บทความธรรมะ Dhamma Articles > >
การทำบุญให้คนตาย หลังจากที่ญาติมิตรล่วงลับไปแล้ว มีสิ่งที่คนเป็นอยู่ต้องศึกษาเพิ่มเติมเพื่อเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อผู้ตาย คือการปฏิบัติตามธรรมเนียมของท่านผู้รู้ที่สมบูรณ์ อ่านเรื่องต่อ
เราทราบกันดีแล้วว่า ทุกคนต้องตาย เพราะความตายเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงได้ยาก แต่อย่างไรก็ตามในคัมภีร์พุทธศาสน์พระพุทธองค์ได้ตรัสอุบายในการหลีกเลี่ยงจากความตายบางประเภทหรือยืดอายุให้ยืนยาวไว้ดังนี้ อ่านเรื่องต่อ
ธรรมเนียมปฏิบัติต่อผู้ใกล้ตาย เป็นหน้าที่ของพวกญาติมิตรที่ต้องทราบเพื่อจะได้ปฏิบัติได้ถูกต้อง แม้บางครั้งอาจจะไม่ถูกใจของญาติมิตรบางคน หรือแม้แต่ผู้ที่ใกล้ตายก็ตาม แต่ก็เป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องทำเพื่อคนใกล้ตาย อ่านเรื่องต่อ
ความตายเป็นอย่างไร ตายแล้วไปไหน ชีวิตหลังความตายเป็นอย่างไร อารมณ์ก่อนตายเกิดขึ้นจากอะไร เกิดขึ้นได้อย่างไร อ่านเรื่องต่อ
สรรพสัตว์ย่อมตายไปเพราะเหตุแห่งความตาย 4 ประการ เมื่อเวลาใกล้จะตายนั้น อารมณ์ 3 อย่าง อย่างใดอย่างหนึ่ง ย่อมปรากฏแก่สัตว์ทางทวาร 6 ใน ทวารใดทวารหนึ่ง ได้โดยอำนาจของกรรม อ่านเรื่องต่อ
เหตุให้ความตายเกิดมี 4 ประการ การตายมีด้วยกัน 4 ประเภท สิ้นอายุ สิ้นกรรม สิ้นทั้งสอง กรรมตัดรอน ตายแล้วไปไหนจะรู้ได้อย่างไร เลือกได้อย่างไร อ่านเรื่องต่อ
ความตายเป็นเพียงจุดสิ้นสุดของชีวิตในภพภูมิหนึ่งๆ เท่านั้น และความตายนี้ย่อมเป็นสิ่งที่น่ากลัวและไม่น่าปรารถนาของสรรพสัตว์ แต่ไม่ว่าเราจะปรารถนาหรือไม่ก็ตามเราทุกคนล้วนแต่ต้องตาย แต่ตายแล้วจะไปไหน อ่านเรื่องต่อ
บาปอกุศลที่ได้เคยทำเอาไว้ในสมัยที่ยังมีชีวิต เช่น บาปที่ชอบเล่นพนันชนไก่ เป็นต้น ได้ช่องและชิงช่วงมาส่งผลก่อนผลแห่งวิบากกรรมจากการเล่นพนันชนไก่ อ่านเรื่องต่อ
เป็นเปรตที่ใช้สองมือกอบเอาแกลบที่มีไฟลุกโชนเกลี่ยลงบนศีรษะของตนเองจนร้อนไปทั้งตัว ทรมานแสนสาหัสเหตุที่เป็นเช่นนี้เพราะตอนเป็นมนุษย์เป็นพ่อที่เลี้ยงชีพด้วยการโกงตาชั่ง อ่านเรื่องต่อ
เปรตชนิดนี้ตั้งครรภ์ได้ด้วยวิบากกรรมพออกลูกมาก็จับลูกกินเหตุที่เป็นเช่นนี้เพราะวิบากกรรมเอายาพิษให้ภรรยาน้อยกินด้วยความอิจฉาริษยาจนภรรยาน้อยแท้งลูก อ่านเรื่องต่อ
เปรต คือ อดีตมนุษย์หรือเทวดาที่เคยทำบาปหนักได้ชดใช้กรรมส่วนใหญ่ในมหานรก อุสสทนรก และยมโลกแล้วแต่ยังมีเศษกรรมอยู่ทำให้ต้องมาเกิดเป็นเปรตมีความทุกข์ทรมานแสนสาหัส อ่านเรื่องต่อ
โดยรูปลักษณ์แล้ว เปรตกับอสุรกายมีความคล้ายกันมาก แต่ว่าอสุรกายนั้นจะมีรูปร่างที่พิลึกประหลาดมากกว่า อย่างไรก็ตาม บางครั้งก็ยากที่จะแยกให้เห็นความแตกต่างได้ ในการพิจารณาจึงให้ดูที่ลักษณะของทุกขเวทนาที่ได้รับ ความทุกข์ทรมานของเปรตนั้น เนื่องมาจากความหิว ความอดอยากเข้าครอบงำเป็นหลัก ส่วนอสุรกายนั้น มีความทุกข์ทรมานเพราะความกระหายน้ำเป็นหลัก สัตว์ในภูมิทั้ง 2 นี้ ต้องประสบกับความลำบากในการครองชีวิตอย่างแสนสาหัส เพราะว่าเขาเป็นสัตว์ในอบายภูมิ คือ ภูมิที่มีแต่ความชั่วร้าย ไม่มีความสุขนั่นเอง อ่านเรื่องต่อ
เปตติวิสยภูมินั้น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสเปรียบเทียบไว้ว่า เหมือนกับต้นไม้ในพื้นที่อันไม่เสมอ มีใบอ่อนและใบแก่ โปร่งเบา มีร่มเงาอันโปร่ง เป็นสถานที่ที่ไม่น่ารื่นรมย์ เพราะแห้งแล้งเต็มไปด้วยความทรมาน เมื่อบุคคลใดบุคคลหนึ่งประพฤติอกุศลกรรมนำชีวิตของตนไปในทางอกุศลกรรม ผู้นั้นชื่อว่านำตนไปสู่ปฏิปทาทางไปสู่ต้นไม้อันหาความสุขสบายมิได้ คือ เปตติวิสยภูมินั้นอย่างแน่นอน อ่านเรื่องต่อ
เปรตบางชนิดที่สามารถรับส่วนกุศลได้ ในบรรดาเปรตทั้งหลายที่ได้กล่าวมาแล้วทั้งสิ้น มี 12 จำพวกบ้าง 4 จำพวกบ้าง 21 จำพวกบ้าง ในจำนวนเปรตทั้งหมดนี้ เปรตที่มีโอกาสจะได้รับส่วนบุญจากญาติอุทิศให้ คือ เปรตจำพวกปรทัตตูปชีวิกเปรต และเป็นเปรตจำพวกเดียวที่รับส่วนบุญได้เท่านั้น ส่วนเปรตอื่นๆ นอกจากนี้ ไม่สามารถจะรับส่วนบุญที่ญาติอุทิศไปให้ได้ เพราะเหตุว่าเปรตเหล่านี้อยู่ห่างไกลจากหมู่มนุษย์ แต่สำหรับปรทัตตูปชีวิกเปรตนั้น เป็นเปรตที่เกิดอยู่ในบริเวณบ้าน เช่น บุคคลบางคนถูกฆ่าตายโดยปัจจุบัน หรือผู้ที่ตายตามธรรมดาก็ตาม แต่มีความห่วงใยอาลัย ก็เกิดเป็นเปรตอยู่ในบริเวณบ้านนั้นเอง อ่านเรื่องต่อ
เปรตชิ้นเนื้อ ครั้งหนึ่ง พระมหาโมคคัลลานเถระได้เห็นชิ้นเนื้อลอยอยู่ในอากาศ พวกแร้งบ้าง นกตะกรุมบ้าง ต่างพากันโผถลาตามจิกทึ้งชิ้นเนื้อนั้น และชิ้นเนื้อนั้นก็ส่งเสียงร้องครวญครางอย่างน่าสงสาร จึงคิดว่าน่าอัศจรรย์เป็นนักหนา ต่อมาได้กราบทูลให้พระพุทธองค์ทรงทราบ ซึ่งสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงเล่าประวัติของเปรตตนนี้ว่า อ่านเรื่องต่อ
เปรตบางจำพวกอาศัยปะปนอยู่กับภพมนุษย์ แต่เป็นภพที่ละเอียดกว่า ซึ่งมนุษย์มองไม่เห็น แต่ไม่ได้หมายความว่าเปรตนั้นไม่มี พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ตรัสยืนยันเรื่องเปรตนี้ว่ามีจริง และทรงรู้ถึงการกระทำที่จะนำไปเป็นเปรต ดังมีกล่าวไว้ใน มหาสีหนาทสูตร อ่านเรื่องต่อ
พระพุทธศาสนาเป็นศาสนาแห่งความรู้ เป็นศาสนาที่เกิดจากการตรัสรู้ธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ธรรมะที่พระองค์ตรัสรู้นั้นเป็นสัจธรรม ได้แก่ อริยสัจ 4 ซึ่งเป็นความจริงอย่างแท้จริง ดังนั้นพระพุทธศาสนาจึงเป็นศาสนาแห่งความจริง พระพุทธองค์ทรงประกาศสัจธรรมที่ตรัสรู้นั้นแก่ชาวโลก เพื่อให้ชาวโลกได้รู้ความจริง อ่านเรื่องต่อ
เมื่อครั้งสมัยพุทธกาล ก่อนที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าจะตรัสรู้ธรรมและนำมาเผยแผ่ให้กับสรรพสัตว์ทั้งหลาย ในประเทศอินเดียมีเจ้าศาสดาหลายศาสนา ที่มีคำสอนว่า โลกหน้าไม่มี คือ สอนให้ไม่เชื่อเรื่องปรโลกอันเป็นที่อยู่ของชีวิตหลังความตาย พวกมิจฉาทิฏฐิเหล่านี้มีอยู่เป็นจำนวนมาก กระจายอยู่ทุกหนทุกแห่งทั่วประเทศ อ่านเรื่องต่อ
ชีวิตในสังสารวัฏ เป็นชีวิตที่เสี่ยงภัยมาก เพราะเมื่อเราเกิดมาแล้ว หากอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ไม่เอื้ออำนวยต่อการสร้างความดี เราอาจจะพลาดพลั้งไปทำบาปอกุศล เพราะขาดกัลยาณมิตรคอยชี้แนะ หนทางแห่งการสร้างความดี เมื่อละโลกไป แรงกรรมที่เรากระทำไว้ย่อมจะส่งผลให้เรามีโอกาสไปเกิดในอบายได้มาก อ่านเรื่องต่อ
ในช่วงก่อนที่มนุษย์จะหลับตาลาโลก กายมนุษย์ละเอียดจะถอดออกจากกายมนุษย์หยาบ เป็นช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดช่วงหนึ่งของชีวิต เพราะเป็นการเลือกเส้นทางของชีวิตใหม่ และเป็นการสรุปความสำเร็จของการเกิดมาในชาตินี้ว่า ประสบความสำเร็จหรือไม่ เป็นศึกชิงภพครั้งยิ่งใหญ่ อ่านเรื่องต่อ
วิธีการเดินทางเปลี่ยนภพภูมิใหม่ เริ่มต้นที่จิตของผู้ตายเคลื่อนออกจากกายมนุษย์หยาบ จากภพที่อาศัยอยู่ เมื่อจิตหลุดจากกายหยาบก็จะปฏิสนธิเป็นกายใหม่ในภพใหม่ทันที กายใหม่ที่เป็นกายละเอียดนี้ยังคงมีธาตุ 4 อย่างละเอียดเป็นส่วนประกอบ อ่านเรื่องต่อ
ในทุกยุคทุกสมัยผู้คนมักสงสัยกันว่า คนเราเมื่อตายแล้วจะไปอยู่ที่ไหน บางคนมีความเชื่อว่าตายแล้วสูญ บางคนเชื่อว่าตายแล้วไม่สูญ แต่โดยทั่วไปแล้วมนุษย์เราไม่ทราบว่าตายแล้วไปไหน ซึ่งความเชื่อเหล่านี้มีผลต่อชีวิตหลังความตายของบุคคลนั้นๆ คือ ถ้าเชื่อว่าตายแล้วสูญ แล้วไม่ประกอบความดี เมื่อละโลกแล้วปรโลกที่เขาจะไปนั้น ก็จะเศร้าหมอง ทุกข์ทรมานยิ่งนัก อ่านเรื่องต่อ
ทุกการกระทำของคนเราไม่ว่าจะเป็นทางกาย ทางวาจา ทางใจ ล้วนมีผลต่อความคิด คำพูด และการกระทำทั้งสิ้น เพราะการกระทำนั้นจะถูกเก็บบันทึกไว้ด้วยเครื่องบันทึกภาพที่ดีที่สุดในโลก มีความจุที่ไม่มีประมาณ คือ ใจของเรานั่นเอง อ่านเรื่องต่อ