ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
* * * * * 1 คะแนน

สิ่งมีชีวิตปริศนารอดซ์(Rods)มันคือตัวอะไรหรือยานสอดแนมคนชอบ UFO ลองมาดูครับ


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 13 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 ตาล

ตาล
  • Members
  • 69 โพสต์
  • Location:ดุสิตบุรีวงบุญพิเศษ เขตของบรมโพธิสัตว์

โพสต์เมื่อ 17 May 2006 - 05:50 PM

ครั้งแรกที่มีการค้นพบร็อดซ์นั้นก็คงต้องย้อนกลับไปในเดือนมีนาคมเมื่อปี ค.ศ.1994 สถานที่ก็คือแถวทะเลทรายในแถบนิวเม็กซิโกครับ โดยได้มาจากฟิล์มของกล้องความเร็วสูงที่ถ่ายติดมาได้โดยบังเอิญ O_O และสำหรับผู้ที่ค้นพบร็อดซ์เป็นครั้งแรกและเป็นที่รู้จักกันค่อนข้างมากนั้น (กระทั่งเรื่องโจโจ้ก็ยังนำไปเขียน) คือกลุ่มนักท่องเที่ยวที่ถ่ายวิดีโอแล้วดันติดร็อดซ์เอาไว้ได้ เมื่อตอนไปกระโดดร่มเล่นที่หน้าผาในนิวเม็กซิโก แต่ภายหลังก็ได้มีภาพถ่ายจากทั่วทุกสารทิศอ้างว่าถ่ายรูปร็อดซ์เอาไว้ได้นานแล้วแต่ไม่รู้ว่าเป็นตัวอะไร น่าปวดหัวจริงๆ ตกลงผู้ค้นพบร็อดซ์เป็นคนแรกจริงๆ ก็ไม่เป็นที่รู้แน่ชัดละครับว่าเป็นใคร แต่สำหรับบุคคลแรกที่เป็นผู้ที่ทำให้โลกนี้รู้จักกับร็อดซ์ก็คือนาย Jose Escamilla ซึ่งได้นำเรื่องราวของร็อดซ์ไปออกรายการวิทยุ ArtBell(หมอนี่ก็คือเจ้าของเวบ Roswell Rods นั่นเองครับ) และจากนั้นต่อมาเรื่องราวของร็อดซ์ก็เริ่มเป็นที่โด่งดังไปทั่วครับ อ้อ ร็อดซ์นั้นไม่ได้อาศัยหรือมีเพียงแค่ในนิวเม็กซิโกเท่านั้นนะครับ ปัจจุบันนั้นได้พบว่าร็อดซ์นั้นกระจายอยู่ทั่วไปทั้งในอเมริกา แคนาดา อังกฤษ หรือกระทั่งล่าสุดก็มีการพบร็อดซ์ที่แบกแดดอีกด้วย

ร็อดซ์ คืออะไร ?
ในปัจจุบันทั้งหลักฐานและข้อมูลต่างๆ ที่ทำการศึกษามาก็ยังไม่อาจที่จะระบุได้แน่ชัดเลยครับว่าเจ้าสิ่งมีชีวิตปริศนาชนิดนี้คืออะไรกันแน่ เท่าที่ทราบกันก็คงจะเป็นแค่เรื่องที่ว่ามันใช้ชีวิตส่วนใหญ่อยู่ในอากาศ รูปร่างเป็นแท่งยาว มีปีกหรือครีบอยู่รอบลำตัว บินได้เร็วประมาณ 270-300 กิโลเมตร/ชั่วโมง สำหรับความเร็วขนาดนี้ แน่นอนครับ ตาคนธรรมดามองไม่เห็นหรือมองตามไม่ทันแน่ อีกปัจจัยหนึ่งก็คือเป็นเพราะว่าขนาดตัวของร็อดซ์มีขนาดเล็ก เฉลี่ยประมาณ 4 นิ้ว (แต่ก็มีบางข้อมูลนะครับที่บอกว่าร็อดซ์นั้นบางตัวอาจมีความยาวถึง 100 ฟุตก็เป็นได้ ค่อนข้างที่จะเหลือเชื่ออยู่สักหน่อย เหอ เหอ) และสีผิวค่อนข้างที่จะขาวหรือขาวใสด้วยครับ เลยทำให้เวลามันเคลื่อนที่อยู่นั้น เราจึงไม่อาจที่จะมองตามมันได้ทันเลย ส่วนเรื่องอาหารการกิน การสืบพันธุ์ พฤติกรรมต่างๆ ของร็อดซ์นั้น ที่เรารู้แทบจะเป็นศูนย์ครับ และส่วนในด้านรูปร่างของร็อดซ์ก็มีการแบ่งแยกย่อยออกไปอีกครับ มีอยู่ด้วยกัน 3 แบบ คือ (1.) Centipede Rods (2.) White Rods (3.) Spears Rods ก็ยังอุตสาห์จัดชนิดของรูปร่างกันอีกแน่ะ ส่วนฉายาหรือชื่อที่เรียกร็อดซ์นั้นก็มีอยู่หลายชื่อครับ ไม่ว่าจะเป็น Roswell Rods, The Sky Diving, Flying Fish, Sky Fish แต่เราๆ ท่านๆ ก็คงจะคุ้นเคยกับคำว่าร็อดซ์เฉยๆ กันมากกว่า จากบันทึกโบราณทางประวัติศาสตร์ก็มีการกล่าวถึงเรื่องราวของสัตว์ปริศนาที่บินได้ อยู่เหมือนกัน แต่คนละกรณีกับร็อดซ์นะครับ แต่ขอเอามาเล่าหน่อยนึง อย่างในหลายๆ ประเทศ เช่น ในจีนเมื่อ ค.ศ. 747 (นานมากๆ) ก็มีบันทึกของสัตว์ที่คล้ายกับงูมีปีกบินได้ (มังกร ?) อยู่ แล้วก็ในยุโรปช่วงยุคกลางก็มีเรื่องเล่าของสัตว์ยักษ์มีปีกที่บินอยู่บนท้องฟ้าและอาศัยอยู่ในถ้ำ หรือกระทั่งในอเมริกายุคของอินเดียนแดงก็ยังมีจารึกของสัตว์ปริศนาบินได้อยู่ ก็เพียงแต่นำมาแทรกนิดนึงครับ ไม่มีอะไรมาก
มาต่อกันที่เรื่องของร็อดซ์ดีกว่า ทุกวันนี้ได้มีการศึกษาและค้นคว้ากันอยู่นะครับ จากนักวิทยาศาสตร์ นักสัตววิทยาและผู้เชี่ยวชาญที่สนใจในเรื่องนี้อย่างจริงจัง และได้วิเคราะห์กันว่าแท้จริงแล้วมันคืออะไรหรือตัวอะไรกันแน่ บ้างก็กล่าวว่ามันอาจจะเป็นเพียงแค่แมลงชนิดหนึ่งที่เรายังไม่รู้จัก ไม่ก็อาจจะเป็นนกสายพันธุ์ใหม่ หรือกระทั่งว่ามันอาจจะเป็นแสงที่กระทบจากพื้นดินแล้วไปเกิดเป็นรูปร่างติดอยู่บนกล้องก็เป็นได้ แต่บ้างก็ว่าร็อดซ์นั้นเป็นสิ่งมีชีวิตต่างพิภพ มนุษย์ต่างดาว หรือแม้แต่ยานอวกาศสอดแนมขนาดจิ๋ว ก็ว่ากันไปครับ

ยังมีทฤษฎีหรือข้อคิดเห็นนึงที่น่าสนใจว่าร็อดซ์อาจจะเป็นเพียงภาพแบบเบลอๆ ของนกเวลาบินหรือเปล่า งงมั๊ยเนี่ย ถ้าว่ากันง่ายๆ ก็คือ รูปร่างของร็อดซ์นั้นอาจจะเกิดมาจากการที่กล้องวิดิโอความเร็วสูงถ่ายเอาไว้ เช่นกล้อง CCD ที่มีความเร็วมากกว่า 60 ช็อต/วินาที ซึ่งเวลานกหรือแมลงกระพือปีกก็จะถูกบันทึกไว้ด้วยความเร็วสูงของกล้อง จนทำให้เกิดภาพต่อเนื่องขึ้นและกลายเป็นรูปร่างของร็อดซ์ไป ดูได้จากรูปเลยครับ นับว่าน่าสนใจดีทีเดียวครับ สำหรับทฤษฎีนี้ แต่ก็ยังใช้อธิบายเรื่องร็อดซ์ไม่ได้ทุกเรื่องไปอยู่ดีนั่นแหละครับ แต่แนวคิดนี้ก็ค่อนข้างที่จะเป็นที่นิยมกันทีเดียวเจียวนะครับนี่ สำหรับผู้ที่ค้านเรื่องร็อดซ์

ทีนี้เราลองมาเปรียบเทียบความเร็วในการกระพือปีกหรือ Speed ของนกและแมลงกับร็อดซ์ดูบ้าง
แมลง: จะมีตั้งแต่ 2-1,500 ครั้ง/วินาที โดยขึ้นอยู่กับชนิดของแมลง ส่วนแมลงที่มีความเร็วในการบินสูงที่สุดก็คือแมลงปอ และความเร็วในการกระพือปีกมากกว่า 1,500 ครั้ง/วินาที และสามารถบินได้ประมาณ 50-60 กิโลเมตร/ชั่วโมง

นก: จะมีตั้งแต่ 5-200 ครั้ง/วินาที ขึ้นอยู่ชนิดอีกนั่นแหละครับ ส่วนนกที่บินได้เร็วที่สุดก็คือนกฮัมมิ่งเบิร็ด มีความเร็วในการกระพือปีกกว่า 200 ครั้ง/วินาที และบินได้เร็วประมาณ 50-55 กิโลเมตร/ชั่วโมง
ร็อดซ์: มีความสามารถในการบินเร็วประมาณ 270-300 กิโลเมตร/ชั่วโมง ส่วนความเร็วของการกระพือปีกหรือการเคลื่อนไหวของครีบข้างลำตัวโดยการสันนิษฐานก็น่าจะอยู่ที่ประมาณ 5,000-10,000 ครั้งหรือรอบ/วินาที โดยประมาณน่ะครับ เป็นตัวเลขมหาศาลมากอย่างไม่น่าเชื่อเลยครับว่าสิ่งมีชีวิตจะสามารถทำได้ถึงขนาดนี้
ปัญหาในด้านการขบคิดหรือเป็นที่ถกเถียงกันมากในเรื่องที่เกี่ยวกับร็อดซ์นั้นก็อยู่มีเยอะแยะไปหมด เรียกได้ว่าทุกเรื่องของร็อดซ์นี่วิเคราะห์กันได้มากมายหลายประเด็นไปหมดละครับ

แต่สำหรับหัวข้อปัญหายอดฮิตที่มีการพูดถึงกันมากที่สุดของเจ้าร็อดซ์ก็เห็นจะเป็นดังนี้เลยครับ

1. ร็อดซ์มีความเร็วในการเคลื่อนที่สูงมาก ประมาณ 300 กิโลเมตร/ชั่วโมง เท่าที่ทราบและจากรูปถ่าย ความสามารถในการเคลื่อนที่หรือบินได้อย่างรวดเร็วนั้นน่าจะมาจากการกระพือปีกหรือครีบ แน่นอนว่าย่อมต้องการพลังงานในการเคลื่อนที่สูงตามไปด้วย (Input Energy = Output Energy + Lost Energy) ปัญหาที่สำคัญคือมันกินอะไรเป็นอาหาร ? แล้วกินยังไงในเมื่อมันแทบจะไม่ได้หยุดนิ่งหรือหยุดอยู่เฉยๆ เลย ?
2. ทำไมเราไม่เคยมีการค้นพบซากของร็อดซ์เมื่อเวลามันตายแล้ว ? ในเมื่อมันมีอยู่ทั่วไป และก็ค่อนข้างที่จะเยอะแยะอยู่ แต่ทำไมไม่มีคนพบตัวมันเวลามันตายแล้วล่ะ หรือว่าพอมันตายแล้วจะย่อยสลายตัวเลยแบบในโจโจ้ อันนี้ก็น่าสนใจอยู่ครับ แต่ก็ไม่น่าจะเป็นไปได้มากเท่าไหร่
3. เวลาที่ร็อดซ์บินนั้นมันไม่ชนถูกอะไรเลยหรือ ? ครับ ลองพิจารณาจากความเร็วสูงขนาดนั้นในการบินของมัน การที่มันจะบินชนอะไรสักอย่างนี่ โอกาสมีสูงมากๆๆ ทีเดียว แล้วทีนี้ร็อดซ์ทำยังไงล่ะที่ให้ตัวมันไม่บินไปชนกับอะไรเลย ควบคุมทิศทางยังไง ? ใช้เรดาร์หรือโซนาร์แบบค้างคาวหรือ ? ก็ไม่น่าจะใช่ ยิ่งบินเร็วเท่าไหร่ยิ่งควบคุมทิศทางในการบินได้ค่อนข้างยาก แต่เท่าที่ผมได้ดูวิดีโอบันทึกการบินและการเคลื่อนไหวของร็อดซ์นั้น ดูมันบินได้พริ้วดีทีเดียวละครับ แต่ลักษณะการบินค่อนข้างจะคล้ายแมลงนะครับ
4. ปัญหาในด้านการสืบพันธุ์ อืมม์ๆๆ แล้วมันจะสืบพันธุ์กันยังไงหว่า ในเมื่อบินซะเร็วขนาดนั้น หรือว่าอาจจะมีเวลาสำหรับสืบพันธุ์โดยเฉพาะ อันนี้ยังไม่ทราบเป็นที่แน่ชัดครับ และรวมไปถึงรายละเอียดเรื่องของการนอนหรือหยุดบินของร็อดซ์อีกด้วยว่ามันทำยังไง นี่ก็เป็นคำถามยอดฮิตของร็อดซ์โดยเฉพาะเลย อ้อ แถมอีกหน่อย มีการค้นพบว่าร็อดซ์สามารถบินลงไปในน้ำได้ด้วยนะครับ ไม่ใช่ได้แต่บินว่อนอยู่แต่ในอากาศเท่านั้น

ถึงแม้ว่าร็อดซ์จะเริ่มเป็นที่โด่งดังไปทั่วตั้งแต่เมื่อปี ค.ศ 1994 เป็นต้นมา แต่ก็มีผู้ที่กล่าวว่าตัวเองก็เคยถ่ายติดรูปร็อดซ์เอาไว้ได้มานานแล้วอยู่เหมือนกันครับ เพียงแต่ว่าเค้าไม่รู้ว่ามันเป็นตัวอะไร เจ้าของรูปที่ว่านี้ก็คือ Linda Hewett หญิงชาวแคนาดา โดยเธอกล่าวว่าได้เคยบันทึกภาพที่บังเอิญมีรูปร็อดซ์ติดมาด้วย เมื่อปี ค.ศ. 1972 ตอนที่เห็นภาพถ่ายครั้งแรกเธอก็แค่คิดว่ามันเป็นแมลงหรือตัวอะไรซักอย่างนึง ที่ติดกล้องมา เลยไม่ได้สนใจอะไรกับมันมากนัก จนกระทั่งมารู้เอาทีหลังว่าเธอก็เคยบันทึกภาพร็อดซ์เอาไว้ได้เหมือนกัน happy.gif แต่ผมดูแล้วรายละเอียดมันไม่ค่อยชัดซักเท่าไหร่แฮะ tongue.gif


เรามาปิดท้ายกันด้วยบทสรุปของร็อดซ์กันดีกว่าครับ ว่าร็อดซ์นั้นก็คือ ?
1. สัตว์เซลเดียวที่วิวัฒนาการมาอย่างยาวนานจากโลกยุคล้านปีจนกลายมาเป็นรูปร่างเช่นปัจจุบันนี้
2. ร็อดซ์เป็นสิ่งมีชีวิตที่รูปร่างเป็นอย่างนี้มานับตั้งแต่โลกยุคโบราณแล้ว และคงสภาพเดิมมาตลอด ไม่มีการเปลี่ยนแปลงรูปร่างไปมากเท่าไหร่
3. ร็อดซ์เป็นปลาชนิดหนึ่งที่เคยอาศัยอยู่ใต้ทะเลลึกแล้วขึ้นมาอาศัยอยู่บกด้วยเหตุผลบางประการ โดยจากสังเกตรูปร่างที่เหมาะจะเคลื่อนที่ไปในน้ำมากกว่าในอากาศ
4. ร็อดซ์เป็นสิ่งมีชีวิตที่มาจากนอกอวกาศ โดยอาจจะติดมากับดาวหางหรืออุกาบาตที่หล่นมายังโลก
5. ร็อดซ์คือสัตว์ต่างดาวที่อาจจะมายังโลกพร้อมกับจานบินด้วยเหตุผลบางประการ
ฟู่ !! จบแล้ว ก็คงจะแค่นี้ครับ สำหรับเรื่องราวของสิ่งมีชีวิตปริศนาร็อดซ์ หวังว่าคงจะถูกใจท่านผู้อ่านกันบ้างไม่มากก็น้อยนะครับ ตอนแรกผมกะจะเอาไปเป็นส่วนหนึ่งของ Mystery Monsters แล้วนะเนี่ย แต่เห็นว่ามันเยอะดีก็เลยเอาออกมาฉายเดี่ยวซะ ก็เลยออกมาอย่างที่ทุกท่านเห็นนี่ล่ะครับ หุ หุ ไม่รู้จะกล่าวอะไรต่อดี เอาไว้เจอกันใหม่ครั้งหน้าก็แล้วกันนะครับผม สำหรับครั้งนี้ เช่นเคย สวัสดีครับ happy.gif

http://members.thai....DS/rods_01.html


http://members.thai....DS/rods_02.html


เวบของผู้ที่พบ RodSคนเเรก นาย Jose Escamilla และ มาทำให้คนรู้จักทั่วโลก

http://www.theufomovie.com/home.html คนชอบเรื่องแปลก ( UFO )ลองเข้าไปดูครับ

ไฟล์แนบ





#2 ตาล

ตาล
  • Members
  • 69 โพสต์
  • Location:ดุสิตบุรีวงบุญพิเศษ เขตของบรมโพธิสัตว์

โพสต์เมื่อ 17 May 2006 - 06:02 PM

มาดูข้อความ ของผู้ที่บอกว่าตัวเองเคยเจอมาดูนะครับ ( คนไทย )

เรื่อง "ร๊อด" นี่ ดูๆๆก็วุ่นวายดี
ผมเคยได้รูปที่ดักถ่ายรูปชุดมนุษย์ต่างดาวที่เขามาอยู่ในบ้านคนที่พัทธยา
ลองนับดู เขามากันหก คน(ต้ว)
ตัวเล็กๆๆ ขนาดสูงประมาณ ไม่เกิน สามนิ้ว
เหมือนนางฟ้า จินเจอเบลใน หนัง ปีเตอร์แพน
ที่มีตัวผอมยาว มีสิ่งที่คล้ายปีกบินเล็กๆๆ
ที่หลังมีห่วงคล้ายจานดาวเทียมสื่อสาร

จ่ากรูปถ่ายที่อยู่ในวิดีโอที่ถ่ายไว้ ได้ประมาณ 2000 ใบ
ถ่ายทุกอิริยาบทได้ พบว่า มีพฤติกรรมดังนี้
1. บินเร็วมาก ประมาณ 300 กม/ชม
2. บินทะลุผนังกำแพงบ้าน ผนังบ้านได้ เหมือนไม่มีมวล แต่ความเร็วจะลดลง
ในขณะรอดกำแพง
3. เวลาบินเดี่ยว ต้วจะยาว เพิ่งดูครั้งสุดท้ายพบว่า ที่หัวมีเส้นยาวเล็กๆๆ
คล้ายหนวดจิ้งหรีด 2 เส้น เหมือนหนอนที่มีมือสองมือ มีขาสองขา
เวลาร่อนไป จะอยู่ในท่านอน แบบ ซุปเปอร์แมนเหาะ มือชูไปข้างหน้า ขา
เหยีนดหลัง
4. ที่ชัดเจนคือ เวลาเหาะเป็นกลุ่ม จะเกาะตัวยาวเหมือนงูกินหาง เหมือนขบวน
รถไฟ บางทีก็สี่ ตัว บางทีก็สามต้ว บางทีก็ หกตัว มากที่สุด ก็น่าจะเดาได้
ว่า ที่มาอยู่รวมกัน มี หกตัว
5 ลองดูจากรูปที่ถ่ายไว้ดีๆๆจะเห็นว่า จำนวนตัวที่เกาะตามกันเป็นพวง จะไม่
เท่ากัน มีตั้งแต่ 4 ถึง แปด
6. รูปต่างๆที่ถ่ายไว้ ก็เหมือนกับที่ผมถ่ายได้ น่าจะเป็นพวกเดียวกัน
ว่างๆ จะเอารูป 2000 รูปขึ้นมาให้ดู ต้องเสียเวลาหาScanner ก่อน
เพราะผม ไม่มี

ถ้าใช่ก็บอกได้เลยว่า เขามาจาก ดาวอังคาร ครับ





#3 xlmen

xlmen
  • Members
  • 978 โพสต์

โพสต์เมื่อ 18 May 2006 - 02:28 AM




เอ น่าสนใจมากเลยครับ แต่สงสัยจังทำไมเขาไม่ใช้แหดักจับ หรือใช้สวิงดักจับหละครับ

#4 pp_072

pp_072
  • Members
  • 209 โพสต์
  • Interests:ดีครับ

โพสต์เมื่อ 18 May 2006 - 08:46 AM

QUOTE
2. บินทะลุผนังกำแพงบ้าน ผนังบ้านได้ เหมือนไม่มีมวล แต่ความเร็วจะลดลง
ในขณะรอดกำแพง


เชื่อหลวงพ่อครับ
พุทธบุตรต้องเป็นหนึ่งเดียวกัน เหมือนดวงตะวันที่มีดวงเดียว

พุทธบริษัท 4 ต้องเป็นหนึ่งเดียวกัน เหมือนตะวันที่มีดวงเดียว

#5 มองอย่างแมว

มองอย่างแมว
  • Members
  • 722 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:NYC

โพสต์เมื่อ 21 May 2006 - 03:36 AM

เรื่อง Rods นี่เค้าค่อนข้างยอมรับอย่างกว้างขวางแล้วครับว่าเป็นเรื่องไม่จริง

อย่างภาพที่คุณตาลโพสมาหลายๆภาพนั้นก็มาจากคนที่ถ่ายรูปแมลงที่เว็บนี้
http://home.flash.ne...ods/hotrods.htm
แล้วภาพมันเบลอทำให้เห็นเป็นวัตถุแท่งๆครับ

ถ้าอยากศึกษาว่าเค้าพิสูจน์เรื่องนี้อย่างไร แนะนำเว็บนี้ครับ
http://www.opendb.com/sol/seq.htm

เป็นเว็บที่วิเคราะห์ภาพวีดีโอที่อ้างว่าถ่ายติด Rods มาได้และทำให้ Rods ดังขึ้นมา
สรุปแล้วผลการวิเคราะห์ทำให้เห็นว่า ทุกๆช๊อตของวีดีโอที่ถ่ายติด Rods นั้น
ความเร็วในการเคลื่อนที่ของ Rods นั้นเท่ากับสองเท่าความยาวของตัวมันเอง
ต่อหนึ่งเฟรมของวีดีโอทุกครั้ง

"The "rods" all appear to be moving at a rate of about twice their own length per video frame!"

ไม่ว่าจะถ่าย Rods ที่มุมไหน ตัวไหน ก็มีความเร็วสัมพัทธ์กับความถึ่เฟรมของวีดีโอดังนี้เสมอ
ดังนั้นสรุปได้ชัดเจนว่า ที่เห็นเป็นแท่งเพราะเกิดจากการเบลอของภาพแมลงที่บินผ่านกล้องครับ
"ฉุดมันเอาไว้ หยุดมันเอาไว้ ไม่ให้มันรวนเร ต้องหยุดนิ่งสุดใจ หยุดมันเอาไว้ ฉุดมันเอาไว้ ไม่ให้มันซวนเซ ต้องฉุดให้ใจหยุด"
- ไมโคร (เพลง หยุดมันเอาไว้)
"แค่หลับตา... (ลบเลือนทุกสิ่ง เหลือเพียงหนึ่งเดียว) เธอจะเห็นยามเธอหลับตา... (ใช้ใจสัมผัสและมองสิ่งนั้น) เธอจะเห็นตัวฉันเป็นอย่างที่เป็น"
- อุ๊ หฤทัย (เพลง แค่หลับตา)

#6 VCO

VCO
  • Members
  • 322 โพสต์

โพสต์เมื่อ 21 May 2006 - 03:26 PM

เห็นด้วยว่าไม่น่าจะไปใส่ใจค่ะ
อะไรที่ไม่ใช่ใบไม้ในกำมือนั้นไม่น่าจะไปเสียเวลาด้วย

#7 xlmen

xlmen
  • Members
  • 978 โพสต์

โพสต์เมื่อ 21 May 2006 - 06:21 PM

โมทนาสาธุคุณมองอย่างแมวด้วยครับ แหมะดีจังเลยครับที่มีผู้เชี่ยวชาญมายืนยัน
ผมเองก็ไม่รู้ที่มาที่ไปของวัตถุประหลาด แต่ก็มองๆ แล้วเห็นเหมือนปีกจริงๆ ก็เพราะเป็นปีกแมลงจริงๆ นี่เองครับ 555+


หยุดเหมือนรถเบรค นิ่งเหมือนน้ำในโอ่งที่ปราศจากลม แน่นเหมือนหลักที่ปักลงในเลน
ไม่สั่นคลอน ใสเหมือนน้ำที่ปราศจากตะกอน

#8 มองอย่างแมว

มองอย่างแมว
  • Members
  • 722 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:NYC

โพสต์เมื่อ 21 June 2006 - 08:37 AM

ผมกลายเป็นผู้เชื่ยวชาญเรื่องประหลาดตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ยคุณ XLmen
5555
"ฉุดมันเอาไว้ หยุดมันเอาไว้ ไม่ให้มันรวนเร ต้องหยุดนิ่งสุดใจ หยุดมันเอาไว้ ฉุดมันเอาไว้ ไม่ให้มันซวนเซ ต้องฉุดให้ใจหยุด"
- ไมโคร (เพลง หยุดมันเอาไว้)
"แค่หลับตา... (ลบเลือนทุกสิ่ง เหลือเพียงหนึ่งเดียว) เธอจะเห็นยามเธอหลับตา... (ใช้ใจสัมผัสและมองสิ่งนั้น) เธอจะเห็นตัวฉันเป็นอย่างที่เป็น"
- อุ๊ หฤทัย (เพลง แค่หลับตา)

#9 Mai D na

Mai D na
  • Members
  • 282 โพสต์

โพสต์เมื่อ 22 June 2006 - 08:33 PM




คิคิคิ

จบ แล้ว เหรอ อ่าน สนุก ดี

พึ่ง เคย ได้ ยิน นี้ แหละ ค่ะ

สัตว์ ประ หลาด ล้าน ปี ตัว นี้

สรุป แล้ว มาน เป็น จริง ไหม อ่ะ คะ






แม้กาลเวลาจะเปลี่ยนไป
แต่..
เ ป้ า ห ม า ย ไ ม่ เ ป ลี่ ย น แ ป ร




#10 옴 นักรบกองทับธรรม

옴 นักรบกองทับธรรม
  • Members
  • 53 โพสต์

โพสต์เมื่อ 15 July 2006 - 01:28 PM

ทางที่ดี เราเอาเวลามาดู DMC ดีกว่าครับ

#11 ป่าน072

ป่าน072
  • Members
  • 371 โพสต์
  • Location:โคราช
  • Interests:การศึกษาต่อในวิชา วิทยาศาสตร์<br />วิศวะปิโตรเคมี

โพสต์เมื่อ 22 August 2006 - 04:26 PM

น่าสนใจจังเลยนะคะมีภาพประกอบด้วย
เมื่อดวงตาปิดสนิมอย่างละมุน
ไม่มีลุ้นเร่งจองมองที่หมาย
ก็จะพบผู้รู้อยู่กลางกาย
ธาตุอ่อนแก่มากมายถึงปลายทาง

#12 ฉันจะติดตามเธอ

ฉันจะติดตามเธอ
  • Members
  • 135 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:วัดครับ
  • Interests:การฝึกตัวครับผม เรื่องน่ารู้ก็น่าสนใจนะ

โพสต์เมื่อ 26 August 2006 - 01:19 PM

เคยอ่าน มาก่อนนะครับ แต่จากภาพผมว่ามันเหมือนพวกรังสี หรือแสงๆต่างเสียมากกว่าน่ะครับ
เราก็เหมือนเด็กคนหนึ่ง ที่เพิ่งคลาน

#13 นักท่องเที่ยว

นักท่องเที่ยว
  • Members
  • 2378 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:รู้สึกว่าจะไม่ค่อยได้อยู่กะที่อ่ะ มาดูอารายกานอ่ะ
  • Interests:มาสร้างบารมีตามติดหมู่คณะดีกว่า

โพสต์เมื่อ 17 October 2006 - 09:16 PM

อืมเชื่อกฏแห่งกรรมครับ
กายธรรมควรเทิดไว้ ในใจ
เป็นสรณะภายใน เทียงแท้
กว่านี้ บ่ มีใด เทียบได้
น้อบนบท่านไว้แล ค่ำเช้าสุขเสมอ


เอาบุญมาฝากจ้า นั่งสมาธิเยี่ยมไปเลย แถมไปติดจานมาอีกด้วย เด็กชาวเขานี้น่ารักนะแม้คุยไม่รู้เรื่องก็ตามล่ะ สนุกดี

#14 ZUKIKO

ZUKIKO
  • Members
  • 3 โพสต์

โพสต์เมื่อ 28 September 2007 - 05:03 PM

น่าสนใจมากเลย คนที่สงสัยเรื่องนี้เเสดงว่ามีปัญญามาก
แต่ยังไม่ถูกทาง มาหลับตาค้นหาคำตอบจากศูนย์กลางกายดีกว่า