บทความธรรมะ Dhamma Articles > >
วันต่อมาพอนั่งสมาธิอีก กระผมก็จะวางใจเฉยๆเอาไว้ที่กลางท้อง นั่งไปสักพักก็รู้สึกเหมือนกับว่าไม่มีตัวตน ตอนนั้นใจกระผมนิ่งมาก แล้วกระผมก็เห็นดวงแก้วใสสว่างเกิดขึ้นเองโดยอัตโนมัติ ดวงแก้วพากันเรียงแถวพุ่งขึ้นมาจากลางท้องของกระผมเป็นแถวเป็นแนวเยอะมาก สักพักก็เห็นองค์พระแก้วใสเรียงเป็นแถวขึ้นมาจนเป็นทางยาวเลยครับ องค์พระงามมาก ทั้งใสทั้งสว่าง อ่านเรื่องต่อ
แต่พอนั่งไปเรื่อยๆ ก็รู้สึกเหมือนกับว่าตัวเราหายไป ไม่มีแขน ไม่มีขา ใจนิ่งมาก แล้วกระผมก็เริ่มเห็นดวงกลมใสๆขนาดเท่าลูกตาดำ อยู่ท่ามกลางความมืดตรงหน้ากระผม ห่างประมาณหนึ่งฟุต แต่เห็นแป๊บเดียวก็หายไป และพอนั่งสมาธิทุกครั้งกระผมก็จะเห็นแบบนั้น แต่ความมืดจะจางลงเรื่อยๆ ดวงนั้นก็สว่างขึ้นด้วยครับ อ่านเรื่องต่อ
พอเข้าสู่วันที่สาม ใจของกระผมก็เริ่มสงบ และเบาสบายขึ้น วันนั้นกระผมนั่งนิ่งๆวางใจสบายๆ และนึกว่าเรามีดวงแก้วใสๆอยู่กลางท้อง นั่งไปสักพักใจเริ่มเบา และนิ่งมาก กระผมก็เห็นว่ามีดวงแก้วกลมๆใสๆเหมือนดวงดาวอยู่ในท้องของกระผมจริงๆ กระผมก็มองไปที่ดวงนั้นแล้วก็เอาใจนิ่งๆไปแตะเบาๆที่ดวงนั้น อยู่ดีๆดวงกลมๆนั้นก็ขยายออก ขยายใหญ่มากเท่ากับดวงจันทร์ และดวงอาทิตย์ อ่านเรื่องต่อ
ในวันแรกๆที่กระผมฝึกนั่งสมาธิ พอหลับตาปุ๊บกระผมก็เห็นความมืดปั๊บ กระผมก็ดูไปเฉยๆไม่คิดอะไร กระผมนั่งอยู่หลายวันแม้จะยังไม่เห็นอะไรเลย แต่กระผมกลับรู้สึกว่าใจของกระผมเริ่มนิ่งมากขึ้น รู้สึกสบายและมีความสุข...ในวันแรกๆ พอกระผมหลับตาทีไรก็จะฟุ้งจนมึนทุกที จนกระผมต้องลืมตาขึ้น แล้วหลับตาใหม่อยู่หลายรอบ พระอาจารย์สอนให้นึกถึงดวงแก้ว กระผมก็ลองทำตาม แต่นึกไม่ออก อ่านเรื่องต่อ
การอบรมในครั้งนี้ดีมากๆ ผมได้ฝึกทุกอย่างและยังได้นั่งสมาธิอย่างเต็มที่อีกด้วย โอ...พระเดชพระคุณหลวงพ่อครับ วันแรกที่นั่งสมาธิ ขนาดว่าซ้อมมาแล้วนะครับ มันก็ยังเมื่อยสุดๆ ผมปวดไปหมด ทั้งแขน ขา บ่า ไหล่ ลำตัว และหัวเข่า และวันที่สองความปวดเมื่อยก็ยิ่งทับทวี จนรู้สึกว่ากระดูกแทบจะหลุดออกมาเป็นชิ้นๆ นั่งไปสักพักความชาก็มาเยือน ผมชาไปหมดทั้งตัว แต่เพราะอยากเข้าถึงธรรม ผมจึงคิดว่า “ตายเป็นตาย” อ่านเรื่องต่อ
แต่ก่อนกระผมจนมาก ไม่มีพ่อ ไม่มีแม่ ชีวิตลำบากและขาดแคลน แต่ตอนนี้กระผมกลับรู้สึกว่าชีวิตของกระผมมันเต็มเปี่ยม เหมือนเรามีทุกอย่างที่สมบูรณ์ขึ้นมาเองโดยอัตโนมัติ ถ้ามีใครเอาสมบัติจักรพรรดิมาให้เพื่อแลกกับธรรมะ และไม่ให้กระผมเห็นองค์พระ กระผมก็ไม่ยอมแลกเด็ดขาดครับ ตอนนี้กระผมไม่ต้องการอะไรเลยนอกจากธรรมะ อ่านเรื่องต่อ
วันนั้นผมเอาใจมาไว้ที่กลางท้อง ทำใจเฉยๆไม่คิดอะไร ใจผมนิ่งมาก แล้วอยู่ดีๆผมก็เห็นมีจุดสว่างเล็กๆเกิดขึ้นในตัวของผม พอมองเข้าไปก็ยิ่งเห็นเป็นประกายสว่างมากขึ้น ผมนั่งมองความสว่างนั้นอยู่พักใหญ่ ก็เห็นมีวงกลมๆใสๆเป็นจุดเล็กๆอยู่ที่กลางกาย พอมองเข้าไป ดวงใสๆนั้นก็ใหญ่ขึ้นจนมีขนาดเท่ากับนิ้วหัวแม่มือ อ่านเรื่องต่อ
ตอนแรกที่นั่งสมาธินั้น กระผมเจ็บไปทั้งตัว ปวดไปหมด เมื่อยไปทุกส่วน แม้จะผ่านไปแล้วถึงห้าวันก็ยังไม่หายเมื่อย ยิ่งตอนเลิกนั่ง กระผมกระดิกตัวไม่ได้เลยครับ เพราะมันชาไปหมด ต้องเรียกให้คนอื่นมาช่วยแงะ แกะแขนแกะขา แล้วก็ดึงตัวขึ้น แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้น กระผมก็ฝึกนั่งทุกวัน แล้วรางวัลของความตั้งใจก็มาถึงครับ อ่านเรื่องต่อ
และผมก็เห็นองค์พระใสๆ องค์เล็กขนาดเท่ากับพระประธานบนหิ้งพระตามบ้าน แต่ใสมากๆ มองทะลุได้เลย มีประกายเพชรด้วยนะครับ เป็นองค์พระที่สวยมากๆอย่างที่ไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อนเลยในชีวิต สวยยิ่งกว่าเพชร ผมก็ดูองค์พระไปเรื่อยๆ ไม่คิดอะไร บางช่วงก็จะเห็นลางๆ พอวางใจนิ่งๆ ก็จะเห็นชัดมากขึ้น เห็นตลอดเลยครับ อ่านเรื่องต่อ
ตอนวันแรกๆที่กระผมนั่งสมาธิ กระผมไม่เห็นอะไรเลยนอกจากความมืด แต่กระผมจะทำตามที่พระอาจารย์สอน คือ ให้ดูไปอย่างสบายๆ กระผมก็ดูความมืดไปเรื่อยๆไม่คิดอะไร ทำความรู้สึกเฉยๆ และตอนนั้นไม่ว่ากระผมจะทำอะไร กระผมจะพยายามนึกถึงศูนย์กลางกายให้ได้ตลอดเวลา อ่านเรื่องต่อ
วันแรกๆก็มีเรื่องฟุ้งซ่านบ้างครับ กระผมจึงเริ่มหาวิธีเปลี่ยนเรื่องฟุ้งใหม่ ด้วยการนึกถึงสิ่งที่กระผมชอบ และนึกได้ นั่นก็คือ ดอกทานตะวันสีเหลืองใหญ่ๆ พอนึกได้สักพักจากดอกทานตะวันก็นึกให้กลายเป็นดวงแก้วใสๆก็นึกได้ไม่ยากครับ อ่านเรื่องต่อ
ตอนที่ยิงปืน กระผมจะคุ้นเคยกับการนึกถึงเป้าหมาย การยิงปืนระยะไกลจะประทับปืนอยู่กลางอก ต้องกะต้องเล็งให้ดี โดยไม่สนใจกับสิ่งรอบข้างแล้วกระผมก็จะยิงเข้าเป้า พอพระอาจารย์บอกว่าให้ลงมาตรงกลางตัว ก็ง่ายเลยครับ เนื่องจากกระผมเคยชินกับการนึกภาพเป้าที่กระผมจะยิง ลงมาอีกนิดเดียวก็กลางตัวแล้ว พอกระผมนึกถึงหน้าแม่ ใบหน้าของท่านก็ใสๆสว่างผ่องใสขึ้นมามาอยู่ตรงกลางตัวเลย อ่านเรื่องต่อ
ในขณะที่กระผมนอนอยู่บนเตียงคนไข้อยู่นั้น กระผมได้ยินเสียงที่ดังก้องกังวานขึ้น พร้อมกับภาพของพระสงฆ์องค์หนึ่งที่ดังขึ้นมาว่า “อาตมาจันทสโร ภิกขุ ไม่มีอะไรแล้ว แข็งแรงแล้ว ให้กลับวัดได้แล้ว ให้สัมมา อะระหัง เข้าไว้ อย่างอื่นไม่ต้องไปสนใจ แล้วลองออกมาดูสิว่าในตัวมีอะไรอยู่” อ่านเรื่องต่อ
ตอนนี้ใจของกระผมนอกจากจะมีดวงแก้วใสๆแล้ว กระผมยังมีคุณยายอาจารย์อยู่ในใจด้วย และกระผมคิดแต่เพียงว่า จะหาวิธีการอย่างไรที่จะทำกฐินคุณยายให้สำเร็จทันวันที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ.2552 และกระผมก็กำลังทำหน้าที่ชวนคนมาบวชแสนรูปควบคู่กันไปด้วยครับ อ่านเรื่องต่อ
กระผมคิดมานานแล้วครับว่า อยากจะบวชตั้งแต่ตอนอยู่ที่ประเทศพม่า แต่เพราะความจนบีบบังคับทำให้ไม่มีโอกาสได้บวช ชาวพม่าทุกคนจะให้ความเคารพศรัทธาและเทิดทูนพระพุทธเจ้ามาก เวลาเข้าวัดก็ต้องถอดรองเท้า วันโกนวันพระในช่วงเข้าพรรษา ชาวพม่าจะหยุดงานกันทุกคน เข้าวัดไปทำบุญกัน ขนาดวัวควายยังต้องหยุดทำงานเลย ทุกคนต้องเข้าวัด อ่านเรื่องต่อ
ก่อนบวชครั้งนี้ กระผมไม่เคยคิดเลยว่าจะบวช เพราะอายุมากและเคยบวชมาแล้ว แต่พอถึงวันสุดท้ายที่ทางวัดพระธรรมกายปิดรับสมัครครั้งแรก จำได้ว่าเป็นเช้าวันอาทิตย์ ขณะที่กำลังล้างถ้วยกาแฟ เพื่อจะเดินทางไปวัดพระธรรมกายตามปกติ กระผมเกิดมีอาการเหมือนมีอะไรบางอย่างจากศูนย์กลางกายบอกให้บวช จึงตัดสินใจไปตามนั้นทันที อ่านเรื่องต่อ
ชายใดที่ยังลังเลอยู่ ยังไม่คิดอยากจะบวช กระผมอยากบอกว่า ไม่มีอะไรที่มีคุณค่าในชีวิตลูกผู้ชายมากกว่าการบวชอีกแล้วครับ ถ้าบวชแล้วทุกอย่างต้องดีขึ้นอย่างแน่นอนครับ ทุกวันนี้เราใช้ชีวิตเหมือนนักวิ่ง ที่วิ่งไปข้างหน้าอย่างสะเปะสะปะ ไร้จุดหมาย การบวชจะเป็นการจัดระบบชีวิตเราให้ไปสู่จุดหมายปลายทางได้เร็วยิ่งขึ้น มาบวชกันเถอะครับ มาบวชเอาบุญให้ตัวเอง ถวายเป็นพุทธบูชาและอุทิศบุญนี้ให้แผ่นดินครับ อ่านเรื่องต่อ
ตอนนั้นลูกคิดแต่เพียงว่า การนั่งธรรมะนั้นเหมือนกับแม่ไก่กกไข่เท่านั้น ทำไปเบาๆ ไม่ได้คิดอะไร ลูกได้เซตใจให้เป็นซีโร่ (ศูนย์) ไม่คิดเรื่องอะไรทั้งสิ้น สักพักใจของลูกก็ไปรวมที่ศูนย์กลางกายเป็นดวงเดียว ลูกประหลาดใจว่าการรวมใจเป็นหนึ่งมันง่ายอย่างนี้เองหรือ อ่านเรื่องต่อ
ตัวของกระผม เหมือนกับถูกดูดเข้าไปรวมกับความสว่างนั้น ซึ่งมีความสว่างมากยิ่งกว่าพระอาทิตย์ยามเที่ยงวัน ร่างกายหายไป มีแต่ความปีติสุขจนเกินบรรยาย จนกระทั่งพระอาจารย์กล่าว สัพเพฯ... กระผมยังไม่อยากจะลืมตาเลย เมื่อลืมตาขึ้นมา ความสว่างภายในก็ยังอยู่แล้วค่อยๆจางหายไป แต่สิ่งหนึ่งที่ผุดขึ้นมาในใจของกระผมก็คือ “เราอยากบวชตลอดชีวิต” อ่านเรื่องต่อ
กระผมมีความสุขมากๆ สุขใจ อิ่มใจ อย่างบอกไม่ถูก ชนิดที่ว่าสุขใดๆที่กระผมเคยได้รับมา ไม่สามารถนำมาเปรียบเทียบได้กับความสุขที่เกิดจากสมาธิ เพราะมันทำให้กระผมยิ้มได้ทั้งวัน รู้สึกอยากแบ่งปันความสุขให้กับคนรอบข้าง และกระผมก็คิดว่า ความสุขอย่างนี้นี่เอง ที่ทำให้พระเดชพระคุณหลวงพ่ออยากแบ่งปันความสุขให้กับทุกคนในโลก โดยที่ไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยเลย อ่านเรื่องต่อ
เท่านั้นแหละครับ แผ่นเหล็กไปเกี่ยวกับสายไฟ ทำให้กระแสไฟ 220โวลต์วิ่งเข้าสู่ร่างกาย มือของกระผมยึดติดแผ่นเหล็กแน่น ความเจ็บปวดชาหนึบไปถึงปลายเท้า รู้ทันทีว่าความตายมาถึงแล้ว กระผมหลับตาลง ยอมรับความตายอย่างมีสติ พร้อมกับใจคลายความห่วงกังวลทั้งหมด มุ่งกลับฐานที่เจ็ดทันที อ่านเรื่องต่อ
พระเดชพระคุณหลวงพ่อครับ กระผมชอบเป็นพระ เพราะพระเป็นเพศภาวะที่ดีที่สุดในชีวิตในสังสารวัฏ เป็นเพศภาวะที่สง่างาม เหมือนกับอัศวินนักรบที่มีพลังวิเศษอยู่ในตัว ที่คอยสู้รบกับกิเลสในตัวอย่างอาจหาญ พระเดชพระคุณหลวงพ่อครับ การสู้กับกิเลสในตัวของกระผมได้เกิดขึ้นแล้วครับ ซึ่งกระผมก็สู้โดยใช้วิธีที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อบอก ก็คือ “จะมีอะไรง่ายไปกว่า การไม่คิดอะไรเลย แล้วได้ในสิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิต” อ่านเรื่องต่อ
พอมองไปที่กลางองค์พระ ก็เห็นว่า ในองค์พระมีดวงแก้วผุดขึ้นมาถึง 6ดวง เรียงกันไปเรื่อยๆ ซึ่งแต่ละดวงจะมีความสว่างไม่เท่ากัน ความสว่างของดวงเท่ากับดวงอาทิตย์หลายๆดวง มารวมกันในท้องของกระผม ทำให้กระผมมีความสุขและสบายมากขึ้นไปเรื่อยๆ จนไม่รู้จะบอกออกมาอย่างไร อ่านเรื่องต่อ
กิจกรรมประจำวันของความเป็นพระ คือ การปฏิบัติธรรม กระผมรู้สึกว่ากิจวัตร กิจกรรม ที่ผ่านไปในแต่ละวัน เป็นช่วงเวลาที่กระผมมีความสุขที่สุดในชีวิตของการเกิดมาเป็นมนุษย์ เพราะกระผมได้เป็นส่วนหนึ่งของพระรัตนตรัย ได้อยู่ในเพศภาวะที่ประเสริฐที่สุด การที่ได้นุ่งห่มผ้ากาสาวพัสตร์ซึ่งเป็นธงชัยของพระอรหันต์ เป็นสิ่งที่มีคุณค่าที่สุดในชีวิตของลูกผู้ชายครับ อ่านเรื่องต่อ
เมื่อวันที่ 5 เมษายน ซึ่งเป็นวันพระใหญ่ ก็มีการลงสวดพระปาติโมกข์ ในระหว่างที่กระผมฟังพระปาติโมกข์อยู่นั้น ก็ได้หลับตาเบาๆ ทำใจหยุดนิ่งเฉยๆ อยู่ที่ศูนย์กลางกายอย่างสบายๆ สิ่งอัศจรรย์ก็เกิดขึ้นครับ ซึ่งในตลอดชีวิตของกระผมไม่เคยประสบมาก่อน คือ อยู่ๆก็มีองค์พระแก้วใสเกตุดอกบัวตูมมาปรากฏอยู่กลางท้อง อ่านเรื่องต่อ