บทความธรรมะ Dhamma Articles > >
แม้เป็นช่วงเวลาสั้นๆ แต่ผมก็นั่งได้นิ่งแน่นอยู่ที่กลางท้อง ขณะใจหยุด ผมก็ได้เห็นจุดสว่าง ดูมีชีวิตชีวาอยู่ที่ศูนย์กลางกาย ผมรู้สึกว่า สิ่งนี้เชิญชวนให้ผมอยากเข้าไปสำรวจที่ศูนย์กลางกายมากขึ้นครับ ไม่เพียงแค่ผมเท่านั้นนะครับ แต่เพื่อนอีกหลายคนต่างมีผลการปฏิบัติธรรมที่น่าจดจำ อ่านเรื่องต่อ
นับเป็นความสำเร็จอีกระดับของโครงการปฏิบัติธรรมพิเศษนานาชาติ The Middle Way ภาคภาษาจีน ซึ่งจัดขึ้นอย่างต่อเนื่อง เป็นครั้งที่19 แล้ว ระหว่างวันที่ 13-19 ธันวาคม พ.ศ.2552 ณ สวนพนาวัฒน์ และเป็นการรวมตัวกันของผู้มีบุญทุกเพศทุกวัย จากอายุน้อยสุด คือ ด.ช.แวร์เรียน และ ด.ญ.เจอรัลดีน อายุ 7ขวบ ไปถึงอาม่านั่งรถเข็นอายุ 85ปี อ่านเรื่องต่อ
ประสบการณ์สากลจากการปฏิบัติสมาธิ ในโครงการ The Middle Way โจฮันเนสเบิร์ก จะได้รับการรวมเล่มตามดำริของคุณครูไม่ใหญ่ ซึ่งจะเป็นเครื่องยืนยันว่าบนเส้นทางสายกลาง ความแตกต่างจะหมดไปไปจากโลกนี้ ซึ่ง The Middle Way ของโจฮันเนสเบิร์ก มีความแตกต่างทั้งในเรื่องสีผิว ศาสนา เชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ และสาขาอาชีพ แต่ทุกคนได้เข้าถึงความเหมือนที่มีอยู่แล้วในตัวตนของทุกๆคน คือ ที่ศูนย์กลางกายฐานที่เจ็ด อ่านเรื่องต่อ
ช่างเป็นชะตาชีวิตที่ไม่ทราบว่าใครลิขิต แม้อยู่ห่างกันไกลเกือบพันไมล์ ข้ามฟ้าข้ามทวีป แต่แล้วในที่สุด ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ใด โครงการดีๆของคุณครูไม่ใหญ่ ได้มาเติมเต็มชีวิตในด้านที่ขาดหายไปของผู้คนทุกมุมโลก แล้วสักวัน...เมื่อชาวโลกได้หันมาทำสมาธิ... สันติภาพภายใน จะต้องแผ่ขยายเป็น สันติภาพภายนอก คือ สันติภาพโลก ในที่สุด อย่างแน่นอน อ่านเรื่องต่อ
คุณเคอลีนเล่าว่า “ดิฉันทำใจว่างๆที่ศูนย์กลางกาย แบบไม่ต้องทำอะไรเลย เพียงไม่นาน ร่างกายก็กลืนเข้ากับบรรยากาศ พร้อมกับใจที่นุ่มๆ แล้วบรรยากาศก็ขยายออกไปคลุมเส้นขอบฟ้า...แล้วพระอาทิตย์ก็โผล่ขึ้นมาเอง ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นที่ศูนย์กลางกาย” อ่านเรื่องต่อ
จนกระทั่งเมื่อเร็วๆนี้ เมื่อโครงการ The Middle Way เดินทางมาจัดปฏิบัติธรรมสุดสัปดาห์ที่สหรัฐอเมริกา ลูกจึงติดต่อขอให้มาช่วยจัดที่แอตแลนต้าด้วย ในระหว่างวันที่ 17-19 กรกฎาคม ซึ่งในครั้งนี้มีผู้เข้าร่วม 15คน ล้วนมีผลการปฏิบัติธรรมที่ดี และทำให้ลูกเข้าใจแล้วว่า ไม่ว่าเราจะมาจากประเทศไหน สมาธิเป็นสิ่งที่เข้าถึงได้เหมือนกันหมด อ่านเรื่องต่อ
ทุกคนที่มาล้วนมีความตั้งใจ แม้เริ่มตั้งแต่ตีห้า ก็มานั่งสมาธิ สวดมนต์ แผ่เมตตา โดยไม่ขาดเลยแม้แต่คนเดียว แล้วยังจะได้ร่วมตักบาตรในเช้าวันพุธที่ 24 ธันวาคม พ.ศ.2551 และปล่อยโคมลอยเป็นพุทธบูชาในวันศุกร์ที่ 26 ธันวาคม พ.ศ.2551...ด้วย ทุกคน เคารพและศรัทธา พระเดชพระคุณหลวงพ่อมากๆ บางคนทำบุญหล่อรูปเหมือนทองคำ พระเดชพระคุณหลวงปู่ฯ เป็น M มาแล้วก็มี และต่างมุ่งมั่นจะเข้าถึงธรรมกันทุกคน ในวันนี้ จึงขอนำเสนอผลการปฏิบัติธรรม จากตัวแทนทั้งหมด 4คน ดังนี้ อ่านเรื่องต่อ
สิ่งที่คอร์ส The Middle Way ให้เรานั้น เกินกว่าการผ่อนคลายมาก เพียงเข้าวันที่สองของคอร์ส 4วัน ดิฉันตัวโล่งว่างเหมือนอากาศ แล้วก็ว่างเท่าอากาศ แล้วใจก็สัมผัสกับศูนย์กลางกายได้อย่างรวดเร็ว สิ่งที่เกิดขึ้นต่อมาอีกไม่นานโดยไม่คาดคิดมาก่อนก็คือ ดิฉันได้เห็น กรวยหงาย ปรากฏที่ศูนย์กลางกาย ปลายแหลมลงไปข้างล่าง ดิฉันก็เล่าให้พระอาจารย์ฟังค่ะ ท่านก็ยิ้มๆไม่ยอมบอกใบ้อะไรว่า ทำไมดิฉันถึงได้เห็นกรวยหงายที่ศูนย์กลางกาย อ่านเรื่องต่อ
จุดสว่างกลางดวงจันทร์ ไม่ได้อยู่แบบไร้ที่อยู่ แต่อยู่ในกลางของความว่างทรงกลมที่ใหญ่มาก ดิฉันสัมผัสได้ถึงขนาดอันใหญ่มหึมาของมัน ใหญ่จนกระทั่งบอกไม่ได้เลยว่า มันมีขอบเขตสุดไปถึงไหน จุดสว่างกลางกายได้นำความรู้สึกสุขสงบที่ท่วมร่างกายทุกส่วน เป็นความสวยงามของชีวิตที่ได้ทำสมาธิ และเห็นดวงจันทร์ภายในศูนย์กลางกาย อ่านเรื่องต่อ
ขณะกำลังนั่งสมาธิตามเสียงพระเดชพระคุณหลวงพ่อในวันบูชาข้าวพระ ดิฉันพบความรู้สึกที่หยุดนิ่งจริงๆ คือ ทุกสิ่งรอบตัวและในตัวหยุดหมด เหมือนไม่มีเวลาไม่มีความคิดไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆเลย จากนั้นดิฉันมักนั่งเห็นองค์พระธรรมกายที่ใสและสว่าง ขนาดเล็กประมาณ 2เซนติเมตรบ้าง หรือใหญ่ประมาณ 2เท่าของตัวเองบ้าง อ่านเรื่องต่อ
จนกระทั่งช่วงหลังนี้ ลูกมีความรู้สึกบางอย่างเกิดขึ้นกับตัวเอง คือ รู้สึกเหมือนกับว่าพลังในตัวค่อยๆ หายไป..หายไป...หายไป โดยลูกไม่รู้ว่าเพราะอะไร ทั้งๆที่ลูกก็ออกกำลังกายทุกวัน มีร่างกายที่แข็งแรง แต่ทำไมยังรู้สึกว่าขาดพลัง อ่านเรื่องต่อ
ดิฉันเก็บอารมณ์ และความชอกช้ำไว้กับตัวเอง ต่อมา มันก็หนักขึ้นๆ จนท่วมท้นหัวใจ ดิฉันโกรธ หดหู่ เหงา มากขึ้น และยอมจำนนให้ชีวิตอยู่กับการดื่ม การไม่รับประทานอาหาร และการทรมานตัวเองในรูปแบบต่างๆ ดิฉันฉุนเฉียวง่ายและว้าวุ่นใจอยู่เสมอๆ และรู้ว่าไม่มีทางที่จะรู้สึกดีขึ้น เพราะดิฉันอยู่กับอารมณ์ดังกล่าว ดิฉันแพ้ตัวเองอย่างแท้จริง อ่านเรื่องต่อ
ส่วนโครงงาน Peace for Africa ที่พวกเราจะร่วมกัน นั่งสมาธิ จุดประทีป และลอยโคมสันติภาพนั้น ทีมงานได้กำหนดแน่นอนแล้วว่า เป็น วันอาทิตย์ที่ 19 ตุลาคม พ.ศ.2551 โดยจะมีประชาชนทุกสีผิวจากทุกศาสนาและความเชื่อ มานั่งสมาธิร่วมกัน แผ่ขยาย Peace จากภายในออกไปสู่เพื่อนมนุษย์ทุกๆคน อ่านเรื่องต่อ
กระผมก็สัมผัสใจ เฉย ว่าง ที่ศูนย์กลางกาย เทคนิค The Middle Way จะสอนแต่คำว่า Centre of the Body ซึ่งเป็นเทคนิคที่ง่ายๆ ขนาดคนทำสวนอย่างกระผมยังทำได้เลย จนกระทั่งรอบหนึ่ง เมื่อ Body และ Spirit ได้รวมกันเป็นความว่างเดียวกัน อ่านเรื่องต่อ
สิ้นคำอธิษฐาน ก็มีแสงสว่างปรากฏที่ศูนย์กลางกายทันที แล้วในความสว่างนั้นสิ่งอัศจรรย์ที่สุดในชีวิตก็ปรากฏขึ้น ลูกได้เห็นพระเดชพระคุณหลวงปู่วัดปากน้ำภาษีเจริญนั่งสมาธิลอยนิ่ง อยู่ที่ศูนย์กลางกายที่สว่างจ้านั้น และที่อัศจรรย์กำลังสอง ก็คือ พระเดชพระคุณหลวงปู่ฯ...ท่านเหลืองอร่ามเป็นทองคำเลยค่ะ อ่านเรื่องต่อ
ดิฉันมีความรู้สึกอย่างแรงกล้าขึ้นมาเลยว่า ดิฉันจะได้รับประโยชน์มหาศาลจากการปฏิบัติธรรมอย่างแน่นอนค่ะ และดิฉันก็ไม่ผิดหวังจริงๆ เพราะตั้งแต่ก้าวแรกที่ไปถึง ดิฉันมีความสุขอย่างไม่น่าเชื่อ ไม่มีความกังวลใจอะไรเลย ทำให้ตลอดช่วงเวลาที่ได้เข้าร่วมโครงการ นับเป็นช่วงเวลาที่วิเศษสุดจริงๆค่ะ อ่านเรื่องต่อ
ดิฉันได้พบ Landmark ของใจในทรงกลมนั้น โดยการนึกดวงอาทิตย์ขึ้นมาวางไว้ที่นั่น ทันใดนั้น ดิฉันก็ไม่ใช่ทรงกลมอีกต่อไป แต่พบแสงสว่างมากมายเปล่งประกายเจิดจ้า เป็นความรู้สึกที่ไม่มีจุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุด ระหว่างดิฉันและจักรวาล การที่สามารถเห็นดวงอาทิตย์เป็นศูนย์กลาง และสามารถเห็นใจกลางความสว่างภายใน เป็นสิ่งที่ไม่สามารถบรรยายออกมาได้เลย มันเป็นเหมือนแสงสีขาวสว่างจ้าภายในดวงอาทิตย์ อ่านเรื่องต่อ
เมื่อผมทำใจหยุดนิ่งที่ศูนย์กลางกายไปเรื่อยๆ ผมก็สามารถเห็นภาพนั้นเป็นสามมิติ แล้วมันก็ขยายไปได้ทุกทิศทางจนกลายเป็นทรงกลมในที่สุด จากนั้นทรงกลมก็ค่อยๆดูดผมเข้าไป จนรู้สึกว่าผมอยู่ที่ศูนย์กลางของทรงกลมนั้น แล้วมันก็ได้ขยายครอบคลุมทั้งร่างกายและใจของผมครับ อ่านเรื่องต่อ
ดิฉันเคยมีความรู้สึกว่า ทุกครั้งที่ดิฉันต้องตัดสินใจอะไรบางอย่างในชีวิต จะมีคำตอบผุดออกมาจากกลางท้อง มันเป็นความรู้สึกของความมั่นใจและคำตอบเหล่านั้นจะถูกต้องเสมอ ในวัฒนธรรมตะวันตกจะนิยมเรียกสิ่งนี้ว่า Gut Feeling ที่เป็นสัญชาติญาณของการตัดสินใจ แบบ ปิ๊ง คำตอบ โดยไม่ต้องหาเหตุผลในขณะ ปิ๊ง นั้น แต่ที่สำคัญที่สุด คือ ทำไมต้อง ปิ๊ง ออกมาจากกลางท้องด้วย อ่านเรื่องต่อ
มีอยู่รอบหนึ่ง ใจของผมเข้าไปสู่สภาวะพักผ่อนที่ลึกมาก และมากจนกระทั่งความรู้สึกของร่างกายหายไปโดยสิ้นเชิง สิ่งที่ผมเห็น คือ แสงที่สว่างมาก เป็นแสงที่พุ่งออกมาจากศูนย์กลางกาย ซึ่งต่อมาความสว่างนี้เป็นทรงกลม เหมือนดวงจันทร์กลางท้องฟ้า ผมจึงเรียกดวงสว่างนี้ว่า My Moon (พระจันทร์ของฉัน) อ่านเรื่องต่อ
พอผมอายุได้ 35ปี ผมมีความรู้สึกอย่างรุนแรงว่า จะต้องแสวงหาสิ่งที่ผมต้องการอย่างสูงสุด คือ การทำสมาธิที่ถูกต้อง เพราะตอนนี้ชีวิตเหมือนมีอะไรบางอย่างขาดหายไป ผมจึงอธิษฐานว่า ขอให้ได้เจอคนที่สามารถนำทางหรือบอกทางไปสู่จุดมุ่งหมายนั้น อ่านเรื่องต่อ
ดิฉันรู้สึกว่า ตัวเองช่างโชคดีอะไรอย่างนี้ ที่มีเพื่อนอย่างมีมี่ และอยากขอบคุณมีมี่ ที่พาดิฉันมาพบกับความสุขอย่างที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อน มีมี่เป็นกัลยาณมิตรที่ดีสำหรับดิฉัน ที่ดิฉันจะลืมเธอไม่ได้เลย ดิฉันจึงเข้าใจคำว่า โลกนี้ต้องมีกัลยาณมิตร อ่านเรื่องต่อ
การนั่งสมาธิ ทำให้อาตมาเปลี่ยนไป ไม่เครียดง่าย ไม่ตื่นเต้นง่าย ความจำดีขึ้น แล้วใจก็นิ่ง ละมุนละไมมากขึ้นด้วย...ถ้าเป็นเมื่อก่อนหากลูกน้องคนไหนทำอะไรไม่ถูกใจ ขัดหูขัดตา ก็จะโกรธ โมโห พูดไม่เพราะทันที...การนั่งสมาธิไม่เพียงแต่สามารถรักษาโรคทางกายได้เท่านั้น แต่ยังรักษาโรคทางใจของมนุษย์ได้ด้วย อ่านเรื่องต่อ
พี่เลี้ยงสุปราณี มีลูกสาววัย 5ขวบ ซึ่งชอบมาวัดกับคุณแม่ และมาอยู่เป็นเพื่อนกับคุณแม่ ตอนที่คุณแม่มาเป็น พี่เลี้ยง The Middle Way รุ่นหนึ่ง ซึ่งหมายความว่า การที่ต้องดูแลลูกน้อย วัยกำลังกินกำลังนอนนี้ ไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการทำหน้าที่พี่เลี้ยงอันยิ่งใหญ่ เป็นงานอันทรงเกียรติ ที่คอยพิทักษ์รักษา สิ่งแวดล้อมที่ดี ทำให้ผู้เข้าอบรมรักษาอารมณ์สบาย จนเข้าถึงประสบการณ์ภายใน ในที่สุด อ่านเรื่องต่อ
ก่อนจัดงาน เราก็พิจารณาความพร้อมตามหลักพุทธวิธี ซึ่งในบรรดาสัปปายะทั้งสี่ ถ้าเรามีความพร้อมสัก 51% เราก็ตัดสินใจเดินหน้าไปหาความพร้อมอีก 49%เอาข้างหน้า ซึ่งในที่สุด เราก็จะพร้อมพอดีๆ ไม่เหลือไม่ขาด หวุดหวิดๆ ทุกครั้งไป แต่ถ้าเราคิดว่า เรายังจัดไม่ได้ เพราะว่าความพร้อมของเรายังไม่ครบ 100% เราก็คงต้องรอความพร้อมตลอดไป งานก็จะไม่เดิน อ่านเรื่องต่อ