ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
- - - - -

หลับสบายตายสะดวก (16 เมษายน 2546)


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 1 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 extra

extra
  • Members
  • 409 โพสต์

โพสต์เมื่อ 25 July 2006 - 07:29 PM

ย่อเรื่อง หลับสบายตายสะดวก (16 เมษายน 2546) โดย Extra happy.gif

เปรตกินน้ำลายน้ำมูกเสมหะ
บุพกรรมตอนเป็นมนุษย์ เข้าไปในวัดวาอาราม มองซ้ายมองขวา ไม่มีใครเห็น ก็บ้วนน้ำลาย ขากเสมหะด้วยความไม่เคารพและความไม่รู้ หรือเป็นคนที่ไม่มีศรัทธา พอพระผ่านมา กลัวชาวบ้านจะว่า เอาของเหลือที่จะทิ้งไปใส่บาตร และยังให้ของแบบนี้แก่ขอทาน จิตเป็นอกุศลตายไปจึงเป็นเปรต พอใครพ่นน้ำลายน้ำมูกเสมหะ เปรตก็จะดีใจ รีบมากิน

เปรตห่มผ้าเหล็กแดงร้อนลุกเป็นไฟ
บุพกรรม คือ เอาธงที่เขาผูกไว้กับเจดีย์มาแขวนคอแล้วเอานำไปใช้ที่บ้าน แทนที่จะเอาไปคืนที่เจดีย์ ตอนแรกใช้กับตัว ต่อมาใช้ถูพื้น เลยมาเป็นเปรตแบบนี้ ทุกข์ทรมานมาก ถอดทิ้งไม่ได้ ถอดก็จะมีอันใหม่มาที่ร้อนยิ่งกว่าเดิม


เคสที่หนึ่ง เธอเป็นผู้นำบุญภาคนครหลวง 7 มาโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยาทุกวัน แม้จะไม่สบาย เข้าวัดเมื่อปี 2528 เป็นครอบครัวธรรมกายตั้งแต่เข้าวัด ได้ทำบุญซื้อที่ดิน 2,000ไร่ ทำบุญกฐินคุณยายทุกปีตั้งแต่ 2539 สร้างองค์พระประจำตัวและบอกบุญองค์พระได้ประมาณ 100 องค์ ทำบุญตอกเสาเข็มเจดีย์ กลั่นแผ่นดิน และบุญทุกบุญไม่เคยขาดจนมาถึงปัจจุบันนี้

สามีของเธอไม่ได้เจ็บป่วยอะไร คืนก่อนที่จะเสียชีวิตยังรวบรวมปัจจัยบุญกฐินคุณยาย พ.ศ. 2534 แล้วเข้านอนได้เสียชีวิตขณะนอนหลับ ขณะอายุ 42 ปี

คำถาม เขาได้ทำกรรมใดไว้ ถึงได้ตายแบบนี้ ตอนนี้เขาอยู่ที่ไหน ถ้าเขาไปอยู่ที่ดี ๆ เขาทำบุญอะไรถึงได้ไปอยู่อย่างนั้น


เขาได้สร้างบารมีกับหมู่คณะมาหลายชาติและอธิษฐานติดตามหมู่คณะมาตลอดเลย ชาตินี้จึงได้มาสร้างบารมีกันอีก เขาทำปาณาติบาตมาหลายชาติ มียกตัวอย่าง 2 ชาติ คือ ชาติก่อนจะเจอหมู่คณะในชาตินั้น เป็นคนที่มีอัธยาศัยกว้างขวาง ตอนที่อายุขนาดนี้ ได้จัดงานเลี้ยงในวันงานแต่งงานของลูกสาว สั่งฆ่าหมู ไก่ วัว ทำอาหารเลี้ยงแขก กับอีกชาติหนึ่ง เคยเป็นทหารทำปาณาติบาต เมื่อเจอหมู่คณะก็ลาออก แล้วติดตามหมู่คณะมาสร้างบารมี กรรมมาตัดรอนมาชิงช่วง ช่วงชิง ทำให้หมดอายุขัย

สามีหลับไปอย่างสบายแล้วตื่นขึ้นกลางวิมานที่ดุสิตบุรีรอบวงบุญพิเศษฝ่ายเสบียง เพราะบุญเก่าที่เคยทำมา แล้วอธิษฐานข้ามชาติมาเลย รวมกับบุญใหม่ ที่ได้อธิษฐานติดตาม รวมทั้งบุญที่ภรรยาทำด้วยจิตเลื่อมใส แม้ทรัพย์ไม่มากแต่จิตเลื่อมใสมากคือใจเป็นบุญล้วน ๆ หวังเอาบุญอย่างเดียว บุญส่งไป ทำให้มีวิมานอยู่ แต่วิมานไม่ค่อยใหญ่ ขนาดพอประมาณ

ขณะนี้ เขากำลังตรวจตราสมบัติที่ตัวทำและที่ภรรยาทำไปให้บ่อย ๆ และลงมาร่วมบุญกับหมู่คณะในทุก ๆ บุญเป็นระยะกับมวลหมู่เทวดาทั้งหลายที่มา เขาเสียดายลึก ๆ ว่า ไม่น่าตายเร็วเลย ไม่ได้ทำอีกหลายบุญ ก็ได้แต่อธิษฐานจิตในใจ ขอให้ได้สร้างบุญเยอะ ๆ กับหมู่คณะนี้ไปทุกชาติ ฝากความถึงภรรยาผู้เป็นที่รักว่า ให้ทุ่มทำบุญให้เต็มที่ พี่คอยอยู่ อย่ากลัวลำบาก ที่อุทิศบุญให้ พี่ได้รับทุกครั้ง และฝากขอบคุณที่ส่งบุญมาให้ ไกลแต่ตัว แต่หัวใจอยู่ใกล้


เคสที่สอง ลุงอายุ 67 ปี สมัยที่ลุงแต่งงานกับป้าใหม่ ๆ ได้ประกอบอาชีพขายกาแฟ ข้าวโพดคั่ว ขายไข่เป็ดไข่ไก่ ต่อมาเกิดอยากรวย เลี้ยงหมูขายส่งฆ่า ต่อมา เลิกอาชีพนี้เพราะเป็นบาป เนื่องจากมาวัดแล้วได้ฟังธรรมะของหลวงพ่อ ลุงเข้าวัดเมื่อปี 2537 โดยมีป้าเป็นกัลยาณมิตร วันนั้นป้ามารับพระของขวัญที่สร้างองค์พระไว้ 1 องค์ ป้าแอบทำโดยไม่ได้บอกลุง เพราะไม่ทราบว่าใจลุงจะคิดอย่างไร ปรากฏว่าได้ชวนลุงมาวัดครั้งแรก ลุงเกิดกุศลศรัทธาแรงกล้า ตัดสินใจสร้างทันที 2 องค์แล้วมาบอกป้าว่า สร้างพระให้ป้าด้วย ป้ารู้แล้วทึ่งในตัวลุงและดีใจ ต่อมา ลุงสร้างพระให้ทุกคนในครอบครัว ญาติสนิทมิตรสหายรวม 50 องค์ ป้าบอกว่าลุงรักเคารพพระเดชพระคุณหลวงพ่อมาก หลวงพ่อจะสร้างอะไร ก็ทำให้ทันตาเห็นทุกอย่าง ช่วงภาวะวิกฤตของวัด ลุงมาวัดเกือบทุกวัน เพื่อให้กำลังใจหลวงพ่อ ทั้ง ๆ ที่มาวัดหลังป้า ลุงรักและเข้าใจพระเดชพระคุณหลวงพ่ออย่างแนบแน่น เชื่อใจ เข้าใจ มั่นใจ จนป้ารู้สึกศรัทธาในความรักที่ลุงมีต่อพระเดชพระคุณหลวงพ่ออย่างที่สุด แม้จะมาช้า แต่ว่ามั่นคง

ในช่วงก่อนฉลองเจดีย์ครั้งที่ 1 ลุงได้ชักชวนป้ามาสร้างองค์พระด้วยปัจจัย 100,000 บาท ซึ่งเป็นปัจจัย 100,000 บาทแรกที่ครอบครัวมี ลุงบอกป้าว่า หมดนี่ก็หมดกันแล้วนะ ป้าบอกว่า หมดเดี๋ยวก็มีมาใหม่ เมื่อตัดใจทำบุญแล้วปลื้มมาก

เช้าตรู่วันที่ 23 สิงหาคม 2542 ประมาณ ตี 2-ตี 5 ป้าเตรียมของขายแล้วกลับมาปลุกลุง ปรากฏว่า ลุงได้เสียชีวิตไปแล้วอย่างสงบบนเตียงในห้องนอน เป็นการนอนที่ไม่ได้ตื่นขึ้นมาอีกเลย ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้ป่วย ตอนนี้ป้ายังรักและห่วงใยลุงเสมอ

คำถาม ลุงอยู่ปรโลกเป็นอย่างไร ขาดตกบกพร่องสิ่งใดบ้าง


ลุงหลับสบายไปแบบผู้มีบุญ เนื่องจากกรรมปัจจุบันและกรรมในอดีต 2 อย่างมารวมกัน กรรมปัจจุบันที่เลี้ยงหมูขาย ไปดูดกรรมในอดีตที่เลี้ยงสัตว์ส่งขาย จึงตัดรอนให้เสียชีวิต

ลุงหลับเหมือนฝัน เห็นเทวดาจำนวนมากมายมาเรียก โดยนำราชรถคันพอประมาณมารับ ส่วนคันใหญ่อยู่ที่วิมาน มาเรียกกายละเอียดลุงไปขึ้นราชรถ ราชรถลอยไปเรื่อย ๆ คุณลุงอธิษฐานตลอดว่าจะมาสร้างบารมีกับหมู่คณะ ใจอยู่ในบุญตลอด มารู้ตัวอีกที เห็นสมบัติทิพย์แล้วหันกลับมามองที่โลกด้วยทิพยจักขุ เห็นเขานำร่างของตัวเองมาทำพิธีศพ จึงรู้ตัวว่าตายแล้ว บริวารบอกว่า นี่คือผลบุญของท่าน พวกเราและวิมานเกิดขึ้นจากบุญของท่าน วิมานของลุงอยู่ที่ดุสิตบุรี ฝ่ายกองเสบียง ตอนนี้ได้รับบุญที่ป้าส่งไปให้แล้ว ลุงมาร่วมงานบุญทุกบุญกับเหล่าเทวดา เพราะใจผูกพันอยู่กับหมู่คณะคอยอนุโมทนาบุญกับหมู่คณะ และรอคอยการกลับไปของหมู่คณะ พอขึ้นไปแล้ว เห็นผลบุญก็ปลื้ม แล้วลงมาเห็นหมู่คณะมาสร้างบารมีก็ปลื้ม พออนุโมทนาบุญเสร็จก็แว้บกลับวิมาน ลุงฝากความมาถึงป้าและทุก ๆ คนว่าให้ทำบุญเยอะ ๆ จะได้กลับไปสู่วิมานด้วยกัน



#2 ศูนย์กลางกาย

ศูนย์กลางกาย
  • Members
  • 94 โพสต์

โพสต์เมื่อ 25 July 2006 - 09:10 PM

สาธุ ๆ การให้ธรรมทานชนะการให้ทั้งปวง