บทความธรรมะ Dhamma Articles > >
จากนั้นหลังจากคณะสงฆ์ได้ฉันเพลแล้ว ท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯท่านเมตตาเดินทางไปยังจุดเริ่มต้นของถนนพุทธวิถี ซึ่งห่างจากวัดไปอีกประมาณ 300 เมตรต่อในทันทีครับ ท่ามกลางความปีติเบิกบานของพี่น้องชาวดอยทุกคนครับ อ่านเรื่องต่อ
เรื่องราวการฟื้นฟูศีลธรรมโลก โดยการนำธรรมะของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ขยาย ไปสู่ชาวเขา อำเภออมก๋อย ซึ่งทำให้มีเรื่องราวดีๆ เกิดขึ้นอย่างมากมาย เช่น ชาวเขาเลิกนับถือผี หันมาสร้างวัด เป็นต้น อ่านเรื่องต่อ
จากเดิมก่อนที่จะมีถนนพุทธวิถีนั้นพี่น้องชาวดอยที่อยู่บนเขาด้านในๆ ไม่ค่อยได้พบเห็นพระนักครับ ชาวดอยส่วนมากเมื่อเจ็บป่วยขึ้นมา หนทางที่จะไปรักษาที่โรงพยาบาลหรือสถานีอนามัยมีทางเดียวคือก็ต้องเดินข้าม เขาเป็นวันๆซึ่งยากลำบากมาก ประกอบกับมีความเชื่อต่อๆกันมานานเกี่ยวกับพิธีกรรมเลี้ยงผีบรรพบุรุษแล้ว จะช่วยทำให้หายจากโรคภัยไข้เจ็บได้บ้าง ให้ผีช่วยหาของที่หายไปเช่นวัวบ้าง หรือเลี้ยงผีให้บรรพบุรุษเพื่อให้ญาติได้มีกินในชีวิตหลังความตายบ้าง จึงทำให้ชาวดอยนิยมเลี้ยงผีเป็นประเพณีมานานแล้วครับ แต่เมื่อได้มีถนนพุทธวิถีขึ้นมาทำให้เหล่าพระธรรมจาริกสามารถเดินทางไป เผยแผ่ธรรมะได้ง่ายขึ้น ทำให้พี่น้องชาวดอยได้ทราบความจริงของชีวิตจากพระธรรมจาริกเหล่านั้น ทำให้หลายคนเลิกนับถือผีหันมานับถือพระรัตนตรัยกันเป็นจำนวนมากครับ อ่านเรื่องต่อ
แรกๆท่านเล่าให้ฟังว่า ชาวบ้านกลัววิ่งหนี ไม่เข้าใจว่าท่านคือใคร เพราะไม่เคยเห็นพระมาก่อน บอกว่าพระเป็นผีชนิดหนึ่ง ท่านได้สั่งสอนชาวบ้านให้หันมานับถือพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่ง จากเดิมที่นับถือผีไม่เข้าใจว่าพระคือใคร ปัจจุบันชาวบ้านมาช่วยกันสร้างศาลาวัด และเข้าวัดทุกวันครับ วันละ 2เวลา คือ เวลาเช้า...ตีสี่ถึงหกโมงเช้า เวลาเย็น ประมาณหกโมงเย็นถึงสองทุ่ม อ่านเรื่องต่อ
เมื่อถึงเวลาสว่าง หลังจากที่กระผมได้พาพี่น้องชาวปวาเก่อญอนั่งสมาธิแล้ว เราจึงออกเดินทางไปยังพื้นที่ที่เราจะทำการขุดขยายถนนเป็นจุดปฐมเริ่มครับ โดยจุดเริ่มต้นขยายถนนนั้นเราเลือกจุดที่ยากและจุดที่อันตรายที่สุดก่อนครับ เป็นยอดเขาหัวโล้นที่ดินมีสภาพเป็นหินเป็นส่วนใหญ่ครับ อ่านเรื่องต่อ
เมื่อมีการขุด ถนนพุทธวิถี นี้ขึ้นมา ถนนแห่งนี้จึงเป็นถนนแห่งความหวังของพี่น้องชาวปวาเก่อญอ ที่จะทำให้ทางการสามารถเข้าไปให้ความรู้ และการช่วยเหลือพวกเขาได้ และในช่วงท้ายๆเมื่อทีมงานของเราขุดถนนใกล้ถึงหมู่บ้านขุนสอง ทีมงานของเรานำโดยพระธรรมจาริก ได้เดินทางไปพักยังสำนักสงฆ์ ณ หมู่บ้านขุนสอง นำชาวบ้านให้สวดมนต์ นั่งสมาธิ อ่านเรื่องต่อ
สุดท้ายนี้ กระผมอยากจะกราบเรียนว่า ถ้าไม่ได้พระเดชพระคุณหลวงพ่อ ถนนเส้นนี้ ก็ไม่รู้ว่าจะอีกซักกี่สิบปีถึงจะสร้างเสร็จ กระผมยังจำได้ ในตอนแรกๆที่กระผมชวนชาวบ้านมาขุดถนน
ชาวบ้านบอกว่า “จะทำได้หรือ...หลวงพ่อจะหาอาหารจากไหนมาเลี้ยงพวกเรา”
กระผมก็ตอบไปว่า “เดี๋ยวหลวงพ่อธัมฺมชโยจะมาช่วยพวกเราทำถนน”
เขาก็บอกว่า “จะมาจริงๆหรือ” อ่านเรื่องต่อ
กระผมขอกราบเรียนให้พระเดชพระคุณหลวงพ่อทราบนะครับว่า “ถนนเส้นเดิมจะใช้ได้เฉพาะในช่วงหน้าแล้งและหน้าหนาว ส่วนหน้าฝนไม่สามารถใช้ได้เพราะน้ำในลำน้ำแม่สองไหลมีปริมาณมาก จะซัดสะพานพัง ชาวบ้านต้องใช้วิธีการทำสะพานบนต้นไม้ปีนข้ามไป และเส้นทางที่ขุดใหม่นี้ จะใช้ได้ตลอดทั้งปี และเป็นระยะทางที่ลัดและตรงไปยังอำเภออมก๋อยได้ง่ายกว่าเส้นเดิมครับ” อ่านเรื่องต่อ
แม้ถนนจะลำบาก แต่ท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ ท่านเคยเดินทางมายังถนนแห่งนี้แล้ว 2ครั้งครับ ในครั้งแรกปลาย ปีพุทธศักราช 2544 และท่านได้เดินทางมาเปิดถนนพุทธวิถี ในวันที่ 22 เมษายน พ.ศ.2545 พร้อมจัดพิธีแสดงตนเป็นพุทธมามกะ ที่อาศรมธรรมจาริก ต่อปล้าคี และวางศิลาฤกษ์ พระเจดีย์ไมตรีมิตรภาพ ในวันนั้นเลยครับ อ่านเรื่องต่อ
และจากที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อร่วมบุญมา 10คันรถสิบล้อนั้น กระผมกราบขอบพระคุณ พระเดชพระคุณหลวงพ่อเป็นอย่างยิ่งครับ และคิดว่าถนนเส้นนี้จะสำเร็จแน่นอน เพราะลำพังกระผมหาเองคงไม่รู้ว่ากี่ปี จึงจะทำให้ถนนเส้นนี้สำเร็จได้ อ่านเรื่องต่อ
ชาวปวาเก่อญอ ดีใจกันมากครับ “ห้อยแล้วรวย” ภาษาปวาเก่อญอ คือ “ลีโกโปะลี แกโด้ะ แกทอ” ครับ และทุกคนที่ได้ฟังเพลง ตะวันบนดอย ที่เปิดในงานกล่าวว่า เพลงที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อเมตตาประพันธ์นั้น ไพเราะมากครับ เข้าใจในเนื้อหาครับ และดีใจเป็นพิเศษที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อเมตตากล่าวโอวาทเปิดงานเป็นภาษาปวาเก่อญอ พี่น้องชาวปวาเก่อญอ กล่าวว่า สามารถเข้าใจโอวาทของพระเดชพระคุณหลวงพ่อได้ดีครับ อ่านเรื่องต่อ