มอเตอร์ไซด์ไต่ถัง

CASE  STUDY

มอเตอร์ไซด์ไต่ถัง

เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา ทาง DMC

 

 

กราบแทบเท้าพระเดชพระคุณหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง

    ลูกเข้าวัดเมื่อปี พ.ศ.2537 รู้สึกประทับใจในระเบียบวินัยของวัด และการเทศน์และการสอนก็ทันสมัย เข้าใจง่าย สิ่งที่ค้างคาใจมานานก็ได้เข้าใจอย่างแท้จริง  โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีจานดาวธรรม มีคุณครูไม่ใหญ่มาให้ความรู้ พร้อมกับความสนุกสนานไปด้วย ทำให้ลูกติดใจ  โดยเฉพาะอย่างยิ่งฝันในฝันเป็นรายการที่ลูกชอบมาก ๆๆ เลยค่ะ  เพราะคลายความสงสัยหลายๆ อย่างในชีวิตได้  ลูกกราบขอความเมตตาคุณครูไม่ใหญ่ตอบข้อสงสัยในชีวิตของลูกด้วยเจ้าค่ะ

    ปู่ของลูก เคยเล่นการพนันถั่ว (เล่นเอาเงิน) และเสพฝิ่น ทำอยู่ระยะหนึ่ง แต่นานเท่าไรลูกก็ไม่ทราบ ภายหลังที่เลิกสิ่งเหล่านี้ได้ประมาณ 20 ปี  ปู่ก็เสียชีวิตด้วยโรคชรา  ก่อนเสียชีวิต  5 - 6 ปี    ปู่  ตาบอดทั้ง 2 ข้าง

 

    คุณพ่อของลูก หาเลี้ยงชีวิตด้วยการขับสามล้อเลี้ยงครอบครัว   จนกระทั่งวันหนึ่ง คุณอาของพ่อที่อยู่ชลบุรี ก็ชวนให้พ่อไปทำงานขับรถไต่ถัง  โดยใช้รถมอเตอร์ไซค์วิ่งไต่อยู่ในถังขนาดใหญ่  คนดูจะรู้สึกหวาดเสียว และทึ่งในความสามารถของคนขี่รถมอเตอร์ไซค์  คุณพ่อและคุณอาของพ่อได้ทำเป็นเจ้าแรกของประเทศไทย  มีคนมาเข้าคิวดูจนล้นหลาม เงินที่ได้จากการเก็บค่าดู ในแต่ละครั้งอัดแน่นเป็นกระสอบๆ แม้จะมีรายได้ดี แต่คุณพ่อก็ได้ค่าตอบแทนในการขี่มอเตอร์ไซค์ด้วยความหวาดเสียว เพียงเดือนละ 600 บาท   

ต่อมาเริ่มมีคนเลียนแบบ มีคู่แข่งเกิดขึ้น พ่อจึงแนะนำอาของพ่อว่าให้ทำถังขาย อาของพ่อก็ได้ให้สัญญากับพ่อว่า ถ้าทำถังขายได้ จะแบ่งเงินให้พ่อหนึ่งหมื่นบาท แต่อาก็ไม่ทำตามสัญญา คุณพ่อไม่พอใจ เลยแยกตัวออกมา

มีอยู่ครั้งหนึ่งคุณพ่อประสบอุบัติเหตุ ขณะที่กำลังขับรถมอเตอร์ไซค์ไต่ถังอยู่นั้น  รถได้พลัดตกจากถังลงมา ทำให้ทั้งรถทั้งคน ก้นกบกระแทกกับพื้น มีผลให้กระดูกสันหลังทรุด  จากนั้นมาพ่อก็มีอาการปวดที่ก้นกบ เวลาปวดต้องไปให้หมอทำกายภาพบำบัดโดยการดึงหลัง เคยผ่าตัดดามเหล็ก 1 ครั้ง อาการก็ดีขึ้นบ้างแต่ไม่หาย  ได้แต่ปวดๆหายๆมาจนถึงปัจจุบัน

    คุณแม่ของลูก  ขณะอายุ 68  ปี  ได้ป่วยเป็นอัมพาต แขน - ขาไม่มีแรง  ขยับไม่ได้ เป็นอยู่ 1 ปี  ไปหาหมอโรงพยาบาลแรก หมอบอกว่า เป็นเส้นโลหิตตีบ แต่รักษาไม่หาย พอปี 2546 ลูกได้ชวนให้แม่ทำบุญหล่อหลวงปู่ทองคำ แม่ได้ตัดใจนำเข็มขัดนากที่มีอยู่ ให้ลูกไปขาย ได้เงินมา 12,000 บาท ลูกก็ได้นำเงินนั้นมาทำบุญให้แม่ หลังจากนั้น 8 เดือน   ก็เปลี่ยนไปหาหมออีกโรงพยาบาลหนึ่ง  หมอก็ตรวจพบว่า แม่ป่วยเป็นเส้นเลือดอุดตันที่สมองซีกขวา หมอได้ทำการรักษาให้ ไม่นานแม่ก็หาย เดินได้เป็นปกติ แต่ปัจจุบัน แม่ไม่ยอมมาวัด หันไปเล่นไพ่ สูบบุหรี่ เวลาลูกถามว่าทำไมไม่มาวัด แม่ก็ทำท่าไม่พอใจและทำตาแดงๆ ปัจจุบันนี้แม่เริ่มมีอาการแขน - ขาไม่มีแรง เหมือนที่เคยเป็นครั้งแรก

    ตัวลูกเอง  เมื่อจบชั้น ม.ศ.5 แล้ว พ่อไม่มีเงินส่งให้เรียน แต่ลูกนั้นใฝ่ฝันอยากเรียนต่อมาก ลูกจึงดิ้นรนทำงานหาเงินเรียนเอง    ระหว่างที่เรียนอยู่ ม.รามฯ  ลูกได้มีโอกาสมาวัดพระธรรมกายกับชมรมพุทธในมหาวิทยาลัย เรียนจบลูกก็ได้แต่งงาน สามีเป็นอาจารย์สอนอยู่ในมหาวิทยาลัยรามคำแหง  มีลูกสาวด้วยกัน 3 คน 

    ลูกสาวคนโตของลูก คลอดยากมาก ต้องใช้คีมดึงออก เมื่อเขาอายุได้  2 - 3 ขวบ วันหนึ่งลูกได้พาเขาไปเที่ยวพัทยา ขณะกลับที่พัก ได้เดินผ่านศาลแห่งหนึ่ง พอกลับมาถึงที่พัก เขาก็เกิดอาการป่วยกะทันหัน และป่วยเรื้อรังมาตลอด หมอบอกว่าเป็นปอดบวม ถูกเคาะปอด ฉีดยา ให้น้ำเกลือ  เข้า - ออกโรงพยาบาลเป็นว่าเล่น  แต่ก็ไม่หาย  จนกระทั่งได้พาไปหาหมอทรงเจ้าท่านหนึ่ง เมื่อเขาเห็นหน้าลูกสาว ก็เป่าพรวดลงที่ตัวลูกสาว ลูกสาวก็ร้องไห้สะอึกสะอื้นเหมือนผู้ใหญ่ หมอทรงเจ้าบอกว่า  “มีแม่ย่านางจะเอาไปอยู่ด้วย ตอนนี้เขาจัดการให้เรียบร้อยแล้ว ต่อไปก็ไม่เป็นอะไรแล้ว”  จากนั้นลูกสาวก็หายป่วย และไม่นานลูกก็ได้พามากราบคุณยาย คุณยายก็ลูบที่ศีรษะพูดกับลูกสาวของลูกว่า  “มาเป็นลูกยายนะ”  ลูกสาวของลูกก็แข็งแรงมาจนปัจจุบัน

 

    เมื่อครั้งที่ลูกตั้งท้อง ลูกสาวคนที่ 3 พอครบกำหนดคลอด  สามีก็บอกว่า ผ่าออกดีกว่า สบายกว่า ลูกจึงตกลงผ่า แต่หลังผ่าแล้วก็ไม่ได้สบายอย่างที่คิดคือ ลูกได้เป็นตะคริวในท้องและที่ขา อยู่เป็นประจำ หลังก็แข็ง เวลาเดินต้องเดินตัวตรง เอี้ยวตัวไม่ได้เลย เป็นมาตลอด 7 ปีเต็ม   แต่ละครั้งต้องหาหมอนวดโกยมดลูกขึ้นจึงจะหาย  ปัจจุบันยังมีอาการอยู่บ้าง แต่น้อยลง

    ส่วนลูกสาวคนที่ 3 เมื่ออายุได้ 2 ขวบ ก็เริ่มเดินขาเป๋เข้าหากัน เพราะเส้นที่ขายึด ไปรักษาที่โรงพยาบาล หมอให้ตัดรองเท้าสำหรับคนพิการต้องไปตัดปีละครั้งทุกปี  และการที่ขาเป๋ทำให้นั่งขัดสมาธิไม่ค่อยได้ ขาจะตึง  แต่เวลานั่งสมาธิ จะนั่งคุกเข่าท่าเทพธิดาแทน แต่เขาก็นั่งสมาธิดีเจ้าค่ะ    ปัจจุบันอายุ 8 ปี    ขาดีขึ้น 90% ค่ะ

แต่ตอนที่มีลูกคนที่ 3  ลูกก็มีโชคดี คือ ตอนนั้นทางการไฟฟ้าได้มาขอติดตั้งเสาไฟฟ้าแรงสูงผ่านที่ดินของลูก เขาได้ชดเชยให้เป็นเงิน 2 ล้านบาท โดยที่ที่ดินผืนนั้นก็ยังคงเป็นของลูกอยู่  ทำให้สามีของลูกเกิดศรัทธาเชื่อมั่นในบุญ และได้มาวัดตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เงินที่ได้ ลูกได้นำมาทำบุญเป็นประธานรอง 1 ล้านบาท ในปีนั้นด้วย
ต่อมาปี 2546 เพื่อนของสามีลูก ถูกคดีความ สามีลูกได้ให้ความช่วยเหลือ โดยนำที่ดินแปลงนั้นมาค้ำประกันเพื่อน เพื่อนของเขาก็หลุดคดีในเวลาต่อมา แล้วเพื่อนคนนั้นก็ได้มาขอซื้อที่ดินแปลงดังกล่าวในราคา 600,000 บาท สามีก็ตกลงขาย ได้โอนที่ดินให้เขาไป โดยไม่ได้ทำสัญญา คิดว่าคงไม่มีปัญหาอะไร เพื่อนคนนั้นก็สัญญาว่า จะนำเงินทั้งหมดมาให้ ในอีก 8 เดือนข้างหน้า แต่จนปัจจุบันนี้ เขาก็ไม่ได้นำเงินมาให้เลยสักบาท

ถัดมาอีก 1 ปี  ในปี 2547 มีเพื่อนของลูกคนหนึ่ง มาบอกขายบ้านในราคา 2 ล้านบาท โดยเธอให้เหตุผลว่า อยากจะได้เงิน 1 ล้านไปทำบุญที่วัดพระธรรมกาย  ลูกและสามีก็ตกลงช่วย เพราะอยากได้บุญกับเธอ ลูกได้นำบ้านของเธอเข้าธนาคาร แล้วโอนเป็นชื่อลูกในฐานะผู้ซื้อ แล้วกู้เงินมา 2 ล้านบาท เงิน 1 ล้านบาท เขาก็ได้ทำบุญเข้าวัดไปเรียบร้อยแล้ว ส่วนเงินอีก 1 ล้าน ลูกก็ได้นำมาชำระหนี้ที่เพื่อนคนนี้เป็นอยู่ จนเขาหมดหนี้ แต่หลังจากนั้นลูกเจอคำพูดและปัญหาจากเขาหลายอย่าง ความปลื้มที่ช่วยเขาปลดหนี้ให้เขาและได้ทำบุญไปด้วยก็หายไปหมด

ปัจจุบันลูกมีอาชีพรับจ้างทำบัญชีให้กับบริษัทต่างๆ   ซึ่งใน แต่ละปี ทุกบริษัทจะต้องมีการแต่งงบ เพื่อให้เสียภาษีน้อยลง (คอรัปชั่นหลวง) งานนี้เป็นงานอิสระและรายได้ดี ลูกทำงานนี้มา 30 กว่าปีแล้ว เชี่ยวชาญในการทำบัญชีมาก แต่ลูกเรียนจบเศรษฐศาสตร์  ไม่ได้จบบัญชี    เมื่อปี 2543 ได้มี พระราชบัญญัติออกมาว่า ผู้ที่ไม่จบบัญชี จะไม่สามารถทำบัญชีได้ และกฎหมายนี้จะมีกำหนดใช้ในปี 2550 ก็เป็นอันว่าลูกคงจะต้องเลิกอาชีพนี้ไปโดยปริยาย...แม้จะเจออุปสรรคและปัญหาหลายอย่างแต่ลูกก็ขอยิ้มสู้ค่ะ

เมื่อครั้งปี 2542 ที่ทางวัดได้ถูกโจมตีอย่างหนัก ลูกได้ทำหน้าที่ปกป้องพระพุทธศาสนาโดยอาสาทำหน้าที่พาคนมาวัด โดยได้รับความช่วยเหลือจากเจ้าคณะอำเภอรูปหนึ่ง ที่จังหวัดกาญจนบุรี ท่านเป็นพระเถระที่มีนิสัยดีเป็นกันเองไม่ถือตัว ท่านมีความจริงจัง จริงใจ และจริงแท้เที่ยงตรง เมื่อทางวัดพระธรรมกายมีเรื่องอะไรท่านก็จะให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ โดยมีท่านพระครูอีกรูปหนึ่งซึ่งเป็นเจ้าอาวาส ทำหน้าที่ประสานงานระหว่างผู้นำบุญกับสาธุชน

เมื่อทางวัดแจ้งไปท่านเจ้าคณะอำเภอไม่เคยปฏิเสธเลย ท่านเคยพาคนมาร่วมงานสลายร่างคุณยาย , ผ้าป่า 3,000 วัด และอื่นๆ จนงานสุดท้ายที่ท่านรับนิมนต์มาวัดพระธรรมกาย คืองานผ้าป่า เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2548  และในวันที่ 27 สิงหาคม 2548 ท่านก็ได้มรณภาพลงด้วยอาการหัวใจวาย

คำถามมีดังนี้ค่ะ

1.    กรรมใดทำให้ปู่ของลูก ตาบอดในบั้นปลายของชีวิตคะ ปู่ตายแล้วไปไหน ได้รับบุญที่อุทิศไปให้หรือไม่

2.    เหตุใดพ่อต้องมาทำอาชีพขับรถไต่ถังเสี่ยงกับความตาย บุพกรรมใดทำให้พ่อขับรถตกถัง ก้นกบกระแทกจนต้องผ่าตัดดามเหล็ก    และเพราะเหตุใดคุณพ่อจึงไม่ได้เงิน 1 หมื่นตามที่อาของพ่อสัญญาว่าจะให้คะ

3.    กรรมใดทำให้แม่ป่วยเป็นอัมพาตแขน-ขาไม่มีแรงขยับตัวไม่ได้อยู่เป็นปี , แม่หายเพราะบุญหล่อรูปหลวงปู่ใช่ไหมคะ,  การที่แม่กลับมามีอาการแขนขาไม่มีแรงอีกครั้ง  เป็นเพราะบุญที่ทำไว้หมดไปใช่หรือไม่คะ, เหตุใดแม่ของลูกจึงไม่ยอมมาวัดอีกคะ ลูกจะต้องทำอย่างไรให้แม่มาวัดคะ

4.    กรรมใดทำให้ลูกสาวคนโตคลอดยากต้องใช้คีมดึงออก ที่ป่วยเรื้อรังจนเกือบเสียชีวิตเป็นเพราะเหตุใดคะ มีแม่ย่านางจะเอาไปอยู่ด้วย จริงตามที่หมอทรงบอกหรือไม่คะ  ถ้าจริงเขาคือใคร

5.    กรรมใดบันดาลให้ลูกตัดสินใจผ่าท้องตอนคลอดลูกคนที่ 3 ทำให้ลูกป่วยเป็นตะคริวในท้องและขา หลังแข็งต้องเดินตัวตรง เป็นอยู่นานถึง 7 ปี 

6.    ลูกสาวคนที่ 3 ทำบุพกรรมใดมา จึงเดินขาเป๋ เส้นที่ขายึด ทำให้นั่งขัดสมาธิไม่ค่อยได้     และควรแก้ไขอย่างไร

7.    บุญใดที่ทำให้ลูกและสามี ได้เงินมาง่ายๆจากการไฟฟ้าถึง 2 ล้านบาท และกรรมใดทำให้ต้องมาเสียที่ดินผืนนั้นให้เพื่อนสามี เรามีวิบากกรรมกันมาอย่างไร ลูกจะมีสิทธิ์ได้เงินหรือที่ดินคืนหรือไม่คะ

8.    วิบากกรรมใดของลูกและสามี จึงทำให้เรายอมไปเป็นหนี้แทนเพื่อนของลูกถึง 2 ล้านบาท ลูกจะได้บุญหรือไม่คะ เพราะตอนแรกลูกตั้งใจจะช่วยเพื่อน เพื่อหวังเอาบุญใหญ่กับหลวงพ่อ แต่ต่อมาลูกต้องขุ่นมัวมาก และนึกเสียใจว่าไม่น่าเข้าไปช่วยเลย      บุญนี้จะส่งผลให้ลูกอย่างไรคะ

9.    ลูกประกอบเหตุมาอย่างไร จึงมีความชำนาญในการทำบัญชี ทั้งที่ไม่ได้เรียนด้านนี้มาเลย , อาชีพรับจ้างแต่งงบบัญชีให้กับบริษัทต่างๆที่ลูกทำอยู่ จะมีวิบากกรรมหรือไม่คะ , เงินส่วนใหญ่ที่ได้จากการทำงานนี้ 99 %  ลูกจะนำไปทำบุญ ลูกจะได้รับอานิสงส์อย่างไร ,  อาชีพบัญชีที่ลูกทำ ซึ่งเป็นงานที่ลูกถนัดมาก แต่ลงท้ายลูกก็จะต้องเลิกอาชีพนี้ไป เป็นเพราะกรรมใดคะ

10.    ลูกมีกรรมอะไรถึงไม่มีเพื่อนสนิท พอคบกันไปก็จะมีเรื่องผิดใจกันทุกครั้ง แม้แต่การทำหน้าที่ผู้นำบุญก็ตาม ตอนแรกดูจะพุ่งดี แต่ผลสุดท้ายก็ขัดแย้งกัน จนลูกต้องแยกตัวออกมาฉายเดี่ยวทุกครั้ง ทำให้รวมกลุ่มทำงานใหญ่ไม่ได้ 

11.    ท่านพระครูที่ทำหน้าที่คอยประสานงานให้ และเจ้าคณะอำเภอที่มรณภาพ พระเถระทั้ง 2 ท่านเคยสร้างบารมีมากับหมู่คณะอย่างไรคะ เคยเป็นทหารของพระราชาองค์ที่ออกบวชหรือไม่ เจ้าคณะอำเภอหลังจากที่ท่านมรณภาพแล้ว ท่านไปอยู่ที่ไหนคะ เป็นอย่างไรบ้าง 

12.    ลูก-สามี และลูกสาว 3 คน ร่วมบุญกับหมู่คณะมาอย่างไรและควรจะดำเนินชีวิตอย่างไรเพื่อให้ได้กลับดุสิตบุรีกันทุกคน

 

กราบนมัสการด้วยความเคารพอย่างสูง

 

 

ฝันในฝัน

หลับตาฝันเป็นตุเป็นตะ  ตื่นขึ้นมา หาว 1 ที 

แล้วก็นำมาเล่าให้ฟังเป็นนิยายปรัมปรากันนะจ๊ะ

 

1.    ปู่ของลูก “ตาบอด” ในบั้นปลายของชีวิต   เพราะ.....เศษกรรมในอดีตชาติ   ปู่ได้เป็นเจ้ามือพนัน   ได้จับคนที่โกงได้    เลยเอา “ยาพิษ” หยอดตาทำให้ดวงตาของเขาบอด     รวมกับกรรมในปัจจุบันที่เล่นพนัน  ,  ได้มีเทคนิคในการเล่นถั่ว     วิบากกรรมดังกล่าวมารวมส่งผลจ่ะ !   

 

 

• ตายแล้วก็ถูกเจ้าหน้าที่พาตัวไป “ยมโลก” ของมหานรกขุม  6   ด้วยกรรมการพนัน  ,  กำลังถูกเจ้าหน้าที่เอาถั่วเหล็กร้อนกรอกปาก   ทุกข์ทรมานมาก     และโดนอาวุธที่มีลักษณะคล้ายที่เขี่ยถั่วพนันฟาดเมื่อท่านไม่ยอมอ้าปากจ่ะ !
  
• ได้รับบุญที่อุทิศให้แล้ว   ก็ได้รับลดหย่อนผ่อนโทษลงมา     แต่ยังไม่หมดกรรมต้องทำบุญอุทิศไปให้อีกจ่ะ !

 

2.    พ่อต้องมามีอาชีพขับรถไต่ถัง   เสี่ยงกับความตาย     และเคยตกรถไต่ถังก้นกบกระแทกจนต้องผ่าตัดดามเหล็ก   เพราะ......เป็นอัธยาศัยข้ามชาติติดมา   ที่พ่อชอบทำอะไรที่ “ผาดโผน” เสี่ยงความตายมาหลายชาติ  ,  กับในอดีตยุคนั้นท่านเป็นนักแสดง “ผาดโผน” และได้สอนคนอื่นด้วย  

 

 

• วันหนึ่งได้ฝึกซ้อมให้แสดง “ต่อตัว” ได้บังคับเด็กฝึกหัดปีนต่อตัวไปด้านบน     แต่เด็กเกิดความกลัวเลยพลัดตกลงมา   รวมทั้งทุกคนด้วยจนก้นกระแทก     วิบากกรรมโดยไม่เจตนามาส่งผลจ่ะ !

• คุณพ่อไม่ได้รับเงิน  1  หมื่นบาทตามที่คุณอาสัญญาว่าจะให้ เพราะ.....ในอดีตพ่อเคยเป็นหัวหน้านักแสดงดังกล่าว   ได้เคยเบี้ยวเงินลูกน้อง     วิบากกรรมนี้มาส่งผลในปัจจุบันให้ท่านโดนบ้างจ่ะ !

 

3.    “คุณแม่” ป่วยเป็น “อัมพาต” แขน - ขาไม่มีแรง   ขยับตัวไม่ได้อยู่เป็นปี   เพราะ.....กรรมในอดีตสมัยท่านเกิดในสังคมเกษตรกรรม   ได้ผูกมัดสัตว์เอาไว้ฆ่าขายและสั่งให้เขาฆ่ามารวมส่งผลจ่ะ !

 

• แม่หายได้ชั่วคราว   เพราะ.....บุญหล่อรูปหลวงปู่วัดปากน้ำไปช่วยตัดรอนวิบากกรรมได้จ่ะ !    
• แต่ต่อมาแขนขาไม่ค่อยมีแรงอีกครั้ง   เพราะเมื่อบุญหย่อนลงมา   วิบากกรรมดังกล่าวก็มาส่งผลอีกจ่ะ !    

 

• แม่ของลูกไม่ยอมมาวัดอีก   เพราะ.....ท่านไม่เข้าใจวัดกับเห็นลูกมาทำบุญเยอะ     กอปรกับใจท่านยังไม่เปิดจ่ะ !   
• ลูกต้องคอยเป็นกัลยาณมิตรให้ท่านด้วยใจที่ใสและเยือกเย็นจ่ะ !

 

4.    “ลูกสาวคนโต” คลอดยากต้องใช้คีมดึงออก   เพราะ.....กรรมในอดีตได้เกิดในสังคมเกษตรกรรม   ชอบเลี้ยงสัตว์   ขังสัตว์ไว้ในกรงไม่ให้มันไปไหน     วิบากกรรมนี้มาส่งผลจ่ะ !

 

• ที่ป่วยเรื้อรังจนเกือบเสียชีวิต   เพราะ.....ชอบทรมานสัตว์ในรูปแบบต่าง ๆ  เช่น  ชอบเฆี่ยนตี ,  ทุบตี ,  เอาน้ำร้อนราด   อยู่ระยะหนึ่งจนสัตว์ทรมานมาก     วิบากกรรมดังกล่าวมาส่งผล   ไม่เกี่ยวกับการที่จะมีแม่ย่านางจะเอาตัวไปอยู่ด้วยตามที่หมอร่างทรงบอกจ่ะ !    
• แต่หายได้เพราะหมดวิบากกรรมพอดี     ไม่เกี่ยวกับหมอร่างทรงเป่าจ่ะ !

 

5.    ลูกตัดสินใจ “ผ่าท้องคลอดลูกคนที่  3” ทำให้ลูกป่วยเป็นตะคริวที่ท้องและขา  ,  หลังแข็ง   ต้องเดินตัวตรง   เป็นอยู่นานถึง   7  ปี   เพราะ.....กรรมในอดีตได้เคยเกิดในสังคมเกษตรกรรม   ได้ฆ่าสัตว์เล็กสัตว์น้อย     รวมกับกรรมมัดสัตว์เอาไว้ฆ่าขายและส่งให้เขาฆ่าเป็นประจำ   มารวมส่งผลจ่ะ !

 

6.    “ลูกสาวคนที่  3” เดิน “ขาเป๋”  เส้นที่ขายึด   ทำให้นั่งขัดสมาธิไม่ค่อยได้   เพราะ.....กรรมในอดีตได้เกิดในสังคมเกษตรกรรมดังกล่าว   ได้เป็นลูกสาวของตัวลูก     ได้ช่วยแม่มัดสัตว์เอาไว้ฆ่าขายและส่งขายให้เขาฆ่ามาส่งผลจ่ะ !

 

• จะแก้ไข   ก็จะต้องให้ลูกสาวทำบุญทุกบุญทั้งทาน  ,  ศีล  ,  ภาวนา  ,  ให้ชีวิตสัตว์เป็นทาน   ปล่อยสัตว์เล็กสัตว์ใหญ่บ่อย ๆ      อีกหน่อยก็จะค่อย ๆ ดีขึ้นและหายได้จ่ะ !

 

7.    ลูกและสามีได้เงินมาง่าย ๆ จากการไฟฟ้าถึง  2  ล้านบาท เพราะ.....ผลแห่งทานบารมีที่ได้ตั้งใจทำในพระพุทธศาสนา     และในหมู่คณะในอดีตมาส่งผลจ่ะ !

 

• ต้องมาเสียที่ดินผืนนั้นให้เพื่อนของสามี   เพราะ.....กรรมในอดีตลูกและสามีได้เป็นสามี - ภรรยากัน   ได้ไปขอยืมเงินคนอื่นแล้ว “ขอลืม”   วิบากกรรมดังกล่าวมาส่งผลจ่ะ !     เป็น “กรรมเก่า” ของลูกและสามี     แต่เป็น “กรรมใหม่” ของเพื่อนสามีจ่ะ !  
  
• ให้ลูกนึกถึงบุญที่ได้สั่งสมบ่อย ๆ     เมื่อบุญได้ช่องส่งผลเขาก็จะเอามาคืนจ่ะ !  
  
• อย่าร้อนใจไปเลย !

 

8.    ลูกและสามีต้องยอมเป็นหนี้แทนเพื่อน  2  ล้านบาทนั้น   ก็คิดว่าเป็นบุญก็แล้วกัน   เพราะลูกก็ได้บ้านหลังนั้นแทนแล้ว       ก็เอาไปจำนองธนาคาร   ได้เงินมาช่วยให้เพื่อนได้ทำบุญและหมดหนี้   ก็เป็นบุญของลูกที่ได้ “เกื้อกูล” เพื่อนมนุษย์     ดังนั้นอย่าไปถือสาถ้อยคำบางประโยคที่ไม่ถูกใจ   ให้อภัยกันเสียเถิด   เพราะเราเกิดมาสร้างบารมีจ่ะ !

 

• ตอนแรกลูกตั้งใจจะช่วยเพื่อน   เพื่อหวังเอาบุญใหญ่     แต่ต่อมาลูกต้องขุ่นมัวมากและนึกเสียใจว่าไม่น่าไปช่วยเลย     บุญนี้จะส่งผลให้เวลาลูกเดือดร้อนด้วยวิบากกรรมใดก็ตาม     ก็จะมีคนมาช่วยเหลือ     แต่ก็จะเสียมิตรในภายหลัง     
• ดังนั้นวิธีแก้ไขวิบากกรรมนี้   ก็ให้คืนดีกันเสีย  ,  ให้อภัยกัน  ,  จับมือกันไว้แล้วไปดุสิตบุรีวงบุญพิเศษด้วยกันจ่ะ !

 

9.    ลูกมีความชำนาญด้านบัญชีทั้ง ๆ ที่ไม่ได้เรียนมา   เพราะ.....เกิดจากการฝึกฝนในปัจจุบันเป็นหลักจ่ะ !

• อาชีพรับจ้างแต่งงบบัญชีให้กับบริษัทต่าง ๆ ที่ลูกทำอยู่นั้น   ก็จะทำให้ศีลข้อ  2  ด่างพร้อยไป     ดังนั้นวิบากกรรมนี้ก็จะทำให้มีส่วนเกี่ยวกับโรคเลือด  ,  โรคไต   เป็นต้นจ่ะ !

• เงินส่วนใหญ่ที่ได้จากการทำงานนี้  99 %   ได้นำมาทำบุญ       ลูกจะได้อานิสงส์  คือ  บุญนี้ก็จะไปตัดรอนวิบากกรรมดังกล่าวให้หนักเป็นเบา     แต่ก็จะเป็นเศรษฐีประเภทสุขภาพไม่ค่อยแข็งแรงเท่าคนปกติจ่ะ !

• อาชีพบัญชีเป็นอาชีพที่ลูกถนัดมาก   แต่สุดท้ายต้องเลิกอาชีพนี้เพราะ.....ในอดีตมีเศษกรรมที่เมื่อทำบุญแล้วมาเสียดายในภายหลัง ดังนั้นจึงทำให้ทำอาชีพที่ถนัดซึ่งเป็นทางมาแห่งทรัพย์ไม่ตลอดจ่ะ !

 

10.    ลูกไม่ค่อยมี “เพื่อนสนิท” พอคบกันไปมักจะผิดใจกันทุกครั้ง     แม้แต่การทำหน้าที่ผู้นำบุญที่ตอนแรกดูจะพุ่งดี     แต่ผลสุดท้ายก็ขัดแย้งกัน     จนลูกต้องแยกตัวออกมา “ฉายเดี่ยว” ทุกครั้งทำให้รวมกลุ่มกันทำงานใหญ่ไม่ได้   เพราะ.....ทั้งกลุ่มไม่ค่อยจะอดทน  ,  ไม่อดกลั้น  อดออม  ,  มักจะเพ่งโทษกัน  ,  มีทิฐิมานะเข้าหากัน     ดังนั้นถ้าจะแก้ไข   ก็ต้องแก้ไขกันทั้งกลุ่ม     ให้ยิ้มแย้มแจ่มใส  ,  ให้อภัยกัน  ,  รักกัน  ยอมกันบ้าง  ,  มุ่งแต่เรื่องสร้างบารมีเป็นหลัก   อุปสรรคก็จะไม่มีจ่ะ !

 

 

 

11.    ท่านพระครูที่ทำหน้าที่คอยประสานงานให้  ,  และเจ้าคณะอำเภอที่มรณภาพ    พระเถระทั้ง  2  เคยสร้างบารมีกับหมู่คณะมา     โดยพุทธันดรท่านผ่านมา   ท่านพระครูได้เป็นทหารของพระราชาองค์ที่ออกบวช   ได้ออกบวชตามพระราชาจนตลอดชีวิต , มีหน้าที่ “เผยแผ่”  ,  มีผลการปฏิบัติธรรมได้เข้าถึงองค์พระภายในพอเอาตัวรอดกลับดุสิตบุรีวงบุญพิเศษได้จ่ะ !    

 

 

• ส่วนเจ้าคณะอำเภอก็ได้สนับสนุนทางอ้อมเหมือนชาตินี้  ,  เมื่อมรณภาพไปแล้วในชาตินี้   ก็ไปเป็นเทพบุตรอยู่บนสวรรค์ชั้น “ยามา” จ่ะ !

12.    ลูก  ,  สามี  ,  และลูกสาว  3  คน   เคยสร้างบารมีกับหมู่คณะมาแบบ “กองเสบียง” ประเภท   บางทีก็เต็มที่  ,  บางทีก็ตามอารมณ์   ทำให้บุญหกหล่นจ่ะ !    

 

 

• ชาตินี้ก็ต้องแก้ไขอย่าให้บุญหกหล่น     โดยทำตามหลักวิชชาที่ว่า ใจต้อง “ใส ๆ” ในทุกกาลจ่ะ !
• ชาตินี้มาเจอกันแล้ว     ก็ให้ตั้งใจสร้างบารมีให้เต็มที่ในทุกบุญ แล้วอธิษฐานจิต    ตามติดไปดุสิตบุรีวงบุญพิเศษเขตบรมโพธิสัตว์อย่าได้พลัดกันเลยจ่ะ !

 

http://goo.gl/SdvQf