ผมอยากทำทุกอย่างให้คุณ

CASE  STUDY

ผมอยากทำทุกอย่างให้คุณ

เรียบเรียง จากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา ทาง DMC

 

  

กราบแทบเท้าคุณครูไม่ใหญ่ที่เคารพอย่างยิ่ง

        ลูกเป็นผู้นำบุญอยู่ที่ประเทศเบลเยี่ยม สร้างบารมีกับหมู่คณะมาได้ประมาณหนึ่งปีแล้วค่ะ  ตลอดระยะเวลาที่ลูกได้ติดตามรายการ case study ในโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา ลูกได้เรียนรู้ธรรมะและเข้าใจกฎแห่งกรรมได้อย่างดียิ่ง โอกาสนี้ลูกขอความเมตตาคุณครูไม่ใหญ่ ฝันในฝันไขปัญหาข้อข้องใจให้แก่ลูกดังนี้ค่ะ

 

        คุณพ่อของลูกเป็นชาวจังหวัดหนองคาย เป็นคนพูดน้อย ขยันขันแข็ง เข้มงวดกวดขันกับลูกๆมาก มีอาชีพเป็นเกษตรกรและออกค้าขายตามจังหวัดใกล้เคียงบ้างเป็นครั้งคราว ท่านเป็นช่างจักสานที่มีฝีมือดีมาก จนเพื่อนบ้านมักมาจ้างให้ทำกระติ๊บข้าวเหนียว กระด้ง และอุปกรณ์หาปลาต่างๆ อยู่เสมอ ต่อมาเมื่อลูกๆโตขึ้น ท่านก็หันหน้าเข้าวัดเป็นกำลังสำคัญในการอุปัฏฐากพระและดูแลวัดใกล้บ้าน กลางปี2534 ท่านก็ล้มป่วยเป็นโรคถุงน้ำดีอักเสบ ต้องเข้ารับการผ่าตัดด่วน หลังผ่าตัดมาได้ประมาณ 5 เดือนท่านก็เสียชีวิต   ด้วยวัย  74 ปี

 

        คุณแม่ เกิดที่จังหวัดอุบลราชธานี เป็นแม่บ้าน เลี้ยงลูก ควบคู่ไปกับการทำสวน ทำไร่ ท่านเป็นคนขยันหมั่นเพียร มีฝีมือในการทอผ้าไหม เป็นคนพูดน้อยเหมือนคุณพ่อ ไม่ค่อยสุงสิงกับเพื่อนบ้าน ชอบสวดมนต์และไปทำบุญที่วัดบ่อยๆ ท่านเคร่งครัดในการเลี้ยงดูลูกๆ สอนให้พูดจาไพเราะ โดยเฉพาะลูกสาว พอต้นปี 2526 ท่านก็ล้มป่วยด้วยวัณโรคปอด อาการหนักมาก มีไข้หนักหลายวัน ร่างกายผอมลงไปเรื่อยๆทานอาหารได้เพียงเล็กน้อย อยากแต่จะหลับอย่างเดียวบนเตียงคนไข้ สภาพร่างกายทรุดลงไปเรื่อยๆ ประมาณสองเดือนก็เสียชีวิต
 

 

        ลูกเองมีพี่น้องรวมกัน 8 คนคือ พี่สาว 4 คนและน้องชาย 3 คน ลูกเป็นคนที่ 5  พออายุได้ 17 ปี ก็ถูกจับคลุมถุงชนแต่งงานกับหนุ่มพ่อค้ารับซื้อพืชผลทางการเกษตรอายุแก่กว่าลูก 5 ปี อยู่กินด้วยกันมา 9 ปี มีลูก 3 คน ชาย 1 คน หญิง 2 คน ตอนคุณแม่ป่วยเป็นวัณโรค ลูกจะไปนอนเฝ้าและดูแลท่านในโรงพยาบาล สามีก็ไม่ค่อยชอบใจเข้ามาต่อว่าต่อขานลูก เพราะเขารังเกียจเกรงว่าลูกจะติดเชื้อวัณโรค เขาพูดจาว่ากล่าว ไม่ให้ความเคารพต่อคุณพ่อคุณแม่ของลูกเลย  เราจึงทะเลาะกัน ทำให้ลูกตัดสินใจหย่าขาดจากเขา แล้วไปดูแลคุณแม่อย่างใกล้ชิดในช่วงเวลาสุดท้ายของท่าน อีก 8 วันต่อมา คุณแม่ก็เสียชีวิต  หลังงานศพของท่าน ลูกได้สมัครไปทำงานที่ประเทศสิงคโปร์ มีหน้าที่ทำอาหารและเลี้ยงเด็กในบ้านของนายจ้างคนหนึ่ง งานที่ทำหนักและเหน็ดเหนื่อยมาก เงินเดือนก็ได้น้อย ลูกทำอยู่ได้2 ปี จึงกลับมาเมืองไทย แล้วหางานทำต่อที่กรุงเทพฯ เป็นพนักงานทำผมในร้านเสริมสวยแห่งหนึ่ง ทำอยู่ประมาณ 1 ปี ก็มีคนมาชวนลูกและเพื่อนในร้าน ไปทำงานร้านอาหารที่ประเทศเบลเยี่ยม

        19 มกราคม 2529 ลูกเดินทางถึงเบลเยี่ยม พอก้าวลงจากเครื่อง บินก็เกิดเรื่องขึ้นกับลูกทันที คือ กระเป๋าเดินทางหาย เสื้อผ้าอย่างดีจำนวนหลายชุดที่ซื้อมาจากเมืองไทยรวมเป็นเงินแล้วไม่ต่ำกว่า สี่หมื่นบาทได้อันตรธานไปพร้อมกับกระเป๋าใบนั้น ลูกหดหู่ใจมากเพราะขณะนั้นเหลือแต่เสื้อผ้าติดตัวอยู่เพียงชุดเดียวเท่านั้น

        ขณะที่ลูกกำลังมึนงงสับสน หมดอาลัยในชีวิตอยู่นั้น ก็มีหนุ่มใหญ่ชาวเบลเยี่ยมคนหนึ่ง อายุราวๆ 45 ปี เดินเข้ามาหาลูก ดูท่าทางเขาเป็นคนใจดี มาถึงก็สอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้นต่างๆ พร้อมกับรับเป็นธุระติดต่อกับพนักงานของสายการบิน ตามหากระเป๋าเดินทางให้  ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมาหนุ่มใหญ่ใจดีคนนี้ ก็แวะเวียนมาหาลูกในร้านอาหารที่ลูกทำงานเดือนละครั้ง เขาบอกว่าสงสารลูก มาทีไรจึงมักจะให้ Pocket Money (พ็อกเก็ตมันนี่) ครั้งละห้าพันถึงหมื่นฟรังซ์ หนุ่มใหญ่ใจดีคนนี้แท้จริงแล้วเขาเป็นนักธุรกิจใหญ่ระดับประธานบริษัทก่อสร้างและพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของเบลเยี่ยม เขามีภรรยาและลูกสาวสองคนแต่ในช่วงที่เจอลูกนั้น เขาทะเลาะกับภรรยาอย่างรุนแรงถึงขั้นหมิ่นเหม่ต่อการจะแยกทางกัน

        สามเดือนต่อมาก็มีหนุ่มใหญ่ชาวเบลเยี่ยมอีกคนหนึ่ง อายุราวๆ 51 ปี เป็นเจ้าของบริษัทเล็กๆ แห่งหนึ่งในย่านนั้น มาทานอาหารและดื่มเหล้าที่ร้าน พร้อมทั้งแสดงความสนใจในตัวลูกออกมาอย่างเห็นได้ชัด เขาบอกว่า “กำลังมีทุกข์หนักเพราะภรรยาทิ้งไปมีสามีใหม่ แต่พอมาเจอลูกชีวิตเขาเหมือนได้เจอแสงสว่างอีกครั้ง” เขาจะมาที่ร้านสัปดาห์ละสองครั้งเพื่อจะได้เจอลูก พอคบกันมาระยะหนึ่งเขาก็ขอลูกแต่งงาน ลูกเองก็เห็นว่าเขามีความจริงใจต่อลูกและพอจะเป็นผู้นำครอบครัวที่ดีได้ ก็เลยคิดว่าจะแต่งงานกับเขา อีกทั้งลูกและเพื่อนหญิงที่ทำงานด้วยกัน ก็อยากจะหนีออกมาจากร้านอาหารที่ทำอยู่ขณะนั้นเต็มที จึงขอให้หนุ่มใหญ่ชาวเบลเยี่ยมคนนี้ช่วย แล้วเขาก็ช่วยจัดการให้สำเร็จได้จริงๆ เพราะถ้าไม่อย่างงั้นแล้วลูกและเพื่อน จะต้องทนทำงานที่หนักเกินไป อีกนานกว่าจะหมดสัญญาจ้าง 

        ส่วนหนุ่มใหญ่ใจดีคนแรก เขาก็มาหาลูกที่ร้านอาหารเดือนละครั้งตามปกติ พอทราบว่าลูกหนีออกจากร้านไปแล้ว ก็พยายามสืบ เสาะแสวงหาจนพบลูก ซึ่งเช่าอพาร์ตเม้นท์อยู่กับเพื่อนอีกเมืองหนึ่ง พอสองเราเจอกัน ลูกก็บอกกับเขาว่า “ได้เจอคนที่คิดว่าจะแต่งงานด้วยแล้ว”

 

        ทันทีที่ลูกพูดจบสิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น คือ เขาคุกเข่าลงกราบลูกและกอดขาลูกไว้ พร้อมกับร้องไห้คร่ำครวญพร่ำบอกกับลูกว่า “ I  Love You ๆ”  ผมรักคุณมากๆ  อย่าให้ผมต้องสูญเสียคุณไปเลย ผมขอช่วยคุณอีกสักครั้ง คุณต้องการอะไร คุณอยากกลับเมืองไทยไม่ใช่หรือ คุณมีลูกเล็กๆ และพ่อแก่ๆ คอยอยู่ที่นั่น” ให้ผมช่วยเถอะ...ผมอยากช่วยเหลือคุณ...ผมอยากทำทุกอย่างให้คุณ ลูกนิ่งฟังเขา คิดในใจว่าผู้ชายคนนี้เข้าใจความต้องการของเรา ลูกอยากกลับเมืองไทยมากจริงๆ แต่ยังกลับไม่ได้เพราะยังเก็บเงินได้ไม่มากพออย่างที่ตั้งใจไว้ เขาถามลูกว่า “ต้องการเงินเท่าไหร่จึงจะกลับเมืองไทยได้” ลูกตอบไปอย่างไม่มั่นใจว่า “ซักหนึ่งล้าน” เขามีสีหน้าเต็มไปด้วยความหวังพร้อมถามลูกว่า “ถ้าได้เงินหนึ่งล้านแล้วจะเอาไปทำอะไรบ้าง”

 

        ลูกตอบว่า “เอาไปปลูกบ้านแล้วเปิดร้านขายของ” เขาควักเงินออกมาสองปึกใหญ่ ปึกละ 5 แสนฟรังซ์ วางใส่มือลูกทันที ซ้ำยังจัดแจงจองตั๋วเครื่องบินเที่ยวเร่งด่วนที่สุด เท่าที่จะหาได้ให้กับลูก อีกสามวันต่อมาเขาก็ส่งลูกกลับเมืองไทย โดยที่เขาก็ไม่ได้เรียกร้องหรือมีข้อผูกมัดใดๆในตัวลูกเลย นอกจากคำพูดที่ว่า “สักวันหนึ่งหากผมมีอิสระแล้วผมจะไปพบคุณ”

         ขณะบินอยู่เหนือน่านฟ้ายุโรป ลูกเองรู้สึกมึนงงสับสนกับเรื่อง ราวที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันในชีวิต ลูกไม่รู้จะอธิบายให้หนุ่มใหญ่ที่มาขอลูกแต่งงานได้อย่างไร เขาจึงจะเข้าใจและไม่เสียใจ ลูกจึงตัดใจจากมาโดยไม่ได้กล่าวคำอำลาใดๆทั้งสิ้น ความจริงลูกเองก็ไม่ได้อยากแต่งงาน เพียงแต่อยากจะสร้างหลักฐานของตนเอง และอยู่ท่ามกลางญาติพี่น้องที่เมืองไทยมากกว่า

        หลังกลับเมืองไทยแล้ว ลูกก็ซื้อที่ดินและปลูกบ้านเสร็จเรียบ ร้อยภายในต้นปี 2530 แล้วหันมาทำธุรกิจซื้อขายที่ดิน จนเป็นที่รู้จักกันแพร่หลายในท้องถิ่นนั้น เดือนสิงหาคม ปีเดียวกัน หนุ่มใหญ่ใจดีคนสำคัญของลูก ก็เดินทางมาเยี่ยมที่เมืองไทยเป็นครั้งแรก เพื่อมาดูความเป็นอยู่ของลูก เขาอยู่ได้หนึ่งสัปดาห์ก็กลับ ปีถัดมาเขาได้ขยายกิจการบริษัทไปลงทุนที่สหรัฐอเมริกา พร้อมกับให้เลขาของเขาดำเนินการรับรองวีซ่าและจองตั๋วให้ลูกไปอเมริกาด้วย ลูกไปเที่ยวอเมริกาเป็นเวลาเดือนเศษกับเขา แต่เราก็ยังคงไม่มีพันธะสัญญา ว่าจะแต่งงานกันแต่อย่างใด เพราะเขายังไม่ได้หย่าขาดกับภรรยาอย่างถูกต้องตามกฎหมาย

 

        ต่อมาในปี2532 เขาได้หย่าขาดจากภรรยาเรียบร้อย  แล้วพาลูกไปเที่ยวอเมริกาอีกครั้ง หลังกลับจากอเมริกา เขาก็พาลูกนั่งรถไปดูคฤหาสน์หลังใหญ่ ซึ่งตั้งอยู่บนพื้นที่ขนาด 24 ไร่ ในย่านที่ไม่ห่างไกลจากเมืองหลวงของประเทศเบลเยี่ยม ขณะเดินชมคฤหาสน์เขาก็เปรยๆ กับลูกว่า “บ้านหลังใหญ่ขนาดนี้ ผมไม่ได้สร้างไว้เพื่ออยู่คนเดียวหรอกนะ”

 
        ปี 2535 เขาก็บินมาจดทะเบียนสมรสกับลูกที่เมืองไทยแล้วพาลูกกลับไปอยู่คฤหาสน์หลังนั้น ลูกเองจะกลับมาเยี่ยมลูกทั้ง 3 คนที่เมืองไทยปีละสองครั้ง ในปี2536 ลูกก็บินกลับมาคลอดลูกสาวที่โรงพยาบาลจังหวัดอุดรธานี เมื่อลูกสาวแข็งแรงดีแล้วก็บินกลับ เบลเยี่ยม ปลายปีเดียวกันนั้นสามีของลูกก็ล้มป่วยด้วยโรคเส้นเลือดในหัวใจตีบ ต้องเข้ารับการผ่าตัด และในปีนั้นเองคฤหาสน์ของเราก็ถูกปล้นต้องสูญเสียเงินในตู้เซฟไปสิบสามล้านบาท ช่วงนั้นดูเหมือน ว่าเหตุการณ์ร้ายๆ จะประดังถาโถมเข้ามาอย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็นสุขภาพที่ทรุดหนักของสามี วิกฤตเศรษฐกิจที่ส่งผลให้บริษัทต้องขาดทุนและเป็นหนี้สามีจึงตัดสินใจปล่อยงานให้ผู้บริหารระดับรองจากเขาเข้ามาบริหารกิจการแทน ส่วนตัวเขาได้ขายสมบัติที่สะสมไว้นำมาใช้หนี้ทางธุรกิจ แล้วปลีกตัวมาอยู่ที่เมืองไทยกับลูกอย่างเงียบๆ สุขภาพของเขาไม่แข็งแรงเลย ในที่สุดก็มาเสียชีวิต เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2540   ข้างๆลูกและลูกสาวของเขา

        ประมาณปี 2546  พอลูกสาวอายุได้10 ขวบ ลูกจึงทำเรื่องขอไปอยู่ที่ประเทศเบลเยี่ยม มาซื้อบ้านธรรมดาๆหลังหนึ่งอยู่กับลูกสาวสองคน การเดินทางกลับมาอยู่ที่เบลเยี่ยมครั้งนี้ ทำให้ลูกได้มารู้จักหมู่คณะที่วัดพุทธแอนท์เวิร์ป เมื่อปลายปี 2547 ได้มาร่วมสร้างบารมีอย่างเต็มกำลัง ทำบุญใหญ่ทุกบุญที่คุณครูไม่ใหญ่แนะนำให้ทำ ได้มาร่วมงานบุญกฐินที่วัดพระธรรมกายในปี 2548 นี้ด้วย  อีกทั้งได้ทำบุญจักรแก้ว บุญเสาแก้วหนึ่งต้น สร้างพระธรรมกายประจำตัวทั้งของตัวเองและครอบครัว และถวายหลวงปู่ หลวงพ่อ คุณยาย รวมแล้ว 68 องค์ค่ะ

        ปัจจุบันลูกและลูกสาวคนเล็กได้ตั้งจิตปรารถนาจะสร้างบารมีติดตามพระเดชพระคุณหลวงปู่ หลวงพ่อ คุณยาย ไปทุกภพทุกชาติ จนกว่าจะถึงที่สุดแห่งธรรม เจ้าค่ะ

คำถาม

1.    บุพกรรมใดคุณพ่อ จึงป่วยเป็นโรคถุงน้ำดีอักเสบ ขณะนี้ท่านอยู่ภพภูมิใด ได้รับบุญที่ลูกอุทิศไปให้หรือไม่อย่างไรค่ะ

2.    บุพกรรมใดคุณแม่ จึงป่วยเป็นโรควัณโรค ขณะนี้ท่านอยู่ภพภูมิใด มีความเป็นอยู่อย่างไร ได้รับบุญที่ลูกอุทิศให้หรือไม่

3.    ลูกมีวิบากกรรมใดจึงต้องถูกคลุมถุงชนแต่งงาน และต้องหย่าขาดกับสามีคนแรก ด้วยสาเหตุที่เขาไม่ให้ความเคารพต่อคุณพ่อคุณแม่ของลูก    ไม่ใช่เพราะการนอกใจ  อย่างนี้จะเป็นเพราะกรรมกาเมฯของลูกหรือเปล่าคะ

4.    ตอนแรกลูกคิดจะแต่งงานกับชายชาวเบลเยี่ยมอีกคน ซึ่งฐานะไม่ได้ร่ำรวยแต่เพราะบุพกรรมใดที่ทำให้ลูกกลับมาได้สามีฐานะดีคนนี้ แบบไม่เคยคิดมาก่อน    เป็นเพราะลูกและสามีคนนี้มีกรรมใดมาลิขิตชีวิตให้คู่กันไว้หรือเปล่าคะ

5.    สามีของลูกคนปัจจุบันเขาสร้างบุพกรรมอะไรไว้จึงมีฐานะร่ำรวย,  แต่ต่อมาต้องถูกปล้นคฤหาสน์ในช่วงกำลังป่วย, และต้องสูญเสียธุรกิจจนต้องขายสมบัตินำมาใช้หนี้, ทำไมกรรมจึงส่งผลในเวลาใกล้เคียงกับการเสียชีวิตของเขา 

6.    บุพกรรมใดสามีของลูกจึงมาป่วยหนักด้วยโรคเส้นเลือดในหัวใจตีบจน ต้องผ่าตัด   สามีตายแล้วไปไหน  คตินิมิตก่อนตายเป็นอย่างไร   เขารู้สึกอย่างไรกับลูกและลูกสาวที่อยู่ข้างๆเขาจนกระทั่งเขาสิ้นใจ   เขาได้รับบุญที่อุทิศไปให้หรือไม่ค่ะ

7.    ลูกมีบุญอะไรจึงได้เงิน 1 ล้าน จากสามีคนปัจจุบันอย่างง่ายๆ  เพื่อกลับมาเมืองไทย

8.    กรรมใดทำให้กระเป๋าเดินทางของลูกหายไป    แต่ในโชคร้ายก็มีโชคดีคือได้พบกับสามีคนปัจจุบันที่มาช่วยเหลือ    เป็นเพราะบุญกรรมอะไรส่งผลให้ร้ายและดีเกิดขึ้นในเหตุการณ์เดียวกันคะ

9.    ลูกตั้งใจจะช่วยงานของหมู่คณะที่ประเทศเบลเยี่ยมอย่างเต็มที่แต่ยังมีปัญหาเรื่องกฎหมายอยู่บ้าง ยังไม่สามารถมาอยู่เบลเยี่ยมได้อย่างถาวร ลูกควรทำอย่างไร เจ้าคะ

10.    สามีชาวเบลเยี่ยม ตัวลูกและลูกสาวคนเล็ก เคยสร้างบารมีกับหมู่คณะมาอย่างไร   ในชาติของพระราชาที่ออกบวชเมื่อพุทธันดรที่ผ่านมา เราทั้งสามคนอยู่ในหมู่คณะหรือไม่ อย่างไรคะ

 

ฝันในฝัน

หลับตาฝันเป็นตุเป็นตะ  ตื่นขึ้นมา หาว 1 ที 

แล้วก็นำมาเล่าให้ฟังเป็นนิยายปรัมปรากันนะจ๊ะ

1.    คุณพ่อป่วยเป็น “โรคถุงน้ำดีอักเสบ”   เพราะ.....กรรมที่ทำปาณาติบาตที่ฆ่าสัตว์ไว้ขาย  ,  ฆ่าทำอาหาร    และเวลาโกรธมักไม่ชอบให้อภัยใคร  คือ โกรธแล้วโกรธเลย   ทั้งอดีตและปัจจุบันมาส่งผลจ่ะ !

 

 

• ตายแล้ว   ก็ไปเป็น “ภุมมเทวาชั้นดี”   มีบ้านที่อยู่อาศัย , อาหารทิพย์  ,  เสื้อผ้า    อาศัยอยู่ในหมู่บ้านภุมมเทวาแห่งหนึ่ง   ด้วยบุญที่ทำไว้ในพระพุทธศาสนาจ่ะ !    
  
• ได้รับบุญที่อุทิศไปให้แล้วก็ยิ่งทำให้ท่านมีสภาพที่ดีขึ้นในทุกด้าน

2.    คุณแม่ป่วยเป็น “วัณโรค”   เพราะ.....กรรมในอดีตและปัจจุบันที่เวลาเลี้ยงสัตว์ไว้ในคอก   ก็มักจะขังมันไว้ในคอกที่ไม่สะอาด   จนมันรู้สึกทรมาน  ,  รวมกับกรรมฆ่าสัตว์ทำอาหาร      อีกทั้งใช้แรงงานสัตว์มากเกินไป  ,  วิบากกรรมนี้มาส่งผลจ่ะ !

 

 

• ตายแล้ว   ก็ไปเป็น “ภุมมเทวาชั้นดี” อยู่ในหมู่บ้านภุมมเทวาเดียวกันกับพ่อ   มีบ้านคนละหลังใกล้กันจ่ะ !     
  
• ด้วยบุญที่ทำไว้ในพระพุทธศาสนาเหมือนพ่อ  ,  ได้รับบุญที่อุทิศไปให้แล้ว   ก็ยิ่งมีทิพยสมบัติเพิ่มขึ้นจ่ะ !
  

  

3.    ลูกต้องถูก “คลุมถุงชน” แต่งงาน     และต้องหย่าขาดจากสามีคนแรก   ด้วยสาเหตุที่เขาไม่เคารพคุณพ่อ,คุณแม่ของตัวลูก   ไม่ใช่เพราะการนอกใจ   ก็ไม่ใช่เกิดจากกรรมกาเมของลูกโดยตรง , แต่เป็นเพราะคุณธรรมของลูกและสามีไม่เสมอกันในปัจจุบันจ่ะ !

 

• ลูกถูก “คลุมถุงชน” แต่งงานในชาตินี้   ก็เป็นภาพในอดีตของลูกที่เคยคลุมถุงชนลูกหลานในสมัยที่เกิดในสังคมเกษตรกรรมจ่ะ !

  

4.    ตอนแรกลูกคิดจะแต่งงานกับชาวเบลเยี่ยมคนหนึ่ง     แต่ฐานะไม่ดี  ,  ต่อมากลับมาแต่งงานกับชาวเบลเยี่ยมอีกคน   ซึ่งมีฐานะดี  แบบไม่เคยคิดมาก่อน   เพราะ....ในอดีตลูกเคยสร้างบุญร่วมกันกับสามีคนปัจจุบันที่มีฐานะดี  ,  บุญนี้จึงบันดาลให้ลูกได้มาอยู่ร่วมกันอีกในปัจจุบันนี้จ่ะ !     แต่กับคนแรกที่ลูกคิดจะแต่งงานด้วย  ,  แต่ไม่ได้แต่ง   เพราะไม่ได้สร้างบุญร่วมกันจ่ะ !

  

5.    สามีคนปัจจุบันของลูกมีฐานะร่ำรวย     แต่ต่อมาถูกปล้นคฤหาสน์ในช่วงกำลังป่วย  ,  และต้องสูญเสียธุรกิจ   จนต้องขายสมบัตินำมาใช้หนี้   เพราะ....ในอดีตเคยทำบุญใหญ่และมีความปลื้มปีติยินดีทั้งก่อนทำและกำลังทำ  ,  บุญนี้จึงส่งผลให้ร่ำรวย    

• แต่ต่อมาเสียดายในภายหลัง   แถมยังไปขอคืนบางส่วนมา  ,  วิบากกรรมนี้จึงทำให้สูญเสียธุรกิจ   จนต้องขายสมบัตินำมาใช้หนี้ในภายหลังจ่ะ !

• กรรมมาส่งผลตอนใกล้เสียชีวิต   เพราะ....ความเสียดายในการทำบุญไปแล้วในภายหลัง  มาส่งผลในช่วงท้ายของชีวิต   ซึ่งใกล้ที่จะหมดอายุขัย  ,  กับการทำธุรกิจที่บางอย่างซิกแซ๊กไม่ตรงไปตรงมา ,  มารวมส่งผลในช่วงท้ายชีวิตด้วยจ่ะ !

  

6.    สามีป่วยด้วยโรค “เส้นเลือดในหัวใจตีบ” ต้องผ่าตัด เพราะ....ในอดีตเคยเป็นนายช่างใหญ่คุมการก่อสร้างเมือง  ,     หลายครั้งก็ต้องเร่งการก่อสร้าง   จึงจำเป็นต้องเร่งแรงงานทาสจนเกินไป   ทำให้คนเหล่านั้นเหนื่อยมาก     วิบากกรรมเหล่านี้มารวมส่งผลจ่ะ !

 

 

• ก่อนตาย   ก็รู้สึกเป็นห่วงผูกพันกับลูกและลูกสาว     รวมทั้งเสียดายทรัพย์สินที่สูญเสียไปในช่วงท้ายของชีวิต     จึงทำให้ใจของเขาไม่หมองไม่ใส

• ตายแล้ว   ก็เป็นภุมมเทวาวนเวียนอยู่ที่คฤหาสน์หลังเก่าของเขาและแวะวนเวียนมาหาตัวลูกและลูกสาวจ่ะ !    
  
• ได้รับบุญที่อุทิศไปให้แล้ว   ก็ทำให้กายละเอียดสว่างไสวขึ้น  ,  ดีขึ้นกว่าเดิมจ่ะ !  ให้ลูกทำบุญอุทิศไปให้อีกบ่อย ๆ   ก็จะทำให้ต่อไปเขาก็จะไปอยู่ในภพภูมิที่สูงขึ้นจ่ะ !

  

7.    ลูกได้เงิน “1 ล้าน” จากสามีคนปัจจุบันอย่างง่าย ๆ   เพื่อกลับเมืองไทย   เพราะ....เป็นผลบุญเก่าที่เคยทำทานไว้ในอดีตมาส่งผลจ่ะ !     โดยตัดใจทำบุญอย่างง่าย ๆ  ,  เมื่อบุญส่งผลก็จะได้ทรัพย์อย่างง่าย ๆ จ่ะ !

  

8.    กระเป๋าเดินทางของลูกหายไป   เพราะ.....กรรมในอดีตลูกเกิดในฐานะยากจน   แต่อยากจะทำทานกับพระ     จึงได้ไปขโมยผลไม้  คือ  มะม่วงจากในสวนคนอื่น     โดยไปแอบสอยมาทำบุญ   วิบากกรรมนี้มาส่งผลจ่ะ !

 

• โชคร้ายกลับมาเป็นโชคดี   เพราะได้เจอกับสามีคนปัจจุบันที่มาช่วยเหลือ   เพราะ....บุญที่เอาผลไม้ดังกล่าวไปทำทานถวายพระได้ช่องไปเชื่อมกับบุญที่เคยทำกับสามีในอดีตชาติ     จึงดึงดูดให้มาเจอกันและได้รับความช่วยเหลือ     ในที่สุดก็ได้แต่งงานกันจ่ะ !

  

9.    ลูกตั้งใจจะช่วยหมู่คณะที่เบลเยี่ยมอย่างเต็มที่  ,  แต่ในตอนนี้ยังไม่สะดวก     ก็ให้ลูกทำเท่าที่จะทำได้ไปก่อนจ่ะ  !   แล้วก็หมั่นระลึกนึกถึงบุญที่ทำมาทุกบุญ   ให้บันดาลให้ลูกได้ทำงานพระศาสนานี้ให้ได้สะดวกสบาย   และสำเร็จเป็นอัศจรรย์จ่ะ !ให้นึกทุกวัน

10.    สามีชาวเบลเยี่ยม  ,  ตัวลูก  ,  และลูกสาวคนเล็ก   ก็เคยสร้างบารมีกับหมู่คณะมาแบบ “กองเสบียง”  ,  โดยเมื่อพุทธันดรที่ผ่านมา   ลูกกับลูกสาวก็ได้มาสร้างบารมีกับหมู่คณะ  ,  แต่พุทธันดรที่แล้วสามีไม่ได้มาเจอหมู่คณะ     แต่พุทธันดรที่ผ่าน ๆ มาหลายพุทธันดร   ก็เคยมาสร้างบารมีกับหมู่คณะแบบกองเสบียงอย่างเต็มที่

 

      

• แต่ต่อมาไปคบคนพาล   ได้ไปฟังคำยุยง   แล้วก็หลุดออกไป, มาชาตินี้มาเกิดในยุคเดียวกับที่หมู่คณะมาสร้างบารมี     ก็เลยไม่เจอกันจ่ะ !

 

• ชาตินี้มาเจอกันแล้ว     ก็ให้ตั้งใจสร้างบุญทุกบุญให้เต็มที่      แล้วอธิษฐานจิต     ตามติดไปดุสิตบุรีวงบุญพิเศษเขตบรมโพธิสัตว์อย่าได้พลัดกันเลยจ่ะ !

 

http://goo.gl/XaiFI