บทความธรรมะ Dhamma Articles > >
แต่ภายหลัง พอได้อ่านหนังสือ เมื่อไม่รู้จะอ่านอะไร ที่รวบรวมโอวาทของคุณครูไม่ใหญ่เกี่ยวกับการปฏิบัติธรรม และหนังสือแนะนำการนั่งสมาธิ ถึงได้รู้ว่า การนั่งสมาธิต้องใช้หลักการ พอดี รู้ถึงวิธีการเดินสายกลาง มัชฌิมาปฏิปทา ยิ่งไปกว่านั้นได้ตระหนักถึงคำว่า ปล่อยวาง ผ่อนคลาย เบาสบาย มากยิ่งขึ้น อ่านเรื่องต่อ
กระผมกลับมาศึกษาพุทธศาสนาเถรวาทอีกครั้ง โดยเริ่มต้นที่วิธีฝึกวิปัสสนา 10วันของประเทศพม่า และยังได้ไปศึกษาพุทธเถรวาทอีกหลายแห่ง ทำให้เข้าใจแล้วว่า พุทธศาสนาเถรวาทเป็นคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าของแท้ดั้งเดิม กระผมมีความปีติยินดีในคำสอนอันบริสุทธิ์นี้มากครับ อ่านเรื่องต่อ
เนื่องจากดิฉันเป็นผู้จัดการ ต้องบริหารธุรกิจ งานจึงยุ่งมากทุกวัน, รังแต่จะทำให้กายใจเหนื่อยล้า แต่ทุกเวลาดิฉันไม่เคยลืมที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อทัตตชีโวเคยสอนไว้เลยว่า การปฏิบัติธรรมต้องทำคู่ไปกับใจให้ตลอด เมื่อสะดวกก็ให้หลับตาเบาๆ นึกถึงดวงแก้วหรือองค์พระที่ตนเองชอบที่กลางกาย อ่านเรื่องต่อ
เมื่อออกจากสมาธิ กระผมไม่รู้สึกเพลียหรือเหนื่อยเลย มีแต่ความสุข ความเย็นใจ ที่ตามมาจากช่วงนั่งสมาธิ กระผมเคยสนใจฝึกสมาธิมาหลายต่อหลายครั้ง จนกระทั่งผมได้มารู้ว่า เพียงแค่วางใจเบาๆ ที่ศูนย์กลางกายฐานที่7 โดยไม่ต้องคิดอะไร กลับเป็นวิธีที่ง่าย ตรง เร็ว และลัดที่สุด อ่านเรื่องต่อ
แต่เมื่อผ่านความไม่คิดไปได้ ก็จะไปเจอแสงสว่าง มีความสุขมาก เมื่อได้อยู่ในภาวะนี้ รู้สึกว่า เวลาผ่านไปครู่เดียว เหมือนตัวผมไม่มีลมหายใจ ไม่มีตัวตน แล้วผมก็ได้เห็นดวงใสสว่าง ใหญ่กว่าดวงดาว เป็นทั้งความสว่าง ความขาว ความใส และความเย็น สว่างเหมือนเวลากลางวัน ขาวเหมือนเป็นประกายวาววับบริสุทธิ์ ใสเหมือนน้ำค้างใสๆ ความเย็นที่ไม่ใช่อุณหภูมิเย็นๆ แต่เป็นความเย็นที่สงบเยือกเย็นไม่เร่าร้อน อ่านเรื่องต่อ