ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
- - - - -

ช๊อตไฟหนีโรคร้าย (23 เมษายน 2546)


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
ไม่มีการตอบกลับในกระทู้นี้

#1 extra

extra
  • Members
  • 409 โพสต์

โพสต์เมื่อ 29 July 2006 - 11:36 PM

ย่อเรื่อง ช๊อตไฟหนีโรคร้าย (23 เมษายน 2546) โดย Extra happy.gif

ต้นไม้ในป่าหิมพานต์มีแสงสว่างเรืองรอง ใบไม้เมื่อตกลงดินก็หายไป ต้นมักกะลีผล ช่วงที่ดอกบานมีกลิ่นหอมมาก ชวนให้เคลิบเคลิ้มเกิดความกำหนัดยินดีในกาม

คนธรรพ์มี 3 ประเภท มีคนธรรพ์ชั้นสูง เช่น ท่านปัญจสิขะเทวบุตร อยู่ในสายของท่านท้าวทัตตะรส มีวิมาน คนธรรพ์ชั้นกลางเป็นบริวารของคนธรรพ์ชั้นสูง สองกลุ่มนี้ไม่สนนารีผล เพราะมีดีกว่านั้นในวิมานของเขา คนธรรพ์ชั้นกลางเกิดในป่าหิมพานต์ มีวิมานซ้อนอยู่ คนธรรพ์ชั้นล่างจะสิงอยู่ตามต้นไม้หอมบนพื้นมนุษย์ ไปอยู่ป่าหิมพานต์ไม่ได้

วิทยาธร เรียนเกี่ยวกับเวทมนตร์คาถาอาคมต่าง ๆ เหาะเหินเดินอากาศโดยธรรมชาติ วิทยาธรประเภทหนึ่งเรียกว่านักพรตสิทธา พวกนี้จะไม่อยู่ตามต้นไม้ จะอยู่ตามถ้ำเงิน ถ้ำทอง ถ้ำแก้วตามป่า พวกนี้เก่งทีเดียวมีอยู่หลายระดับ ชั้นสูง ชั้นกลาง ชั้นล่าง น่าทึ่งทีเดียวเวลาที่ท่านเหล่านี้เนรมิต

พวกชั้นล่างอยู่ตามพื้นดิน หลวงพ่อเคยเจอยังเก็บหลักฐานไว้ เขาสามารถถ่ายภาพของข้ามจังหวัด เขาให้ตัดกระดาษธรรมดามา 1 ใบ เอาน้ำมาใส่ขัน แล้วเอากระดาษใส่ลงในขัน แล้วนึกภาพต่างจังหวัดตรงนั้น เพียง 1-2 นาที ยกกระดาษขึ้นมาเป็นภาพสี นี่เป็นวิชาเบ็ดเตล็ด

พอถึงเดือนที่ 2 กลีบดอกเริ่มหลุดร่วงเห็นผลภายใน ออกมาเป็นปัญจสาขามี 5 ปุ่ม เป็นหัวแขนขา เมื่อสักเกือบ 20 ปีที่แล้ว ครูไม่ใหญ่ไปที่วัดแห่งหนึ่ง ได้เห็นผลขนาดเท่าฝ่ามือ เห็นกระดูกซี่โครง เหมือนย่อมนุษย์ลงมาเล็ก ๆ บางคนสงสัยเลยหักนิ้ว จนต้องเอากาวมาติด ที่วัดนี้เป็นคนละสายพันธุ์กับที่หลวงพ่อเล่า


กรณีศึกษาวันนี้ น้องชายของเจ้าของเคสฆ่าตัวตายเพื่อหนีจากโรคร้าย ก่อนตายทุกข์ใจมากที่เป็นโรคเลือดบวก บอกใครไม่ได้ ถึงขั้นไม่มีเรี่ยวมีแรง ไม่อยากเป็นภาระของใครมาดูแล ไปเช่าทาวน์เฮ้าส์อยู่กับเพื่อน 5 คน เขาทำงานเป็นพนักงานบริษัทที่ห้างสรรพสินค้า เป็นคนสนุกสนานร่าเริง เรียบร้อย ไม่เป็นนักเลง เป็นคนดี มักส่งเงินให้แม่เสมอ ๆ เป็นระยะ ทำบุญบ้าง เป็นคนรักพี่รักน้อง เก็บความลับเก่ง เขามีรายได้น้อยมาก จึงหักโหมทำงานหนักเพื่อหารายได้ รับออกบัตรเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการครองชีพ รักษาโรคร้ายและไม่เปิดเผยกับทางบ้าน ว่าเป็นโรคร้ายเมื่อไหร่ อย่างไร เป็นโรคร้ายตั้งแต่ปี 2534

วันที่ 25 มีนาคม 2546 เจ้าของเคสพยายามติดต่อมือถือของเขาหลายครั้ง แต่ติดต่อไม่ได้ เขานัดว่าจะมาหา เธอและพี่สาวนั่งรอที่บ้านจนเวลาสามทุ่มครึ่ง ก็มีโทรศัพท์แจ้งว่าเขาเสียชีวิตแล้ว จะให้ทำอย่างไร เธอไปดูศพที่บ้านเช่า เห็นเขาใช้สายไฟที่ปอกฉนวนแล้วรัดข้อมือ ข้อเท้าแล้วเสียบปลั๊ก ทำให้หน้าคล้ำดำตาปิดไม่สนิท เธอเดินทางไปรับศพที่ รพ.จุฬาฯ มาบำเพ็ญกุศล สวด 3 วัน โดยไม่ได้รดน้ำศพ เพราะไม่อยากให้ใครรู้ว่าเป็นอะไร ไม่ได้มัดตราสังส์ หลังจากเสร็จงาน เธอฝันเห็นเขา 2 ครั้ง

วันที่ 2 เมษายน 2546 เจ้าของเคสเดินทางไปวัดพระธรรมกายเพื่อหาบุญแรง ๆ ช่วยให้ผู้ตายพ้นทุกข์ เธอทราบว่ามีการสร้างองค์พระและรัตนบัลลังก์ถวายพระสังฆาธิการ เธอยืมเช็คไปถวายก่อนแล้วจึงนำเงินสดมาแลก ในวันที่ 9 เมษายน หลังจากนั้นเธอและแม่ได้กรวดน้ำ อธิษฐานไปถึงผู้ตาย ประมาณวันที่ 10-11 เมษายน เธอนอนหลับตาไป แล้วรู้สึกถูกดึงเท้าทั้ง 2 ข้าง จึงกรวดน้ำให้ ก็ไม่ถูกรบกวนอีก แม่เห็นน้องชายวิ่งแวบไปแวบมาในบ้าน แม่จะใส่บาตร ก็เห็นน้องชายมายืนอยู่หน้าบ้าน น้องชายตายแล้วไปอยู่ที่ไหน

บุพกรรมที่ทำให้ฆ่าตัวตาย เพราะกรรมในปัจจุบันและกรรมในอดีต กรรมปัจจุบันเพราะฤทธิ์หนุ่ม มีความทุกข์มากบอกใครไม่ได้ ทรมานมาก ตอนเป็นเด็ก ๆ เคยเล่นซนกับเพื่อน ๆ เอาไฟฟ้าไปช๊อตปลาบ้าง ช๊อตแมวบ้าง ช็อตลูกหมา ลูกหมาไม่หนีก็ตาย โรคปัจจุบันรวมกับกรรมในอดีตเคยมีแฟนสาว แล้วทิ้งแฟนสาวไปมีใหม่ แฟนสาวจึงไปฆ่าตัวตาย เป็นวิบากกรรมที่ติดมา สองกรรมทำให้อยากจะหนีทุกข์จากโรคร้ายไปสู่ปรโลก

ก่อนตาย ทุกข์ทรมานมาก ตายไปแล้วก็เครียด ใจหมอง วนเวียนอยู่ 7 วัน เจ้าหน้าที่มารับไปปรโลก บุญบาปที่ตัวเองและญาติพี่น้องทำให้ ถูกส่งกลับมาอยู่เมืองมนุษย์เป็นสัมภเวสีอยู่พักหนึ่ง แล้วมาเป็นภุมเทวาชั้นล่าง ๆ ยังลำบากอยู่ กำลังคอยเวลาที่จะเกิด

ส่วนเรื่องที่พี่สาวและแม่ฝัน หรือความรู้สึกที่เขามาวนเวียน เกิดจากอุปาทานและความผูกพัน จริง ๆ แล้วเขาไม่ได้มาให้เห็น