ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
- - - - -

2549-05-03: ทหารอากาศขาดรักได้ ทหารเรือขาดรักไม


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 2 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 n00m

n00m
  • Moderators
  • 637 โพสต์
  • Location:Patumthanee

โพสต์เมื่อ 05 May 2006 - 11:57 PM

สรุปกรณีศึกษากฎแห่งกรรม

วันพุธที่ 3 พฤษภาคม 2549


เจ้าของเคสรู้จักวัดพระธรรมกายตั้งแต่ปี 2538 โดยการชักชวนของเพื่อกัลยาณมิตร และในทันทีที่ถูกชักชวน เจ้าของเคสก็รู้สึกคุ้นเคยกับวัดพระธรรมกาย ทั้งๆ ที่ยังไม่เคยมา จึงไม่ถามอะไรเพิ่มเติม ก่อนที่จะมาวัดครั้งแรกเจ้าของเคสเกิดล้มป่วย ไม่มีแรง เดินไม่ไหว แต่ก็ต้องการมาวัด จึงอาศัยเพื่อนกัลยาณมิตรช่วยกันประคองจนมาวัดจนได้ วันนั้นมีการประกอบพิธีที่ลานธรรม มหาธรรมกายเจดีย์ แต่เจ้าของเคสเดินไม่ไหว จึงได้นอนรออยู่ที่สภาฯ ระหว่างนอนรอ เจ้าของเคสก็ตั้งจิตอฐิษฐานว่าขอให้หายจากอาการเจ็บป่วย มีสุขภาพร่างกายแข็งแรงเพื่อจะได้มาวัดได้อีก ตอนนั้นเจ้าของเคสรู้สึกครึ่งหลับครึ่งตื่น สักพักอาการป่วยที่เป็นอยู่ก็หายไป

พ่อของเจ้าของเคสรับราชการเป็นทหารเรือ มีอุปนิสัยเจ้าชู้ มีภรรยาน้อยหลายคน ชอบดื่มสุรา และเมื่อเมาก็จะอาละวาด หาเรื่องคนแม่ของเจ้าของเคสอยู่เป็นประจำ วันหนึ่งพ่อและแม่ของเจ้าของเคสทะเลาะกัน โดยพ่อของเจ้าของเคสได้ทำร้ายร่างกายแม่ของเจ้าของเคสจนเลือดตกยางออก จากเหตุการณ์นี้ทำให้พ่อและแม่ของเจ้าของเคสแยกทางกัน ขณะนั้นพ่อของเจ้าของเคสมีอายุถึง 60 ปี ตั้งแต่นั้นมาพ่อของเจ้าของเคสก็มีอาการป่วยบ่อยครั้ง และทุกครั้งพ่อก็จะกินยาแก้ปวดเพื่อบรรเทาอาการเจ็บ แต่การกินยาเป็นประจำก็ส่งผลให้พ่อมีแผลในลำไส้เนื่องจากยากัดกระเพาะ หมอได้ทำการผ่าตัด โดยได้ต่อสายยางทดแทนลำไส้ช่วงเป็นแผลจนรั่ว ภายหลังการผ่าตัดพ่อของเจ้าเคสมีชีวิตอยู่ได้ต่อมาอีก 10 ปี จึงได้เสียชีวิตลงด้วยอาการสงบ

แม่ของเจ้าของเคสหลังจากแยกทางกับพ่อแล้วก็หันมาดื่มเหล้า แม่เป็นคนไม่ชอบเข้าวัด แต่ก็เคยมาวัดพระธรรมกายอยู่หลายครั้ง และจะรู้สึกปลื้มปิติทุกครั้งที่มา แม่ของเจ้าของเคสมีอาการป่วยได้ 4-5 เดิอนก็เสียชีวิต โดยในช่วง 2 เดือนก่อนตาย แม่ของเจ้าของเคสไม่ยอมกินอาหารใดๆ และเสียชีวิตด้วยอาการสงบ รวมอายุได้ 72 ปี

เนื่องจากพ่อของเจ้าของเคสเป็นคนเจ้าชู้ ส่วนแม่ของเจ้าของเคสก็ทุ่มเทให้กับการทำมาหากิน เจ้าของเคสจึงมักใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่กับตาและยาย โดยตาและยายของเจ้าของเคสได้ใช้ให้เจ้าของเคสช่วยทำบ่อปลา ในวัยเด็กเจ้าของเคสไม่ได้เรียนหนังสือ โดยตาและยายให้เหตุผลไปต่างๆ นานา เช่น กลัวหมาจะกัดเจ้าของเคสจนตายระหว่างเดินทางไปโรงเรียน หรือถ้าให้ไปทางเรือก็กลัวเรือจะล่ม เป็นต้น แต่ถึงจะไม่ได้เรียนหนังสือ เจ้าของเคสก็ยังขวนขวายโดยการไปซื้อหนังสือ ก.ไก่ มาให้ตาของเจ้าของเคสสอน จนสามารถอ่านได้หมด ด้วยเหตุนี้จึงทำให้เจ้าของเคสสามารถอ่านได้ แต่เขียนหนังสือไม่ได้และไม่รู้เรื่องบวกหรือลบเลขเลย

พออายุได้ 20 ปีเจ้าของเคสก็ได้แต่งงานมีครอบครัวกับชายหนุ่มในหมู่บ้านเดียวกัน โดยมีลูกด้วยกันทั้งหมด 6 คน สามีของเจ้าของเคสมีอาชีพรับจ้างวิ่งเรือแจว หลังแต่งงานได้ระยะหนึ่งเจ้าของเคสต้องทำมาหากิน ส่งเสียเลี้ยงดูลูกๆ ทั้ง 6 คนแต่เพียงลำพัง เพราะสามีไปติดพันหญิงอื่น ไม่สนใจ และส่งเสียเลี้ยงดูครอบครัวเหมือนเช่นเคย เจ้าของเคสได้รับจ้างดูแลบ่อเลี้ยงปลาและบ่อกุ้งขนาด 100 ไร่ โดยเจ้าของเคสเป็นคนดูแลแต่เพียงผู้เดียว ทำงานทุกอย่างตั้งแต่ถางหญ้า ให้อาหาร เปลี่ยนน้ำ โดยได้รับค่าจ้างเพียงเดือนละ 800 กว่าบาท เจ้าของเคสต้องทำงานหนัก แม้จะเจ็บป่วยเช่นครั้งหนึ่งหลังเจ้าของเคสเข้ารับการผ่าตัดเพื่อคลอดลูกคนที่ 6 ขณะที่แผลยังไม่หายดี แต่นายจ้างก็ไม่ยอมให้หยุดพัก เป็นต้น โดยนายจ้างไม่ใส่ใจกับอาการเจ็บป่วยของเจ้าของเคส ทั้งยังกล่าวว่าบอกว่า 'ตายก็เรื่องของมัน' ช่วงที่เข้ารับผ่าตัดคลอดลูกคนที่ 6 สามีของเจ้าของเคสประสบอุบัติเหตุถูกเครื่องนวดข้าวตัดขาขาดไปหนึ่งข้าง เมื่อนายจ้างของเจ้าของเคสทราบ ก็ได้ไล่เจ้าของเคสและสามีออกจากงานทั้งคู่ แต่เจ้าของเคสก็ได้รับการว่าจากนายจ้างใหม่ให้เข้าทำงานดูแลบ่อปลาอีกแห่งหนึ่ง ซึ่งมีขนาดพอๆ กัน โดยในครั้งนี่เจ้าของเคสถูกใช้งานหนักกว่าเดิมมาก

สามีของเจ้าของเคสถึงจะประสบอุบัติเหตุจนขาขาดไปข้างหนึ่ง แต่ก็ยังไม่เลิกนิสัยเจ้าชู้ ยังไปติดพันหญิงอื่นอีกมากมายหลายคน ในที่สุดสามีของเจ้าของเคสก็ทิ้งเจ้าของเคสและลูกๆ ไปอยู่กับเมียน้อยจนถึงปัจจุบัน

เจ้าของเคสเคยมีที่ดินอยู่ผืนหนึ่งประมาณ 10 ไร่ โดยซื้อมาจากญาติของสามีที่ไม่ยอมขายให้คนอื่น ทั้งยังเจาะจงว่าจะขายให่เฉพาะเจ้าของเคสและสามีเท่านั้น ในราคาแสนกว่าบาท เจ้าของเคสต้องหยิบยืมเงินเพื่อมาซื้อ และค่อยๆ ทยอยผ่อนใช้จนหมด 10 ปีต่อมาที่ดินผืนดังกล่าวก็มีราคาสูงขึ้นถึง 5 ล้านกว่าบาท เจ้าของเคสได้ใช้เงินส่วนหนึ่งไปซื้อที่ดิน 200 ไร่ ซึ่งในเวลาต่อมาก้ได้รับการติดต่อซื้ออีก โดยครั้งนี้เจ้าของเคสขายโดยมีนายหน้าเป็นคนจัดการตัดแบ่งออกเป็นหลายๆ แปลง แต่ด้วยความไม่รู้หนังสือ เจ้าของเคสจึงถูกนายหน้าโกงเงินไปจนเกือบหมด เหลือเงินอยู่เพียงเล็กน้อย ซ้ำยังถูกญาติและเพื่อนฝูงหยิบยืม ซึงก็ไม่มีใครใช้คืนแม้แต่คนเดียว เจ้าของเคสมีสมบัติเหลือเพียงบ้าน 1 หลัง

มีลูกหนี้รายหนึ่งยิมเงินเจ้าของเคสไปแสนกว่าบาท โดยเมื่อเจ้าของเคสทวงถาม ก็ได้ไปหยิมยืมผู้อื่นมาให้โดยให้เจ้าของเคสเป็นผู้ค้ำประกัน แต่ก็ไม่ใช้หนี้จนทำให้เจ้าของเคสต้องเอาเงินของตนเองไปใช้คืนให้ แต่ด้วยความซื่อและไม่รู้หนังสือ เจ้าของเคสก็ไม่ได้ทวงขอสัญญาเงินกู้เมื่อชำระเงินให้แล้ว ซึ่งต่อมาอีก 3 ปี เจ้าหนี้รายดังกล่าวก็ได้ใช้สัญญาเงินกู้ดังกล่าวมาทวงเงินเจ้าของเคสอีกครั้งหนึ่ง ครั้งนี้เจ้าของเคสถูกรื้อบ้านเพื่อขายใช้หนี้ไปต่อหน้าต่อตา ต่อมาเจ้าของเคสก็ได้เอาบ้านที่อยู่อาศัยซึ่งปลูกขึ้นใหม่ไปจำนองเพื่อเอาเงินมาช่วยเหลือญาติ ซึ่งญาติก็ไม่ยอมเอาเงินไปใช้หนี้ จึงทำให้บ้านจะถูกธนาคารยึด ปัจจุบันเจ้าของเคสได้มาอาศัยอยู่กับกัลยาณมิตรท่านหนึ่งในกรุงเทพ

เจ้าของเคสยังต้องสูญเสียลูกอีกถึง 5 คนโดยปัจจุบันเหลือเพียงลูกคนสุดท้องเพียงคนเดียวเท่านั้น ลูกสาวคนแรกเป็นโรคหัวใจรั่วตั้งแต่กำเนิด และก็เสียชีวิตลงด้วยโรคดังกล่าวด้วยวัยเพียง 19 ปี ลูกสาวคนที่สองตกน้ำตายเมื่ออายุได้ 3 ขวบ ซึ่งภายหลังการเอาศพลูกสาวคนที่สอง ก็มีก้อนเนื้อเหลือสีเขียวอยู่ก้อนหนึ่งซึ่งไฟไม่ยอมไหม้ ทำให้ชาวบ้านโจษจันกันว่าลูกสาวคนที่สองของเจ้าของเคสถูกคุณไสย์ ลูกคนที่สามแท้งขณะท้องได้ 3 เดือน ลูกชายคนที่สี่อายุ 31 และลูกสาวคนที่ห้าอายุ 28 ปีเสียชีวิตพร้อมกันจากอุบัติเหตุรถชนขณะนั่งซ้อนท้ายมอเตอร์ไซ ลูกสาวคนที่ห้าเป็นคนหน้าตาดี แต่มีปัญหาเรื่องน้ำหนักตัว โดยมีน้ำหนักกว่า 90 กิโลกรัม จนเคยถูกชักนำให้เข้าประกวด แต่ก็มาเสียชีวิตก่อนเข้าประกวดไม่นาน

ลูกชายคนที่หกของเจ้าของเคสเคยบวชอยู่ 8 ปี จนได้เป็นรองเจ้าอาวาส เป็นที่รักใคร่ของคนทั้งตำบลเพราะเป็นคนขยัน ทำงานเก่งและมีเสียงไพเราะ ลูกชายคนที่หกเคยรับปากเจ้าของเคสว่าจะบวชไม่สึก แต่ก็มีญาติมาอ้อนวอนให้สึกเพื่อให้ไปช่วยงานโดยจะให้ส่วนแบ่ง จนลูกชายของเจ้าของเคสใจอ่อน ปัจจุบันลูกชายคนที่หกมีอายุได้ 29 ปี แต่งงานมีครอบครัว

เจ้าของเคสรู้สึกไม่ชอบงูเห่ามาก ตอนเด็กตาของเจ้าของเคสเคยสอนเจ้าของเคสว่าร่างกายจะแข็งแรง ถ้าได้กินงู ทำให้เจ้าของเคสเชื่อ โดยทุกครั้งที่พบเห็นจะต้องเข้าไปจับและฆ่าให้ตาย แม้งูจะหนีเข้ารูไปแล้ว เจ้าของเคสก็จะใช้มือล้วงเข้าไปในรูและจับมาฆ่ากินจนได้ โดยเมื่อจับได้เจ้าของเคสจะตัดหัวงูเสียบ ส่วนตัวก็จะนำมาลอกหนัง ตากแดด แล้วจึงนำมาทำอาหาร วันหนึ่งเจ้าของเคสพบงูเห่าตัวใหญ่ขนาดข้อมือ เจ้าของเคสจึงตี และจับใส่ถุงพลาสติก โดยเมื่อกลับถึงบ้านก็ได้ฆ่าและกินตามปกติ แต่ครั้งนี้เจ้าของเคสเกิดอาการถ่ายเป็นเลือด โดยหมอดูได้บอกว่างูดังกล่าวเป็นงูเจ้าที่ ให้เจ้าของเคสไปขอขมา ทำให้เจ้าของเคสเลิกกินงูตั้งแต่นั้นมา และจะนึกอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้งูที่ตนเองฆ่าในทุกๆ ครั้งที่ทำบุญ เจ้าของเคสเคยถูกงูเห่ากัดอยู่เพียงครั้งเดียวในระหว่างทำงานอยู่ริมน้ำ โดยงูเห่าตัวหนึ่งได้พุ่งเข้ามากัดที่ขา เป็นแผลเป็นรอยคล้ายผิวมะกรูด เกือบเสียชีวิต

ครั้งหนึ่งเจ้าของเคสพายเรือไปทำธุระ ซึ่งในระหว่างพายเรือก็เกิดพายุและฝนตกอย่างแรง จนทำให้เจ้าของเคสต้องหยุดเรือรออยู่ใต้สะพาน ขณะที่หยุดเรือรอฟ้าก็ได้ผ่าลงมาที่สะพาน เจ้าของเคสจึงหลับตาด้วยความตกใจ และเมื่อลืมตาก็เห็นทองคำก้อนใหญ่ขนาดประมาณ 2 ฝ่ามือ วิ่งอยู่บนผิวน้ำ รอบเรือของเจ้าของเคส เจ้าของเคสเคยได้ยินเรื่องเล่าจากตาและยายว่าเมื่อมีฟ้าผ่าก็จะมีทองคำเกิดขึ้น ถ้าอยากได้ก็ให้เอาผ้าถุงครอบ แล้วจะสามารถหยิบเอามาเป็นเจ้าของได้ แต่เจ้าของเคสก็ไม่เกิดความคิดอยากจะได้มาเป็นเจ้าของ จึงได้แต่นั่งมองเฉยๆ จนภาพดังกล่าวค่อยๆ หายไป

QUOTE
หลับตา ฝันเป็นตุเป็นตะ ตื่นขึ้นมา หาวหนึ่งที แล้วนำมาเล่าให้ฟังเป็นนิยายปรัมปรา


Q: พ่อและแม่ของเจ้าของเคสตายแล้วไปไหน ได้รับบุญที่อุทิศไปให้หรือไม่
[attachmentid=4410][attachmentid=4412]

A: พ่อของเจ้าของเคสตายแล้วไปเกิดในมหานรกขุม 5 ด้วยกรรมดื่มสุรา กำลังถูกนายนิรยบาลกรอกน้ำกรดสีดำร้อนแรงอยู่ ได้รับความทุกข์ทรมานมาก โดยจะต้องได้รับโทษทัณฑ์อีกหลายขุมเนื่องจากผิดศีลเกือบทุกข้อ ไม่สามารถรับบุญได้ บุญจะไปรออยู่ที่ยมโลก
[attachmentid=4411]

แม่ของเจ้าของเคสตายแล้วไปเกิดในยมโลกของมหานรกขุม 5 เพราะกรรมดื่มสุรา มีกรรมเบาบางกว่าพ่อของเจ้าของเคส กำลังถูกกรอกน้ำทองแดงร้อน ได้รับความทุกข์ทรมานมาก ได้รับบุญที่อุทิศไปให้แล้ว ทำให้มีสภาพที่ดีขึ้น


Q: เพระเหตุใดเจ้าของเคสถึงมีชีวิตที่ลำบากมาตั้งแต่เด็ก และต้องทำงานหนักเพื่อหาเลี้ยงครอบครัวมาโดยตลอด เพราะบุพกรรมใดที่ทำมห้ไห้เจ้าของเคสไม่ได้เรียนหนังสือ ที่อ่านหนังสือได้แต่เขียนไม่ได้เป็นเพราะเหตุใด และเพราะกรรมใดที่ทำให้เจ้าของเคสไม่รู้เรื่องบวกหรือลบเลขเลย
[attachmentid=4413][attachmentid=4414]

A: เพราะกรรมตระหนี่ในอดีต ไม่ค่อยได้ทำทาน ที่ไม่ได้เรียนหนังสือเพราะไมมีบุญด้านปัญญาบารมี หรือสนับสนุนการศึกษา ทั้งยังไม่สนับสนุนให้ลูกหลานหรือบริวารได้เล่าเรียน แต่จะสนับสนุนเฉพาะลูกหลานหรือบริวารที่ถูกใจ แต่ก็ไม่มากนัก ทำให้อ่านหนังสือได้บ้าง แต่เขียนไม่ได้และไม่รู้เรื่องบวกลบเลขเลย

Q: บุญใดที่ทำให้เจ้าของเคสได้ที่ดินมาในราคาถูก และสามารถขายได้ในราคาที่แพงขึ้น แต่เพราะกรรมใดที่ทำให้เจ้าของเคสถูกโกงจนหมด ไม่เหลือทรัพย์สินใดเลย
[attachmentid=4415][attachmentid=4416]

A: เพราะในอดีตเคยทำบุญ แต่ไปทวงคืนด้วยความโกรธ โดยในชาตินั้นเจ้าของเคสเกิดเป็นคนที่มีฐานะปานกลาง และได้รับปากว่าจะทำบุญกับวัดแห่งหนึ่งซึ่งก็ได้ทำไปบางส่วนแล้ว แต่ภายหลังมีเรื่องขัดใจกับมัคทายก จึงทวงเงินทำบุญคืน ดังนั้นเมื่อบุญส่งผลจึงทำให้มีสมบัติ แต่ผลจากการทวงคืน และนินทาว่าร้ายมัคทายกทำให้สมบัติที่มีอยู่ต้องมีเหตุต้องหายไป

Q: เพราะเหตุใดเจ้าของเคสถูกนินทา ใส่ร้ายจากคนรอบข้าง ซึ่งสิ่งที่ผู้คนนินทานั้นก็ไม่เป็นความจริงเลย
[attachmentid=4417]

A: วิบากกรรมในอดีตชาติที่เมื่อทะเลาะกับมัคทายกวัด แล้วก็นินทาว่าร้ายทั้งๆ ที่เรื่องเหล่านั้นก็ไม่เป็นความจริง มาส่งผลทำให้เจ้าของเคสต้องเจอเหตุดังกล่าว

Q: ลูกคนที่หนึ่งมีบุพกรรมอย่างไรจึงเป็นโรคหัวใจรั่วตั้งแต่กำเนิด ตายแล้วไปไหน ได้รับบุญที่อุทิศไปให้หรือไม่
A: เพราะกรรมปาณาติบาต และกรรมทรมานสัตว์ รวมทั้งกรรมกาเมในหลายๆ ชาติมาประมวลรวมกันส่งผล กรรมเจ้าชู้ที่ทำให้ผู้อื่นต้องชำอกช้ำใจ ตายแล้วก็ไปเกิดใหม่แล้ว ไม่อาจรับบุญได้

Q: กรรมใดที่ทำให้ลูกสาวคนที่สองตกน้ำตาย ก้อนเนื้อสีเขียวที่เผาไม่ไหม้คืออะไร ลูกสาวคนที่สองถูกคุณไสย์จริงหรือไม่ ตายแล้วไปไหน ได้รับบุญที่อุทิศไปให้หรือไม่
[attachmentid=4418]

A: เพราะกรรมในอดีตที่เคยโยนลูกแมวลงน้ำ เนื่องจากเลนกับลูกแมวแล้วโดนลูกแมวข่วน จึงจับโยนลงน้ำด้วยความโกรธ จนลูกแมวจมน้ำตาย
[attachmentid=4419]

ก้อนเนื้อสีเขียวที่เผาไม่ไหม้คือการเผาที่ไม่สมบูรณ์ ไม่ใช่คุณไสย์ อย่างที่เข้าใจ ลูกสาวคนที่สองตายแล้วก็ไปเกิดใหม่แล้ว ไม่อาจรับบุญได้


Q: บุญใดที่ทำให้ลูกสาวคนที่ห้ามีหน้าตาสวย แต่ก็มีน้ำหนักมาก รูปร่างอ้วน เพราะกรรมใดที่ทำให้ลูกสาวคนที่ห้าและลูกชายคนที่สี่เสียชีวิตพร้อมๆ กัน ทั้งสองคนตายแล้วไปไหน ได้รับบุญที่อุทิศไปให้หรือไม่
[attachmentid=4421]

A: เพราะวจีกรรมในอดีตที่ไปล้อเลียนเพื่อนที่อ้วน ให้ได้รับความอับอาย อีกทั้งปัจจุบันยังมีนิสัยชอบกิน ทำให้มีรูปร่างอ้วน ส่วนที่มีหน้าตาดีเพราะคำอฐิษฐานที่ได้ทำไว้เมื่อทำบุญ โดยขอให้มีหน้าตางดงาม
[attachmentid=4420]

ลูกสาวคนที่ห้าและลูกชายคนที่สี่เสียชีวิตพร้อมๆ กันเพราะในอดีตทั้งสองเกิดเป็นญาติกัน ทั้งคู่ได้ลงมือฆ่าสัตว์ใหญ่เช่นหมู วัว ควาย เป็นอาหารอยู่เป็นประจำมาส่งผล
[attachmentid=4422]

ตายแล้วในช่วงแรกก็ไปเกิดเป็นภุมมะเทวาชั้นล่าง แต่ภายหลังได้รับบุญที่อุทิศไปให้ ส่งผลให้มีสภาพที่ดีขึ้น แต่ก็ยังร่อนเร่วนเวียนอยู่ ให้เจ้าของเคสทำบุญอุทิศไปให้อีก ก็จะมีบุญพอที่จะไปเกิดใหม่ได้


Q: กรรมใดที่ทำให้ลูกชายคนที่หกต้องถูกหลอกให้สึก ทั้งๆ ที่เคยตั้งใจว่าจะไม่สึก เหตุใดจึงไม่สามารถบวชได้ตลอดชีวิต
[attachmentid=4423]

A: เพราะมีบุญบวชมาแค่นี้ ลูกชายคนที่หกยังไม่มีผังบวชตลอดชีวิต อีกทั้งยังมีความเต็มใจที่จะสึกเพราะลึกๆ ในใจก็มีความคิดอยากสึกเพื่อไปครองเรือน แต่ยังหาเหตุไม่ได้ เมื่อสบโอกาสจึยอมให้ถูกหลอกดังกล่าว

Q: เจ้าของเคสมีบุพกรรมอย่างไรกับงูเห่า ทำไมเมื่อเจ้าของเคสเห็นงูเห่าก็จะรู้สึกอยากฆ่า และทำไมจึงสามารถจับงูเห่าได้ด้วยมือเปล่าๆ การกินงูทำให้มีร่างกายอบอุ่นไม่หนาวจริงหรือไม่
[attachmentid=4424][attachmentid=4425]

A: เพราะในอดีตเคยเกิดเป็นพังพอนกับเคยเป็นหมองูติดต่อกันมาหลายชาติ จึงไม่กลัวงูและมีความสามารถในการจับงูโดยไม่ถูกกัด และทำให้เกิดความรู้สึกอยากฆ่าดังกล่าว การกินงูทำให้มีร่างกายอบอุ่นไม่หนาวก็มีส่วนจริง รวมกับความอ้วนของเจ้าของเคสทำให้รู้สึกร้อน

Q: งูเห่าที่เจ้าของเคสกินแล้วถ่ายเป็นเลือดเป็นงูเจ้าที่จริงหรือไม่ เพราะเหตุใดเจ้าของเคสจึงไม่ตาย เมื่อถูกงูเห่ากัด
[attachmentid=4426][attachmentid=4427]

A: งูเห่าที่เจ้าของเคสเจอเป็นงูที่มีอายุมากแล้ว ไม่ใช่งูเจ้าที่งูเจ้าที่แต่อย่างใด ส่วนที่กินแล้วถ่ายเป็นเลือดก็เพราะถูกพิษงูซึ่งอยู่ในเนื้อที่กินเข้าไป เมื่อกินบ่อยๆ เข้าจึงทำให้ธาตุในตัววิปริตไปจนเกิดอาการป่วยดังกล่าว ส่วนที่ถูกกัดแล้วไม่ตายเพราะชาติที่เป็นหมองู ได้ช่วยคนที่ถูกงูพิษกัดให้รอดตายมาหลายราย บุญดังกล่าวมาส่งผลให้รอดชีวิตมาได้

Q: จริงหรือไม่เมื่อฟ้าผ่าก็จะมีทองคำเกิดขึ้นบริเวณใกล้ๆ และทองคำที่เจ้าของเคสเห็นอยู่บนผิวน้ำเป็นของจริงหรือไม่ และเพระเหตุใดเจ้าของเคสจึงไม่มีจิตคิดอยากได้ทองคำมาเป็นเจ้าของ
[attachmentid=4428][attachmentid=4429]

A: เมื่อฟ้าผ่าก็จะมีทองคำเกิดขึ้นบริเวณใกล้ๆ นั้นเป็นเรื่องที่บอกเล่า ต่อๆ กันมาด้วยความเข้าใจผิดจนเป็นตำนาน ส่วนทองคำที่มองเห็นนั้นเกิดจากตาฝาด ด้วยแรงของฟ้าที่ผ่าลงมาทำให้ตาพร่าจนเห็นผิดเพี้ยนไป ส่วนที่เจ้าของเคสไม่มีจิตคิดอยากได้ทองคำที่มองเห็นก็เป็นสิ่งที่ดี เพื่อจะได้ไม่ต้องเสียเวลาเพราะเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องไม่จริง

Q: กัลยาณมิตรที่เจ้าของเคสมาอาศัยอยู่ด้วยมีความเกี่ยวข้องกันมาอย่างไร ทั้งสองเคยสร้างบารมีมาอย่างไร เมื่อพุทธันดรที่ผ่านมาทั้งสองทำหน้าที่อะไรในหมู่คณะ
[attachmentid=4430][attachmentid=4431]

A: กัลยาณมิตรที่เจ้าของเคสมาอาศัยอยู่ด้วยเคยเป็นญาติของเจ้าของเคส เคยเกื้อกูลกันมาในอดีตชาติ โดยเจ้าของเคสได้พลัดจากหมู่คณะไปเกิดเป็นหมองูมาหลายชาติด้วยความประมาทในการดำเนินชีวิต แต่ด้วยบุญเก่าที่เคยทำไว้ก็ดึงดูดให้มาพบเจอกันในชาติปัจจุบัน เพื่อให้มาทำบุญร่วมกันใหม่แบบกองเสบียงประเภทสะบักสะบอมแล้วจึงกลับมาสร้างบุญบารมีใหม่อีกครั้ง กัลยาณมิตรท่านดังกล่าวเคสทำบุญมาแบบกอลเสบียงแต่ไม่ได้พลัดจากหมู่คณะเช่นเดียวกับเจ้าของเคส

[attachmentid=4432]

ชาตินี้เมื่อมาเจอกันแล้วก็ให้ตั้งใจสร้างบารมีในทุกๆ บุญอย่างเต็มที่
และอฐิษฐานจิต ตามติดไปดุสิตบุรี อย่าได้พลัดกันอีกเลย

ไฟล์แนบ



#2 CEO

CEO
  • Members
  • 577 โพสต์
  • Gender:Male
  • Interests:พระพุทธศาสนา วิชชาธรรมกาย

โพสต์เมื่อ 07 May 2006 - 09:13 AM

QUOTE
แม่ของเจ้าของเคสตายแล้วไปเกิดในมหานรกขุม 5 เพราะกรรมดื่มสุรา แต่กรรมเบาบางกว่าพ่อของเจ้าของเคส กำลังถูกกรอกน้ำทองแดงร้อน ได้รับความทุกข์ทรมานมาก ได้รับบุญที่อุทิศไปให้แล้ว ทำให้มีสภาพที่ดีขึ้น

มหานรกขุม 5 มีแต่น้ำกรดสีดำไม่ใช่หรือครับ
สร้างบารมีทุกวินาที
แม้ชีวิตนี้ก็ให้ได้

#3 n00m

n00m
  • Moderators
  • 637 โพสต์
  • Location:Patumthanee

โพสต์เมื่อ 08 May 2006 - 08:04 AM

ขอบพระคุณคุณ CEO มากครับ ผมพิมพ์ตกไปจริงๆ ที่ถูกต้องคือ 'ไปเกิดในยมโลกของมหานรกขุมที่ 5' (ผมแก้เรียบร้อยแล้วครับ :D) ขออภัยครับ คราวหน้าจะระมัดระวังกว่านี้ครับ อนุโมทนาบุญครับ...สาธุ