ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
- - - - -

บุญหาช่องคอยส่งผล


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
ไม่มีการตอบกลับในกระทู้นี้

#1 kuna

kuna
  • Members
  • 780 โพสต์
  • Gender:Male

โพสต์เมื่อ 25 April 2006 - 05:56 PM

[attachmentid=4143]

พระผู้มีพระภาคพระนามว่า สิทธัตถะ ได้ตรัสความที่สังขารเป็นของไม่เที่ยงว่า สังขารทั้งหลายไม่เที่ยงหนอ มีความเกิดขึ้นและความเสื่อมไปเป็นธรรมดา เกิดขึ้นแล้วย่อมดับไป ความที่สังขารเหล่านั้นสงบระงับย่อมเป็นสุข
ในชีวิตของมนุษย์ทุกๆ คน ตราบใดที่ยังไม่หมดสิ้นอาสวกิเลส ตราบนั้นก็ยังต้องเวียนว่ายตายเกิดกันร่ำไป การเวียนตายเวียนเกิดในสังสารวัฏจำเป็นจะต้องมีเสบียงคือบุญ คอยสนับสนุนยังอัตภาพให้เป็นไป จนกว่าจะถึงจุดหมายปลายทางของชีวิต เสบียงคือบุญนี้เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตของพวกเราทั้งหลาย
ดังนั้นเราต้องขวนขวายสร้างบารมี ให้มีจิตใจเยี่ยงพระบรมโพธิสัตว์ ที่ทุกลมหายใจของท่านเป็นไปเพื่อการสั่งสมบุญบารมีล้วนๆ เมื่อจิตใจของเราผูกพันกับการสร้างบารมีกับการประพฤติธรรม จิตใจของเราจะถูกกลั่นให้ใสสะอาด บริสุทธิ์ เหมาะสมที่จะเป็นภาชนะรองรับอริยธรรมเบื้องสูงต่อไป
มีธรรมภาษิตที่ปรากฏอยู่ใน โสปากเถราปทาน ความว่า
“พระผู้มีพระภาคพระนามว่า สิทธัตถะ ได้ตรัสความที่สังขารเป็นของไม่เที่ยงว่า สังขารทั้งหลายไม่เที่ยงหนอ มีความเกิดขึ้นและความเสื่อมไปเป็นธรรมดา เกิดขึ้นแล้วย่อมดับไป ความที่สังขารเหล่านั้นสงบระงับย่อมเป็นสุข พระสัพพัญญูเชษฐบุรุษของโลก เป็นพระผู้ประเสริฐ ทรงเป็นนักปราชญ์ ตรัสดังนี้แล้ว เสด็จเหาะขึ้นในอากาศ ดังพญาหงส์ในอัมพร เราละทิฏฐิของตน เจริญอนิจจสัญญาได้ในวันเดียว ก็ทำกาละ ณ ที่นั้นเอง ด้วยผลแห่งกรรมนั้น เราไม่รู้จักทุคติเลย นี้เป็นผลแห่งการถวายอาสนะดอกไม้ ในกัปที่ ๙๔ แต่ กัปนี้ เราได้เจริญสัญญาใดในกาลนั้น เราเจริญสัญญานั้นอยู่ได้บรรลุอาสวขัยแล้ว คุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา ๔ วิโมกข์ ๘ และอภิญญา ๖ เราทำให้แจ้งชัดแล้ว คำสอนของพระพุทธเจ้าเราได้ทำเสร็จแล้ว” ถ้อยคำอันเป็นมงคลนี้ พระอรหันตสาวกรูปหนึ่ง ได้กล่าวอย่างปีติเบิกบานใจ เมื่อท่านบรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์แล้ว นักสร้างบารมีในยุคก่อนๆ นั้น หัวใจของท่านมีแต่การสร้างบุญสร้างบารมีอย่างเดียว และสร้างกันทุกรูปแบบ ไม่ใช่แค่ว่า มีอารมณ์เมื่อไรก็ทำ แต่ทำอย่างชนิดที่ว่าเป็นชีวิตจิตใจ จะแตกต่างกันตรงที่ว่า วาระโอกาสที่พิเศษแห่งบุญนั้น ใครจะมีโอกาสได้สร้างบุญที่พิเศษกว่ากัน บุญพิเศษจะอำนวยประโยชน์สุขที่เกื้อกูล แก่ผู้เป็นเจ้าของอย่างน่าอัศจรรย์ และบุญพิเศษจะปรุงแต่งให้เราได้ครอบครองในสิ่งที่ผู้คนทั้งหลายครอบครองไม่ได้ บุญบารมีจึงเป็นเบื้องหลังของทุกชีวิต ที่คอยอำนวยประโยชน์สุขและความสำเร็จให้บังเกิดขึ้น วัตถุประสงค์ของการมาเกิด ก็เพื่อสร้างบารมี มุ่งไปสู่ที่สุดแห่งธรรม นี่คือวัตถุประสงค์หลักของชีวิต ต้องเกิดมาเพื่อสร้างบารมี ไปเอาที่สุดแห่งรูปกาย คือกายมหาบุรุษกลับคืนมาให้ได้ จะได้ปราบมารให้สิ้นเชื้อไม่เหลือเศษ
นี่คือวัตถุประสงค์หลัก หลายต่อหลายครั้งที่เมื่อย้อนดูชีวประวัติของนักสร้างบารมีในกาลก่อน ก็เพื่อทำให้ทุกท่านได้เชื่อมั่นและมีกำลังใจในเรื่องการสร้างบารมี เหมือนกับท่านเหล่านั้น เพื่อให้มั่นใจว่า สิ่งที่ดีงามเหล่านี้ บัณฑิตนักปราชญ์ในกาลก่อนล้วนทำมาแล้ว และได้รับผลของการกระทำนั้นอย่างเกินควรเกินคาด ดังนั้นเราทุกคนควรดำเนินตามรอยท่านผู้มีบุญในกาลก่อน


*พระเถระรูปนี้ ในอดีตชาติ ทุกครั้งที่เกิดมา ท่านจะได้พบบวรพระพุทธศาสนา พบพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามาหลายพระองค์ นับเป็นบุญของท่าน อีกทั้งยังมีโอกาสฟังธรรม เกิดสัมมาทิฏฐิ รู้ถึงความจริงของชีวิตว่า ทุกชีวิตไม่ได้มีอยู่เพียงภพชาตินี้เท่านั้น ยังจะต้องเวียนว่ายตายเกิดอีกยาวนาน จนกว่าบุญในตัวจะเต็มเปี่ยม สามารถกำจัดกิเลสอาสวะให้หมดสิ้นไปได้ เมื่อกุลบุตรท่านนั้น ตั้งใจฟังธรรมและสั่งสมบุญจนตลอดชีวิต บุญก็หนุนนำให้ไปเกิดในสุคติโลกสวรรค์ เสวยทิพยสมบัติอยู่ยาวนาน กลับลงมาเกิดอีก บุญบันดาลให้ได้ลงมาเกิดเป็นมนุษย์มาพบพระพุทธศาสนาและเป็นสัมมาทิฏฐิอีก เวียนว่ายตายเกิดอยู่เช่นนี้ จนมาถึงในสมัยของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนามว่า สิทธัตถะ แต่ไม่ใช่ในยุคของเรา ต้องนับถอยหลังไปถึง ๙๔ มหากัป ตอนนั้นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนามว่า สิทธัตถะ ซึ่งพระนามของพระองค์เผอิญมาพ้องกับพระนามของเจ้าชายสิทธัตถะ แต่ไม่ใช่องค์เดียวกัน กุลบุตรท่านนั้นได้ลงมาเกิดในตระกูลของกุฎุมพี มีทรัพย์สมบัติมากมายมหาศาล นับได้ว่าเป็นตระกูลที่มีฐานะมั่งคั่ง วันหนึ่ง บุญบันดาลให้ได้พบพระบรมศาสดาโดยบังเอิญ ท่านยังไม่ได้เตรียมไทยธรรมถวาย แต่เมื่อโอกาสดีมาถึงแล้ว นักสร้างบารมีจะไม่ยอมปล่อยให้ผ่านไปอย่างแน่นอน
ทันทีที่สายตาแลไปเห็นพระพุทธองค์กำลังเสด็จบิณฑบาต ท่านเกิดมหาปีติคิดว่า วันนี้นับเป็นบุญลาภของเราที่ได้พบพระผู้มีพระภาคเจ้า แม้จะยังไม่มีไทยธรรมที่ละเอียดประณีต แต่เราขอเอาบุญก่อน ถ้ามัวแต่รอความพร้อม โอกาสดีอย่างนี้คงหายาก คิดเช่นนี้แล้ว แม้ในมือ มีเพียงผลมะงั่ว ก็น้อมผลมะงั่วเข้าไปถวายพระบรมศาสดาทันที
พระผู้มีพระภาคเจ้าเห็นความตั้งใจจริงของกุลบุตรท่านนั้น จึงทรงอนุเคราะห์รับผลมะงั่วและเสวยที่ตรงนั้นนั่นเอง กุลบุตรเห็นเช่นนั้น มหาปีติที่ไม่มีประมาณได้เอ่อล้นซาบซ่านทั่วสรรพางค์กาย
พระบรมศาสดาตรัสให้โอวาทว่า “ดูก่อนกุฎุมพี การที่ท่านทำความดีอย่างนี้ เป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้ว เพราะชีวิตคนเรานั้นไม่ยั่งยืน แต่ความดีงามที่ได้ ทำนี้จะติดตามตัวเราไปทุกภพทุกชาติ”
ครั้นได้รับโอวาทเช่นนั้น บุตรของกุฎุมพีได้เจริญอนิจจสัญญา พิจารณาถึงความไม่เที่ยงของสังขาร ดำรงตนอยู่ด้วยความไม่ประมาท ได้ตั้งใจว่า จะต้องสร้างบุญทุกวัน ไม่ให้ขาดเลยแม้แต่วันเดียว เมื่อคิดอย่างนี้ก็เริ่มตั้งสลากภัต ถวายภัตที่เจือด้วยน้ำนมแก่ภิกษุจนตลอดชีวิต ด้วยอานุภาพแห่งบุญที่ทำไว้ บุญนั้นได้ส่งผลให้เข้าถึงสุคติโลกสวรรค์ นับภพนับชาติไม่ถ้วน เวียนว่ายตายเกิดอยู่ในสองภูมิเท่านั้น คือมนุษย์และเทวโลก
จนมาถึงสมัยพุทธกาลนี้ กรรมเก่าที่เคยกระทำไว้ในอดีตตามมาทัน ซึ่งเป็นบุพกรรมฝ่ายอกุศล ส่งผลให้ท่านมาเกิดในท้องของหญิงเข็ญใจคนหนึ่ง ซึ่งเมื่อครรภ์แก่ใกล้คลอด แต่ก็คลอดไม่ได้ จึงสลบไป คล้ายคนที่ตายไปแล้วหลายวัน พวกญาติได้นำนางไปที่ป่าช้าด้วยเข้าใจว่าตายแล้ว ขณะยกขึ้นสู่จิตกาธานกำลังจะจุดไฟ เทวดาทั้งหลายเห็นว่า ในท้องของหญิงนี้ มีผู้มีบุญญาธิการมาเกิด จะปล่อยให้ตายไม่ได้ จึงบันดาลให้เกิดพายุฝนขึ้นทันที พวกหมู่ญาติต่างพากันหลบเข้าที่กำบังกันหมด
ทารกที่อยู่ในท้องได้ออกจากท้องของมารดาด้วยอานุภาพของเทวดา ส่วนมารดาเมื่อเด็กออกมาก็สิ้นใจ เทวดาทั้งหลายได้แปลงกายเป็นมนุษย์มาอุ้มเด็กไปวางไว้ในเรือนของคนเฝ้าป่าช้า คนมีบุญไปอยู่ที่ไหนก็จะเป็นที่รัก เด็กคนนี้ก็เช่นกัน ทันทีที่คนเฝ้าป่าช้าเห็นเข้าเท่านั้น เขาเกิดความรักเหมือนลูกในอุทร จึงเลี้ยงดูอย่างดี และให้มีนามว่า โสปากะ เพราะเกิดและเติบโตในป่าช้า
เมื่อโสปากกุมารอายุได้ ๗ ขวบ บุญเก่าที่ได้สั่งสมมาจนเต็มเปี่ยมบริบูรณ์ ทำให้เด็กน้อยอยู่ในข่ายพระญาณของพระผู้มีพระภาคเจ้า พระพุทธองค์จึงเสด็จไปที่ป่าช้า เพื่อโปรดกุมาร แม้เด็กน้อยมีอายุเพียง ๗ ขวบ แต่บุญเก่าในตัวตักเตือน
ทันทีที่เห็นพระบรมศาสดา เด็กน้อยเกิดจิตเลื่อมใส ปรารถนาที่จะบรรพชา พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงเห็นเหตุในอดีต จึงทรงแสดงธรรมเกี่ยวกับอนิจจสัญญา ทำให้เด็กน้อยซาบซึ้งและแทงตลอดในเรื่องนั้น พระผู้มีพระภาคทรงประทานการบวชให้ หลังจากบรรพชาก็บำเพ็ญสมณธรรม และสามารถบรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์ในป่าช้านั่นเอง


เราจะเห็นว่า บุญที่ทุกๆ คนได้สั่งสมไว้ จะคอยหาโอกาสส่งผลตลอดเวลา เพื่อให้เราได้สมปรารถนาในชีวิต บุญจะเป็นเหมือนพี่เลี้ยงคอยประคับประคองผู้เป็นเจ้าของ ให้ไปถึงฝั่งของชีวิตที่สมบูรณ์ คือให้ได้บรรลุมรรคผลนิพพาน ดังเช่นชีวิตของพระโสปากเถระ ที่ท่านได้บรรลุวัตถุประสงค์ก็ด้วยอานุภาพบุญเก่าคอยส่งผลให้ บุญที่เราทำในวันนี้ จะเป็นบุญเก่าของเราในวันพรุ่งนี้ เราใช้บุญไป บุญก็มีวันหมด เราต้องสร้างบุญใหม่เรื่อยๆ ทำกันไปทุกวัน เพื่อบุญที่เราทำในชาตินี้ จะไปเป็นบุญเก่า ของเราในชาติหน้า ให้เราได้ใช้ต่อในชาติหน้าและชาติต่อๆ ไป ดังนั้นเราจึงไม่ควรประมาทในการสั่งสมบุญ ต้องตั้งใจเอาบุญทุกๆ อย่างให้เต็มที่กันทุกคน

*มก. โสปากเถราปทาน เล่ม ๗๑ หน้า ๕๔

ไฟล์แนบ

  • แนบไฟล์  MO1_53__.jpg   100.13K   15 ดาวน์โหลด