วันมาฆบูชา วันแห่งความรักอันบริสุทธิ์

วันแห่งความรักทางพระพุทธศาสนามีจริงหรือไม่? ทำอย่างไรวันมาฆบูชาจึงจะมีความสำคัญในใจเยาวชนมากกว่าวันวาเลนไทน์? ในวันมาฆบูชาเราจะได้ยินคำว่า จาตุรงคสันนิบาต โอวาทปาติโมกข์ ปัจจุบันมีการปลูกฝังให้เยาวชนซึมซับเรื่องนี้แค่ไหน?....... https://dmc.tv/a17459

บทความธรรมะ Dhamma Articles > Review รายการ
[ 25 ก.พ. 2558 ] - [ ผู้อ่าน : 18290 ]

วันมาฆบูชา


วันมาฆบูชา วันแห่งความรักอันบริสุทธิ์

เรื่อง : พระมหาสมชาย ฐานวุฑฺโฒ (M.D.; Ph.D.)
จากรายการข้อคิดรอบตัว ออกอากาศทางช่อง DMC
 

วันมาฆบูชา : วันแห่งความรักอันบริสุทธิ์

วันมาฆบูชา : วันแห่งความรักอันบริสุทธิ์

วันแห่งความรักทางพระพุทธศาสนามีจริงหรือไม่?

      อย่างที่เราทราบกันว่าอะไรที่อิงกระแสกิเลสจะไปได้เร็ว เพราะฉะนั้นพอถึงวันวาเลนไทน์ซึ่งทางโลกถือเป็นวันแห่งความรัก หนุ่มๆ สาวๆ ซึ่งกำลังหาเหตุอะไรสักอย่างหนึ่งอยู่พอดี ก็เลยนัดหมายไปเที่ยวเตร่กัน แล้วใครที่ไม่ระมัดระวังตัว บางทีก็มีอะไรเลยเถิดอย่างที่เป็นข่าวกันบางคนพลาดท่าไปทีหนึ่ง เสียทั้งชีวิตเลยก็มี ทำให้ผู้ใหญ่ค่อนข้างเป็นห่วงว่า ถ้าปล่อยไปอย่างนี้คงไม่ถูกต้อง ก็เลยมองว่าวันมาฆบูชาซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในเดือนกุมภาพันธ์ ตรงกับวันเพ็ญเดือน 3 เป็นวันที่พระอรหันต์ 1,250 รูป ซึ่งทั้งหมดล้วนแต่เป็นพระภิกษุที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงบวชให้ พากันเดินทางไปเข้าเฝ้าพระพุทธองค์โดยไม่ได้นัดหมาย เราน่าจะเอาวันนี้เป็นวันแห่งความกตัญญู ว่าพระภิกษุทั้งหลายซึ่งท่านได้บวชจากพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ถึงเวลาก็ไปหาครูบาอาจารย์ เพื่อแสดงความกตัญญู แล้วก็ถือว่าเป็นวันแห่งความรักอันบริสุทธิ์ด้วย นี้เป็นที่มาของการยกให้วันมาฆบูชาเป็นวันกตัญญูและวันแห่งความรัก

ทำอย่างไรวันมาฆบูชาจึงจะมีความสำคัญในใจเยาวชนมากกว่าวันวาเลนไทน์ ?

        ถ้าเราเป็นชาวพุทธจริง ๆ ได้เข้าวัดฟังเทศน์ฟังธรรม ได้ปฏิบัติธรรมเป็นประจำ ก็จะเห็นความสำคัญของวันมาฆบูชาโดยปริยาย แต่ปัจจุบันเยาวชนที่เข้าวัดยังมีไม่มาก เลยเป็นภาพอย่างที่เห็น ดังนั้น ถ้าจะแก้ปัญหาที่ต้นเหตุจริงๆ เราจะต้องชวนทั้งเยาวชนและประชาชนให้หมั่นเข้าวัดศึกษาธรรมะ ปฏิบัติธรรมให้มากขึ้น ถ้าตรงนี้สำเร็จ ทุกอย่างก็จะแก้ได้หมด ตอนนี้ที่พยายามทำอยู่ในแง่ของเยาวชนก็คือ โครงการเด็กดีวีสตาร์ ชวนเด็กมาทำความดีทีละล้านคน หรือบวชอุบาสิกาแก้ว คือฝ่ายหญิงมาปฏิบัติธรรม มารักษาศีล 8 จะได้เป็นชาวพุทธเต็มตัว ฝ่ายชายก็บวชพระ ช่วงสั้น 49 วัน ถ้าใครจัดเวลาได้ก็บวช 4 เดือน ในช่วงเข้าพรรษา อย่างนี้เป็นต้น

ในวันมาฆบูชาเราจะได้ยินคำว่า จาตุรงคสันนิบาต โอวาทปาติโมกข์ ปัจจุบันมีการปลูกฝังให้เยาวชนซึมซับเรื่องนี้แค่ไหน ?

      ในตำราเรียนคิดว่ายังคงมีอยู่ แต่ถ้าแค่อ่านหนังสือท่องจำเอาไว้สอบ ก็ซึมซับได้แค่ระดับหนึ่งจะให้ได้จริง ๆ ต้องปฏิบัติตามหลักคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจริง ๆ ถ้าอย่างนี้ได้ทันทีปัญหาศีลธรรมในสังคมก็จะจบ แล้วแต่ละคนก็สามารถนำธรรมะไปใช้เป็นแสงสว่างนำทางชีวิตไปสู่ความสุขความสำเร็จได้จริง เป็นประโยชน์ทั้งต่อตัวบุคคล สังคม และพระพุทธศาสนาโดยรวม

มีวิธีปฏิบัติอย่างไรให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นในชีวิต ?

      ธรรมะของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นของจริง เพราะคำสอนในพระพุทธศาสนาไม่ใช่ความเชื่อ แต่เป็นความจริง ดังนั้นขอให้ก้าวเข้ามาแล้วลงมือปฏิบัติธรรมเท่านั้น ก็จะพบคำตอบว่า นี่คือสิ่งที่เราแสวงหามานาน ลำพังแค่อ่านยังไม่พอ ต้องลงมือปฏิบัติด้วย หลักทฤษฎีที่เรียกว่าปริยัติเป็นแค่ลายแทงขุมทรัพย์ แต่เราจะได้ขุมทรัพย์นั้นมาใช้จริง ต้องลงมือปฏิบัติ

ข้อควรปฏิบัติในวันมาฆบูชามีอย่างไรบ้าง?

     โดยหลักวันนั้นให้เป็นวันที่เราได้ทำความดีเป็นพิเศษกว่าวันอื่น ๆ เช่น ไปวัดทำบุญถวายภัตตาหาร ฟังธรรม สวดมนต์ นั่งสมาธิ และเวียนเทียนจุดโคมประทีปบูชาพระรัตนตรัยในท้องถิ่นที่เราอยู่มีธรรมเนียมประเพณีอย่างไร เราก็ดูตามความเหมาะสม แต่โดยหลักคือการบำเพ็ญบุญ ให้ทาน รักษาศีลเป็นพิเศษ ถ้ารักษาศีล 8 ได้จะดีมาก แต่อย่างน้อยต้องศีล 5 แล้วก็สวดมนต์ ทำสมาธิภาวนา ฟังเทศน์ฟังธรรม นี้คือสิ่งที่เราควรทำในวันมาฆบูชา

การเวียนเทียนจุดโคมมาฆประทีปสำคัญอย่างไร? ทำแล้วดีอย่างไร?

     ก่อนอื่นให้เรามาดูว่าวันมาฆบูชามีความสำคัญอย่างไร

     1. มีพระภิกษุ 1,250 รูป เดินทางไปเข้าเฝ้าพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย
     2. พระภิกษุเหล่านั้นล้วนแต่เป็นพระอรหันต์ทั้งสิ้น
     3. ทุกรูปล้วนบวชโดยพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่เรียกว่า เอหิภิกขุอุปสัมปทา
     4. วันนี้เป็นวันเพ็ญเดือน 3 (วันเพ็ญมาฆฤกษ์)

     เหตุ 4 อย่างนี้เรียกว่า จาตุรงคสันนิบาต คือการประชุมพร้อมกันขององค์ 4 ในวันนั้น พระองค์ประทานโอวาทปาติโมกข์แก่พระภิกษุ เป็นแม่บทในการทำงานเผยแผ่พระพุทธศาสนา ไม่เฉพาะพระสัมมาสัมพุทธเจ้าของเราพระองค์นี้เท่านั้น แต่เป็นพุทธประเพณีของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ ว่าจะต้องมีการประชุมสงฆ์โดยมิได้นัดหมายอย่างนี้ แล้วพระองค์ก็จะประทานโอวาทปาติโมกข์เหมือนกันทุกพระองค์
 
วันมาฆบูชา : วันแห่งความรักอันบริสุทธิ์

โอวาทปาติโมกข์มี 3 หมวด

     หมวดที่ 1 พระภิกษุที่ตั้งใจจะเผยแผ่พระพุทธศาสนาจะต้องยึดหลักนี้เป็นอุดมการณ์ไว้


     1. ต้องอดทน (ขันตี ปะระมัง ตะโป ตีติกขา) ภาษาไทยแปลว่า ความอดทนคือความทนทานเป็นตบะอย่างยิ่ง คือท่านบอกว่าถ้าคิดจะเผยแผ่ ต้องอดทน ถ้าบวชแล้วตั้งใจปฏิบัติธรรมเงียบ ๆ คนเดียว ก็รับผิดชอบแค่ตัวเอง อย่างนี้ง่าย แต่ถ้าลงมือเผยแผ่เมื่อไร จะต้องไปสัมพันธ์กับผู้คนจำนวนมาก แล้วคนเรานิสัยไม่เหมือนกัน แต่ละคนมีเงื่อนไขตัวแปรต่าง ๆ มากมายเพราะฉะนั้นท่องไว้ในใจเถิดว่า “ทน” ถ้าอดทนไม่ได้ ทงานเผยแผ่ไม่สำเร็จ

     2. พระพุทธเจ้าทั้งหลายตรัสว่าพระนิพพานเป็นเยี่ยม (นิพพานัง ปะระมัง วะทันติ พุทธา) คือให้รู้ว่าเป้าของเราคือจะไปนิพพาน ต้องตอกย้ำในใจ ไม่อย่างนั้นเป้าหมายมีโอกาสเบี่ยงเบนตอนปฏิบัติส่วนตัวไม่มีปัญหา แต่พอทำงานเผยแผ่ ถ้าทได้สำเร็จดี มีคนนับหน้าถือตามากให้ความเคารพบูชามาก ลาภสักการะ คำสรรเสริญจะเข้ามา ถ้าเป็นพระอรหันต์ก็รอดตัว แต่ถ้ายังไม่ใช่พระอรหันต์แล้วไม่ระมัดระวังตัวให้ดี มีโอกาสพลาดสูง พระองค์จึงทรงย้ำว่า อย่าลืมว่าเป้าหมายในการเผยแผ่คือจะไปนิพพาน ไม่ใช่ลาภสักการะ แล้วขณะเดียวกันอีกแง่หนึ่ง พอเผยแผ่ไปแล้วเกิดเจออุปสรรค มีอะไรมาปะทะมากมาย เจอคนพาลมากลั่นแกล้งบ้าง ถ้าไม่ได้ยึดว่าจะไปนิพพาน เดี๋ยวก็จะไปลุยกับเขา ท่านจึงมีข้อ 3 มาให้ด้วยว่า

     3. ผู้ฆ่าสัตว์อื่น เบียดเบียนสัตว์อื่น ไม่ชื่อว่าสมณะเลย (นะ หิ ปัพพะชิโต ปะรูปะฆาตี สะมะโณ โหติ ปะรัง วิเหฐะยันโต) ก่อนจะเริ่มไปทำหน้าที่เผยแผ่ จะต้องย้ำในใจก่อน 3 ข้อ ตรวจสอบตัวเองก่อนว่า ความอดทนเราพอไหม เป้าหมายอย่าเบี่ยงเบน เราตั้งใจจะไปนิพพานแล้วก็ย้ำตัวเองเสมอว่า อย่าไปฆ่าไปเบียดเบียนใครเด็ดขาด

     3 ข้อนี้ผูกไว้ในใจก่อนเลย ตีกรอบไว้ก่อน

     หมวดที่ 2 มี 3 ข้อ คือ 1. ละชั่ว 2. ทำดี 3. ทำใจให้ผ่องใส (สัพพะปาปัสสะ อะกะระณังกุสะลัสสูปะสัมปะทา สะจิตตะปะริโยทะปะนัง) การไม่ทำบาปทั้งปวง คือ ละชั่ว การทำกุศลให้ถึงพร้อม คือ ทำดี การทำจิตของตนให้ผ่องแผ้ว คือ ทำใจให้ผ่องใส อันนี้คือเนื้อหาที่ใช้สอนญาติโยม

วันมาฆบูชา : วันแห่งความรักอันบริสุทธิ์

      หมวดที่ 3 หมวดนี้สอนตัวเอง พระองค์ทรงกำกับไว้อีกทีว่า สิ่งที่พระภิกษุหรือผู้ทำหน้าที่เผยแผ่ทั้งหลายจะต้องประพฤติปฏิบัติ คือ

     1. ไม่ว่าร้าย (อะนูปะวาโท) คือ ไม่ไปด่าไปว่า กระทบกระเทียบ กระแนะกระแหน หรือโจมตีใคร

     2. ไม่ทำร้าย (อะนูปะฆาโต) นี้คือหลักพระพุทธศาสนา จะเห็นว่าพระพุทธศาสนาไม่เคยมีสงครามพระพุทธศาสนา พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงสั่งกำกับไว้ก่อนว่า อย่าไปว่าร้ายใครยิ่งลงมือทำร้ายยิ่งห้ามใหญ่

     3. สำรวมในพระปาติโมกข์ (ปาติโมกเข จะ สังวะโร) คือ สำรวมในความประพฤติของตัวเอง เกิดอะไรขึ้นมา แทนที่จะไปโทษว่าคนนั้นคนนี้ไม่ดี ให้มาเช็กตัวเองว่า เรายังมีอะไรบกพร่องอยู่หรือเปล่า ให้ดูตัวเอง พิจารณาตัวเอง ปรับปรุงตัวเอง

     4. รู้ประมาณในโภชนาหาร (มัตตัญญุตา จะ ภัตตัส๎มิง) คือ จะบริโภค จะใช้สอยอะไรเอาให้พอดีๆ อย่าให้เกินขอบเขตความเหมาะสม ให้เป็นไม้ใหญ่ที่กินน้ำน้อย ไม้ใหญ่ที่กินน้ำน้อยถึงคราวเกิดอะไรขึ้นมามันอยู่ได้ แต่ถ้าเป็นไม้ใหญ่กินน้ำมาก ช่วงฝนตกชุกก็รอด ถ้าเกิดฝนแล้งเมื่อไรก็ตาย

     5. การนอนการนั่งอันสงัด (ปันตัญจะ สะยะนาสะนัง) คือ ไม่เอิกเกริกเฮฮา รู้จักหาความสงัด ไม่ใช่ไปเผยแผ่แล้วหลงไปกับเทคโนโลยี สนุกสนานเพลิดเพลินไปจนกระทั่งหลงลืมเป้าหมายที่แท้จริงของการบวชว่าคืออะไรเทคโนโลยีใช้ได้ แต่ใช้เพื่อเป็นอุปกรณ์ในการเผยแผ่พระพุทธศาสนา ไม่ได้ใช้เพื่อความเพลิดเพลินสนุกสนาน

     6. รู้จักประกอบความเพียรในอธิจิต (อะธิจิตเต จะ อาโยโค) เพราะมีเป้าหมายจะไปนิพพาน ถ้าจะไปได้ต้องทำสมาธิ ทำใจให้ผ่องใส นี้คือหน้าที่ที่พระต้องทำนักเผยแผ่ทุกคนต้องทำพระพุทธศาสนาเติบโตอย่างรวดเร็ว เริ่มจาก 1 ผ่านไป 9 เดือน อัตราการเติบโตของบุคลากรพันกว่าเท่า จากพระบรมศาสดาพระองค์เดียว กลายเป็นพระอรหันต์เป็นพันรูป แล้วออกไปประกาศศาสนากนั พระองค์จึงทรงให้หลักการทั้งหมดไว้ก่อน เพราะในสมัยก่อนการคมนาคมไม่สะดวก ไม่มีวิทยุ อินเทอร์เน็ต โทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ โทรศัพท์ ดังนั้น ก่อนไปเผยแผ่จึงมาประชุมกันก่อน ซักซ้อมอุดมการณ์ หลักการเนื้อหาในการสอน และวิธีการในการประพฤติปฏิบัติตน ว่าต้องทำอย่างไร ให้ทั้งหมดเข้าใจตรงกัน แล้วแยกกันไปคนละทิศคนละทาง แต่ก็มีฟอร์มเดียวกันโอวาทปาติโมกข์เป็นวัฒนธรรมองค์กรของพระพุทธศาสนาที่แข็งมาก แน่นมาก รัดกุมมากทำให้พระพุทธศาสนาเติบโตและขยายไปสู่ประชาชนอย่างกว้างขวางรวดเร็ว

       นี้คือประโยชน์ที่เกิดขึ้นจากวันมาฆบูชา เราจึงถือว่าวันนี้เป็นวันกตัญญู เป็นการระลึกว่าพระอรหันต์ 1,250 รูป ท่านนึกถึงครูบาอาจารย์ ส่วนพระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็ประทานโอวาทปาติโมกข์ให้ เพื่อให้ทุกรูปออกไปทำหน้าที่นำธรรมะให้แก่ชาวโลก พวกเรามีพระพุทธศาสนาเป็นหลักใจในปัจจุบัน ก็เพราะโอวาทปาติโมกข์นี้ เพราะความเมตตาและมหากรุณาของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าและพระอรหันต์ทั้งหลาย พอถึวันมาฆบูชาราจึงควรระลึกนึกถึงพระพุทธองค์และพระอรหันตสาวกด้วยความกตัญญู แล้วตั้งใจทำตามที่ท่านสอน คือ ละชั่ว ทำดี ทำใจให้ผ่องใส ถ้าทำอย่างนี้ถูกหลักวิชา

       ส่วนการเวียนเทียนจุดโคมประทีปบูชาในวันมาฆบูชานั้น เป็นสิ่งที่ดีมาก เพราะวันนี้จะถือเป็นวันพระธรรมก็ได้ เราก็เอาวันนี้มาจุดโคมประทีปบูชาธรรมะของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าบูชาพระอรหันต์ทั้ง 1,250 รูป บูชาพระสงฆ์ที่ตั้งใจสืบทอดคำสอนของพระพุทธองค์มาจนถึงปัจจุบัน บูชาครบทั้งพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ทำอย่างนี้แล้ว อานิสงส์ก็คือ เราเกิดกี่ภพกี่ชาติ ดวงตาจะสวย แวววาว มีประกายใสกระจ่าง ปัญญาก็จะดี เพราะเป็นการบูชาด้วยความสว่าง
 
      เพราะฉะนั้นเราจะมีดวงปัญญาสว่างไสว ยิ่งถ้าทำถูกหลักวิชา คือไม่ใช่จุดโคมประทีปเวียนเทียนไป กระหนุงกระหนิงคุยกันไป แต่จุดโคมประทีปไปแล้ว ใจก็ระลึกถึงพระรัตนตรัยบูชาด้วยความเคารพ ถ้าอย่างนี้เราจะได้บุญมาก มาฆบูชาทุกปีชีวิตเราก็จะดีขึ้นทุกปี

วันมาฆบูชา : วันแห่งความรักอันบริสุทธิ์

จำเป็นหรือไม่ที่จะต้องปรับเปลี่ยนหลักธรรมคำสอนตามยุคสมัย?

      เนื้อหาหลัก ๆ เหมือนเดิม ธรรมะของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นอกาลิโก คือ ไม่ขึ้นกับกาลเวลา ไม่ว่ายุคไหนสมัยไหนก็ต้องละชั่ว ทำดี ทำใจให้ผ่องใส ไม่เคยเปลี่ยน แต่เทคโนโลยีอุปกรณ์สื่อหรือวิธีการในการใช้สื่อนำธรรมะไปถึง ประชาชนนั้นขึ้นอยู่กับสภาวะแวดลอมว่าเป็นอย่างไร สมัยก่อนไม่มีลำโพงก็พูดปากเปล่า ปัจจุบันมีลำโพงก็ใช้ลำโพง มีทีวีก็ใช้ทีวี มีวิทยุก็ใช้วิทยุ มีหนังสือก็ใช้หนังสือ เราสามารถใช้สื่อเหล่านี้ให้เป็นประโยชน์ได้ แต่ตัวเนื้อหาเหมือนเดิมเปลี่ยนที่วิธีการเท่านั้น
 
รับชมวิดีโอ


รับชมคลิปวิดีโอ
ชมวิดีโอ   Download ธรรมะ

http://goo.gl/v4T3sG


พิมพ์บทความนี้



บทความอื่นๆ ในหมวด

      วันลอยกระทง 2566 ประเพณีและประวัติวันลอยกระทง วิธีทำกระทงง่ายๆ
      วันตรุษจีน 2566 ประวัติวันตรุษจีน การ์ดและคำอวยพรตรุษจีน
      วันครูแห่งชาติ 2567 ประวัติความเป็นมาของวันครู กิจกรรมวันครู
      วันพ่อแห่งชาติ 2566 ประวัติความเป็นมาความสำคัญ กลอนวันพ่อ การ์ดวันพ่อ
      วันปิยมหาราช ประวัติและความสำคัญของวันปิยมหาราช
      วันแม่แห่งชาติ 2566 กลอนวันแม่ ประวัติความเป็นมาและความสำคัญของวันแม่แห่งชาติ
      กลอนวันแม่ กลอนวันแม่สั้นๆ ซึ้งๆ จากใจลูกน้อย
      วันสื่อสารแห่งชาติ 2566 ประวัติความเป็นมาและความสำคัญของการสื่อสาร
      วันภาษาไทยแห่งชาติ 2566 ประวัติ ความสำคัญของวันภาษาไทยแห่งชาติ
      วันสิ่งแวดล้อมโลก World Environment Day
      วันงดสูบบุหรี่โลก 31 พฤษภาคม 2566 World No Tobacco Day
      วันครอบครัว 14 เมษายน ประวัติความเป็นมาและความสำคัญ
      วันสตรีสากล ประวัติความเป็นมาความสำคัญของวันสตรีสากล




   ค้นหา บทความธรรม    

  ฝันในฝันวิทยา
  สารพันธรรมะ
  ปกิณกธรรม
  ผลการปฏิบัติธรรม
  โครงการฟื้นฟูศีลธรรมโลก
  ธรรมะบันเทิง
  ข่าว
  ข่าวประชาสัมพันธ์
  ข่าวบุญฝากประกาศ
  DMC NEWS
  ข่าวรอบโลก
  กิจกรรมเว็บ dmc.tv
  Scoop - Review DMC
  เรื่องเด่นทันเหตุการณ์
  Review รายการ DMC
  หนังสือธรรมะ
  ธรรมะเพื่อประชาชน
  ที่นี่มีคำตอบ
  หลวงพ่อตอบปัญหา
  อยู่ในบุญ
  สุขภาพนักสร้างบารมี
  นิทานชาดก
  CaseStudy กฎแห่งกรรม
  กฎแห่งกรรม
  เรื่องราวชีวิต
  เหลือเชื่อแต่จริง
  อุทาหรณ์สอนใจ
  ฮอตฮิต...ติดดาว
  วิบากกรรม...ทำให้ทุกข์
  บุญเกื้อหนุน
  ปรโลกนิวส์
  ธรรมะและสมาธิ
  พุทธประวัติ
  สมาธิ
  ผลการปฏิบัติธรรมนานาชาติ
  ทศชาติชาดก
  พุทธประวัติและวันสำคัญ
  บทสวดมนต์
  ศัพท์ธรรมะ ภาษาอังกฤษ
  มหาปูชนียาจารย์
  อานุภาพมหาปูชนียาจารย์
  ประวัติ
  กิจกรรม
  ธุดงค์สถาปนาเส้นทางมหาปูชนียาจารย์
  About DMC
  เกี่ยวกับ DMC
  DMC GUIDE
  มือถือ Mobile
  คู่มือเว็บ www.dmc.tv
  มาวัดพระธรรมกาย
   ค้นหา บทความธรรม    

ธรรมะที่เกี่ยวข้อง - Related