Mobile VersionCase studyเรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา ทาง DMCกราบนมัสการพระเดชพระคุณหลวงพ่อที่เคารพเป็นอย่างสูงกระผมมีพี่ชาย 1 คน น้องสาว 1 คน คุณพ่อรับราชการประปา ที่ อำเภอกระนวน จังหวัดขอนแก่น ส่วนคุณแม่ขายของที่ตลาดพ.ศ. 2542 ขณะนั้น น้องสาวของกระผม อายุได้ 24 ปี ทำงานรับราชการประปาอยู่ที่เดียวกันกับคุณพ่อ น้องสาวได้เริ่มล้มป่วยลงโดยไม่ทราบสาเหตุ ในเวลาเดียวกัน คุณปู่ คุณย่า คุณป้า ก็ล้มป่วยด้วยโรคต่างๆกัน และเข้าโรงพยาบาลเกือบพร้อมๆกันทั้งสี่คน โดยน้องสาวมีอาการเป็นไข้เจ็บตามเนื้อตามตัว เมื่อเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล หมอก็ไม่ทราบว่าเป็นโรคอะไร จนคุณหมอต้องตัดชิ้นเนื้อไปตรวจเพื่อหาสาเหตุของโรค แล้วสรุปว่าเป็นเส้นเลือดอักเสบ ช่วงนั้นใบหน้าเริ่มบวมคล้ายๆอาการของคุณพุ่มพวง ดวงจันทร์ อาการเริ่มเป็นหนักขึ้นทุกวันคุณพ่อวิตกกังวลมาก จึงได้ไปหาหลวงปู่วัดข้างบ้าน ซึ่งคุณพ่อได้ให้ความเคารพนับถือมาเป็นเวลานานตลอดสามสิบปี เมื่อคุณพ่อได้เล่าอาการของน้องสาวให้หลวงปู่ฟังแล้ว หลวงปู่ได้ตรวจโดยให้ลูกศิษย์คนหนึ่งนั่งเข้าทรง ซึ่งหลวงปู่จะเอาของชิ้นเล็กๆชิ้นหนึ่งขนาดเท่าลูกปิงปองส่งให้ลูกศิษย์ ลูกศิษย์คนนั้นกำไว้ที่มือ นั่งโยกมือช้าๆ สักพัก (ร่างทรง) ก็พูดขึ้นว่า “เอ้า...มีธุระอะไร” หลวงปู่ก็บอกเรื่องราวแล้วให้ตรวจดูว่าเกิดอะไรขึ้น ลูกศิษย์คนนั้นก็นั่งโยกมือไปมาช้าๆ สักครู่ก็บอกว่า “ผีที่อยู่สระน้ำ ที่การประปากระนวน เขาจะเอาไปเป็นเมีย” หลวงปู่ก็บอกให้ไปเจรจาขอให้คืนลูกหลานมา สักพักคนทรงก็บอกว่า “เขาไม่คืน เขาจะเอาให้ตาย จะให้ไปอยู่ด้วย” หลวงปู่บอกว่า “ถ้างั้นก็ต้องสู้กัน” หลวงปู่จึงบอกให้คนทรงไปตามทหารของท่าน ซึ่งเป็นวิญญาณชื่อ “ท่านขุน” มาแล้วให้ไปล่อผีตัวนี้ออกมาจากบริเวณของเขา โดยบอกว่าจะขอเจรจา พอผีตนนั้นออกมาก็จับขัง และให้ช่วยเอา “ขวัญ” ของน้องสาว กลับเข้าเนื้อเข้าตัว คำว่า “ขวัญ” กระผมเองก็ไม่ทราบว่าแปลว่าอะไรครับพอทำพิธีเสร็จน้องสาวผม ซึ่งนอนซมอยู่โรงพยาบาล อยู่ๆก็ลุกขึ้นนั่งได้เองอาการเหมือนเพิ่งตื่นนอน หลวงปู่ได้ไปเยี่ยมน้องสาวที่โรงพยาบาล แล้วบอกว่า “ไม่เป็นอะไรแล้ว” แต่คุณปู่ คุณย่า คุณป้า ได้เสียชีวิตทั้งหมดในเวลาใกล้ๆกัน ซึ่งเป็นการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ของคุณพ่อกระผม หลังจากนั้นอาการของน้องสาวก็ดีขึ้นเรื่อยๆ แต่ยังไม่หายต้องกินยาตลอด ถ้าไม่กินจะเป็นไข้ เหนื่อย ตัวร้อน แล้วอยู่ๆร่างกายของน้องสาวเกิดอาการผิดปกติ ซึ่งมารู้ภายหลังว่า ยาที่หมอให้กินตอนช่วงป่วยหนักนั้น มีฮอร์โมนเพศชายอยู่ด้วย เพราะร่างกายค่อยๆ เปลี่ยนเป็นผู้ชาย ใบหน้าใหญ่ขึ้น คางค่อยๆ ขยายใหญ่ขึ้น ตาค่อยๆลึกลง จนกลายเป็นใบหน้าเหมือนลิง มีกล้ามขึ้น ตัวใหญ่ขึ้น ช่วงนั้นกระผมได้กลับมาเยี่ยม พอเห็นน้องสาวแล้วก็ปากค้างพูดอะไรไม่ออก รู้สึกสงสารน้องมากน้องสาวได้เดินทางไปทั่วประเทศ เพื่อหาหมอดีมารักษาตัว กินยาสารพัด แต่ก็ไม่หาย ต้องเข้าโรงพยาบาลอีก ช่วงแรกคุณหมอซึ่งเป็นญาติกัน มาตรวจก็ไม่รู้ว่าเป็นโรคอะไร ต่อมาคุณหมออีกคนได้มาตรวจ จึงรู้ว่าเป็นโรคตับอักเสบ จึงให้ยาได้ถูกโรค อาการก็ค่อย ๆ ดีขึ้นรอดตายอย่างหวุดหวิดอีกครั้ง แต่ร่างกายก็เปลี่ยนอีก คราวนี้มีใบหน้าเป็นเหมือนกะเทย ใครเห็นก็นึกว่าเป็นผู้ชายแต่งตัวเป็นผู้หญิง และกระทรวงมหาดไทยก็ไม่ยอมต่ออายุบัตรประชาชนให้ เพราะนึกว่าเป็นกะเทยปลอมตัวมา จนต้องไปสอบปากคำกับปลัดอำเภอ ต้องยื่นเอกสารจากหมอจึงผ่านมาได้ ต่อมายังไม่หมดกรรม เพราะน้องสาวได้ไปขอให้หมอผ่าตัดทำศัลยกรรมใบหน้าให้ใหม่ โดยได้ตัดชิ้นเนื้อบริเวณไหล่ด้านหลังมาใส่ที่บริเวณแก้มด้านซ้าย เพื่อให้ดูเป็นผู้หญิงขึ้น ซึ่งใช้เวลาผ่าตัดถึงแปดชั่วโมง ออกจากห้องผ่าตัดด้วยสภาพที่ยับเยิน และอีกสามเดือนก็ต้องไปผ่าด้านขวาอีกครับพี่ชายกระผม ประกอบอาชีพทำฟาร์มเลี้ยงไก่ ต่อมาเปลี่ยนจากคนเลี้ยงมาเป็นพ่อค้าคนกลาง ส่งลูกไก่ให้เกษตรกรเลี้ยง พอเลี้ยงโตพี่ชายก็ไปจับส่งโรงฆ่าไก่ หนักๆเข้าอยากได้กำไรเยอะๆ พี่ชายก็เปิดโรงฆ่าไก่เองเลย โดยเอามีดโกนเชือดคอแล้วต้มถอนขนอย่างดีส่งตลาด ฆ่าทีละเป็นร้อยตัวเกือบทุกวัน กระผมได้โทรมาห้ามก็ไร้ผล ต่อมาน้องสาวป่วยหนักจึงได้เลิก แต่เพราะอยู่วงการไก่มานานมองหาลู่ทางรวย จึงได้หันมาทำบ่อนไก่ชน โดยเริ่มเลี้ยงไก่ชนขาย จากหนึ่งตัวกลายเป็นหลายสิบตัว และดูเหมือนเป็นกรรมของพี่ชาย พอเอาไก่ไปชนทีไรชนะเกือบทุกที จนมีชื่อเสียงเพื่อนๆจึงยุให้เปิดบ่อนไก่ คุณพ่อซึ่งแต่ก่อนไม่เคยเลี้ยงไก่ชนและไม่ชอบการพนัน พอนานเข้าก็ชอบตามพี่ชาย หนักๆเข้าก็ไปซื้อใบบ่อนเปิดเป็นบ่อนไก่ที่ถูกกฎหมายซะเลย จึงได้กลายเป็นบ่อนไก่ที่สวยงามที่สุดในจังหวัดกาฬสินธุ์ ทุกวันอาทิตย์จะมีคนเอาไก่มาชนเป็นร้อยตัว มีคนมาเยอะมาก ทุกคนในบ้าน คือ คุณพ่อ คุณแม่ น้องสาว น้า และพี่สะใภ้ของกระผมก็จะมาช่วยกันขายของ ที่ขายดีคือ เหล้า เบียร์ บุหรี่ แต่ที่น่าเจ็บใจคือ คนที่ขายใบบ่อนให้พี่ชายนั้นเขากลัวบาปจึงเลิกทำบ่อนไก่ แต่จะฉีกทิ้งก็เสียดายจึงนำมาขายต่อให้พี่ชายในราคาสองแสนบาท และเสียรายปีๆละสองพันบาท กิจการทำท่าจะเจริญงอกงาม แต่โรคไข้หวัดนกได้มาช่วยไว้ก่อน จึงทำให้บ่อนโดนสั่งปิดชั่วคราวจนถึงปัจจุบันปี พ.ศ.2543 หลังจากที่น้องสาวของกระผมป่วยได้ 1 ปี หลวงปู่ซึ่งตอนนั้นท่านได้สร้างศาลาการเปรียญ กุฏิสงฆ์ เสร็จแล้ว ท่านบอกว่า ท่านสร้างทุกอย่างเสร็จหมดแล้ว ต้องไปอยู่วัดอื่นก่อนชั่วคราว ไม่เช่นนั้นท่านต้องมรณภาพ หลวงปู่จึงไปจำพรรษาที่วัดป่าแห่งหนึ่ง แต่หลวงปู่ก็มรณภาพจนได้ ด้วยโรคปอด เมื่อวันที่ 6 มกราคม พ.ศ.2544 ด้วยอาการสงบ ได้อยู่ในร่มผ้ากาสาวพัตร์ 49 พรรษาสำหรับคำถามมีดังนี้ครับ1.น้องสาวของกระผมทำกรรมอะไรมาครับ จึงได้ป่วยเรื้อรังจนถึงทุกวันนี้ ทำไมถึงมีใบหน้าเป็นลิง และต่อมาเปลี่ยนใบหน้าเป็นกะเทย และถูกผ่าตัดหน้า หมอมักตรวจไม่เจอโรคจนให้ยาผิดเกือบตายหลายครั้ง ทำบุญอะไรจึงจะหายและชาติหน้าไม่ต้องเป็นอีก2.เรื่องที่หลวงปู่บอกว่า ผีที่สระน้ำจะเอาน้องสาวของกระผมไปเป็นภรรยานั้น จริงหรือเปล่าครับ และท่านขุนเป็นใคร ช่วยน้องสาวผมด้วยวิธีการใดครับ3.ตลอดระยะเวลาที่น้องสาวกระผมป่วยมาหลายปี คุณแม่ของกระผมต้องดูแลน้องสาวมาตลอด ซึ่งเป็นงานหนักมาก คุณแม่และน้องสาวทำกรรมอะไรร่วมกันมาครับ ถึงได้ต้องคอยดูแลกันตลอด4.พี่ชายชาติก่อนทำกรรมอะไรมาครับ ทำไมชาตินี้ถึงได้ชอบเรื่องไก่ และทำอย่างไรถึงจะให้พี่ชายเลิกทำบ่อนไก่ได้ครับ5.การที่รู้ว่า เมื่อขายกิจการที่เป็นบาปอกุศลให้กับคนอื่น ทั้งๆที่ก็รู้ว่า ขายกิจการให้เขาทำต่อ เขาก็ได้บาป ผู้ขายจะได้บาปด้วยหรือเปล่า ถ้าบาป ควรทำอย่างไรครับ6.หลวงปู่มรณภาพแล้วไปไหนครับ ทำไมท่านถึงคิดว่า พอสร้างทุกอย่างเสร็จแล้วต้องไปอยู่วัดอื่นก่อน ไม่เช่นนั้นจะมรณภาพครับ7.คุณพ่อเป็นคนที่คอยดูแลคุณปู่ คุณย่ามาตลอด ตอนนี้คุณปู่คุณย่าเสียชีวิตแล้ว อยากทราบว่า คุณปู่คุณย่าตายแล้วไปไหนครับ ท่านฝากอะไรมาถึงคุณพ่อไหมครับกราบขอบพระคุณพระเดชพระคุณหลวงพ่ออย่างสูงฝันในฝันหลับตาฝันเป็นตุเป็นตะ ตื่นขึ้นมาหาว 1 ทีแล้วนำมาเล่าให้ฟังเป็นนิยายปรัมปรากัน นะจ๊ะ1.น้องสาวป่วยเรื้อรัง มาถึงปัจจุบันนี้ เพราะวจีกรรมในอดีต เรื่องมีอยู่ว่า ชาติหนึ่งได้เกิดเป็นหญิงสาวชาวบ้าน ได้ผิดหวังในความรัก จึงได้ไปบวชเป็นชี ณ วัดแห่งหนึ่ง ซึ่งมีชีอยู่เป็นจำนวนมากวันหนึ่งได้เกิดการกระทบกระทั่งกัน ด้วยความโกรธจึงได้ด่าว่ากัน โดยน้องสาวในชาตินั้น ได้ด่าแม่ชีที่ทะเลาะกัน โดยด่าท่านแรกว่า “อีลิง” ตามลักษณะของแม่ชีที่ปรากฏ และด่าว่าอีกท่านหนึ่งซึ่งมีลักษณะใบหน้าคล้ายผู้ชายร่างใหญ่ว่า “อีกะเทย” และด่าว่าแม่ชีอีกท่านหนึ่งซึ่งมีใบหน้าบวมๆว่า “อีหน้าปูด” ได้พูดกระทบอย่างนี้เสมอๆทั้งต่อหน้าและลับหลังกรรมทั้งหมดเหล่านี้ จึงทำให้ป่วยเรื้อรัง และมีใบหน้าที่เปลี่ยนไปเป็นลักษณะต่างๆ ดังกล่าว ตามที่ตัวพูดกระทบเหน็บแนม ต้องให้น้องสาวไปบวชชีสักระยะหนึ่ง แต่คราวนี้ให้รักษาศีลให้บริสุทธิ์ และอุทิศส่วนกุศลไปให้แก่คนที่เราได้เคยด่าว่าไว้ทุกคน หนักก็จะเป็นเบา และจะได้ไม่ติดข้ามชาติไป2.เรื่องที่หลวงปู่ได้บอกว่าผีที่สระน้ำจะเอาน้องสาวของลูกนั้น เป็นเรื่องจริง แต่ตอนนี้ไม่มีอะไรแล้ว ผีท่านขุน คือกายละเอียดสายวิทยาธร ซึ่งหลวงปู่ได้เชิญให้มาเข้าร่างทรงแต่กรรมนั้นเป็นหลัก ไสยเวทเป็นเรื่องเสริม เรื่องมีอยู่ว่า ในชาติที่น้องสาวได้บวชชีนั้น ก่อนหน้าที่จะบวชชีนั้น เมื่อตอนที่เธอผิดหวังในความรัก เธอได้ไปจ้างหมอไสยเวทมาทำพิธีให้ผีที่เลี้ยงไว้ ไปแกล้งผู้หญิงคนที่มาแย่งคนรักของตนไป ให้เจ็บป่วยโดยไม่มีสาเหตุแต่ภายหลังอดีตชายคนรัก และครอบครัวของฝ่ายหญิงนั้นได้หาหมอไสยเวทมารักษาได้ ด้วยวิบากกรรมนี้ ในชาตินี้จึงทำให้ผีในสระน้ำมีอารมณ์ที่คิดจะเบียดเบียนคิดจะเอาตัวไปผีท่านขุน ได้ช่วยไม่ให้ผีในสระมาเอาตัวน้องสาวไปตามหลักวิชชา เนื่องจากในชาติดังกล่าวฝ่ายหญิงนั้นแก้ไสยเวทได้ น้องสาวของลูกจึงไม่ต้องถูกเอาตัวไป3.ตลอดระยะเวลาที่น้องสาวป่วย และคุณแม่ต้องคอยดูแลตลอดทั้งๆที่ลำบากมาก แต่ท่านก็ไม่ทอดทิ้ง เพราะเคยเกื้อกูลกันมาในลักษณะต่างๆ เช่น เป็นญาติกัน บ้าง เป็นแม่-ลูกกัน บ้างและในชาติที่น้องสาวบวชชีนั้น คุณแม่ก็เป็นเพื่อน เป็นสหายชีกัน แต่ท่านก็ไม่ได้ห้ามปรามเพื่อนในชาตินั้น อีกทั้งบางครั้งยังเข้าข้างอีก ด้วยกรรมนี้ และด้วยความหน้าที่ความเป็นแม่ในชาตินี้ และด้วยเหตุที่ได้เคยเกื้อกูลกัน จึงต้องมาดูแลกัน4.พี่ชายไม่ได้เรียนมาสูงมากนัก จึงมาเลือกอาชีพนี้ เพราะเป็นทางมาแห่งรายได้อย่างง่ายๆ ตามความเข้าใจของตัวเอง คือคิดสั้นๆ วิบากกรรมในอดีต คือ พี่ชายในไม่ได้สั่งสมปัญญาบารมี ไม่ได้คบบัณฑิต นักปราชญ์ จึงทำให้ชาตินี้ขาดดวงปัญญาที่จะมองการไกล เกี่ยวกับวิบากกรรมที่จะตามมา จึงทำพี่ชายเลือกอาชีพ เลี้ยงไก่ ฆ่าไก่ และทำบ่อนไก่ หากลูกอยากให้พี่ชายเลิกบ่อนไก่ ก็ต้องทำหน้าที่กัลยาณมิตร ชี้โทษให้เห็น และชี้ทางมาแห่งสัมมาอาชีวะให้พี่ ซึ่งต้องใจเย็นๆ ค่อยๆประคับประคองกันไป5.การขายกิจการที่รู้ว่าเป็นบาปอกุศลให้แก่คนอื่น แล้วคนนั้นไปทำต่อ ผู้ขายก็บาปด้วย ดังนั้น หากอยู่ในภาวะที่รู้ว่า อาชีพหรือกิจการที่ตัวทำนั้นเป็นบาป ต้องตัดวงจรบาปเสีย โดยยอมตัดใจไม่ขายให้ใคร และทำลายทิ้งไป แต่ถ้าหากได้เคยทำไปแล้ว ก็ให้สั่งสมบุญทุกบุญให้มากๆ หนักจะได้เป็นเบา เบาก็จะหายสิ่งที่ลูกควรทำ คือ ต้องเผาใบอนุญาตบ่อนไก่ การเสียบ่อนและการเสียเงินในปัจจุบันเพียงเล็กน้อย ดีกว่าไปใช้กรรมอีกนับภพนับชาติไม่ถ้วน (เหมือนกัลยาณมิตรอรรถพร ลูกพระราชฯ ที่ตัดใจปิดโรงงานสุรา)6.หลวงปู่ได้สืบทอดความเชื่อต่อๆมาว่า เมื่อสร้างทุกอย่างเสร็จแล้ว ท่านจะต้องมรณภาพ จึงจำต้องย้ายออกไปจากวัด แต่ความจริงไม่ว่าจะย้ายหรือไม่ ก็ต้องมรณภาพด้วยกันทั้งนั้น หลวงปู่มรณภาพแล้ว ไปเป็นวิทยาธรชั้นสูง ชั้นจาตุมหาราชิกา มีวิมานทองประดับด้วยรัตนชาติ เพราะบุญสร้างวัด และความเลื่อมใสในวิชาสายวิทยาธร7.คุณปู่และคุณย่า ตายแล้วไปเป็นภุมมเทวาทั้งคู่ อยู่ในหมู่บ้านภุมมเทวาที่ไม่ไกลจากบ้านเท่าไหร่ โดยมีบ้านอยู่ใกล้กัน เพราะได้ทำกรรมที่คล้ายกันร่วมกันมา ท่านทั้งสองฝากข้อความมาว่า อยากให้ลูกหลานเลิกทำบ่อนไก่ ตายแล้วจะได้ไม่ต้องลำบากให้ลูกเป็นกัลยาณมิตรให้กับครอบครัว ให้มีความอดทนแล้วทุกอย่างจะดีขึ้นเหมือนตัวลูก ให้ลูกทำทาน รักษาศีล เจริญภาวนา และอธิษฐานจิตไปอยู่ดุสิตบุรีวงบุญพิเศษด้วยกัน
http://goo.gl/k8oox
พิมพ์บทความนี้
