ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
- - - - -

2549-05-15: เธอกินยามากว่าแสนเม็ด


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 2 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 n00m

n00m
  • Moderators
  • 637 โพสต์
  • Location:Patumthanee

โพสต์เมื่อ 17 May 2006 - 04:40 PM

กรณีศึกษา กฎแห่งกรรม

วันจันทร์ที่ 15 พฤษภาคม 2549


เจ้าของเคสรู้จักวัดพระธรรมกายครั้งแรกปลายปี 2537 ปัจจุบันเป็นนักเรียนอนุบาลพันธ์แท้ ทั้งยังได้ทำหน้าที่กัลยาณมิตรช่วยเผยแพร่จานดาวธรรมได้กว่า 40 จานแล้ว

แม่ของเจ้าของเคสเป็นคนเรียนหนังสือเก่งมาก สอบได้ที่หนึ่งของอำเภอ แต่พอเรียนจบชั้น ป.4 ตาของเจ้าของเคสก็ไม่ยอมให้แม่เรียนต่อเนื่องจากเป็นลูกคนโต แม่ของเจ้าของเคสเสียใจมาก จนต้องเข้ารับการรักษาตัวกับจิตแพทย์มาตั้งแต่อายุ 14 ปี โดยมอาการคือ มักจะคิดว่าตนเองเป็นผู้มียศใหญ่ โดยมีตำแหน่งเป็นถึงมหาดเล็กของพระราชินี ซึ่งทางการแพทย์ระบุว่าแม่ของเจ้าของเคสมีอาการ 'หลงผิด'

เมื่ออายุได้ 20 ปี แม่ของเจ้าของเคสก็ได้แต่งงานกับพ่อของเจ้าของเคส และด้วยความที่พ่อของเจ้าของเคสเป็นคนเจ้าชู้มาก เลยทำให้แม่ของเจ้าของเคสมีความเครียด และคิดมากเพิ่มขึ้น จนส่งผลมีอาการทางจิตหนักกว่าเดิม ต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลถึงปีละ 2-3 ครั้ง แม่ของเจ้าของเคสต้องทานยามาตลอดตั้งแต่อายุ 14 ปีจนถึงปัจจุบันกว่า 54 ปี โดยเฉลี่ยจะทานยาวันละถึง 15 เม็ด ซึ่งถ้านับรวมๆ กัน แม่ของเจ้าของเคสได้ทานยาไปกว่าแสนเม็ดแล้ว ต่อมาเมื่อเจ้าของเคสติดจานดาวธรรมให้แม่ของเจ้าของเคสดู ซึ่งแม่ของเจ้าของเคสก็ชอบมาก จะดูทั้งวัน ภายหลังการดูได้ปีกว่าแม่ก็ไม่จำเป็นต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลจิตเวชอีกเลย

แม่ของเจ้าของเคสเคยเข้ารัยการผ่าตัดที่ขาถึง 2 ครั้ง โดยครั้งแรกเกิดจากการที่เจ้าของเคสลืมปิดน้ำในห้องน้ำ จนทำให้น้ำล้นเอ่อท่วมพื้น จนแม่ซึ่งตื่นขี้นมากลางดึกเพื่อหุงข้าวใส่บาตรลื่นหกล้ม ขาหัก 2 ท่อน โดยครั้งนี้หมอได้ผ่าตัดดามเหล็ก ต่อมาอีกประมาณเดือนเศษ คนงานที่จ้างมาให้ดูแลแม่ของเจ้าของเคสไม่ระมัดระวัง ปล่อยให้แม่ของเจ้าของเคสตกจากเก้าอี้ ต้องเข้ารับการผ่าตัดอีกเป็นครั้งที่ 2

แม่ของเจ้าของเคสได้ฝันไปขณะที่เจ้าของเคสเมื่ออายุได้ 13 ขวบว่ามีชายแก่คนหนึ่ง นุ่งขาวห่มขาว มายืนอยู่ที่ปลายเตียงนอน โดยชายแก่คนดังกล่าวได้ยื่นปี๊บเก่าสีดำให้แม่ของเจ้าของเคส ซึ่งแม่ของเจ้าของเคสก็ใช้มือล้วงเข้าไปในปี๊บ ซึ่งก็ปรากฎห่อผ้าสีจีวรพระ โดยในห่อผ้ามีรูปหน้าของเจ้าของเคสลอยขึ้นมา ซึ่งแม่ของเจ้าของเคสก็ได้กล่าวอุทานขึ้นได้ความว่า 'รูปหน้าดังกล่าวเป็นรูปหน้าลูกสาวคนเล็กของตนเอง' จากนั้นชายแก่คนดังกล่าวก็ได้กล่าวกับแม่ของเจ้าของเคสในทำนองว่า 'ของที่มีคนอื่นมาฝากไว้ ก็เอาไปคืนซะ ตอนนี้เด็กคนดังกล่าวรู้จักพ่อแม่ที่แท้จริงเรียบร้อยแล้ว' แม่ของเจ้าของเคสจึงได้ถามกลับไปว่าจะให้เอาไปคืนใคร ซึ่งก็ได้รับคำตอบว่า 'ก็ไม้ไผ่กอเดียวกัน' แม่ของเจ้าของเคสจึงเข้าใจไปเองว่า น่าจะเป็นน้องชายหรือน้องสาวของแม่ของเจ้าของเคส เนื่องจากทั้งสองท่านไม่มีลูกเป็นของตนเอง ซึ่งน้าสะใภ้ก็มักจะเอาตัวเจ้าของเคสไปเลี้ยงอยู่เป็นประจำ รวมถึงเจ้าของเคสยังรู้สึกผูกพันกับน้าสะใภ้คนนี้มาก มากกว่าแม่ของเจ้าของเคสเสียอีก จนทำให้เจ้าของเคสมักจะมีปากเสียงกับแม่อยู่บ่อยๆ ทั้งนี้เจ้าของเคสมีความรู้สึกอยากไปอยู่กับน้าสะใภ้ ก่อนที่แม่ของเจ้าของเคสจะฝันได้ประมาณ 2 เดือน ซึ่งเจ้าของเคสก็ไม่ได้ไปอยู่กับน้าสะใภ้ตามที่รู้สึก จนกระทั่งปัจจุบันเจ้าของเคสก็ยังอยู่กับแม่

เมื่อเจ้าของอายุได้ 25 ปี ก็มีอาการปวดขามาก ทั้งยังมีเส้นเลือดปูดขึ้นมาที่น่องข้างขวา ต้องเข้ารับการักษาด้วยการผ่าตัดเส้นเลือดขอด โดยหมอได้ดึงเอาเส้นเลือดดำทิ้งไปหนึ่งเส้น ตั้งแต่นั้นมาเจ้าของเคสก็มีอาการปวดที่ขาข้างขวามาโดยตลอด ต่อมาเมื่ออายุได้ 33 ปี เจ้าของเคสก็มีอาการปวดที่ต้นคอ ร้าวจนไปถึงบ่า โดยทราบภายหลังว่าเป็นเพราะกระดูกคอเสื่อม ทั้งยังกดทับเส้นประสาทอีกด้วย โดยรู้สึกเช่นนี้มา 9 ปีแล้ว

ต้นปี 2538 เจ้าของเคสรุ้สึกอยากร่วมบุญสร้างองค์พระธรรมกายประจำตัวมาก แต่เนื่องจากยังไม่มีปัจจัยเพียงพอ จึงต้องดิ้นรนด้วยการนำเอาเครื่องเพชร ซึ่งเป็นสมบัติชิ้นสำคัญไปขายและนำเอาปัจจัยดังกล่าวมาสร้างองคืพระ โดยได้สร้างมาเรื่อยทั้งภายนอก ภายใน และบนโดม จนถึงปี 2542 รวมได้ 10 องค์ อีกทมั้งยังทำหน้าที่ชักชวนคนอื่นมาร่วมสร้างองค์พระรวมกันได้อีกกว่า 20 องค์ ต่อมาเมื่อมีข่าวโจมตีวัดสามีของเจ้าของเคสก็ได้สั่งห้ามไม่ให้เจ้าของเคสมาวัดอีก ทำให้เจ้าของเคสไม่ได้มาร่วมสร้างบุญต่อไป แต่เจ้าของเคสก็ยังรู้สึกปลื้มปิติในบุญที่ได้ทำไปก่อนหน้านี้ และก็ยังมีศรัทธาต่อวัดพระธรรมกายอยู่เช่นเดิม

เมื่อปี 2544เจ้าของเคสได้เดินทางไปทำธุระที่จังหวัดลพบุรี ในระหว่างเดินทางก็เกิดอุบัติเหตุทำให้รถยนตร์ที่เจ้าของเคสใช้เดินทางเสียหลัก พลิกคว่ำถึงสามตลบ ช่วงเวลานั้นเจ้าของเคสคิดว่าตนเองต้องไม่รอดแน่ๆ ตกใจมากจนคิดอะไรไม่ออก ได้แต่ตะโกนขึ้นสุดเสียงว่า '...ช่วยด้วย อย่าให้เป็นอะไรเลย' ซึ่งก็เป็นที่น่าอัศจรรย์ว่าเจ้าของเคสไม่เป็นอะไรเลย ทั้งๆ ที่รถหลังคายุบ เสียหายอย่างมาก โดยเจ้าของเคสมีความเชื่อส่วนตัวว่าเป็นเพราะผลบุญจากการสร้างองค์พระธรรมกายประจำตัว เพราะที่ผ่านมาเจ้าของเคสไม่เคยทำบุญใหญ่อย่างอื่นเลย นอกจากทำบุญกฐินหรือผ้าป่าเล็กๆ น้อยๆ

สามีของเจ้าของเคสเคยมีภรรยามาก่อนหน้านี้ ภรรยาเก่าของสามีของเจ้าของเคสเป็นคนป่วย มีอาการทางประสาท แต่ก็ไม่ได้เข้ารับการรักษา ภรรยาเก่าของสามีมักจะหยิบยืมเงินจากผู้อื่น โดยถูกคิดดอกเบี้ยในอัตราค่อนข้างสูง และมักจะไม่มีเงินใช้คืน และด้วยความเป็นห่วงลูกที่เกิดกับภรรยาเก่า สามีของเจ้าของเคสจึงจำต้องยอมใช้หนี้แทนภรรยาเก่าอยู่เสมอ โดยเมื่อหนี้เก่าจะหมด ภรรยาเก่าของสามีก็จะก่อหนี้ใหม่ขึ้นมาอีก จวบจนถึงปัจจุบันระยะเวลาได้กว่า 17 ปี สามีของเจ้าของเคสต้องใช้หนี้แทนภรรยาเก่าไปแล้วกว่า 3 ล้านบาท โดยล่าสุดเมื่อปี 2548 เพิ่มใช้หนี้ไป 8 แสนกว่าบาท ทั้งยังมีหนี้ใหม่อีกกว่าแสนบาท เจ้าของเคสซึ่งเป็นภรรยาก็จำยอมต้องมีส่วนในการใช้หนี้นั้นด้วย ทั้งๆ ที่ไม่ได้เป็นคนก่อหนี้เลย

ลูกชายคนโตของเจ้าของเคสเป็นคนเรียนเก่ง ในระดับต้นๆ ของจังหวัด ลูกชายคนโตของเจ้าของเคสมีความฝันจะเป็นทหารอากาศเหมือนสามีของเจ้าของเคส ซึ่งก็สามารถสอบผ่านได้ในอันดับต้นๆ จากทั้งหมดร้อยกว่าคน แต่สุดท้ายลูกชายคนโตของเจ้าของเคสกลับเปลี่ยนใจไม่เรียน ทั้งๆ ที่สอบได้ ซึ่งก็สร้างความประหลาดใจให้กับเจ้าของเคส จนเจ้าของเคสได้เอาเรื่องดังกล่าวไปถามซินแส ซึ่งก็ได้รับคำตอบว่าลูกชายคนโตของเจ้าของเคสไม่มีดวงทางรับราชการ

ลูกชายคนเล็กของเจ้าของเคสมีนิสัยแปลกตั้งแต่อายุได้ 2 ขวบคือจะยกมือไหว้และพูดว่า 'วัด' ทุกครั้งที่เจอหรือผ่านวัด โดยทีเจ้าของเคสไม่ได้สอนหรือสั่งให้ทำเช่นนั้นเลย และถ้าผ่านหรือพบเห็นศาลพระภูมิตามบ้านหรือร้านค้าต่างๆ ก็จะยกมือไหว้และพูดว่า 'วัดน้อย' ลูกชายคนเล็กของเจ้าของเคสเป็นคนจิตใจดี มีนิสัยเรียบร้อย ไม่มักโกรธ ไม่ว่าร้ายใคร ทุกครั้งที่ลูกชายคนเล็กของเจ้าของเคสได้ยินเจ้าของเคสบ่นว่าสามี ลูกชายคนเล็กของเจ้าของเคสก็จะห้ามไม่ให้บ่นว่า

ปัจจุบันลูกชายคนเล็กของเจ้าของเคสอายุได้ 13 ปี มีผลการเรียนที่ดีเยี่ยม ชอบทำบุญ เมื่อเดือนเมษายน 2548 เจ้าของเคสได้ให้ลูกชายคนเล็กบวชสามเณรยุวธรรมทายาทที่วัดพระธรรมกาย ขณะบวชได้เกือบเดือนลูกชายคนเล็กของเจ้าของเคสสามารถนั่งสมาธิจนเห็นองค์พระภายใน แม้ในปัจจุบันก็ยังคงเห็นองค์พระได้อยู่ โดยลูกชายคนเล็กของเจ้าของเคสได้กล่าวว่าแม้กระทั่งขณะทานข้าว หรือขณะที่ไม่ได้นั่งสมาธิ ก็ยังสามารถเห็นองค์พระได้อยู่ ลูกชายคนเล็กของเจ้าของเคสมีความต้องการอยากบวช ซึ่งเจ้าของเคสก็เห็นชอบและอนุโมทนาบุญด้วย แต่เมื่อปรึกษากับพระอาจารย์ พระอาจารย์ก็ได้ให้คำแนะนำว่าให้ไปเรียนให้จบปริญญาตรีเสียก่อน แต่ลูกชายคนเล็กก็ยังตั้งใจที่จะบวชเป็นสามเณรทุกช่วงปิดเทอม โดยได้บอกกับเจ้าของเคสว่าพระพี่เลี้ยงใจดีมาก และลูกชายคนเล็กก็มีความสุขมากในระหว่างบวช ไม่เคยรู้สึกอยากกลับบ้านเลย

QUOTE
หลับตา ฝันเป็นตุเป็นตะ ตื่นขึ้นมา หาวหนึ่งที แล้วนำมาเล่าให้ฟังเป็นนิยายปรัมปรา


Q: เพราะกรรมใดที่ทำให้แม่ของเจ้าของเคสต้องเป็นคนไข้จิตเวชมายาวนานถึง 54 ปี และต้องมาเจอสามีที่เป็นคนเจ้าชู้ ทั้งยังต้องตกอยู่ในสภาพที่ถูกสามีทิ้ง
[attachmentid=4627]

A: เพราะกรรมอดีตชาติสมัยที่เกิดเป็นผู้ชาย มีอุปนิสัยชอบดื่มเหล้าตั้งแต่วัยรุ่นจนเป็นผู้ใหญ่ ทำเช่นนี้จนเสียชีวิต อีกทั้งยังมีนิสัยเจ้าชู้ ทอดทิ้งภรรยา ด้วยวิบากกรรมกาเมจึงทำให้มาเกิดเป็นผู้หญิง และได้สามีเจ้าชู้ และถูกทอดทิ้งดังกล่าว วิบากกรรมสุรามาส่งผลให้เป็นโรคทางจิต

Q: เพราะบุพกรรมใดที่ทำให้แม่ของเจ้าของเคสต้องประสบอุบัติเหตุจนขาหัก ต้องเข้ารับการรักษาด้วยการผ่าตัดถึง 2 ครั้ง และการที่เจ้าของเคสลืมปิดน้ำจนเป็นเหตุให้แม่ของเจ้าของเคสหกล้มจนขาหักจะมีบาปหรือวิบากกรรมอย่างไร จะต้องทำอย่างไรเพื่อให้พ้นจากวิบากกรรมนี้ถึงแม้จะไม่ได้ตั้งใจ
[attachmentid=4628]

A: กรรมในอดีตชาติที่เมาสุราเมาแล้วมักจะทำร้ายร่างกายภรรยา จนครั้งหนึ่งภรรยาล้มจนขาหัก วิบากกรรมดังกล่าวมาส่งผลทำให้แม่ของเจ้าของเคสต้องประสบอุบัติเหตุจนขาหัก
[attachmentid=4629]

การที่เจ้าของเคสลืมปิดน้ำจนทำให้แม่ของเจ้าของเคสหกล้มจนขาหักนั้นก็ไม่มีวิบากอะไรเพราะไม่มีเจตนา อีกทั้งการล้มจนขาหักก็เป็นวิบากกรรมของแม่ของเจ้าของเคสมาส่งผล แต่เพื่อความสบายใจ ให้เจ้าของเคสไปขอขมาแม่ของเจ้าของเคส และให้หมั่นสั่งสมบุญ และอฐิษฐานว่าอย่าให้ตนต้องเจอสภาพเช่นนี้เลย


Q: อดีตชาติเจ้าของเคสและแม่มีความเกี่ยวข้องกันมาอย่างไร ทำไมเจ้าของเคสจึงไม่ค่อยรู้สึกผูกพันกับแม่ และจะรู้สึกหงุดหงิดกับแม่อยู่บ่อยครั้ง ทั้งยังรู้สึกรักน้าสะใภ้มากกว่า เป็นเพราะเคยเกิดเป็นลูกของน้าชายและน้าสะใภ้ตามที่แม่ของเจ้าของเคสฝันเห็นหรือไม่
[attachmentid=4630]

A: เจ้าของเคสไม่ค่อยรู้สึกผูกพันกับแม่ และจะรู้สึกหงุดหงิดกับแม่อยู่บ่อยครั้งเพราะเหตุปัจจุบันเป็นหลัก เนื่องจากแม่ของเจ้าของเคสป่วยเป็นโรคประสาท ซึ่งมีผลต่อการแสดงออก การพูดการจา ทำให้เจ้าของเคสรู้สึกหงุดหงิดใจ และไม่รู้สึกผูกพัน ทั้งๆ ที่จริงๆ แล้วทั้งสองเคยเป็นแม่ลูกกันมาในอดีตชาติเช่นเดียวกับปัจจุบันชาตินี้
[attachmentid=4631]

ส่วนการที่รู้สึกผูกพันกับน้าสะใภและน้าชายนั้นก็เป็ฯเพราะในอดีตชาติใหล้ๆ กันเจ้าของเคสก็เคยเกิดเป็นลูกของท่านทั้งสองเช่นเดียวกัน ประกอบกับปัจจุบันก็ได้มีโอกาสช่วยเหลือเกื้อกูลกันมาจึงทำให้รู้สึกผูกพันมากเป็นพิเศษ


Q: สามีของเจ้าของเคสมีบุพกรรมใดจึงต้องมาตามใช้หนี้เป็นจำนวนมากให้กับภรรยาเก่าตลอดมา ทั้งๆ ที่ไม่ได้มีส่วนในหนี้สินนั้นเลย และเจ้าของเคสมีบุพกรรมร่วมกันมาอย่างไรจึงต้องมารับใช้หนี้ด้วย
[attachmentid=4632]

A: สามีของเจ้าของเคสต้องมาตามใช้หนี้เป็นจำนวนมากให้กับภรรยาเก่าตลอดมา ทั้งๆ ที่ไม่ได้มีส่วนในหนี้สินเพราะกรรมในอดีตซึ่งเจ้าของเคสและสามีก็เกิดเป็นสามีภรรยากันเช่นเดียวกับชาตินี้ และได้ไปขอยืมเงินจากภรรยาเก่าของสามีในชาตินี้ แล้วไม่ได้ใช้คืน เลยต้องมาใช้คืนในชาตินี้
[attachmentid=4633]

ส่วนภรรยาเก่าของสามีในอดีตชาติก็ได้ไปกู้ยืมเงินคนอื่นมาให้เจ้าของเคสและสามียืมอีกทอดหนึ่ง ซึ่งก็ไม่ได้ใช้คืนเจ้าหนี้เช่นเดียวกัน และด้วยวิบากกรรมดังกล่าวทำให้ต้องมาใช้หนี้เป็นทอดๆ เช่นในปัจจุบันชาติ


Q: เหตุใดที่ทำให้ลูกชายคนโตของเจ้าของเคสไม่ได้เป็นทหารอากาศ เพราะบุญไม่พอหรือเป็นเพราะนี่ไม่ใช่เส้นทางชีวิตของลูกชายคนโต คนที่ไม่สมหวังกับการสอบเข้าเรียนอย่างที่ตั้งใจไว้ ถ้านอกเหนือการความขยันในการเตรียมตัวหรืออ่านหนังสือแล้ว ยังมีกรรมอื่นใดที่ทำให้ต้องพบกับความผิดหวังหรือไม่ และจะต้องประกอบเหตุอย่างไรจึงจะสมหวังในสิ่งที่ปรารถนา
[attachmentid=4634]

A: ลูกชายคนโตของเจ้าของเคสไม่ได้เป็นทหารอากาศเพราะไม่ใช่เส้นทางชีวิตเป็นเพียงความรู้สึกที่อยากจะเป็นตามสามีของเจ้าของเคสเท่านั้น
[attachmentid=4635][attachmentid=4636]

คนที่ไม่สมหวังกับการสอบเข้าเรียนอย่างที่ตั้งใจไว้ก็มีได้หลายกรณีเช่น เกิดจากความขี้เกียจ หรือเป็นเพราะไม่ได้สั่งสมบุญทางดังกล่าวหรือมีอุปนิสัยดังกล่าวมาเลย เช่นถ้าอยากเป็นหมอ แต่ในอดีตไม่เคยเป็นหมอ หรือไม่เคยสั่งสมปัญญาบารมีมาเพียงพอทำให้ไม่มีปัญญาในปัจจุบันไม่เพียงพอที่จะเป็นหมอได้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะเป็นไม่ได้ แต่ถ้าต้องการจะเป็นก็ต้องมีความขยันมากกว่าปกติ ในขณะที่บางคนซึ่งเคยมีอดีตเช่นนี้ และมีการสั่งสมปัญญาบารมีมาดี ก็จะอาศัยเหตุปัจจุบันนิดหน่อยก็จะสามารถประสบความสำเร็จตามที่หวังไว้ได้ไม่ยากนัก


Q: ลูกชายคนเล็กประกอบเหตุมาอย่างไรจึงสามารถนั่งสมาธิจนเห็นองค์พระภายในระยะเวลาไม่นานนัก มีบุญด้านการบวชมาอย่างไร เจ้าของเคสควรให้บวชตั้งแต่ตอนนี้หรือควรจะรอให้เรียนจบปริญญาตรีตามที่พระอาจารย์แนะนำ
[attachmentid=4637]

A: เพราะลูกชายคนเล็กของเจ้าของเคสสั่งสมบุญการปฏิบัติธรรมมาจากอดีตชาติ ให้ไปเรียนให้จบปริญญาตรีตามที่พระอาจารย์แนะนำก่อน หากมีบุญมาทางนี้ยังไงก็ต้องได้บวช

Q: พ่อของสามีของเจ้าของเคสเป็นมหาดเล็กในรัชกาลที่ 8 เสียชีวิตลงด้วยโรควัณโรค ขณะทีอายุได้ 30 ปีเศษ ตายแล้วไปไหน ได้รับบุญที่เจ้าของเคสอุทิศไปให้หรือไม่
[attachmentid=4638][attachmentid=4639]

A: เพราะกรรมในอดีตที่เกิดเป็นทหาร ออกรบและฆ่าข้าศึกตายไปเป็นจำนวนมาก อีกทั้งยังได้ทรมานข้าศึกด้วยวิธีการต่างๆ เช่น ทุบ ซ้อม หรือให้อดอาหาร วิบากกรรมดังกล่ามารวมส่งผล ตายแล้วก็ไปเกิดเป็นภุมมะเทวาอยู่พักหนึ่ง จากนั้นก็ได้ไปเกิดเป็นมนุษย์ จึงไม่อาจรับบุญที่เจ้าของเคสอุทิศไปให้ได้

Q: กรรมใดที่ทำให้เจ้าของเคสประสบอุบัติเหตุ และที่รอดมาได้เป็นเพราะบุญสร้างองค์พระธรรมกายประจำตัวใช่หรือไม่ และถ้าเจ้าของเคสไม่ได้สร้างองค์พระ จะมีผลต่างไปอย่างไร
[attachmentid=4640][attachmentid=4641]

A: เพราะกรรมที่สั่งฆ่าสัตว์ทำอาหาร เพื่อเลี้ยงแขก ในชาติที่ไปเกิดในสังคมเกษตรกรรม อีกทั้งยังได้ลงมือฆ่าด้วยตนเองมารวมส่งผล แต่ที่รอดมาได้เพราะบุญที่ได้สร้างองค์พระธรรมกายประจำตัว และถ้าไม่ได้สร้างองค์พระไว้ก็อาจได้รับบาดเจ็บถึงขั้นพิการหรือเสียชีวิตได้

Q: กรรมใดที่ทำให้เจ้าของเคสมีอาการปวดที่ต้นคอ รักษาไม่หาย ทั้งยังถูกผ่าตัดเอาเส้นเลือกดำทิ้ง จนมีผลให้มีอาการปวดขามาจนถึงปัจจุบันนี้ การทำบุญปล่อยสัตว์ปล่อยปลาบ่อยๆ จะช่วยให้มีอาการดีขึ้นหรือไม่
[attachmentid=4642][attachmentid=4643]

A: เพราะกรรมในอดีตที่ชอบล่ามสัตว์ที่คอ หรือขา เช่นล่ามสุนัข แมว ใช้วัวเทียมแอกเกวียนและใช้ให้ขนของหนักมากเกินกำลัง บางครั้งก็ยังล่ามขาวัว ซึ่งวัวก็พยายามที่จะดึงขาออก จนทำให้ขาเป็นแผล ด้วยวิบากกรรมดังกล่าวมารวมส่งผลทำให้ถูกผ่าตัดเอาเส้นเลือกดำทิ้ง จนมีผลให้มีอาการปวดขาเพราะกรรมที่ล่ามสัตว์ที่ขา และที่ปวดคอเพราะกรรมล่ามสัตว์ที่คอ
[attachmentid=4644]

จะแก้ไขก็ให้สั่งสมบุญทุกบุญ ทั้งทาน ศีล ภาวนา ปล่อยสัตว์ปล่อยปลา และสัตว์ใหญ่ แล้วให้อุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้สัตวที่เคยไปล่วงเกินเอาไว้


Q: ในอดีตชาติเจ้าของเคสประกอบเหตุมาอย่างไร ในชาตินี้จึงมีคนรู้จักป็นพระ และชีเป็นจำนวนมาก
[attachmentid=4645]

A: เพราะชาตินี้เจ้าของเคสเป็นคนใจบุญ รวมถึงในอดีตเคยเป็นอุปัฐฐากแก้ผู้มีศีลมีธรรมอยู่เสมอ ทำให้นิสัยดังกล่าวติดตัวมาข้ามภพข้ามชาติ

Q: เจ้าของเคสและครอบครัวเคยสร้างบารมีมากับหมู่คณะอย่างไร ทำไมจึงรู้สึกรักและผูกพันกับพระเดชพระคุณหลวงพ่อ รวมถึงหมู่คณะมาก จะมีโอกาสกลับดุสิตบุรี วงบุญพิเศษหรือไม่
[attachmentid=4646]

A: เจ้าของเคสและครอบครัวเคยสร้างบารมีมากับหมู่คณะแบบกองเสบียงประเภทตามกำลังมาหลายชาติแล้ว จึงรู้สึกรักและผูกพันกับหมู่คณะมาก

[attachmentid=4647]

ชาตินี้เมื่อมาเจอกันแล้วก็ให้ตั้งใจสร้างบารมีในทุกๆ บุญ อย่างเต็มที่
และอฐิษฐานจิต ตามติดไปดุสิตบุรี อย่าได้พลัดกันอีกเลย

ไฟล์แนบ



#2 pp_072

pp_072
  • Members
  • 209 โพสต์
  • Interests:ดีครับ

โพสต์เมื่อ 17 May 2006 - 06:36 PM

สา..........ธุครับ

พุทธบุตรต้องเป็นหนึ่งเดียวกัน เหมือนดวงตะวันที่มีดวงเดียว

พุทธบริษัท 4 ต้องเป็นหนึ่งเดียวกัน เหมือนตะวันที่มีดวงเดียว

#3 ลูกพระธัมฯ Merry Ma

ลูกพระธัมฯ Merry Ma

    The STRONGEST is the GENTLEST!!!

  • Members
  • 891 โพสต์
  • Gender:Female
  • Location:Bangkok, Thailand

โพสต์เมื่อ 18 May 2006 - 04:38 AM

อนุโมทนาบุญกับคุณแม่เจ้าของเคสด้วยค่ะ ที่ดูจานดาวธรรม DMC มาปีกว่าแล้วไม่ทานยาอีกเลย
The Strongest is The Gentlest!

ผู้ที่มีจิตใจเข้มแข็งที่สุด ย่อมเป็นผู้ที่สุภาพนุ่มนวลที่สุด