หลวงพ่อตอบปัญหาโดย พระภาวนาวิริยคุณ (เผด็จ ทัตตชีโว)เรียบเรียงจากรายการหลวงพ่อตอบปัญหา ทาง DMCคำถาม: คนที่มีมนุษยสัมพันธ์ดี เขาวัดกันที่ตรงไหนคะ? เป็นคนที่ดื่มเหล้าเข้ากับใครๆ ได้หมด หรือเป็นคนที่สามารถสรวลเสเฮฮากับพรรคพวกเพื่อนฝูงหรือคนทั่วไปได้ ใช่ไหมคะ?
คำตอบ: อย่าไปเชื่อนะ ว่าคนมีมนุษยสัมพันธ์ดี คือคนที่ต้องดื่มเหล้าหรือสามารถสรวลเสเฮฮา เข้ากับใครได้หมด นั่นเป็นได้แค่ตลกบริโภคเท่านั้นคนที่มีมนุษยสัมพันธ์ดี เขาวัดกันที่ตรงไหนคนที่มีมนุษยสัมพันธ์ดี คือคนที่เมื่อถึงคราวจะทำงานอะไรก็ตาม เพื่อนๆ มักรี่เข้ามาหา มาออกปากว่าอยากจะทำด้วย ประชาชนเชื่อถืออยากเข้ามาปรึกษาหารือด้วย แม้คนนั้นไม่เคยเฮฮากับใครก็ตามความมีมนุษย์สัมพันธ์ดี เขาวัดกันตรงที่ ใครๆ ก็อยากเข้าใกล้ อยากมาร่วมทำความดีด้วย ไม่ใช่วัดกันที่ถึงเวลาสนุกก็สนุกด้วย แล้วก็เฮๆ อยู่ตรงกลางวง แต่เวลาจะทำงาน เวลาตกทุกข์ได้ยาก กลับไม่มีใครเหลียวแล อย่างนี้ถือว่ามนุษย์สัมพันธ์ไม่ดี ขอให้ตีค่าคำว่ามนุษยสัมพันธ์ให้ถูกต้องนะคำถาม: ถ้านักเรียนทำผิด แล้วครูตีให้หลาบจำ จนเป็นแผลจะผิดหรือเป็นบาปไหมคะ?
คำตอบ: เอาแล้วไหมล่ะ รักวัวให้ผูก รักลูกให้ตี แต่ผสมความโกรธความเจ้าโทสะไปด้วย เลยตีก้นซะเหวอะเลย นั่นจะฆ่าให้ตายแล้วก่อนจะตีใครลงโทษใคร ให้ตั้งจิตเมตตาไว้ก่อนการตี ก็ควรตีแต่พอให้เจ็บ พอให้หลาบจำ ตีด้วยความเมตตา เพื่อให้เด็กกลัว ไม่กล้าทำความผิดอีก หรือเพื่อให้ละทิ้งนิสัยไม่ดีๆ เสีย มีผู้ใหญ่หลายๆ คนที่ได้ดิบได้ดี เพราะไม้เรียวของหลวงปู่ หลวงตา ของครูบาอาจารย์ที่ท่านเฆี่ยนตีด้วยความเมตตาเพราะฉะนั้น ก่อนจะตีใครลงโทษใคร ให้ตั้งจิตเมตตาไว้ก่อน จิตเมตตานั้นจะเป็นตัวเบรกเอง ก่อนจะเกิดกรณีทำอะไรที่รุนแรงเกินกว่าเหตุลงไปนะคำถาม: จะเรียกตำรวจจัดการเลยดีไหม ถ้าพวกวัยรุ่นชอบมาจับกลุ่มส่งเสียงร้องเพลงเอะอะโวยวาย หรือเปิดเพลงเสียงดังหนวกหูบ่อยๆ ในเวลาค่ำคืน?
คำตอบ: เรื่องอย่างนี้อย่าใจร้อนเรียกตำรวจ ไม่จนใจอย่าเพิ่งใช้วิธีนี้ ยังมีวิธีอื่นซึ่งแม้จะดูว่าใจเย็นเกินไป แต่ก็มีคนเคยใช้ได้ผลมาแล้ว คือค่อยๆ ทำให้เป็นที่รัก เป็นที่เกรงใจ อาจจะเสียเวลาหน่อยก็ค่อยๆ ทำไปเถอะ เราจะชนะแบบเย็นๆ ยิ่งวัยรุ่นด้วยแล้ว อย่าเพิ่งไปทำรุนแรง ความจริงก็ไม่มีอะไรมาก วัยรุ่นมีนิสัยอยากดังเท่านั้นเองจะเรียกตำรวจจัดการเลยดีไหม ถ้าพวกวัยรุ่นชอบมาจับกลุ่มส่งเสียงดังให้หนวกหูหลวงพ่อเคยรู้จักหมออยู่คนหนึ่ง เป็นหมอจีนอายุมากแล้ว ที่บ้านแกก็มีแต่ลูกสาว 3-4 คน ความจริงหมอไม่มีพิษสงอะไร แต่ว่าคนทั้งซอย เขาเรียกแกว่า “เตี่ย” ใกล้ๆ บ้านคุณหมอตอนกลางคืน เด็กวัยรุ่นชอบไปชุมนุมเล่นกีตาร์ เล่นอะไรกันส่งเสียงดังถามว่าหนวกหูไหม คุณหมอตอบว่าหนวกหู แต่ก็ทนๆ กันไปไม่ไปว่าอะไรเขาหรอก ถือว่าเป็นคนซอยเดียวกัน แล้วถ้าคนไหนเจ็บไข้ได้ป่วยมาหา ดูท่าว่าไม่มีเงิน ก็รักษาให้ฟรีๆ ไป พวกนี้เลยเรียกคุณหมอว่า “เตี่ย” ทั้งซอย แล้วก็ช่วยกันคุ้มครองบ้านให้เป็นอย่างดี เวลาใครไปยุ่งกับบ้านคุณหมอ หรือไปยุ่งกับลูกสาว เจ้าเด็กพวกนี้จะจัดการให้หมดสิ่งละอันพันละน้อยเหล่านี้ หลวงพ่อพูดมา เพียงต้องการเตือนสติว่า จะทำอะไรก็ตามขอให้เริ่มต้นแก้ไขที่ตัวเราเองเสียก่อน อย่างเพิ่งไปดูว่าเขาเลวอย่างนั้น เลวอย่างนี้ แต่ให้ดูตัวเราก่อน เพราะเราอาจจะมีความบกพร่องบางอย่าง ที่ทำให้เขาไม่ชอบขี้หน้าเราก็ได้ เขาเลยกลั่นแกล้งให้ และที่สำคัญที่สุด ถ้าทำอะไรโดยอาศัยมือกฎหมายตั้งแต่เริ่มต้น โดยไม่หาทางประนีประนอมกันก่อน จะก่อให้เกิดการจองเวรกันขึ้น และเรื่องมักไม่จบง่ายๆขอให้ดูวิธีการแก้ปัญหาของหมอจีนคนนั้นเป็นตัวอย่างก็แล้วกัน เพราะคุณหมออาศัยความมีน้ำใจ และความอดทนอดกลั้นเป็นรั้วบ้าน ทั้งครอบครัวจึงอยู่อย่างเป็นสุข ไม่ต้องใช้อิทธิพลอะไรก็ทำให้คนเกรงใจได้ ทราบว่าระยะหลังๆ พวกวัยรุ่นก็ดูแลกันเองไม่ค่อยส่งเสียงดังใกล้ๆ บ้านคุณหมออีกหลวงพ่อเมื่อสมัยยังเป็นวัยรุ่น เริ่มเรียนฟันดาบ มวยไทย จำโอวาทที่ได้จากอาจารย์มาตอนหนึ่ง เพราะซึ้งจริงๆ ท่านบอกว่า “ถ้าเรียนไปแล้วใจร้อนละก็ วันนี้ตัวต่อตัวเราชนะ พรุ่งนี้เดี๋ยวก็เจอสองต่อหนึ่ง สามต่อหนึ่ง ถ้าสามต่อหนึ่งแล้วเรายังสู้ไหวอยู่ วันต่อไปมันไม่มามือเปล่าแล้ว มันคงแถมมีดแถมไม้มาให้ เราซ้อมฟันดาบมาขนาดนี้จะแน่สักแค่ไหนกัน วันนี้เอาชนะมันได้ วันหน้ามันมาอีกที งวดนี้ดาบมันก็ไม่เอา ตะพดมันก็ไม่เอา มันเอาปืนมาส่องให้ เรารับมือมันไม่ไหวหรอก”เพราะฉะนั้นอดแล้วก็ทน อย่าใจร้อน ทำตัวเป็นผู้ให้เขาไว้ก่อน ให้มากๆ ให้จนกระทั่งเขาเกรง แล้วตอนนั้นเราจะเป็นพ่อเป็นแม่คนได้ตลอดซอยกรณีปัญหาของคุณโยม ก็อย่าไปโกรธอะไรเขามากนักพบเขาก็ยิ้มก็ทักทายกันบ้าง นึกเสียว่าเขาเป็นน้อง เป็นลูก เป็นหลานคุยกันจนคุ้น แล้วสักวันหนึ่งคงเตือนกันได้ อะไรๆ มันก็เปลี่ยนไปตามยุคตามสมัย เมื่อแก้ไขอะไรไม่ได้ ก็ต้องหัดทำใจเย็นๆ อดทนเอาไว้ให้มากๆ แล้วมันจะดีเองนะ
http://goo.gl/9HEl7