ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
- - - - -

2549-01-13 : มันคือ มือดำ...ใหญ่มาก มาก


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 3 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 crystal.mind

crystal.mind
  • Members
  • 280 โพสต์
  • Gender:Female
  • Location:BKK
  • Interests:Book Music

โพสต์เมื่อ 15 January 2006 - 11:41 PM

[attachmentid=1185]
มันคือ มือดำ...ใหญ่มาก มาก .. : 13/01/2549


เจ้าของเคสมีภูมิลเนาอยู่ที่ จ.อุตรดิตถ์ โดยมารับบุญช่วยงานที่วัดมาตั้งแต่ พ.ศ. 2543 โดยมีพี่สาวซึ่งทำงานก่อสร้างอยู่ที่วัด เป็นผู้ชักชวนมาทำงานที่วัด จวบจนถึงปัจจุบัน

เจ้าของเคส เมื่อแต่งงานมีครอบครัวแล้ว ก็ได้ตั้งครรภ์เมื่อปี พ.ศ. 2547 ซึ่งเธอมีอาการแพ้ท้องอย่างมาก อาเจียรทุกวัน จนทำให้ร่างกายผอมลงๆ เมื่อใกล้คลอดเธอจึงเดินทางไป จ.สุรินทร์ เพื่อขอให้พี่สาวของสามีช่วยเลี้ยงลูกที่กำลังจะเกิด เธอได้ไปตรวจครรภ์ คุณหมอสั่งทำอัลตร้าซาวน์ด เพราะเห็นท้องใหญ่ผิดปกติ ทำให้ทราบว่าเป็นลูกแฝด

วันที่ 1 มกราคม 2548 เจ้าของเคส เริ่มปวดท้องจะคลอดถี่ๆ ตั้งแต่เช้ามืด จนกระทั่ง 2 ทุ่มก็ยังไม่สามารถคลอดเองได้ คุณหมอจึงทำการผ่าคลอดให้ โดยได้ลูกแฝดหญิงที่มีร่างกายแข็งแรงดีทั้งคู่ เมื่อออกจากโรงพยาบาลไปเลี้ยงลูกแฝดที่บ้านพี่สาวของสามีได้เดือนหนึ่ง ทั้งคู่อยากกลับมาทำงานต่อ เจ้าของเคส จึงโทรศัพท์ไปขอร้องให้มารดาเดินทางจาก จ. อุตรดิตถ์ เพื่อมารับหลานไปเลี้ยง ซึ่งมารดาก็ตกลง

ดังนั้น ในวันที่ 9 ก.พ. 2548 มารดาเจ้าของเคส จึงเดินทางด้วยรถกระบะมาพร้อมกับ น้าสะใภ้ พี่สาวเจ้าของเคส และน้าผู้หญิงเจ้าของรถพร้อมลูกชาย จึงเดินทางมาถึง จ.สุรินทร์ ในวันที่ 10 ก.พ 2548 เมื่อทุกคนชื่มชมหลานและทานข้าวเย็นเสร็จ ก็ขอเดินทางกลับทันที โดยไม่พักค้างคืน ทั้งที่ญาติทางสามีทักท้วงให้พักก่อน เพราะเดินทางมาไกล แต่ทว่าคณะญาติทางอุตรดิตถ์ยืนยันจะขับรถกลับในคืนนั้นเลย


เมื่อรถขับมาถึง จ.ชัยนาท ในเวลาประมาณตี5 รถก็เกิดอุบัติเหตุไหลลงไปชนต้นไม้ข้างทาง จนรถบุบเกือบมาถึงตัวเจ้าของเคส ผลของอุบัติเหตุทำให้น้าสะใภ้และมารดาเจ้าของเคส ซึ่งอยู่บริเวณกระบะหลังกระเด็นไปไกลถึง 6 เมตรไปนอนที่พื้นถนน ทั้งคู่เสียชีวิตทันที ส่วนน้าผู้หญิงสะโพกหลุด และลูกแฝดคนเล็กซึ่งเจ้าของเคสอุ้มอยู่นั้นถูกเบาะรถชนอย่างแรงจนสมองบุบเสียชีวิตทันที ส่วนพี่สาวของเจ้าของเคสซึ่งนั่งด้านหน้าและมีรูปหล่อหลวงปู่วัดปากน้ำไม่บาดเจ็บอะไรเลย ส่วนคนอื่นๆที่เหลือก็บาดเจ็บกันบ้างเล็กน้อย

ศพของน้าสะใภ้ตั้งสวดที่บ้านน้าที่อยู่ใกล้ๆกับบ้านมี่ตั้งสวดศพมารดาเจ้าของเคส โดยจะนิมนต์พระมาสวดที่บ้านมารดาเจ้าของเคสก่อน แล้วไปสวดที่บ้านน้าสะใภ้ จึงถวายเพลพระทุกๆวัน จนกระทั่งวันที่3 เมื่อพระฉันเสร็จและเดินทางกลับวัดแล้ว หญิงสาวคนหนึ่งซึ่งเป็นแขกที่งานศพน้าสะใภ้ มีอาการเหมือนถูกวิญญาณน้าสะใภ้เข้าสิง โดยหญิงนั้นพูดปนร้องไห้ว่า “ไม่น่าเลย ไม่น่าไปเร็วเลย ยังไม่ได้สั่งเสียอะไรเลย” หญิงนั้นได้ตบพื้นข้างๆ แล้วบอกให้ลูกๆ ของน้าสะใภ้ทุกคนมากราบตรงนั้น บอกว่ามารดาของเข้าของเคสอยู่ตรงนั้นด้วย โดยอุ้มหลานที่เสียชีวิตไว้ เพื่อนของน้าสะใภ้ได้ไปรินเหล้าให้หญิงสาวคนนั้นดื่ม แต่วิญญาณน้าก็ยังไม่ออกจากร่าง โดยบอกว่าจะคอยลูกชายคนที่ไปส่งพระกลับมาก่อน เมื่อลูกชายกลับมาถึงกำลังจะขึ้นบ้าน วิญญานน้าก็ออกจากร่างหญิงคนนั้น และทันทีที่หญิงคนนั้นล้มลงหมดสติ ลูกสาวคนโตของน้าก็เป็นลมล้มลงหมดสติอีกคน

เมื่อลูกสาวของน้าฟื้นขึ้นมา เธอเล่าว่า เธอเห็นมารดาเจาของเคสมาพร้อมกับน้าสะใภ้จริงๆตามที่หญิงคนนั้นบอก โดยมารดาเจ้าของเคสใส่เสื้อผ้ามีขาวอุ้มแฝดเล็ก แต่น้าสะใภ้ใส่ชุดเดิมตอนที่เสียชีวิต โดยมารดาเจ้าของเคสเดินเงียบๆ นำหน้าน้าสะใภ้ไป โดยเธอเห็นมือดำใหญ่ มาคว้าแขนน้าสะใภ้ไป เธอจึงรีบคว้าแขนอีกข้างของน้าสะใภ้ไว้ พยายามดึงไม่ให้ไป แต่เธอสู้แรงไม่ไหว เธอรู้สึกว่าวิญญาณของทั้งคู่ลอยวืดไปห่างจากบ้าน 2 กม. อย่างรวดเร็ว เธอร้องว่า “แม่อย่าไปๆ” น้าสะใภ้จีงผลักมือเธอออก พูดว่า”อย่าไป อยู่กับน้องนี่แหละ” แล้วเธอก็ฟื้นขึ้นมา


และหลังจากอุบัติเหตุได้ 5 เดือน เจ้าของเคส ก็ฝันเห็นมารดาของเธอแต่งกายเหมือนชาวบ้าน ได้พูดคุยกัน แต่เธอก็จำไม่ได้ว่าคุยเรื่องอะไร ส่วนลูกของเธอก็โตขึ้นมากจนเดินได้แล้วแต่ตัวดำมาก

เจ้าของเคส จึงเขียนคำถามมาถามคุณครูไม่ใหญ่ ดังนี้

1. เจ้าของเคส ทำบุพกรรมอะไร จึงไม่สามารถคลอดลูกเองได้ ต้องผ่าคลอด และทำไมจึงได้ลูกแฝดเป็นหญิงทั้งคู่


2. บุพกรรมอะไร จึงทำให้ทุกคนในรถต้องมาประสบอุบัติเหตุพร้อมกันดังกล่าว

3. ทำไม แฝดน้อง น้าสะใภ้และมารดาเจ้าของเคส จึ่งเสียชีวิต แต่แฝดพี่ไม่เป็นอะไร และทั้งสามเมื่อเสียชีวิตใหม่ๆพวกเขารู้สึกอย่างไร และเขาตายแล้วไปไหน ได้รับบุญที่อุทิศให้หรือไม่ มีข้อความอะไรฝากมาบอกหรือไม่


4. วิญญานของน้าสะใภ้มาเข้าร้างหญิงสาวคนนั้นจริงหรือไม่ และน้าต้องการพบลูกทุกคนเพื่อบอกอะไรกัลลูก และที่น้าพูดว่า “เขาให้มาแป๊บเดียว” เขาคือใคร และเหตุใดเมื่อวิญญาณน้าสะใภ้ออกจากร่างหญิงนั้น ลูกสาวคนโตจึงหมดสติตามไปด้วย และที่เธอเห็น น้าสะใภ้ มารดาเธอและลูกแฝดนั้น เป็นเรื่องจริงหรือไม่ แต่ทำไมมารดาเจ้าของเคสจึงใส่ชุดขาว ในขณะที่น้าสะใภ้ใส่ชุดเดิมตอนเสียชีวิต

5. มือดำใหญ่ ที่เห็นฉุดน้าสะใภ้ไป คือมือของใคร และทำไมมือดำใหญ่จึ่งฉุดน้าไป แต่มารดาเจ้าของเคสเดินสบายๆ และพวกเขาเดินทางไปไหนกัน


6. หลังจากอุบัติเหตุได้ 5 เดือน ที่เจ้าของเคสฝันเห็นนั้น เป็นเรื่องจริงหรือไม่


7. เจ้าของเคส สามี และพี่ผู้หญิงที่เป็นหัวหน้างาน เคยสร้างบารมีร่วมกันอย่างไร จึงร่วมงานกันด้วยดีมาตลอด และพี่หัวหน้างานเคยสร้างบารมีกับหมู่คณะอย่างไร


8. เจ้าของเคส สามี และลูกแฝดเคยพบหมู่คณะเมื่อพุทธันดรที่ผ่านมาหรือไม่ เคยสร้างบารมีกับหมู่คณะมาอย่างไร จะได้ไปดุสิตบุรีวงบุญพิเศษหรือไม่



“ หลับตา.. ฝันเป็นตุเป็นตะ..ตื่นขึ้นมา ... หาว 1 ที ... แล้วนำมาเล่าเป็นนิทานปรัมปรา”

1. เจ้าของเคสต้องถูกผ่าตัดคลอด เพราะ เศษกรรมปาณาติบาตร ที่ฆ่ามดตบยุง มารวมกันส่งผล ที่ได้ลูกแฝดเพราะ เคยสร้างบุญร่วมกันมา และอธิษฐานให้ได้เป็นพ่อแม่ลูกกัน

สาเหตุที่เกิดเด็กแฝดเพราะ
1.บุญกรรมของพ่อแม่ลูก มีกรรมเสมอกัน แม้ไม่ได้ทำบุญร่มกันมา
2.บุญกรรมของลูกแฝด ทำร่วมกันมา และอธิษฐานให้ได้เกิดร่วมกัน เช่นเป็นเพื่อนรักกันมา
3.บุญกรรมของ พ่อแม่ลูก ที่ทำร่มกัน และอธิษฐานให้ได้เกิดเป็นพ่อแม่ลูกกัน
4.พ่อแม่ ตั้งความปรารถนาอยากได้ลูกแฝดมากๆ ดังนั้นเมื่อมีกายละเอียดหมดบุญเวลาเดียวกัน หัวหน้าเขตจึงชี้ให้มาเกิดที่บ้านนั้น ซึ่งมีกรรมเสมอกัน


ซึ่งกรณีของเจ้าของเคส ลูกแฝดเคยเป็นภุมมเทวาหญิง ทั้งคู่หมดบุญพร้อมกัน มีกรรมเสมอกัน หัวหน้าเขตจึงชี้ให้มาเกิดพร้อมกัน


2. สาเหตุที่มาเกิดอุบัติเหตุร่วมกันเพราะ เคยเกิดเป็นเพื่อนบ้านกัน ร่วมกันล้มวัวควายเพื่อเลี้ยงฉลองเป็นประจำ ดังนั้นเมื่อวิบากกรรมส่งผลจึงเกิดอุบัติเหตุขึ้น แต่ทว่าแฝดพี่ไม่มีวิบากกรรมร่วม จึงรวดชีวิตได้ เมื่อน้าสะใภ้และมารดาเจ้าของเคสตายใหม่ๆ ทั้งคู่รู้สึก สับสนและตกใจ ทำอะไรไม่ถูก แต่ไม่รู้สึกเจ็บ คล้ายๆกับหมดสติไปแล้วตื่นขึ้น แล้วเห็นคนวุ่นวายจึงเข้าไปดู ก็เห็นร่างตนเองนอนอยู่ และเห็นหลานแฝดนอนอยู่ จึงพยายามอุ้มขึ้นมาทั้งคู่ แต่อุ้มขึ้นมาได้เพียงคนเล็ก เพราะว่ามีความละเอียดเท่ากัน ส่วนแฝดน้องเมื่อเสียชีวิตนั้น ไม่รู้สึกอะไร ตายปุ๊บก็โตเป็นเด็กตัวเท่าเดิม

ทั้งสามได้ไปเป็นเกิดเป็น...ภุมมเทวา ในหมู่บ้านภุมมเทวาห่างบ้านออกไปพอควร โดยน้าสะใภ้ไปอยู่บ้านเดียวกับมารดาเจ้าของเคส ช่วยเลี้ยงหลานโดยใช้นมทิพย์ที่ไหลออกมาจากนิ้วมือ พวกเขาเมื่อได้รับบุญที่อุทิศแล้วก็มีสภาพความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ทั้งอาหาร เสื้อผ้า ที่อาศัย และขณะนี้ทุกคนทำใจได้แล้ว ยอมรับสภาพว่าตนเองตายแล้ว



4. หญิงสาวในงานศพถูกวิญญาณน้าสะใภ้สิงร่างจริงๆ โดยน้าสะใภ้มาได้เพราะเจ้าหน้าที่เขตอนุญาตให้มาสั่งลาได้แป๊บหนึ่ง ตามกฎของภุมมเทวา ซึ่งเมื่อวิญญาณน้าออกจากร่างหญิงนั้น ลูกสาวน้าก็หมดสติทันที เพราะความรักแม่ อาลับอาวรณ์แม่ อยากตายตามไป ที่เธอเห็นเป็นเรื่องจริง ที่เห็นมารดาเจ้าของเคสใส่ชุดขาวเพราะว่า มารดาเจ้าของเคสทำบุญมากกว่าจึงมีบุญมากกว่าน้าสะใภ้ น้าจึงใส่ชุดเดิม

5.มือดำใหญ่ ที่เห็นฉุดน้าสะใภ้ไป คือมือของเจ้าหน้าที่เขต มาดึงน้าไปเพื่อฉุดให้เข้ารอยต่อระหว่างภพ แต่แม่เดินสบายๆเพราะบุญที่มีมากกว่าและความเข้าใจในเรื่องความตายที่มีมากกว่า โดยทั้งหมดเดินทางกลับไปหมู่บ้านภุมมเทวา


6.หลังจากอุบัติเหตุ 5เดือน เจ้าขิงเคสฝันเห็นมารดาและลูกแฝดนั้น เป็นเพียงคิดไปเอง เพราะจิตนิวรณ์


7. เจ้าของเคส และพี่หัวหน้างาน ร่วมงานกันได้ดี เพราเจ้าของเคสทำตัวน่ารัก งานเลยราบรื่น ส่วนหัวหน้างานในพุทธันดรที่ผ่านมา เป็นทหารพระราชาองค์ที่ออกบวช ได้ออกบวชตลอดชีวิต โดยทำหน้าที่เผยแผ่ ปฎิบัติธรรมพอเอาตัวรอดกลับดุสิตบุรีฯได้ ส่วนตัวเจ้าของเคส-สามี-และลูกแฝด เคยสร้างบารมีแบบกองเสบียงตามอารมณ์ ทำให้บางชาติได้เจอกัน บางชาติก็ไม่ได้เจอกัน ตัวเจ้าของเคสปฎิบัติธรรมแบบไม่สม่ำเสมอ ดังนั้นชาตินี้อย่าได้ประมาท ถ้าอยากกลับดุสิตบุรีฯ ก็ต้องสั่งสมบุญอย่างสม่ำเสมอ

"ชาตินี้ เมื่อได้เจอกันแล้ว ก็ให้ตั้งใจสร้างบารมีให้เต็มที่ในทุกบุญ และอธิษฐานจิตตามติดไปดุสิตบุรีวงบุญพิเศษเขตบรมโพธิสัตว์อย่าได้พลัดกันเลย"

ไฟล์แนบ



#2 *ผู้มาเยือน*

*ผู้มาเยือน*
  • Guests

โพสต์เมื่อ 16 January 2006 - 11:10 AM

สาธุ มอบกำลังใจให้ผู้รวบรวมสรุป case นะคะ

#3 jin

jin
  • Members
  • 3 โพสต์

โพสต์เมื่อ 18 January 2006 - 12:21 PM

สาธุ อนุโมทนาบุญ กับผู้สรุป case ด้วยคนครับ

#4 Indy_Chic

Indy_Chic
  • Members
  • 6 โพสต์

โพสต์เมื่อ 20 July 2006 - 04:36 PM

สาธุ ครับ ผม