ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
- - - - -

พลาดแล้วย้ำคิดทำผิดหลักวิชชา (17 เมษายน 2546)


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 1 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 extra

extra
  • Members
  • 409 โพสต์

โพสต์เมื่อ 25 July 2006 - 09:44 PM

ย่อเรื่อง พลาดแล้วย้ำคิดทำผิดหลักวิชชา (17 เมษายน 2546) โดย Extra happy.gif

เปรตตาเหลือกเหลือง
ร่างกายเต็มไปด้วยเส้นเอ็น มีความทุกข์ทรมาน หิวกระหายเป็นปกติ บุพกรรมเดิมเป็นภรรยาของอุบาสกท่านหนึ่ง สามีเป็นคนมีศรัทธาแต่ตัวเองไม่มีศรัทธา พระมาบิณฑบาตหน้าบ้าน ก็ไม่ยอมทำบุญ ไม่เห็นคุณค่าของการทำทาน เห็นว่าพระขี้เกียจ ฉันแล้วเดินเฉย ๆ นั่งเฉย ๆ นอนเฉย ๆ ไม่เห็นทำอะไร ไม่อยากสนับสนุนคนเกียจคร้าน ไม่ทราบว่าพระกำลังทำงานที่แท้จริง งานหยุดนิ่งคืองานที่แท้จริง ดูเหมือนไม่ได้ทำอะไร แต่กำลังทำงานที่ยิ่งใหญ่ เธอไม่เข้าใจและมองไม่เห็นอนาคตเพราะถูกบดบังเอาไว้ด้วยเรื่องภพชาติ ไม่รู้เรื่องเหตุเรื่องผลของบุญที่จะทำ จึงขับไล่พระ ส่วนสามีไปวัด เจอพระแล้วเลื่อมใส พอสามีกลับบ้าน เธอก็อบรมสั่งสอนเป็นประจำ ว่า ให้บ่อย ๆ ได้ยังไง เดี๋ยวอีเคยแล้วอีมาบ่อย ๆ พอตายแล้ว เธอมาเป็นเปรตตาเหลือกเหลือง เพราะเวลามองพระหรือพ่อบ้านก็ค้อนควักตาเหลือกเหลือง

เปรตหญิงงามเมือง
ตัวผอมเต็มไปด้วยเส้นเอ็น เต้นเพราะร้อนทุรนทุราย ตอนเป็นมนุษย์ เธอเป็นหญิงงามเมืองหรือโสเภณี สมัยก่อนเขาเรียกหญิงงามเมือง ถ้าใครสวยในยุคนั้นเขาจะมาแย่งกันทั้งเศรษฐีพระราชา เลยมีกติกาว่าตั้งเป็นของกลางดีกว่า ใครอยากได้ก็มาเสียค่าบริการ เธอรูปร่างหน้าตาดี แต่เวลาพระมาบิณฑบาต ไม่มีศรัทธาไม่ทำทานแถมยังไล่พระ พระไม่ว่าอะไร ก็ไปบ้านอื่น ตัวไม่ทำยังไม่พอ เห็นใครกลับมาจากไปทำบุญที่วัด ก็ไปห้ามเขา ทั้ง ๆ ที่เขาชวนให้อนุโมทนาบุญ ก็ไม่อนุโมทนาบุญแถมห้ามด้วย บอกว่าการทำทานไม่ได้เกิดประโยชน์อะไร พระขี้เกียจ ไม่ได้ทำมาหากินอะไร วันๆอยู่เฉย ๆ


เป็นพระนี่ยาก อยู่เฉย ๆ ก็ว่าขี้เกียจ ให้นโยบายมาว่าให้สอนญาติโยม นิสิตนักศึกษา ประชาชนให้มีศีลมีธรรม พอสอนก็บอกว่าขยันเกินไป เลยมีปัญหาอยู่ทุกวันนี้

พระเณรที่บวชช่วงสั้น ต้องคิดว่าเรามีเวลาจำกัดในเพศของสมณะ ซึ่งถือว่าเป็นเพศที่สูงที่สุดที่มนุษย์และเทวาผู้มีบุญผู้รู้ทั้งหลายเขาเคารพกราบไหว้ เป็นหนึ่งในพระรัตนตรัย เป็นจังหวะชีวิตดีของเราที่ได้มาบวช ผ้าผืนนี้เป็นผ้าผืนสุดท้ายของผู้มีบุญที่จะสวมใส่ ไม่มีบุญไม่มีสิทธิครองผ้ากาสาวพัตร์ ที่สีทองบริสุทธิ์ตั้งแต่เกิด พอเกิดมาก็บริสุทธิ์ ตกอยู่ในโคลนเขาก็เรียกว่าทอง ตกอยู่ในที่โสโครกเขาก็ยังเรียกว่าทอง ตกที่ดี ๆ ก็ทอง สุกปลั่งสดใส ไม่ต้องเจียระไนเหมือนเพชรพลอย ผ้ากาสาวพัตร์นี้ครองได้ตั้งแต่พระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระอรหันต์เรื่อยมา ชุดนี้เป็นชุดสุดท้ายของผู้ประสบความสำเร็จในชีวิต ที่จะหนีวัฏฏะที่จะเอาชนะพญามารได้ ชุดหลากสีชุดอื่นไม่มีสิทธิที่จะหนีวัฏฏะ ในพระไตรปิฎกฆราวาสที่เป็นพระอรหันต์ เช่น พระพาหิยะไม่ได้ทำทานด้วยจีวร เมื่อบรรลุมรรคผลนิพพานแล้วไปแสวงหาจีวร เมื่อไม่ได้ แถมถูกโคขวิดตายก็ต้องปรินิพพาน เพราะฉะนั้นผืนนี้สำคัญมาก ผู้มีบุญเท่านั้นจึงจะได้ครอบครองสวมใส่ ต้องตระหนักตรงนี้ไว้ให้ดี ทรงผมทรงนี้ก็เป็นทรงสุดท้าย ใช้มีดโกนเป็นหวี ปลงไปแล้วโล่งโปร่งหมดกังวล ไม่ต้องเสียเงินทอง เพศนี้สำคัญ ต้องหวงแหนให้ดี เราจะมีโอกาสมาสวมอีกครั้งหรือเปล่าไม่รู้ อาจจะตายเสียก่อนก็ได้ เรามีเวลาเพียงแค่นี้ ให้ใช้วันเวลาให้เป็นประโยชน์ในการประพฤติธรรม ทำศีล สมาธิ ปัญญาให้เกิดขึ้น ให้เกิดความปลื้มใจในความเป็นพระ เป็นเณร เป็นนักบวชทุกวัน ทำพระนิพพานให้แจ้ง แล้วบุญจะเกิดขึ้นกับตัวของเรา โยมพ่อโยมแม่ รวมถึงญาติมิตรทั้งที่มีชีวิตและละโลกไปแล้วอย่างมหาศาลทีเดียว


เคสที่หนึ่ง แม่ของเจ้าของเคสเกิดในครอบครัวที่อยู่ในบุญ สวดมนต์ก่อนนอนทุกคืนเป็นเวลาร่วมชั่วโมง ถือศีล 5 เคร่งครัด มีพรหมวิหาร 4 ในการครองชีวิต ตอนเด็ก ๆ จำได้ว่าแม่พาเธอไปวัดในวันพระ พ่อแม่ไปช่วยเจ้าอาวาสวัดหนองป่าพง โดยเอารถแทรกเตอร์ถางที่ป่าทำเป็นวัด และสร้างที่อยู่อาศัย ออกแบบและคำนวณให้ มีเหตุการณ์ครั้งหนึ่งในชีวิตที่แม่พูดบ่อย ๆ และแม่เลี่ยงไม่ได้คือ สมัยสงครามโลก แม่เข้าห้องน้ำไปเจองู เลยตีงูหลังหักตายไปตัวหนึ่ง หลังจากนั้นไม่นาน แม่ก็หกล้มหลังหัก รักษาตัวมากกว่า 1 ปีกว่าจะเดินได้ ต่อมาอายุราว 60-70 ปี เกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์เป็นอัมพาตไปอีกปีกว่า ๆ แล้วกลับมาเดินได้ จนกระทั่งตอนสุดท้ายของชีวิตเป็นอัมพาตครึ่งตัว เป็น ๆหายๆ มาตลอด แม่พูดไม่ได้ แต่สมองและความจำยังดี แม่ลืมบทสวดมนต์ เธอจึงเปิดวิทยุรายการธรรมะให้ฟัง ตอนท่านอายุมาก จะสวดมนต์ตลอดเวลา เพราะนั่งสมาธิไม่ได้ จากที่เป็นอัมพาตมา กว่า 2 ปี ก่อนเสียชีวิตท่านทรมานมาก เธอพยายามพูดให้แม่ฟังเรื่องเวรกรรม บุญบาป แม่พยักหน้าเข้าใจ ท่านนั่งดูรูปหลวงปู่สดตลอดเวลาที่มีสติ คิดถึงพระ ตอนท่านเสียชีวิต เธออยู่ที่แอตแลนต้า ประเทศสหรัฐอเมริกา น้องชายเล่าให้ฟังว่า แม่บอกว่าหายใจไม่ออกและหายใจไม่เข้าด้วย

คำถาม คือ ท่านไปอยู่ภพภูมิใด


แม่เสียชีวิตด้วยภาวะหายใจล้มเหลว ขณะที่อายุ 88 ปี มี 2 เรื่องน่าสนใจที่จับประเด็นได้ คือท่านทำความดีมาตลอด ท่านมักจะย้ำคิดย้ำจำเรื่องว่าตีงูหลังหักตัวเดียว ตอนใกล้ละโลก จิตท่านผ่องใสไม่มาก เพราะย้ำคิดเรื่องตีงูหลังหัก ทำให้บุญไม่ได้ช่องเต็มที่ ไม่ถูกหลักวิชชาในการเดินทางไปสู่ปรโลก ที่เป็นอัมพาตเพราะมีกรรมคล้ายกับชาตินี้ คือ ชาติหนึ่ง งูเห่ามีพิษตัวใหญ่เลื้อยเข้ามาในบ้าน ท่านกลัวจะไปทำร้ายลูกเลยช่วยกันตีงูจนตาย กรรมปัจจุบันที่ตีงูมาพ้องกัน ไปดูดกรรมในอดีตแบบเดียวกัน ทำให้เป็นอัมพาต หายแล้วก็ยังย้ำอีกเลยมาเป็นอีก สิ่งที่เราพลาดพลั้งไป ลืมให้หมด ชนกกรรมที่ใจไม่ผ่องใสเต็มที่ตายแล้วนำไปเกิดอยู่สวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกาในสายของท้าววิรุณปักษ์ เป็นเทพธิดาพญานาค เกิดโดยโอปปาติกะ เป็นนาคชั้นสูงเพราะทำบุญไว้เยอะ ตระกูลวิรูปักษ์นาคสีทองเป็นตระกูลใหญ่ เป็นปกติของเทวดาจะระลึกชาติได้ 1 ชาติ

เวลาปกติ จะเป็นเทพธิดาสวย มีวิมานเป็นของตนเอง จะเป็นนาคตอนหลับ เสพกาม โกรธ หรือตอนใกล้ตาย จะพ่นน้ำเมื่ออารมณ์ดี เวลาไปเล่นน้ำจะเป็นนาค จะพ่นไฟตอนโกรธ แต่ส่วนใหญ่ไม่ค่อยโกรธ วิมานเป็นทองสวยงามสว่างระดับสูงประดับด้วยรัตนชาติพอสมควร ตอนนี้กำลังตรวจดูสมบัติของตัว ได้รับบุญทุกบุญที่ลูกอุทิศไปให้ ทำให้สมบัติของตัวเพิ่มขึ้น ระลึกถึงลูกที่ส่งบุญไปให้ ฝากขอบคุณและซาบซึ้งใจมาก ส่วนเรื่องอื่นยังไม่ได้คิดเพราะกำลังตรวจตราสมบัติอยู่


พ่อเกิดในครอบครัวที่อยู่ในบุญ ทวดสร้างวัดสมัย ร.5 ในปีพ.ศ.2500 หนึ่งพรรษาที่รัฐบาลเป็นเจ้าภาพได้มาช่วยหลวงพ่อชาสร้างวัดหนองป่าพง ใช้รถแทรกเตอร์ถางป่า สร้างศาลาที่พัก หลังเกษียณแล้วไม่ได้ไปไหน เพราะเจ็บขา ส่วนมากจะอยู่บ้าน

เธอได้สร้างพระธรรมกายประจำตัวให้เมื่อปี 2542 ทุกครั้งที่ทำบุญก็ให้พ่อแม่ตลอดมา พ่อป่วยเป็นเนื้องอกในสมอง ได้รับการผ่าตัด หลังผ่าตัดประมาณ 1 เดือน มีโรคแทรกซ้อนจึงเสียชีวิตโดย ไม่ทรมานมาก น้องบอกว่า ท่านเสียชีวิตโดยหลับตาไปเฉย ๆ


พ่อทำบุญตามต้นตระกูลสืบต่อกันมา ตอนใกล้ตายพ่อเห็นคตินิมิตเป็นทางสว่าง เห็นเทพบุตรเทพธิดาบริวาร เห็นวิมานของตนเอง พอกายหลุดก็ลอยไปวิมาน บริวารตั้งแถวรับโดยไม่มีราชรถ มีวิมานประดับด้วยรัตนชาติสวยงาม ท่านกำลังชื่นชมกับสมบัติ ยินดีกับบุญทุกบุญที่ลูกอุทิศไปให้ ขอบคุณและซาบซึ้งกับทุก ๆ คน กรรมที่ผ่าตัดสมองเพราะในอดีต เกิดในครอบครัวที่ยากจนลำบากมาก จึงต้องขวนขวายหาอาหารมาเลี้ยงชีพด้วยการจับปลามาฆ่าเป็นอาหารโดยทุบหัวให้ตายก่อนทำอยู่บ่อยครั้ง ต่อมาในชาตินั้นขวนขวายศึกษาเล่าเรียนจนสบายขึ้น จึงสั่งสมบุญต่าง ๆ มีน้ำใจ ชอบช่วยเหลือคน ในบั้นปลายจะมีกรรมคล้าย ๆ กับชาตินี้ บางครั้งมีอาการชัก ทำกุศลไว้มากจึงมาเกิดในตระกูลที่ดีในชาตินี้ แต่กรรมเก่าก็ยังตามมา กรรมปัจจุบันตอนเด็กเอาหนังสติ๊กไปยิงนกอยู่ช่วงหนึ่ง ทั้ง ๆ ที่ตัวไม่มีนิสัยอย่างนี้แต่ไปตามเพื่อน ตอนหลังเลิกเพราะสงสารนก กรรมในอดีตผนวกกับกรรมปัจจุบันทำให้เป็นเนื้องอกในสมอง ต้องผ่าตัด

ตอนนี้ไปเกิดเป็นเทพบุตรชั้นยามา สวรรค์ชั้นที่ 3 สวรรค์ชั้นนี้ผู้ที่จะไปเกิดมักจะทำบุญตาม บรรพบุรุษ เวลาทำก็นึกถึงต้นตระกูล ทำเพื่อสืบทอดเจตนาของตระกูล เพื่อรักษาขนบธรรมเนียมประเพณีที่ดีของตระกูลเอาไว้ ใจผ่องใสกว่าคุณแม่ วิมานจึงไม่ได้อยู่ใกล้กัน หากแม่ตั้งใจทำสมาธิมากเข้า จนกำลังบุญส่งผลเต็มที่ ก็จะหลุดจากสภาวะนั้นได้ นอกจากนี้ ให้ลูกหลานที่มีชีวิตอยู่ทำทุก ๆ บุญแล้วอุทิศส่วนกุศลไปให้ทั้งสองท่าน




#2 lovely pooh

lovely pooh
  • Members
  • 33 โพสต์

โพสต์เมื่อ 25 July 2006 - 11:07 PM

...สิ่งที่ผิดพลาดควรลืมไปให้หมด...บางทีก้เผลอไปนึกถึงเหมือนกันะ..>-<ไม่ดีเลยย