2 อาทิตย์ กินแต่หน่อไม้รองท้องทุกวัน คุณแม่จึงไปถามเพื่อนบ้านว่ามีงานอะไรให้เจ้าของเคสทำบ้างจะเป็นงานทำความสะอาดหรือคนรับใช้ก็ได้ แต่เพื่อนบ้านได้พาไปขายบริการ เจ้าของเคสทำงานอยู่ 2 ปีก็พลาดตั้งท้องได้ 4 เดือน โดยที่ก็ไม่รู้ว่าพ่อเด็กเป็นใครในที่สุดจึงทำแท้ง พอตกดึกคืนหนึ่งก็ฝันว่ามีเด็กผู้ชายมานั่งอยู่บนท้องและพูดว่า " แม่ใจร้าย แม่ฆ่าหนูทำไม " เจ้าของเคสตอบในความฝันว่า " แม่จำเป็นเพราะไม่มีเงิน กลัวลูกจะอดอยาก " เด็กคนนั้นก็พูดว่า " หนูจะเกิดเป็นลูกชายคนเดียวของแม่ให้ได้ " หลังจากนั้นเจ้าของเคสจึงผวาตื่นด้วยความหวาดกลัวมาก


ตอนอายุ 22 ปี ในคืนหนึ่งขณะที่ทำงานในสถานบริการอยู่นั้น ก็มีหนุ่มชาวเยอรมันคนหนึ่งมาเที่ยว และเจ้าของเคสก็เป็นคนดูแลเค้าในวันนั้นด้วย ครั้งแรกที่เค้าพบเจ้าของเคสเค้าก็บอกว่าชอบมาก พร้อมให้เงินจำนวนหนึ่งไว้ช่วยเหลือทางบ้านเจ้าของเคสด้วย อยู่ด้วยกัน 3 วัน เค้าก็บินกลับเยอรมัน หลังจากนั้นก็เค้าก็เขียนจดหมายมาบอกว่า " ผมรักคุณ รักมากอยากแต่งงานกับคุณ " พร้อมถามความรู้สึกของเจ้าของเคสด้วย ขณะนั้นเจ้าของเคสยังไม่มีใครจึงตอบไปว่า " ฉันก็ชอบคุณ และจะแต่งงานด้วย " หลังจากนั้นเค้าก็บินกลับมาแต่งงานแล้วก็พาไปอยู่ที่เยอรมันด้วยกัน ตอนนั้นเจ้าของเคสอายุ 25 ปี

เมื่อปี 2535 เจ้าของเคสอายุ 30 ปี ได้ตั้งครรภ์แล้วคลอดลูกออกมาเป็นผู้ชาย พอลูกชายอายุได้ 7 ขวบ จึงทราบว่าสามีไปมีภรรยาน้อย แรกๆ เจ้าของเคสทำใจไม่ได้ ทำประชดทุกอย่าง แม้แต่หันกลับไปขายบริการอีกครั้ง แต่สามีก็ไม่แคร์และไม่ยอมให้แตะเนื้อต้องตัวอีกด้วย ยิ่งทำให้เจ้าของเคสเจ็บช้ำใจมาก วันหนึ่งจึงยื่นคำขาดกับสามีว่า " ระหว่างฉันกับเธอคนนั้นคุณจะเลือกใคร " สามีก็อึกอัก เจ้าของเคสจึงพูดทั้งน้ำตาว่า " ที่เธอเงียบแสดงว่าเธอเลือกเขา ถ้างั้นฉันก็จะไป แต่ขอลูกชายของฉันไปด้วย " สามีเดินมาหาแล้วพูดว่า " ฉันเลือกเธอและลูก ฉันไม่เลือกผู้หญิงคนนั้นหรอก "


แต่หลังจากนั้นไม่นานลูกชายก็ประสบอุบัติเหตุถูกรถบรรทุกพุ่งชนศีรษะกระแทกกับขอบฟุตบาธที่ริมถนนข้างบ้านได้รับบาดเจ็บสาหัส เลือดคั่งในสมอง หัวใจหยุดเต้นถึง 5 ครั้ง แต่หมอช่วยไว้ทันแต่ต้องนอกรักษาตัวที่รพ. นานถึง 8 เดือน ทุกวันนี้ร่างกายซีกขวาใช้งานไม่ได้ต้องนั่งรถเข็นมาเป็นเวลา 5 ปีแล้ว ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ซึ่งเจ้าของเคสและสามีต้องคอยดูแลเค้าตลอด จนสามีพูดว่า " ถ้าวันใดเราสองคนต้องมาตายก่อนแล้วลูกของเราจะอยู่ได้อย่างไร " จากนั้นจึงชวนเจ้าของเคสฆ่าตัวตายกันทั้งครอบครัว แต่เจ้าของเคสไม่เห็นด้วย

จนมิย. 48 เจ้าของเคสให้ช่างมาติดตั้งดาวเทียมเพื่อดูละครไทย แต่จูนไปจูนมาเจอช่อง DMC จึงชวนสามีและลูกชายดูไม่เคยขาด แต่ก็ไม่รู้ว่าทั้งสองคนเข้าใจและรับรู้ได้แค่ไหน แต่สามีก็พอจะรู้จักการทำบุญอยู่บ้าง เพราะตอนอยู่เมืองไทยเจ้าของเคสพาไปเที่ยววัดแล้วทำบุญอยู่เป็นประจำ และยังอธิบายการทำบุญในพระพุทธศาสนาให้ฟังอีกด้วยซึ่งเค้าก็เข้าใจ และมีความตั้งใจที่อยากจะบวช พอมีลูกชายก็รอให้ลูกโต พอลูกชายอายุได้ 7 ขวบ วันหนึ่งเค้าก็ตกลงกับลูกชายว่าจะไปบวชพร้อมกันในวัดแห่งหนึ่งที่เมืองไทย และเจ้าของเคสก็จะถือศีล 8 บวชชีด้วย แต่ว่าลูกชายมาประสบอุบัติเหตุเสียก่อน ทุกวันนี้สามีเหมือนคนหมดอาลัยตายอยากในชีวิต เอาแต่ดื่มเหล้าสูบบุหรี่ไม่เชื่อการทำความดีเหมือนแต่ก่อน อีกทั้งยังบอกว่า " ผมทำความดีมาตลอด แต่เรื่องร้ายๆ ไม่น่าเกิดกับครอบครัวเราเลย " ตอนนี้เค้าก็ไม่สนใจในการทำบุญแล้ว


พ่อสามีจะเกลียดสามีมาก เพราะฝังใจคิดว่าสามีเป็นเหตุที่ทำให้แม่ต้องตาย เนื่องจากแม่สามีป่วยเป็นโรคมะเร็งเต้านมตั้งแต่เริ่มตั้งท้องสามี เมื่อพ่อสามีพบสามีจะต้องหงุดหงิด อารมณ์เสีย และโมโหร้ายมาก จนปี 2547 อยู่มาวันหนึ่งพ่อสามีก็ป่วยเป็นโรคความจำเสื่อมโดยไม่มีสาเหตุ ท่านจำใครไม่ได้เลย ซ้ำยังปัสสาวะและอุจจาระเรี่ยราดในบ้าน เจ้าของเคสต้องเช็ดถูอาบน้ำให้ ทุกครั้งที่ทำความสะอาดให้ พ่อสามีมักจะถามว่า " เป็นใคร มาทำอะไรฉัน " เจ้าของเคสก็จะตอบกลับไปทุกครั้งว่า " หนูเป็นสะใภ้ของพ่อ จำไม่ได้เหรอ " แล้วท่านก็จะอาละวาดกับทุกคนในบ้าน จนสามีทนไม่ไหวจึงพาไปรักษาที่บ้านพักคนชราก็ยิ่งทำให้พ่อสามีอาการทรุดหนัก คล้ายเป็นอัมพาตไม่สามารถช่วยตัวเองได้ ขณะนี้อายุได้ 78 ปี

หลับตา ฝันเป็นตุเป็นตะ ตื่นขึ้นมา หาวหนึ่งที
แล้วนำมาเล่าให้ฟังเป็นนิยายปรัมปรา


คำถาม
1. บุปผกรรมใดคุณพ่อของเจ้าของเคสจึงเป็นนักเลงหัวไม้ชอบชกต่อยและเจ้าชู้มาก ท่านจะมีกรรมอย่างไร ควรแก้ไขอย่างไร

เพราะกรรมในอดีตที่คบคนพาล และทำทานมาน้อย ท่านผิดศีลทั้ง 5 ข้อ ทำให้ใจหมองมาก ท่านจะต้องท่องเที่ยวในมหานรกหลายขุม เมื่อพ้นอบายแล้วเมื่อมาเกิดเป็นมนุษย์จะต้องยากจน มีโรคภัยไข้เจ็บมาก จะต้องไปเป็นโสเภณีมีชีวิตลำบากมาก เป็นต้น จะแก้ไขคือต้องหักดิบเลิกจากสิ่งไม่ดีทั้งหลายเหล่านั้น และหันมาทำทาน รักษาศีล เจริญภาวนา จนเข้าถึงพระในตัวจึงจะปิดอบายได้ ถ้ายังเข้าไม่ถึงก็จะผ่อนหนักเป็นเบา

2. บุปผกรรมใดคุณแม่เจ้าของเคสจึงมีสามีเจ้าชู้ และมีชีวิตที่ลำบากมาก ทำไมจึงป่วยเป็นโรคความดันสูง โรคเบาหวาน และโรคตาต้อ ถูกหมอลอกต้อจนตาบอดทั้งสองข้าง และต้องมาลื่นล้มเป็นอัมพฤกษ์ครึ่งตัวจนเสียชีวิตในที่สุด ท่านตายแล้วไปไหน ได้รับบุญที่อุทิศไปให้หรือไม่

เพราะในอดีตท่านก็ทำแบบคุณพ่อของเจ้าของเคส แต่ใช้กรรมมาหลายชาติแล้ว ชาตินี้เป็นแค่เศษกรรม อีกทั้งในอดีตท่านมีความตระหนี่ทำให้มีชีวิตลำบาก ที่ท่านเป็นโรคต่างๆ, ถูกหมอลอกต้อ และเป็นอัมพฤกษ์เพราะกรรมในอดีตสมัยเป็นผู้ชายได้คบคนพาลเป็นมิตร เกเร มักชอบชกตีทำร้ายผู้อื่นเสมอ รวมทั้งฆ่าสัตว์ทำเป็นอาหารและกับแกล้มสุรา อีกทั้งเคยชกทำร้ายคู่อริจนตาบอด วิบากกรรมดังกล่าวจึงมาส่งผล ตายแล้วก็เป็นกายสัมภะเวสีหิวโซ ร่อนเร่ เพราะไม่ค่อยจะได้ทำบุญ แต่ต่อมาก็ดีขึ้นเพราะบุญที่อุทิศไปให้ แต่ยังไม่ได้ไปเกิดก็เป็นภุมเทวาในระดับนั้น

3. บุปผกรรมใดพ่อสามีเจ้าของเคสจึงเกลียดสามีมากเพราะตัวสามีทำให้คุณแม่ของตัวเองตายใช่หรือไม่ ทำไมท่านเป็นโรคความจำเสื่อมโดยไม่มีสาเหตุ และป่วยเป็นอัมพาตทั้งตัว จะมีการแก้ไขได้อย่างไร

เพราะในอดีตสามีได้เป็นหัวหน้าคุมงาน ส่วนพ่อสามีและแม่สามีเป็นคนงานในชาตินั้น สามีได้ใช้พ่อและแม่สามีในชาตินั้นให้ปีนขึ้นไปในที่สูงเพื่อทำงานก่อสร้าง ทำให้แม่ตกนั่งร้านลงมาตายโดยอุบัติเหตุ (ด้วยกรรมเก่าของแม่ที่ทำปาณาติบาตมาเยอะ) แต่พ่อสามีไม่เข้าใจในกฏแห่งกรรมในชาตินั้นจึงผูกอาฆาตสามี ที่เป็นโรคความจำเสื่อมและอัมพาตเพราะในชาตินั้นท่านดื่มสุราเมื่อเมาแล้วมักจะไปทะเลาะวิวาทกับผู้อื่น ครั้งหนึ่งเคยทะเลาะวิวาทได้เอาไม้ตีศีรษะและตามตัวของคู่อริจนเค้าความจำเสื่อมและเป็นอัมพาตวิบากกรรมนี้จึงมาส่งผล ชาตินี้คงไม่หายแต่ให้ทำบุญสร้างองค์พระธรรมกายประจำตัวและทุกๆ บุญให้ท่านจะได้เป็นอโหสิกรรมกัน และไม่จองเวรกันอีก

4. ก่อนมาเกิดเจ้าของเคสมาจากไหนที่ใด บุปผกรรมใดจึงไปเกิดในสลัมและไม่ได้เรียนหนังสือ กรรมใดทำให้เจ้าของเคสถูกข่มขืนจากผู้ชายที่มีภรรยาแล้วถึง 2 คน และแม้มีลูกด้วยกันเค้าก็ไม่รับผิดชอบกลับหนีไป ควรแก้ไขวิบากกรรมอย่างไร

เจ้าของเคสมาจากกายที่แสวงหาที่เกิด เพราะในอดีตสร้างกรรมไว้เยอะ คือกรรมตะหนี่ไม่ทำทาน กรรมเจ้าชู้ กรรมมีมานะทิฐิ ผิดศีลข้อต่างๆ เป็นต้น ชาตินี้ได้ใช้กรรมไปบางส่วนแล้ว ให้อดทนทำความดีให้มากๆ อีกทั้งไม่ได้มีบุญด้านการสนับสนุนการศึกษา หรือคบบัณฑิต นักปราชญ์ จึงไม่ได้เรียนหนังสือ ที่ถูกข่มขืนและแม้มีลูกสามีก็ไม่รับผิดชอบก็เป็นภาพในอดีตที่เคยทำไว้แบบนี้เหมือนกัน จะแก้ไขในชาตินี้จะต้องรักษาศีล ทำทาน และนั่งสมาธิให้สม่ำเสมอ บุญเหล่านี้จะไปตัดรอนวิบากกรรมจากหนักเป็นเบา หรือหนีวิบากกรรมนี้ไป

5. กรรมใดเจ้าของเคสจึงมีอาชีพขายบริก

#2 สิริปโภ

สิริปโภ
  • Members
  • 1766 โพสต์
  • Gender:Male
  • Interests:เรื่องลึกลับ

โพสต์เมื่อ 21 January 2006 - 07:41 PM

สา ธุ ครับ




#3 Pro

Pro
  • Members
  • 134 โพสต์

โพสต์เมื่อ 22 January 2006 - 11:18 AM

อนุโมทนาครับ
ยิ้มแล้วรวย อ่านกระทู้อยู่ก็ยิ้มได้ครับ

#4 pp_072

pp_072
  • Members
  • 209 โพสต์
  • Interests:ดีครับ

โพสต์เมื่อ 24 January 2006 - 05:06 PM

อนุโมทนาครับ


อนุโมทนาครับ

พุทธบุตรต้องเป็นหนึ่งเดียวกัน เหมือนดวงตะวันที่มีดวงเดียว

พุทธบริษัท 4 ต้องเป็นหนึ่งเดียวกัน เหมือนตะวันที่มีดวงเดียว