ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
* * * * * 1 คะแนน

ทำยังไงถึงจะลืมคนรักที่ทิ้งเราไปได้ ขอคำแนะนำหน่อยค่า


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 47 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 Nu

Nu
  • Members
  • 224 โพสต์

โพสต์เมื่อ 25 September 2006 - 07:53 AM

แฟนที่คบกันมา 5 ปี ซื้อแหวนแต่งงานเรียบร้อยแล้ว ทั้ง ๆ ที่เคยคิดกันว่าเราจะอยู่ดั้วยกันจนแก่เฒ่า อยู่ดี ๆ ก็บอกว่ามีคนใหม่ แล้วก็ขอเลิก
ตอนนี้กำลังพยายามทำใจ ตั้งใจว่าจากนี้จะไม่เสียเวลากับเรื่องพวกนี้อีกแล้ว ขอคำแนะนำใจการทำใจ จะได้ตัดใจได้เร็ว ๆ ขอบคุณค่า

#2 MiraclE...DrEaM

MiraclE...DrEaM
  • Members
  • 1368 โพสต์

โพสต์เมื่อ 25 September 2006 - 08:10 AM

ลองไปฟังเพลงที่คุณ เจิน เจิน ร้องนะครับ เปิดในโรงเรียนอนุบาลบ่อยๆ น่ะครับ ที่ร้องว่า
"ดั่งของ ที่ขอยืมมา ในไม่ช้า ต้องคืนเขาไป
ไม่มีทางเลือกอื่นใด นอกจากคลายความผูกพัน"
คำตอบอยู่ในเพลงนั้นนะครับ
สิ่งอัศจรรย์ ปรากฏ บนผืนหล้า
มหาวิหาร จรัสฟ้า ค่ายิ่งใหญ่
รูปทอง ผ่องผุด ดุจยองใย
สะท้อนถึง ห้วงดวงใจ สุดบูชา

*********************

รักษ์ร่างพอสร่างร้าย ..... รอดตน
ยอดเยี่ยม "ธรรมกาย" ผล ..... ผ่องแผ้ว

เลอเลิศล่วงกุศล ..... ใดอื่น
เชิญท่านถือเอาแก้ว ..... ก่องหล้าเรืองสกล


คำสอนของเดชพระคุณหลวงพ่อ
พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) ผู้ค้นพบวิชชาธรรมกาย

#3 สาคร

สาคร
  • Members
  • 764 โพสต์

โพสต์เมื่อ 25 September 2006 - 08:13 AM

แน่นอนคุณจะพบสิ่งที่ดีกว่า ส่วนเขาก็จะพบกับลำบากทั้งทางกายทั้งใจ เขาไม่มีวาสนาที่จะได้คุณเป็นคู่ครอง คุณควรจะดีใจที่เขาเผยธาตุแท้ของเขาออกมาก่อนที่จะสายไปกว่านี้ วัดก็เป็นอีกที่หนึ่งอาจจะทำให้คุณสบายใจแต่ก็ไม่เสมอไปถ้าที่ไหนที่ไปแล้วหรือทำแล้วสบายใจทำไปเถอะครับ แต่อย่าคิดที่จะประชดหรือทำร้ายจิตใจคุณเอง เนื่องจากว่าถ้าคุณทำอย่างนั้น จะบ่งบอกว่าคุณไม่มีปัญญาสมควรแล้วที่เขาคนนั้นบอกเลิก และเขาคนนั้นแทนที่จะเห็นใจสงสาร เขากลับจะสมน้ำหน้าคุณอีก เพราะถึงตรงนี้แล้วผมว่าเขาไม่มีเยื่อใยต่อคุณแล้ว ถึงคุณจะแสดงความจริงใจอีกสักแค่ไหนก็ไม่มีประโยชน์อีกต่อไป ในเมื่อระยะเวลาที่ผ่านมามันมากพอที่จะพิสูจน์แล้วว่าคุณรักเขาแค่ไหน ก็ขอเอาใจช่วยนะครับ(น้อยคนที่ไม่เคยอกหักหรือผิดหวังจากเรื่องความรัก)
ความรักความเมตตาและการให้อภัยเป็นสิ่งที่คนดีเขามีกัน


[email protected]

#4 สิทฺธิกโร(V-active)

สิทฺธิกโร(V-active)
  • Members
  • 486 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:สมุทรปราการ
  • Interests:ธรรมมะ และการปฏิบัติธรรม

โพสต์เมื่อ 25 September 2006 - 08:33 AM

ทำใจใสสบาย เราไม่พลัดพรากจากกันตอนนี้ ก็ต้องพลัดพรากกันตอนอื่น ดีสะอีก ที่เขาจากคุณไปตอนนี้ ดีกว่ามี ลูก แล้วจากไปจะทำให้คุณช้ำใจยิ่งกว่านี้อีก คุณมาถือศีล 8 ดีกว่าครับ หันมาถือศีล 8 แล้วนั่งสมธิ ดีกว่า เดียวก็ลืม ได้ กาลเวลาจะทำให้เราลืมเขาได้ เอาเวลาที่จะมานั่งคิดเรื่องนี้ มานั่งสมาธิแล้วมาสร้างบารมีดีกว่า มีแต่จะทำให้ชีวิตเราเจริญรุ่งเรื่อง หรือไม่ก็ลองพิจารณาภาพ อสุภะ ว่าสังขารไม่เที่ยง ในร่างกายของเรามีแต่สิ่งเน่าเหม็น


**************************************************************************************
ใจดวงหนึ่งมีได้เพียง แค่ความคิดเดียว มีสุขมีทุกข์ มีหัวเราะหรือร้องไห้ อยากให้ใจเราเป็นอย่างไรให้ทำใจของเราเป็นอย่างนั้นเอง
ในใจฉันมีพระแก้วใส ไม่มีสุขใดจะมาเปรียบปาน ดั้งสุขอายนนิพพาน
ฉันเบิกบานสราญหัวใจ ไม่มีอะไรใหม่ต้องแสวงหาอีกแล้ว
เพราะใจของฉันมีพระแก้วใส หลับตาที่ไรหยุดใจนิ่งเอาไว้ องค์พระแก้วใสใหญ่ขึ้นๆทุกที องค์พระแก้วใสใหญ่ขึ้นๆทุกที
ผุดขึ้นที่ละองค์ ต่อกันเป็นสายล้วนพระธรรมกาย ขยายเต็มตัวฉัน มีสุขสดชื่นอยู่ทุกคืนวัน
ฉันขอแบ่งปันความสุขให้ทุกคน

#5 บุญโต

บุญโต
  • Members
  • 2192 โพสต์
  • Gender:Female
  • Location:อนุเสาวรีย์ชัยสมรภูมิ
  • Interests:ปฏิบัติธรรม

โพสต์เมื่อ 25 September 2006 - 08:37 AM

เป็นกำลังใจให้ค่ะ ทุกอย่างจะค่อย ๆ ดีขึ้นนะคะ

*********************************************

เมื่อหวนนึกถึงความหลังในเรื่องดี ก็จะเกิดความปลาบปลื้ม
เมื่อหวนนึกถึงความหลังในเรื่องเสีย ก็จะเกิดความเศร้าใจ

ถ้ามีความหลังในทางดี แล้วลุ่มหลง ชีวิตก็จะไม่พัฒนา
ถ้ามีความหลังในทางเสีย แล้วลุ่มหลง ชีวิตก็จะตรอมตรม คิดไปก็ช้ำใจเปล่า ให้ทำใจเสียว่าทุกครั้งที่เราผิดพลาดผิดหวังเราจะเข้าใจชีวิตและโลกดีขึ้น

จงลืมความหลังเหล่านั้นสักครู้ ทิ้งความหลังสู่ความเป็นจริง สร้างแต่คุณงามความดีที่มีคุณค่าให้เห็นความดีปัจจุบัน
ซึ่งจะเป็น "ความหลังที่ดี" ในอนาคต...เมื่ออยากจะหวนรำลึกถึง

ความหลังฝังใจแนบแน่น มีรักมีแค้นมีหรรษา
มีสุขมีโศก มีน้ำตา อย่าเสียเวลากับความหลังเลย
ลืมความหลังฝังใจเสียสักครู่ แล้วหยุดอยู่ปัจจุบันกันเถิดเอ๋ย
สร้างความดีมีคุณค่ามาชดเชย จักเฉลย สุขล้ำค่า ฟ้าชั่วดิน

*********************************************
จาก ข้อคิด ข้อเขียน...ทันต์จิตต์...วัดพระธรรมกาย



#6 BiBi

BiBi
  • Members
  • 240 โพสต์
  • Gender:Male

โพสต์เมื่อ 25 September 2006 - 08:59 AM

เป็นกำลังใจให้นะค่ะ
ผู้ชายดี ๆ เหมือนงมเข็มในมหาสมุทร เป็นโสดซะดีกว่าค่ะ

ทำพระนิพพานให้แจ้ง แสวงบุญ สร้างบารมี

#7 Dhamma Bot

Dhamma Bot
  • Members
  • 477 โพสต์
  • Gender:Male

โพสต์เมื่อ 25 September 2006 - 09:14 AM

คุณคือผู้โชคดีครับ ที่แฟนของคุณได้เปิดโอกาสให้คุณสั่งสมบุญบารมีอย่างเต็มที่ และประพฤติพรหมจรรย์ยิ่งๆขึ้นไปครับ

#8 ฝันที่เป็นจริง

ฝันที่เป็นจริง
  • Members
  • 436 โพสต์

โพสต์เมื่อ 25 September 2006 - 09:27 AM

QUOTE
คุณคือผู้โชคดีครับ ที่แฟนของคุณได้เปิดโอกาสให้คุณสั่งสมบุญบารมีอย่างเต็มที่ และประพฤติพรหมจรรย์ยิ่งๆขึ้นไปครับ


เห็นด้วยอย่างยิ่งครับ ดังคำสอนยาย

อยู่คนเดียว มีเงิน 100 ทำบุญได้ เต็มที่
แต่งงาน ทำได้อย่างมากก็ 50
มีลูก 5 บาท ไม่รู้จะได้ทำหรือเปล่า

และเนื่องจากบุญเป็นต้นเหตุแห่งความสุขและความสำเร็จทั้งภพนี้และภพหน้า การที่เราอยู่คนเดียวได้ จะทำให้มีโอกาสสั่งสมบุญได้เต็มที่ เป็นสิ่งที่น่ายินดีมากครับ ช่วงนี้ต้องใช้ธรรมโอสถรักษาใจครับ ถ้ามีเวลาอยากแนะนำให้ไปปฏิบัติธรรมที่พนาวัฒน์สัก 7 วัน แล้วความสุขและบุญที่ได้จากการปฏิบัติธรรม จะทำให้เรามีกำลังใจมากขึ้น แถมยังเผื่อแผ่ไปถึงคนรอบข้างได้อีกด้วย
"หยุด เป็น ตัวสำเร็จ"

สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะ เม ภันเต อุกาสะ ทวารัตตะเยนะ กะตัง
สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะ เม ภันเต้ อุกาสะ ขะมามิ ภันเตฯ


หากข้าพระพุทธเจ้า ได้เคยประมาทพลาดพลั้งล่วงเกินต่อพระรัตนตรัย อันมีพระพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระธรรม และพระอริยสงฆ์ทั้งหลาย ในชาติก่อนก็ดี ชาตินี้ก็ดี ด้วยกายก็ดี วาจาก็ดี ด้วยใจก็ดี ด้วยเจตนาก็ดี ไม่เจตนาก็ดี ด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ก็ดี
ขอองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ พระธรรม พระอริยสงฆ์ทั้งหลาย และผู้มีพระคุณทุกท่าน ได้โปรดยกโทษให้แก่ข้าพระพุทธเจ้า ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพานด้วยเทอญ



#9 panu

panu
  • Members
  • 530 โพสต์

โพสต์เมื่อ 25 September 2006 - 09:57 AM

เข้าใจในความรู้สึก
แต่ก็ถือว่าเป็นโชคดี ที่เลิกกันตอนนี้ ซึ่งดีกว่าต้องเลิกกันภายหลังจากแต่งงานกันแล้วและมีลูกด้วยกัน
เพราะคงเชื่อได้ว่า ถึงอย่างไร ถ้าไม่เลิกวันนี้ ก็ต้องเลิกกันในวันข้างหน้าแน่นอน เพราะคุณกับเขาไม่ใข่คู่ที่จะต้องอยู่ด้วยกัน
การใช้อยู่อย่างเป็นโสด สะดวก สบาย และมีโอกาสสร้างบุญบารมีได้มากนะครับ


#10 เคยเข้าวัด

เคยเข้าวัด
  • Members
  • 1296 โพสต์
  • Interests:สร้างบุญบารมีอย่างยวดยิ่ง ตราบเท่าชีวีหมดอายุขัย

โพสต์เมื่อ 25 September 2006 - 10:07 AM

อยากให้คุณลองพิจารณาดูว่าตอนที่แฟนคุณยังอยู่ ชีวิตคุณเรียกว่ามีความสุขแน่แล้วหรือ เวลาคุณอยากจะไปไหน เขาต้องโทรตามเช็คตลอด เป็นความสุขของคุณหรือทำให้คุณรำคาญกันแน่ เวลาที่คุณทั้ง2ผิดใจกันต้องทะเลาะกันซึ่งผมมั่นใจว่าต้องเคยทะเลาะกันแน่ เป็นความสุขของคุณหรือเปล่า และสุดท้าย การที่เขามาทิ้งคุณไปเป็นความสุขที่คุณได้รับจากเขาหรือไม่ แล้วลองเอามาเปรียบเทียบดูกับตอนนี้ว่า หลังจากที่เขาทิ้งคุณไปแล้วคุณมีความสุขกว่าตอนที่คบกับเขาไหม เวลาคุณไปเที่ยวไหนก็ไม่ต้องมีคนคอยโทรตามเช็คให้รำคาญใจ จะไปที่ไหนก็ได้อย่างที่ใจคุณปราถนา คุณไม่ต้องอารมณ์เสียไม่ต้องหงุดหงิดไม่ต้องทะเลาะกับใครทำให้ใจคุณสบายอย่างที่ไม่เคยเป็น แถมตอนนี้คุณสามารถที่จะสร้างบุญสร้างกุศลได้อย่างเต็มที่อีกด้วย ไม่ต้องไปแบ่งให้คนอื่น
ที่สำคัญ อยากให้คุณนั่งสมาธิทำใจให้ใส แล้วคุณจะเริ่มคิดได้เองว่าดีแล้วที่เขาออกไปจากชีวิตคุณ ไม่ต้องมีห่วงหรือโซ่ตรวนมาคล้องคอพันธนาการให้เราทำอะไรไม่ได้สะดวกไม่ได้ดั่งใจ ขอเอาหัวเป็นประกันถ้าคุณนั่งสมาธิแล้วคุณจะคิดได้เองครับ เพราะผมก็เคยเป็นแบบคุณมาก่อนและเชื่อว่าเป็นมากกว่าคุณเจ้าของกระทู้อีก เพราะระยะเวลาที่ของผมยาวนานกว่าของคุณมาก แต่สิ่งที่ช่วยผมให้หลุดจากนรกทั้งเป็นได้ก็คือสมาธิครับ
1) พระปัญญาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 20 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 4 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน คือ พระสมณโคมสัมมาสัมพุทธเจ้า (อย่างน้อยที่สุด)
2) พระศรัทธาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 40 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 8 อสงไขย กับ แสนมหากัป) (อย่างน้อย)
3) พระวิริยาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 80 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 16 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ต่อไป คือ พระศรีอาริยเมตไตรยสัมมาสัมพุทธเจ้า (เป้าหมาย

#11 ดวงตะวันแก้ว

ดวงตะวันแก้ว
  • Members
  • 122 โพสต์

โพสต์เมื่อ 25 September 2006 - 11:40 AM

พยายามเข้าน่ะค่ะ


#12 cheterk

cheterk
  • Members
  • 314 โพสต์
  • Interests:พระนิพพาน

โพสต์เมื่อ 25 September 2006 - 11:41 AM

ผมแนะนำ นิวรณ์ 5 นะครับ อาจจะดูไกลตัว แต่ 5 ข้อนี้ เป็นต้นเหตุแห่งการมาของทุกข์จริงๆ ครับ

กามฉันทะ คือความยินดี พอใจ เพลิดเพลินในกามคุณอารมณ์ ได้แก่ ความยินดี พอใจในรูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ(สิ่งสัมผัสทางกาย) อันน่ายินดี น่ารักใคร่พอใจ รวมทั้งความคิดอันเกี่ยวเนื่องด้วยรูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะนั้น (คำว่ากามในทางธรรมนั้น ไม่ได้หมายถึงเรื่องเพศเท่านั้น)


วิธีแก้
1.) กามฉันทะ แก้ได้หลายวิธีตามลักษณะของกามฉันทะที่เกิดขึ้น ดังนี้

พิจารณาถึงความจริงที่ว่ากามคุณทั้งหลายนั้นมีสุขน้อยมีทุกข์มาก คือให้ความสุขในช่วงที่ได้มาใหม่ ๆ ซึ่งเป็นเสมือนเหยื่อล่อให้ติด ครั้นเมื่อติดในสิ่งนั้น ๆ แล้ว ความทุกข์ทั้งหลายก็จะตามมา ถ้ายิ่งถูกใจมากเท่าใด ก็จะยิ่งนำความทุกข์มาให้มากขึ้นเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นทุกข์จากการแสวงหาเพื่อให้ได้มากยิ่งขึ้น ทุกข์จากการพยายามรักษาสิ่งนั้นเอาไว้ ทุกข์จากความหวงแหน ความกลัวว่าจะต้องสูญเสียสิ่งนั้นไป และเมื่อต้องสูญเสียสิ่งนั้นไป ก็จะยิ่งเป็นทุกข์ยิ่งขึ้นไปอีก เพราะเราทั้งหลายล้วนจะต้องพลัดพรากจากสิ่งที่เป็นที่รักที่พอใจ ด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น

พิจารณาถึงความที่สิ่งทั้งหลายมีความแปรปรวนไปตลอดเวลา สิ่งที่ให้ความสุขในวันนี้ ก็อาจจะนำความทุกข์มาให้ได้ในวันข้างหน้า เช่น คนที่ทำดีกับเราในวันนี้ ต่อไปถ้าเขาเบื่อ หรือไม่พอใจอะไรเราขึ้นมา เขาก็อาจจะร้ายกับเราอย่างมากก็ได้

พิจารณาถึงความเป็นอสุภะ คือเป็นของไม่สวยไม่งาม เต็มไปด้วยของไม่สะอาด ร่างกายที่เห็นว่าสวยงามในตอนนี้ จะคงสภาพอยู่ได้นานสักเท่าใด พอแก่ตัวขึ้นก็ย่อมจะหย่อนยาน เหี่ยวย่นไม่น่าดู ถึงแม้ในตอนนี้เอง ก็เต็มไปด้วยของสกปรกไปทั้งตัว ตั้งแต่เส้นผมจรดปลายเท้า (ไม่เชื่อก็ลองไม่อาบน้ำดูสักวันสองวันก็จะรู้เอง) ลองพิจารณาดูเถิด ว่ามีส่วนไหนที่ไม่ต้องคอยทำความสะอาดบ้าง และถ้าถึงเวลาที่กลายสภาพเป็นเพียงซากศพแล้วจะขนาดไหน

พิจารณาถึงคุณของการออกจากกาม หรือประโยชน์ของสมาธิ เช่น

เป็นความสุขที่ประณีต ละเอียดอ่อน เบาสบายไม่หนักอึ้งเหมือนกาม คนที่ได้สัมผัสกับความสุขจากสมาธิสักครั้ง ก็จะรู้ได้เองว่าเหนือกว่าความสุขจากกามมากเพียงใด

เป็นความสุขที่ไม่ต้องแสวงหาจากภายนอก เพราะเกิดจากความสงบภายใน จึงไม่ต้องมีการแย่งชิง ไม่ต้องยื้อแย่งแข่งขัน ไม่ต้องกลัวถูกลักขโมย
เป็นความสุขที่ไม่ต้องมีวัตถุใดๆ มาเป็นเครื่องล่อ จึงไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น


ประโยคที่เวลาผมพูดมักจะยกมาแนะนำเสมอคือ อนิจจัง (สิ่งไม่เที่ยง) ทุกขัง (เป็นทุกข์) อนัตตา (ไม่ใช่ตัวตนของเรา)

องค์พระช่วยได้ครับ ดีใจ เสียใจ - อยากได้ ไม่อยากได้ - สมหวัง ไม่สมหวัง คือ อนิจจังนะครับ สิ่งทั้งหลายเหล่านี้


ทุกข์เกิดจากอะไร
ทุกข์มี 2 ประเภทใหญ่ ๆ คือ
1.) ทุกข์ในอริยสัจ 4
2.) ทุกข์ในไตรลักษณ์


ทุกข์ในอริยสัจ 4 ก็คือทุกขเวทนาหรือความรู้สึกที่เป็นทุกข์ ซึ่งก็คือความทุกข์ในความหมายของคนทั่ว ๆ ไปนั่นเอง ทุกขเวทนามี 2 ทางคือ


ทุกข์ทางกาย กับทุกข์ทางใจ
ทุกข์ทางกาย หมายถึงทุกข์ที่มีกายเป็นเหตุ ได้แก่ ทุกข์ที่เกิดจากความหนาว ความร้อน ความป่วยไข้ ความบาดเจ็บ ความหิวกระหาย ความเสื่อมสภาพของร่างกาย ทุกข์ที่เกิดจากการที่ต้องคอยประคบประหงม ดูแลบำรุงรักษาทำความสะอาดร่างกาย และความทุกข์อื่น ๆ อันมีกายเป็นต้นเหตุอีกเป็นจำนวนมาก ทุกข์ทางกายเหล่านี้เป็นสิ่งที่เกิดมาคู่กับร่างกาย เป็นสิ่งที่เลี่ยงได้ยาก ตราบใดที่ยังมีร่างกายอยู่ก็ต้องทนกับทุกข์ทางกายนี้เรื่อยไปไม่มีวันพ้นไปได้ แม้แต่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าซึ่งเป็นผู้ที่สร้างสมบุญบารมีมาอย่างมากมาย มากกว่ามนุษย์และเทวดาทั้งหลาย ก็ยังต้องทนทุกข์ทางกายนี้จนกระทั่งถึงวันปรินิพพาน สมกับคำที่ว่า การเกิดทุกคราวเป็นทุกข์ร่ำไป


ทุกข์ทางใจ หมายถึงทุกข์ที่เกิดจากการปรุงแต่งของใจ ทุกข์ทางใจนี้ส่วนหนึ่งมีทุกข์ทางกายเป็นสิ่งเร้าให้เกิด เช่น เมื่อได้รับบาดเจ็บหรือป่วยไข้ขึ้นมาทำให้เกิดทุกข์ทางกายขึ้นแล้ว ต่อมาก็เกิดความกังวลใจ ความหวาดกลัวขึ้นมาอีกว่าอาจจะรักษาไม่หาย อาจจะต้องสูญเสียอวัยวะไป หรืออาจจะต้องถึงตาย ซึ่งความกังวลความหวาดกลัวเหล่านี้จะก่อให้เกิดทุกข์ทางใจขึ้นมา ทุกข์ทางใจอีกส่วนหนึ่งเกิดขึ้นโดยไม่มีทุกข์ทางกายเป็นต้นเหตุ เช่น ความทุกข์จากการประสบกับสิ่งที่ไม่เป็นที่รักที่พอใจ ความทุกข์จากการพลัดพรากจากสิ่งที่เป็นที่รักที่พอใจ ทุกข์จากการไม่ได้ในสิ่งที่ปรารถนา ทุกข์จากความโกรธความขัดเคืองใจ ทุกข์จากความกลัว ทุกข์จากความกังวลใจ ความคับแค้นใจ ทุกข์จากความกลัวว่าความสุขที่มีอยู่จะต้องหมดไป ทุกข์จากความกลัวความทุกข์ยากลำบากที่อาจจะมีขึ้นในอนาคต ทุกข์จากการกลัวความเสื่อมลาภ เสื่อมยศ เสื่อมสรรเสริญ และทุกข์ทางใจอื่น ๆ อีกนับไม่ถ้วน
กล่าวโดยสรุป ทุกข์ทางใจทั้งหมดล้วนมีต้นเหตุมาจากความโลภ ความโกรธ และความยึดมั่นถือมั่น .


ทุกข์จากความโลภ ตามหลักอภิธรรมแล้วความโลภจะไม่ประกอบด้วยความทุกข์ เพราะความโลภจะเกิดขึ้นพร้อมกับความดีใจ หรือเกิดพร้อมกับความรู้สึกเฉย ๆ ( อุเบกขา ) เท่านั้น ที่กล่าวว่าความทุกข์ที่มีต้นเหตุมาจากความโลภในที่นี้ ไม่ได้หมายความว่าความทุกข์นั้นเกิดพร้อมกับความโลภ แต่เป็นความทุกข์อันมีความโลภเป็นเบื้องต้น และมีความทุกข์เป็นเบื้องปลาย อันได้แก่ ความทุกข์ที่เกิดจากความกลัวจะไม่ได้ในสิ่งที่ตนอยากได้ ทุกข์จากการที่ต้องดิ้นรนขวนขวายเพื่อให้ได้ในสิ่งที่ตนอยากได้ เป็นต้น


ทุกข์จากความโกรธ ความโกรธนั้นไม่ว่าจะเกิดขึ้นเมื่อใดก็นำทุกข์มาให้เมื่อนั้น เพราะความโกรธจะทำให้จิตใจต้องเร่าร้อนดิ้นรน เกิดความกระทบกระทั่งภายในใจ ทำให้จิตใจเศร้าหมอง ความโลภนั้นในเบื้องต้นยังพอจะนำความสุขมาให้ได้บ้าง ( ในขณะที่เกิดความเพลิดเพลินยินดี ) แต่ความโกรธนั้นนำมาแต่ความทุกข์เพียงอย่างเดียวเท่านั้น ตัวอย่างของความทุกข์จากความโกรธเช่น ทุกข์จากความไม่พอใจ ขัดเคืองใจ คับแค้นใจ กังวลใจ ความกลัว ความหวาดระแวง ความมองโลกในแง่ร้าย ความไม่สบายใจ ความอิจฉาริษยา ความพยาบาทอาฆาตแค้น เป็นต้น


ทุกข์จากความยึดมั่นถือมั่น สิ่งทั้งหลายทั้งปวงไม่ว่าจะเป็นฝ่ายรูปธรรมหรือนามธรรม ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายวัตถุหรือฝ่ายจิตใจก็ตาม ถ้าเราไปยึดมั่นถือมั่นเข้าแล้วก็ล้วนนำทุกข์มาให้ทั้งนั้น ไม่ว่าจะยึดว่าเป็นเรา เป็นของของเรา เป็นตัวเป็นตนของเรา ยึดว่าเป็นเขา เป็นของของเขา ยึดว่าเป็นสิ่งที่เราชอบใจ เป็นสิ่งที่เราไม่ชอบใจ ยึดว่าเป็นคนที่เคยทำร้ายเรา เคยด่าเรา ยึดว่าเป็นญาติพี่น้อง เป็นศัตรู เป็นครูอาจารย์ เป็นผู้ที่เราเคารพนับถือ ยึดว่าเป็นนาย เป็นบ่าว เป็นเพื่อน เป็นหน้าที่การงาน ฯลฯ ไม่มีสิ่งใดเลยที่ยึดมั่นถือมั่นแล้วจะไม่นำทุกข์มาให้ แม้แต่ยึดในบุญกุศล ความดี มรรค ผล นิพพาน ก็ตามที ( อริยบุคคลนั้นไม่ยึดในรูปนามทั้งหลาย ไม่ยินดีในการเกิดก็จริง แต่ก็ไม่ได้ยึดมั่นในมรรค ผล นิพพาน )
เพราะการยึดในสิ่งที่เราไม่ชอบใจก็ย่อมจะทำให้เกิดความขัดเคืองใจ โกรธ ไม่พอใจ คับแค้นใจ กลัว ฯลฯ พูดง่าย ๆ ก็คือเป็นต้นเหตุของความทุกข์จากความโกรธนั่นเอง ส่วนการยึดในสิ่งที่เราชอบใจก็จะทำให้เกิดทุกข์อันมีต้นเหตุมาจากความโลภ นอกจากนี้ยังจะทำให้เกิดทุกข์จากความกลัวการพลัดพรากสูญเสียสิ่งเหล่านั้นไป ทุกข์จากการต้องคอยทนุถนอม บำรุงรักษา เก็บรักษาไว้ ต้องคอยปกป้อง ห่วงใย ต้องคอยดูแลเอาใจใส่ไม่เป็นอิสระ และถ้าต้องสูญเสียสิ่งเหล่านั้นไปก็จะยิ่งเป็นทุกข์ขึ้นไปอีกมากมายนัก ส่วนการยึดในบุญนั้นก็ต้องเป็นทุกข์จากการรอคอยว่าเมื่อไรผลบุญถึงจะตอบสนอง ยึดในบาปก็เป็นทุกข์กลัวกรรมจะตามสนอง
กล่าวโดยสรุปก็คือ ยึดสิ่งไหนก็ทุกข์เพราะสิ่งนั้น ถ้าเราไม่ยึดมั่นถือมั่นสิ่งใดเลยความทุกข์ทางใจทั้งหลายก็ไม่อาจจะเกิดขึ้นกับเราได้เลย .
ทุกข์ในไตรลักษณ์ ไตรลักษณ์ก็คือสามัญลักษณะ 3 ประการคือ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา คำว่าทุกข์ในไตรลักษณ์ก็หมายถึงทุกขัง ในไตรลักษณ์หรือที่เรียกว่าทุกขลักษณะนั่นเอง ซึ่งหมายถึงการที่สิ่งทั้งหลายทั้งปวงยกเว้นนิพพาน ล้วนอยู่ในสภาวะที่ถูกเหตุถูกปัจจัยทั้งหลาย บีบคั้นให้แปรปรวนไปอยู่ตลอดเวลา ไม่สามารถทนอยู่ในสภาพเดิมได้ตลอดไป (ดูเรื่องทุกขเวทนากับทุกข์ในไตรลักษณ์ ในหมวดวิปัสสนา (ปัญญา) ประกอบ)


ทุกข์ในไตรลักษณ์นี้เป็นลักษณะอันเป็นสามัญ คือเป็นเรื่องธรรมดาของสังขารธรรมทั้งหลายที่จะต้องเป็นไปอย่างนั้น เป็นกฎอันเป็นพื้นฐานของธรรมชาติ เพราะสิ่งทั้งหลายทั้งปวงล้วนเป็นเพียงผลของเหตุของปัจจัยเท่านั้นเอง ไม่มีสิ่งใดเลยที่มีอำนาจเหนือตน ตราบใดที่ยังไม่เข้าสู่สภาวะแห่งนิพพานแล้ว ก็จะต้องเผชิญกับทุกข์ในไตรลักษณ์นี้ด้วยกันทั้งสิ้น
ทุกข์ในอริยสัจ 4 ก็อยู่ในสภาวะทุกข์ในไตรลักษณ์ด้วย นอกจากนี้สุขเวทนาและอุเบกขาเวทนาก็ยังไม่พ้นจากทุกข์ในไตรลักษณ์ เพราะทั้งสุขและอุเบกขาก็ล้วนถูกเหตุปัจจัยต่าง ๆ บีบคั้นให้แปรปรวนไปอยู่ตลอดเวลาเช่นกัน



ธรรมะใสๆ

#13 รัก แล้ว ทุกข์

รัก แล้ว ทุกข์
  • Members
  • 270 โพสต์

โพสต์เมื่อ 25 September 2006 - 11:42 AM

เดี๋ยวก็ดีขึ้นเองนะครับ
ตอนนี้มันทรมาน
มันเจ็บใจ แค้นใจ เศร้า เหงา อ้างว้าง วังเวง นะครับ
แต่เดี๋ยวทุกอย่างก็ดีขึ้นเอง
ตอนแรกเหมือนจะทำใจไม่ได้
แต่สุดท้ายก็เป็นไปเอง
เวลา ครับ เป็สิ่งที่ดีที่สุดที่จะช่วยเรา
รอเวลาเป็นสิ่งที่ทำให้เรื่องราวต่างๆค่อยๆเลือนไป
-------------------------------------------

นี่แหละครับ ที่ใดมีรัก ที่นั่น มีทุกข์
ร้อยรักก็ร้อยทุกข์

#14 somchet

somchet
  • Members
  • 900 โพสต์

โพสต์เมื่อ 25 September 2006 - 12:07 PM

คิดซะว่า มันเป็นโอกาศทำให้คุณ สร้างบารมี ไปที่สุดแห่งธรรมได้เร็วขึ้นซิครับ

#15 kasaporn

kasaporn
  • Members
  • 870 โพสต์

โพสต์เมื่อ 25 September 2006 - 12:10 PM

อย่าเสียใจไปเลยค่ะ โชคดีมากที่ยังไม่ได้แต่งงาน เพราะผู้หญิงส่วนมากคาดหวังว่าชีวิตแต่งงานคงจะมีความสุข สดชื่น สมหวังทุกอย่าง ถือว่าโชคดีมากนะคะที่เลิกกันก่อนแต่งงาน บางคนแต่งงานแล้วเลิกกัน ทั้งเสียเวลา เสียใจ เสียความรู้สึกแถมต้องมาเป็นห่วงความรู้สึกของพ่อ แม่อีก โชคดีแล้วค่ะ เป็นกำลังใจให้นะคะ ต้องเข้มแข็งค่ะ

#16 หนิงหน่อง

หนิงหน่อง
  • Members
  • 20 โพสต์

โพสต์เมื่อ 25 September 2006 - 12:11 PM

ขอเป็นอีกหนึ่งกำลังใจ อภัย ทำใจใสใสไว้ นั่งสมาธิ

#17 หัดฝัน

หัดฝัน
  • Members
  • 4531 โพสต์
  • Gender:Male
  • Interests:ธรรมะ

โพสต์เมื่อ 25 September 2006 - 12:38 PM

ให้เปลี่ยนบรรยากาศ ด้วยการไปปฏิบัติธรรม 7 วันครับ แล้วใจของคุณจะมีพลังกลับคืนมาด้วยกำลังทั้ง 5 ได้แก่
1. กำลังปัญญา ตอนนี้ คุณได้อ่านโพสแนะนำของเพื่อนๆ ท่านอื่นมา 6 ความคิดแล้ว ซึ่งช่วยทำให้กำลังปัญญาเพิ่มพูน แต่เนื่องจากเชื้อโรคทางใจ คือ การผิดหวังในรักนี้ ร้ายกาจ มาก ลำพังการแก้ด้วยกำลังปัญญา อย่างเดียว ไม่เพียงพอ คุณต้องมีกำลังแห่งใจ อย่างอื่นมาช่วยด้วยครับ เหมือน มีเสนาบดี อยู่เพียงคนเดียว จะไปช่วยป้องกันข้าศึกย่อมไม่ไหว เช่นตอนนี้ อ่านข้อความเพื่อนๆ เข้าใจแล้ว แต่พอเผลอ ใจมันจะหมกมุ่นครุ่นคิดไปกับความหลังอยู่อีก

2. ดังนั้นเราต้องสร้างกำลังแห่งใจทีเหลือกลับคืนมา ได้แก่ กำลังสติ สมาธิ ศรัทธา ความเพียร ซึ่งสามารถทำได้โดยการขึ้นไปปฏิบัติธรรม 7 วัน เมื่อปฏิบัติธรรม
2.1 เขาจะสอนให้มีสติอยู่ตลอดเวลา ไม่หมกมุ่นกับความคิดในอดีต เท่านี้กำลังสติเราจะเพิ่มพูนกำลังคืนมา
2.2 เขาจะสอนให้ฝึกสมาธิตลอดทั้งวัน ทำให้ใจเราได้พัก พลังความเข้มแข็ง ตั้งมั่นจะกลับคืนมา
2.3 เขาจะสอนให้รู้จักหลวงปู่ หลวงพ่อ คุณยาย จะทำให้ใจของเราได้พลังแห่งความศรัทธาคืนมา มีตัวอย่างของบุคคลผู้เข้มแข็งเป็นแบบอย่าง เราก็จะมีกำลังศรัทธา อยากทำให้ได้อย่างท่านเหล่านั้น
2.4 เขาจะมีกิจกรรมต่างๆ ให้ทำ เช่น ช่วยล้างถ้วยชาม เก็บห้องปฏิบัติธรรมให้เรียบร้อย ทำให้เราไม่อยู่ว่างๆ พลังความเพียรก็งอกเงยขึ้นมา ไม่หมกมุ่นอยู่แต่อดีต

ทำได้เช่นนี้ ใจของเรา จะคืนพลังแห่งใจทั้ง 5 พอพลังใจคืนมาแล้ว หวนย้อนนึกไปในวันที่เคยผิดหวัง จะขำตัวเองว่า ตอนนั้น เป็นอย่างนั้นไปได้อย่างไร

ปล. คุณอาจเห็นว่า เพื่อนๆ บางท่านก็แนะนำให้นั่งสมาธิแล้ว ขอบอกว่า ถ้านั่งอยู่บ้าน จะไม่ได้บรรยากาศ เดี๋ยวพอหวนนึกถึงความหลัง ใจก็หมดกำลังอีกอยู่ดี ต้องไปปฏิบัติธรรมต่อเนื่อง 7 วัน ไปเจอบรรยากาศของการปฏิบัติธรรมจริงๆ แล้วบรรยากาศนั้น จะพาเราพ้นออกจากห้วงความผิดหวังได้ครับ
ได้ดี เพราะมีกัลยาณมิตร

#18 Tanay007

Tanay007
  • Members
  • 616 โพสต์

โพสต์เมื่อ 25 September 2006 - 12:56 PM

หาเป้าหมายชีวิตใหม่ ให้ชัดเจน มองให้เห็นโทษของการใช้ชีวิตคู่
ตอนนี้ ทั้งเพื่อนผม คนที่เคยคุ้นเคย เวลาที่ผมทราบข่าวพวกเขา ก็รู้ว่าส่วนใหญ่จะไม่มีความสุข จุดจบของนิยายชีวิตจริง ไม่ใช่พระเอกกับนางเอกแต่งงานกันครับ ถ้าบอกไปเดี๋ยวจะหาว่า ไม่เจอเองไม่รู้ งั้นก็ให้ดูเคสฯ ก็แล้วกัน 900 เรื่องน่ะ ถามจริงๆ ว่ามีชีวิตคู่ที่สมหวังซักกี่คู่ ที่สมหวังก็นิดเดียว ที่ชีวิตคู่ล่มสลายก็ไม่น้อย ส่วนมากจะประคองชีวิตคู่แบบทุลักทุเลซักมากกว่าครับ (แล้วจะไปหาความสุขได้แต่ที่ไหน)

#19 light mint

light mint

    ขออนุโมทนาบุญค่ะ

  • Members
  • 1423 โพสต์
  • Gender:Female
  • Location:THAILAND
  • Interests:ธรรมะ

โพสต์เมื่อ 25 September 2006 - 01:26 PM

ก็ลืม
อย่าไปนึกถึงเรื่องเก่าๆ
คิดว่า มันผ่านไปแล้ว
ข้างหน้ายังมีเรื่องที่ต้องทำอีกมาก
มุ่งไปข้างหน้าดีกว่า
ขออนุโมทนาบุญนะคะ สาธุ


#20 Nu

Nu
  • Members
  • 224 โพสต์

โพสต์เมื่อ 25 September 2006 - 01:47 PM

ขอบคุณทุก ๆ ท่านที่ให้กำลังใจค่ะ ร้องไห้สามวันแล้วยังไม่หยุดเลย คิดถึงเรื่องนี้ทีไรก็น้ำตาไหลทุกที

ที่เสียใจที่สุดก็น่าจะเป็นที่เราไม่สามารถให้เขามาร่วมสร้างบารมีกับเรา อยากให้เขาเข้าวัด ทำบุญกับเรามาก ๆ กลัวเขาลำบากในชาติหน้า ๆ

#21 แมมมอธสีขาว

แมมมอธสีขาว
  • Members
  • 8 โพสต์

โพสต์เมื่อ 25 September 2006 - 01:49 PM

ดู DMC บ่อยๆ นะคะ ยังมีสิ่งที่มีคุณค่ามากกว่าเขาคนนั้นรอคุณอยู่ เป็นกำลังใจให้นะคะ

#22 หัดฝัน

หัดฝัน
  • Members
  • 4531 โพสต์
  • Gender:Male
  • Interests:ธรรมะ

โพสต์เมื่อ 25 September 2006 - 02:49 PM

การกลัวใครลำบากในชาติต่อๆไป เป็นสิ่งที่ดี เรียกว่า มีเมตตา แต่เมตตาอย่างเดียวนั้นไม่เพียงพอ ต้องมีอุเบกขา กำกับไว้ด้วย ว่าเรื่องบางเรื่องเราแก้ไขสุดความสามารถแล้ว มันแก้ไม่ได้ก็ต้องวางอุเบกขา น่ะครับ เหมือน พ่อแม่ของเรา ท่านทำบาปทำกรรม เราพยายามหาวิธีให้ท่านเลิก พยายามอย่างเต็มที่เต็มกำลังแล้ว จนท่านเลิกได้ แต่ปู่ของเรานี่สิ ทำบาปเยอะมากๆ เลย ท่านละโลกไปแล้ว ทำไงจะย้อนเวลาไปเตือนปู่ได้

เราก็จะพบว่า ถึงแม้เราจะรักญาติมิตรของเราทุกๆ คน แต่เราไม่สามารถช่วยเขาได้ทุกๆ คนในเวลานี้ หากช่วยไม่ได้ เราก็ต้องทุกข์ร้อนเสียใจ ช่วยปู่ไม่ได้ ยิ่งปู่ของปู่ ยิ่งช่วยไม่ได้ยิ่งเสียใจ แล้วเราจะไปสามารถทำอะไรได้ครับ มีแต่ต้องวางอุเบกขาเท่านั้น
ได้ดี เพราะมีกัลยาณมิตร

#23 sage_072

sage_072
  • Members
  • 271 โพสต์
  • Gender:Female
  • Location:นครราชสีมา
  • Interests:ต้องการเรียนรู้กฏแห่งกรรม และสนทนาธรรมกับเพื่อนกัลยาณมิตร

โพสต์เมื่อ 25 September 2006 - 02:55 PM

มาประพฤติพรหมจรรย์ด้วยกันนะคะ
เมื่อเรารู้ว่าชีวิตนี้ของเราเกิดมาทำไม
เกิดมาเพื่ออะไร .....................
คาวมรักเป็นสิ่งที่สวยงาม แต่รักธรรมะรักพระรัตนตรัย
นี่แหละดีที่สุด ปลอดภัยที่สุด
thamma_072.p

#24 นับดาว

นับดาว
  • Members
  • 422 โพสต์

โพสต์เมื่อ 25 September 2006 - 02:57 PM

อย่าเสียใจไปเลยค่ะ

บางทีคนๆนั้นเขาอาจไม่ดีพอสำหรับเราก็ได้

มองหาคุณค่าของตัวเองให้เจอ

เช่น.. เราเป็นคนนิสัยดี สวย ทำงานเก่ง ใจบุญ ขยัน ทำกับข้าวอร่อย เรียนเก่ง ฯลฯ

และให้นึกดีใจว่า..ไชโย้..ในที่สุดชีวิตก็มีอิสระ

เหมือนนกน้อยที่พร้อมจะบินไปในโลกกว้าง

แล้วใช้เวลาที่เหลืออยู่นับจากนี้ไป .. สร้างสิ่งดีๆให้กับตัวเอง

และนำความภาคภูมิใจมากลับคืนมาให้กับ

คุณพ่อคุณแม่ผู้ซึ่งรักเราอย่างไม่มีข้อแม้ดีกว่านะคะ
ถ้าใจใส

เรื่องดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน

#25 pun

pun
  • Members
  • 6 โพสต์

โพสต์เมื่อ 25 September 2006 - 03:10 PM

ของผมคบกันมาเกือบ 7 ปี แล้วเคยสัญญากันไว้ว่าจะแต่งงานกัน แต่อยู่ดีๆเธอก็บอกว่าเธอมีคนใหม่ เธอบอกว่าผมกับเธอไปกันไม่ได้ ผมเสียใจมากแต่ตอนนี้ก็พอทำใจได้บ้างแล้ว ตลอด 3 เดือนที่ผ่านมานี้ผมต้องใช้กำลังความคิดและกำลังใจมากในการที่จะต้องฝันฝ่าผ่านเหตุการณ์นี้ให้ได้
ผมขอเป็นกำลังใจให้นะครับให้สามารถก้าวข้ามเหตุการณ์นี้ไปให้ได้ ให้คิดซะว่าเรามีหน้าที่ที่ยิ่งใหญ่รออยู่ข้างหน้า เราไม่มีเวลามาหาแฟนหรือแต่งงานหรอก เวลาผ่านไปเร็วมากเดี๋ยววันเดี๋ยวคืนก็จะตายแล้ว เรามาทำหน้าที่ของหมู่คณะให้สำเร็จดีกว่า อย่ามัวเสียเวลากับเรื่องพวกนี้เลย เป็นกำลังใจให้นะครับ

#26 บุญโต

บุญโต
  • Members
  • 2192 โพสต์
  • Gender:Female
  • Location:อนุเสาวรีย์ชัยสมรภูมิ
  • Interests:ปฏิบัติธรรม

โพสต์เมื่อ 25 September 2006 - 03:40 PM

ร้องตั้ง 3 วันแล้ว...หยุดร้องได้แล้วนะคะ (พิมพ์แล้วคนพิมพ์จะร้องตาม)...เกิดเรื่องอย่างนี้แล้วทุกอย่างกระทบไปหมดเลย ทั้งร่างกาย ทั้งการงาน ฯลฯ
นั่งสมาธิเยอะ ๆ ทำใจนิ่ง ๆ ใส ๆ นะคะ สู้ ๆ ค่ะ





#27 arraya

arraya
  • Members
  • 298 โพสต์

โพสต์เมื่อ 25 September 2006 - 04:30 PM

คิดเสียว่า เขาให้เวลาเราไปสร้างบุญสร้างบารมี
คิดถึงหลวงปู่เรื่อยๆ

เวลาจะช่วยได้ และทำให้คุณเติบโตขึ้น
เมื่อนั้นคุณมาคิดย้อนหลัง คุณอาจขอบคุณเขาที่ไม่จับคุณเข้าคุกแห่งการแต่งงาน ( ซึ่งเป็นไปได้สูงที่จะมีปัญหาตามมา )


#28 เฉย เฉย

เฉย เฉย
  • Members
  • 618 โพสต์
  • Gender:Female
  • Interests:เรื่องกฎแห่งกรรม การกระทำ สมาธิ

โพสต์เมื่อ 25 September 2006 - 04:31 PM

คุณต้องตัดใจให้ได้รู้ว่าทำได้ยากแต่คุณต้องดำเนินชีวิตต่อไปชีวิตมนุษย์นั้นสั้นนักเราใช้เวลาที่เหลือกับการสร้างบารมีดีกว่า....
แม้มืดตื้อ..มืดมิด..ก็มีสิทธิ์เข้าถึงธรรม

#29 WISH

WISH
  • Moderators
  • 3579 โพสต์

โพสต์เมื่อ 25 September 2006 - 05:00 PM

QUOTE
ขอคำแนะนำใจการทำใจ


นำมาไว้ที่ศูนย์กลางกายฐานที่7

ถ้าเป็นไปได้เมื่อใจใสใสแล้ว ขออโหสิกรรมซึ่งกันและกัน ตัดห่วงโซ่ให้ขาดอย่าให้เหลือเยื่อใย มิให้มีวิบากกรรมต่อกันในภพชาติต่อไป

ตั้งผังอธิษฐานจิตของเส้นทางการสร้างบารมีตามที่ปรารถนา

ทำทุกวันไม่มีเว้นวรรค เพราะชีวิตในภพนี้สั้นนัก ไม่ควรประมาท



ทำไมต้อง หาคำตอบ ณ แดนไกล ลืมหรือไร ว่าอยู่ใกล้ DMC

#30 ลูกพระธัมฯ Merry Ma

ลูกพระธัมฯ Merry Ma

    The STRONGEST is the GENTLEST!!!

  • Members
  • 891 โพสต์
  • Gender:Female
  • Location:Bangkok, Thailand

โพสต์เมื่อ 25 September 2006 - 05:09 PM

โอ้โห... กระทู้สุดฮ๊อต มีพี่ๆน้องๆมาให้กำลังใจกันเยอะเลยค่ะ


ขอให้กำลังใจด้วยคนค่ะ พี่ขอฝากเพลงที่พี่ชอบให้ลองฟังดูนะคะ

เพลง หลุมรักที่แท้จริง

QUOTE
ตกหลุมรักตัวเอง เป็นหลุมรักภายใน
เป็นหลุมรักใสๆ ไม่ตกหลุมรักใคร
หมดปัญหาใดๆ มีแต่ความรักใสๆ ให้ทุกคน....



กับเพลง ดอกไม้แห่งจักรวาล

QUOTE
ฉันอยากจะเป็นดอกไม้แห่งจักรวาล
ที่แย้มชื่นบาน ไม่ว่าที่หนใด
จะเป็นดอกไม้ ที่ไม่เหมือนใคร
ยิ่งกาลผ่านไปยิ่งงามตา


The Strongest is The Gentlest!

ผู้ที่มีจิตใจเข้มแข็งที่สุด ย่อมเป็นผู้ที่สุภาพนุ่มนวลที่สุด