ทำอย่างไรให้พระพุทธศาสนาเกิดความเจริญรุ่งเรืองทั้งในช่วงฤดูเข้าพรรษาและฤดูออกพรรษา

ชาวพุทธควรปฏิบัติตนอย่างไรจึงจะทำให้พระพุทธศาสนาเกิดความเจริญรุ่งเรืองทั้งในช่วงฤดูเข้าพรรษาและฤดูออกพรรษา? https://dmc.tv/a20651

บทความธรรมะ Dhamma Articles > หลวงพ่อตอบปัญหา
[ 21 ต.ค. 2558 ] - [ ผู้อ่าน : 18255 ]
ธรรมะ
สมาธิ
 
ชาวพุทธควรปฏิบัติตนอย่างไรจึงจะทำให้พระพุทธศาสนา
เกิดความเจริญรุ่งเรืองทั้งในช่วงฤดูเข้าพรรษาและฤดูออกพรรษา?
 
หลวงพ่อตอบปัญหา
เรื่อง : พระราชภาวนาจารย์ (หลวงพ่อทัตตชีโว)
จากวารสารอยู่ในบุญฉบับเดือนตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๘




     ฤดูกาลเข้าพรรษาปีนี้ใกล้จะหมดไป จะออกพรรษาอีกไม่กี่วันนี้ ก็เป็นการเตือนกันว่า เราห่างจากเวลาที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเข้านิพพานมากขึ้นอีก ๑ พรรษาแล้ว หรืออีกปีหนึ่งแล้วนั่นเอง

     การที่ต้องบอกต้องเตือนก็เพราะว่า ทุกสรรพสิ่งในโลกนี้อยู่ภายใต้กฎของอนิจจังความไม่เที่ยง คือ ยิ่งนานไป เวลาผ่านไปเท่าไรก็ห่างจากพุทธกาลมากเท่านั้น ยิ่งห่างจากพุทธกาลมากเท่าไร คำสอนอันแสนวิเศษของพระสัมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งใช้ปราบกิเลสได้ ก็นับวันจะถูกลืมเลือนไป

     ดังนั้น ก่อนจะออกพรรษาก็เป็นเวลาที่เราจะได้มาทบทวนกันว่า ผ่านไปอีกปี ผ่านไปอีกพรรษา เราได้อะไรกันขึ้นมาบ้าง เพราะการเข้าพรรษานั้นเป็นประเพณีของชาวพุทธผู้ไม่ประมาท มิได้จำเพราะเจาะจงว่าเข้าพรรษาแต่เฉพาะพระภิกษุ

     หลักการในพระพุทธศาสนานั้น ฤดูเข้าพรรษาแท้ที่จริงแล้วเป็นฤดูกาลที่ไม่ควรเอาแต่ทำมาหากินเท่านั้น แต่เป็นฤดูกาลแห่งการแก้ไขปรับปรุงตนเอง

     สัตว์โลกทั้งหลายอยู่ได้ด้วยอาหาร ขาดอาหารก็อยู่ไม่ได้ แต่ถ้ามัวแต่ทำมาหากินมาเลี้ยงชีพอย่างเดียวโดยไม่แก้ไขตัวเองให้ดีขึ้นมีความประพฤติอะไรที่ไม่เหมาะสมยังไม่ได้แก้ให้หมดไป ความประพฤติที่ไม่เหมาะไม่ควรเหล่านี้ ก็จะติดตัวข้ามภพข้ามชาติไปทำลายทำร้ายเราอีก

    เพราะฉะนั้น ก็ต้องเร่งรัดหาวิธีที่จะแก้ไขตัวเอง แล้วก็ต้องหาทางเพิ่มพูนบุญกุศลและเพิ่มพูนนิสัยดี ๆ เพิ่มพูนคุณธรรม ศีลธรรมเข้ามาในตัวอีกด้วย ยิ่งไปกว่านั้นต้องได้ทำภาวนาเพื่อกลั่นใจให้ผ่องใส

    ฤดูเข้าพรรษาเป็นฤดูกาลที่เหมาะสมมากสำหรับการแก้ไขตนเองและเพิ่มพูนคุณธรรม คุณวิเศษให้แก่ตน เพราะว่าอุณหภูมิในฤดูนี้ก็แสนสบาย ไม่ร้อนไม่เย็นจนเกินไปเหมาะเหลือเกินที่จะให้เราอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ แล้วก็ได้ทำสมาธิ กลั่นกาย กลั่นใจให้ใส ให้สมกับที่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์ ได้พบพระพุทธศาสนา

     ใครทำได้เท่าไรก็เกิดเป็นบุญขึ้นในตัวเองมากเท่านั้น บุญมีมากเท่าไร บุญก็กลั่นตัวเองให้บริสุทธิ์ยิ่งขึ้นกลายเป็นบารมี สร้างบารมีมากเท่าไร บารมีก็กลั่นตัวยิ่งขึ้นไปอีกกลั่นมากเข้า ๆ ก็กลายเป็นรัศมี ใครสร้างบุญสร้างบารมีมากเข้า ๆ รัศมีก็เปล่งออกมานอกกาย

     พระสัมมาสัมพุทธเจ้าแต่ละพระองค์นั้นต้องสร้างบุญมามาก บุญกลั่นเป็นบารมียิ่งขึ้นบารมีที่สร้างมาก ๆ ก็กลั่นยิ่งขึ้นกลายเป็นรัศมีเมื่อพระองค์สร้างบุญ บารมี รัศมี ทับทวีแล้วทับทวีอีกยิ่ง ๆ ขึ้นไป รัศมีทียิ่ง ๆ ขึ้นไปก็กลั่นไปอีกเป็นกำลังเป็นฤทธิ์ของพระองค์ ส่งเป็นทอดขึ้นไปเรื่อย ๆ เพราะฉะนั้นพระองค์จึงได้มีกำลังเป็นพิเศษกว่าผู้อื่น

     การสร้างบุญบารมีไปตามลำดับ ๆ อย่างนั้น สิ่งที่สำคัญก็คือต้องทำให้ครบทั้ง ๒ ส่วน

     มนุษย์มี ๒ ส่วน คือ ส่วนหยาบกับส่วนละเอียด

     มนุษย์ยังต้องกินข้าว ไม่อย่างนั้นกายเนื้ออยู่ไม่ได้ มนุษย์ยังต้องกิน ต้องใช้เสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่มเพราะว่ายังหนาวยังร้อนอยู่ต้องมีบ้านช่องห้องหอ เมื่อถึงคราวเจ็บไข้จำเป็น ต้องใช้หยูกยา สิ่งเหล่านี้เป็นส่วนหยาบที่ต้องมีอยู่

     ในเมื่อส่วนหยาบมีอยู่ และปัจจัย ตลอดจนอุปกรณ์เครื่องใช้ที่เนื่องด้วยปัจจัย ๔ เหล่านี้ช่วยให้เราอยู่เป็นสุขได้ ช่วยให้เราไม่ป่วยไม่ไข้ ช่วยให้มีเรี่ยวแรงมีพละกำลังที่จะให้ทาน รักษาศีล เจริญภาวนา กลั่นกาย กลั่นใจให้ได้บุญยิ่งๆ ขึ้นไป

     แต่ส่วนหยาบคือกายของมนุษย์ทุกคนนั้น ประกอบขึ้นมาจากธาตุ กลายเป้นเซลล์ต่างๆ ของร่างกายที่มีอายุจำกัด เพราะธาตุ นั่นไม่บริสุทธิ์ อายุของมันเลยสั้น เซลล์ในตัวจึงมีการตายอยู่ตลอดเวลา

     ปัจจัย ๔ ที่นำมาใช้เมื่อสัมผัสถูกต้องกายเข้า สิ่งเหล่านั้นก็สกปรกตามไปด้วย ตัวของเรานับได้ว่าเป็นแหล่งผลิตความสกปรก ตัวเป็นแหล่งผลิตขยะที่ใหญ่ที่สุดของโลกเลยของเรานับได้ว่าเป็นแหล่งผลิตความสกปรก

     การจะสร้างบุญสร้างบารมีนั้น ต้องใช้กายเนื้อที่แข็งแรงจึงจะเอามาใช้สร้างได้ แต่อุปสรรคของกายนี้มีตั้งแต่ต้น คือ มีเซลล์ตายอยู่ตลอดเวลา ทำให้กายสกปรกเป็นนิจ

     เมื่อกายสกปรกเป็นนิจ ถ้ารักษาดูแลไม่ดี ก็แก่เร็ว ป่วยเร็ว แล้วก็จะตายทั้งตัวรวดเร็วกว่าปกติ

     เมื่อความจริงเป็นอย่างนี้ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าจึงทรงสอนพระภิกษุให้รู้จักรักษาสุขภาพตัวเองให้ดี ดูแลสุขภาพให้เป็น โดยดูแลผ่านการพิจารณาการใช้ปัจจัย ๔ พระภิกษุจึงถูกเคี่ยวเข็ญให้ดูแลปัจจัย ๔ ให้ดี และใช้ให้เป็น

    ในเรื่องปัจจัย ๔ เสื้อผ้าพระองค์ทรงให้มาชุดเดียว ดีไซน์เดียว เป็นผ้ากาสาวพัสตร์ใช้กันร้อนกันหนาว ไม่ได้มีใช้มากมายอย่างคฤหัสถ์ ที่อยู่อาศัยถ้าศรัทธาสาธุชนไม่มาสร้างให้ คงอยู่โคนไม้หรือกระต๊อบเล็ก ๆ แล้วครัวอาหารก็ย่อเหลือบาตรใบเดียว แล้วก็ออกบิณฑบาต เลิกแล้วซึ่งภาระเรื่องการหุงต้มเพื่อว่าภิกษุทั้งหลายจะได้มีเวลามากขึ้น มีเรี่ยวแรงในการฝึกตัวเองมากขึ้น

    ฝึกตัวเองด้วยการดูแลสุขภาพให้ดีเป็นพิเศษ ฝึกให้ใช้พละกำลังที่เกิดจากข้าวปลาอาหารจากญาติโยมให้เปลี่ยนมาเป็นบุญให้ได้มากเป็นพิเศษ เปลี่ยนมาเป็นสติเป็นปัญญาให้ได้มากเป็นพิเศษ จะได้สู้กับกิเลสได้ แล้วก็มีความสามารถที่จะมาแนะนำญาติโยมให้สู้กับกิเลสตามมาได้อีกด้วย พระกับโยมก็พึ่งพาอาศัยกันอย่างนี้

    ยิ่งไปกว่านั้นยังต้องการให้มีอายุขัยที่ยืนยาว เวลานั่งสมาธิก็มีกำลังกายที่กระปรี้กระเปร่า ไม่ง่วงเหงาหาวนอน ไม่อึดอัดแล้วก็ไม่ฟุ้งซ่านอีกด้วย ซึ่งการจะทำอย่างนี้ได้เรื่องสำคัญคืออาหารที่นอกจากต้องถูกหลักอนามัยทั่วไปแล้ว อีก ๔-๕ คำจะอิ่มให้หยุดถ้าไม่หยุดจะเป็นที่มาของโรคภัยไข้เจ็บและความง่วงเหงาหาวนอนต่าง ๆ

    และที่ยิ่งไปกว่านั้น ข้าวแต่ละคำที่เคี้ยวเวลาเคี้ยวเอาใจนิ่ง ๆ วางไว้ที่กลางท้อง พอใจนิ่ง ๆ วางไว้กลางท้อง เดี๋ยวข้าวแต่ละคำที่กลืนลงท้องจะค่อย ๆ กลายเป็นดวงปฐมมรรคผุดขึ้นมา หรือข้าวแต่ละคำที่กลืนลงไป กลายเป็นองค์พระผุดเป็นสายขึ้นมา

    สิ่งนี้สาธุชนก็ฝึกได้ ไม่เฉพาะแต่ภิกษุเท่านั้น พอเราฝึก ถ้าเราแบ่งเวลามาทำสมาธิมากเข้า แล้วก็สังเกตพิจารณาตัวเองให้มากเข้าสิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้น

     ฝึกควบคู่ทั้งหยาบและละเอียดหยาบคือกายเนื้อของเราเคี้ยวข้าวปลาอาหารที่เรากลืนกิน ละเอียดคือใจที่อยู่นิ่ง ๆ ที่ศูนย์กลางกายในที่สุดแล้ว ข้าวปลาอาหารจะกลายเป็นดวงปฐมมรรคผุดขึ้นมา

    ข้าวปลาอาหารแต่ละคำกลายเป้นองค์พระผุดขึ้นมาได้ เมื่อใจกำหนดนิ่งๆ ที่ ศูนย์กลางกาย

     ดังนั้น ไม่ว่าเราใช้ปัจจัย ใดก็ตาม เราก็ใช้ด้วยความระมัดระวังพร้อมกับกำหนดใจนิ่งๆ ไว้ที่ศูนย์กลางกาย สุขภาพก็จะดีตามมา ปัจจัย ที่เอามาใช้นั้นก็หล่อหลอมละลายกับบุญที่อยู่ในตัว

     เมื่อฝึกใจไปต่อเนื่อง จากความรู้สึกว่าเราอยู่ในองค์พระ องค์พระอยู่ในตัวเรา แต่พอพิจารณาด้วยใจนิ่ง ๆ มากเข้า ๆ เดี๋ยวเราก็เป็นพระ พระก็เป็นเรา เป็นอย่างนั้นได้จริง ๆ

    ด้วยเหตุนี้ เพื่อให้เข้าถึงจุดนี้ คือใจเรากับองค์พระเป็นหนึ่งเดียวกัน นอกจากดูแลตัวเองให้ดีแล้ว ปัจจัย ๔ ก็ต้องดูแลให้ดี คือดูแลเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่มให้ดี ดูแลบ้านช่องให้ดี ดูแลข้าวปลาอาหารให้ดี หยูกยาต่าง ๆ ใช้เท่าที่จำเป็น โดยเฉพาะอย่างยิ่งดูแลเรื่องรักษาความสะอาดกับความเป็นระเบียบให้ดีจะช่วยให้เรามีและใช้สิ่งเหล่านี้เท่าที่จำเป็น จะไม่ต้องใช้สิ่งของพวกนี้มากเกินเหตุ จะไม่ต้องมีภาระในการทำความสะอาดมากเกินเหตุ

     เมื่อสะอาดและมีของไม่มากชิ้นและทำให้ไม่เสียเวลามาก ความรู้สึกหนึ่งจะเกิดขึ้นว่า ตัวเรามีความสะอาดทั้งข้างนอกข้างในในระดับหนึ่งขึ้นแล้ว แล้วใจจรดนิ่ง ๆ เข้าใจจะหยุดนิ่งได้ง่าย แล้วความรู้สึกว่าตัวเราเป็นพระ พระเป็นเราจะเกิดง่ายขึ้นมาเองโดยอัตโนมัติ

     นั่นเป็นเครื่องแสดงว่า ใจเราละเอียดยิ่งขึ้น เริ่มไปสัมผัสกับพระธรรมกายในตัวได้แม้ยังไม่เห็นพระธรรมกาย แต่ความรู้สึกว่าเราเริ่มเป็นพระมันเกิดอย่างนั้นจริง ๆ

     ใครที่เริ่มมีอาการเหล่านี้แล้ว ก็ขอให้ทำต่อไป แล้วก็อย่าสงสัย ทำให้ยิ่งๆ ขึ้นไปจากนั้นแล้วพระธรรมกายจะผุดขึ้นมา ปรากฏขึ้นมาชัดขึ้น ๆ

     ขอให้ผู้ที่ไม่ประมาท รักการฝึกตนเองมองภาพลำดับการฝึกตัวฝึกใจเหล่านี้ให้ดี แล้วก็ฝึกกันไป ไม่ว่าจะอยู่ที่บ้าน ที่ทำงาน หรือเมื่อมาวัด ฝึกทุกย่างก้าวที่เราก้าวไปบนโลกนี้

          - เราก้าวไปถึงไหนจะไม่ไปทำความสกปรกให้กับที่นั้น ๆ

          - เราใช้ของอะไร จะไม่ทำให้สิ่งของเหล่านั้นสกปรกเปรอะเปื้อน

          - เราอยู่ในบริเวณไหน บริเวณนั้นก็ให้สะอาดสะอ้านตลอด

     บรรยากาศที่สะอาดสะอ้านตลอดนี่แหละ ความรู้สึกว่าตัวเรามีองค์พระ องค์พระอยู่ในตัวเราจะเริ่มเกิด แล้วจากนั้นเราเป็นพระพระเป็นเราจะเกิดง่ายยิ่งขึ้น แล้วเมื่อถึงตอนนั้นพระธรรมกายจะเป็นเราขึ้นมาจริง ๆและเรากับพระธรรมกายก็เป็นอันหนึ่งอันเดียว
กันขึ้นมาจริง ๆ

     ก่อนออกพรรษาครั้งนี้ ด้วยบุญที่ตั้งใจเข้ากะประพฤติปฏิบัติธรรมกันอย่างยิ่งยวดมาตลอดพรรษานี้ ดำเนินชีวิตแบบชาวพุทธผู้ไม่ประมาท ก็ขอให้ทุกท่านจงเข้าถึงพระธรรมกายโดยง่าย แตกฉานวิชชาธรรมกายของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้โดยง่าย ไปทุกภพทุกชาติ มีบุญ บารมี รัศมี กำลัง ฤทธิ์ ที่ยิ่ง ๆขึ้นไป ตามติดมหาปูชนียาจารย์ท่านไปให้ถึงที่สุดแห่งธรรมโดยไม่พลัดไม่พราก ไม่ตกไม่หล่นได้เป็นอัศจรรย์ทุกท่านทุกคน เทอญ




พิมพ์บทความนี้



บทความอื่นๆ ในหมวด

      ทำอย่างไรจึงจะไม่ท้อไม่เหนื่อยในการทำงาน
      สาเหตุที่ทำให้โลกวุ่นวายมากขึ้น
      "สังคมเปลี่ยนไป" แนวทางการใช้ชีวิตเปลี่ยนตามพระพุทธศาสนามีคำแนะนำอย่างไร ?
      หลักการขยายกิจการให้เจริญรุ่งเรืองทั้งทางโลกและทางธรรม
      คำสอนของวัดพระธรรมกายถูกต้องตามแนวทางคำสอนดั้งเดิมของพระพุทธศาสนาหรือไม่
      อะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้สังคมแตกแยก
      การสวดมนต์ให้พรของพระสงฆ์มีส่วนช่วยสืบทอดพระพุทธศาสนาอย่างไร
      ทำไม ? จีวรต้องเป็นสีเหลือง
      เราจะพัฒนาตนเองให้มีศักยภาพในการเผยแผ่พระพุทธศาสนาได้อย่างไร ?
      เราจะปลูกฝังให้ลูกหลานทำหน้าที่ชาวพุทธให้สมบูรณ์ได้อย่างไร ?
      เราควรจะเลือกทำงานด้วยทัศนคติอย่างไรที่จะส่งผลให้ชีวิตเจริญรุ่งเรือง
      การเกิดขึ้นของนิสัยดี นิสัยชั่วมีที่มาอย่างไร
      การดูแลสุขภาพกายและสุขภาพใจให้เหมาะสมแก่การฝึกสมาธิและเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงธรรม




   ค้นหา บทความธรรม    

  ฝันในฝันวิทยา
  สารพันธรรมะ
  ปกิณกธรรม
  ผลการปฏิบัติธรรม
  โครงการฟื้นฟูศีลธรรมโลก
  ธรรมะบันเทิง
  ข่าว
  ข่าวประชาสัมพันธ์
  ข่าวบุญฝากประกาศ
  DMC NEWS
  ข่าวรอบโลก
  กิจกรรมเว็บ dmc.tv
  Scoop - Review DMC
  เรื่องเด่นทันเหตุการณ์
  Review รายการ DMC
  หนังสือธรรมะ
  ธรรมะเพื่อประชาชน
  ที่นี่มีคำตอบ
  หลวงพ่อตอบปัญหา
  อยู่ในบุญ
  สุขภาพนักสร้างบารมี
  นิทานชาดก
  CaseStudy กฎแห่งกรรม
  กฎแห่งกรรม
  เรื่องราวชีวิต
  เหลือเชื่อแต่จริง
  อุทาหรณ์สอนใจ
  ฮอตฮิต...ติดดาว
  วิบากกรรม...ทำให้ทุกข์
  บุญเกื้อหนุน
  ปรโลกนิวส์
  ธรรมะและสมาธิ
  พุทธประวัติ
  สมาธิ
  ผลการปฏิบัติธรรมนานาชาติ
  ทศชาติชาดก
  พุทธประวัติและวันสำคัญ
  บทสวดมนต์
  ศัพท์ธรรมะ ภาษาอังกฤษ
  มหาปูชนียาจารย์
  อานุภาพมหาปูชนียาจารย์
  ประวัติ
  กิจกรรม
  ธุดงค์สถาปนาเส้นทางมหาปูชนียาจารย์
  About DMC
  เกี่ยวกับ DMC
  DMC GUIDE
  มือถือ Mobile
  คู่มือเว็บ www.dmc.tv
  มาวัดพระธรรมกาย
   ค้นหา บทความธรรม    

ธรรมะที่เกี่ยวข้อง - Related