ทบทวนฝันในฝัน วันที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ.2554ผลการปฏิบัติธรรมนั่งสมาธิตอน ผมขอหยัดสู้เพื่อกอบกู้พระพุทธศาสนา
ผลการปฏิบัติธรรมของพระธรรมทายาท
รุ่นสถาปนาเส้นทางมหาปูชนียาจารย์ตอน ผมขอหยัดสู้เพื่อกอบกู้พระพุทธศาสนาเรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยากราบคารวะพระเดชพระคุณหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง กระผม พระภูเบศ สุมโน อายุ 20 ปี พระพี่เลี้ยงจากศูนย์อบรมวัดสองพี่น้อง อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี ขอรายงานตัวครับ
พระภูเบศ สุมโน
พระพี่เลี้ยง จากศูนย์อบรมวัดสองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี
หลวงพ่อครับ ตอนนี้กระผมกำลังเข้าอบรมเป็นพระนวกะเพื่อเตรียมความพร้อมในการเข้าร่วมเดินธุดงค์ครั้งประวัติศาสตร์สถาปนาเส้นทางมหาปูชนียาจารย์ อยู่ ณ วัดพระธรรมกายระเบียง 3 ครับ ซึ่งผมก็รู้สึกดีใจมากๆที่ผมมีวันนี้ คือ วันที่ผมได้บวชเป็นพระไปแบบวันต่อวันโดยมีหลวงพ่อเป็นไอดอลครับ หลวงพ่อครับ กว่าที่ผมจะมาถึงจุดนี้ได้ผมก็ต้องใช้พลังใจอย่างสูงในการที่จะขัดคอขัดใจขัดคำสั่งโยมแม่ครั้งแล้วครั้งเล่า เพื่อจะมาทำบุญที่วัดครับ เนื่องจากโยมแม่ของผมสิครับ ท่านแอนตี้วัดเอามากๆ เลยครับ แต่ผมไม่รู้เป็นยังไง ยิ่งท่านห้ามก็เหมือนยิ่งยุให้ผมยิ่งรักและศรัทธาในวัดมากขึ้น ผมจึงแอบหนีโยมแม่ขึ้นรถบัสจากบ้านที่ จ.สุพรรณบุรีมาอยู่ช่วยงานที่วัดทุกๆ วันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์เป็นประจำ ทั้งนี้ก็ได้รับการสนับสนุนการดูต้นทางเป็นอย่างดีจากโยมพ่อของผมนั่นเองล่ะครับ เพราะโยมพ่อของผม ท่านชอบทำบุญและชอบทุกอย่างที่เป็นวัดพระธรรมกายครับ
โดยก่อนมาบวช ผมได้รับบุญเป็นเจ้าหน้าที่อาสาสมัครอยู่ที่สำนักศรัทธาภิบาลมาประมาณ 7 ปีแล้วครับ โดยตอนแรกผมก็คิดว่าจะอยู่ช่วยงานที่วัดในเพศฆราวาสไปเรื่อยๆ นะครับ แต่เกิดมีเหตุการณ์หนึ่งขึ้นก่อน คือ มีอยู่วันหนึ่ง ซึ่งผมไม่รู้ว่าจะเรียกว่าบุญได้ช่องหรือกรรมซอกแซกดีครับ ที่จู่ๆ ก็เกิดเหตุการณ์สุดหวาดเสียว ที่ทำให้ผมรู้สึกคล้ายๆ จะได้กลับบ้านเก่า นั่นคือมีอยู่วันหนึ่ง ขณะที่ผมกำลังขี่มอเตอร์ไซค์ผ่านสี่แยกไฟแดงเพื่อไปทำธุระอยู่นั้น จู่ๆ ก็มีรถกระบะเบรกแตกคันหนึ่ง ได้ขับพุ่งตรงเข้ามาชนผมเข้าเต็มแรง จนผมกับรถมอเตอร์ไซค์ต่างก็กระเด็นกระดอนไปไม่เป็นท่าเลยครับ แต่เดชะบุญที่ผมปลอดภัยและไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรเลยแม้แต่น้อย ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนั้นก็ทำให้ผมฉุกคิดขึ้นมาได้ว่า “นี่ขนาดเราอยู่ในบุญมาตลอด ก็ยังเจอเหตุการณ์เฉียดตายแบบนี้เห็นทีคราวนี้เราคงต้องรีบบวชซะแล้ว” ในช่วงนั้นก็เป็นช่วงที่หลวงพ่อกำลังจะจัดบวชพระ 1 แสนรูปทั่วไทย ครั้งที่ 3 พอดีเลยครับ ผมจึงรวบรวมความกล้าโทรไปหาโยมแม่เพื่อขอลาบวช ซึ่งก็อัศจรรย์มากๆ ครับที่โยมแม่บอกให้ผมช่วยบวชไปยาวๆเลย ซึ่งตอนแรกผมก็นึกว่าผมหูฝาดที่ได้ยินท่านพูดอย่างนั้น ผมเลยย้ำกับท่านอีกครั้งว่า ผมคิดว่าจะบวชไปชาติต่อชาติ ซึ่งท่านก็บอกว่า “ถ้าอย่างนั้นแม่ก็ขออนุโมทนาด้วย” เลยทำให้ผมรู้สึกมีความสุขมากๆ เลยครับ การที่ได้มาบวชครั้งนี้ขอบอกครับว่าเป็นอะไรที่โดนใจผมมากๆ โดยเฉพาะการได้นั่งสมาธิจนได้ประสบการณ์ภายใน ซึ่งโดยปกติเวลานั่งสมาธิ ผมจะไม่ชอบนึกนิมิตเลยครับ เพราะผมอยากนั่งให้ได้อารมณ์สบายๆมากกว่า ส่วนที่ว่านั่งไปแล้วจะเห็นอะไรนั้น ก็ถือว่านั่นคือของแถมครับ ซึ่งพอผมได้วางใจสบายๆไว้ในกลางท้อง และท่องสัมมาอะระหังๆ ไปเรื่อยๆผมก็เห็นเป็นแสงสว่างที่ไร้ทิศทางเกิดขึ้นมาในกลางท้องของผมครับ ซึ่งพอหยุดใจไปนิ่งๆ แสงนั้นก็มารวมตัวกันเป็นดวงกลมๆ ใสๆ ที่มีแสงสว่างเป็นแฉกๆ ออกมาจากดวงกลมๆนั้นเหมือนเป็นแสงพระอาทิตย์ แล้วจากนั้นแสงก็ค่อยๆ กระจายตัวออกเหมือนก้อนหินที่ตกกระทบน้ำที่ค่อยๆขยายเป็นวงๆ แล้วสักพักก็มีดวงแก้วใสๆ ค่อยๆ ผุดขึ้นมาตรงกลาง วง ครับ โดยดวงแก้วมีขนาดใหญ่ประมาณผลส้มโอได้ครับ อีกทั้งยังมีความใสยิ่งกว่าเพชร และมีประกายออกมาเป็นสีรุ้ง สวยงามจับใจจริงๆ ครับทำให้ผมรู้สึกมีความสุขมาก ปลาบปลื้มมาก และอิ่มอกอิ่มใจมากจนน้ำตาไหล โดยผมจะเห็นดวงแก้วอยู่ตรงกลางท้องของผมสองเวลา คือทั้งหลับตาและลืมตาเลยครับ หลวงพ่อครับ ผมเห็นดวงแก้วมาตลอด จนกระทั่งไปรับบุญช่วยหลวงพ่อกู้วิกฤติน้ำท่วมที่คลองระพีพัฒน์ ดวงแก้วก็หายไปครับ ผมก็ไม่ได้ใจเสียหรือเสียใจนะครับ เพียงแต่ได้ท่องสัมมาอะระหังไว้ในกลางท้องตลอดเวลาที่ขนกระสอบทรายเลยครับซึ่งผมก็รู้สึกแปลกใจตัวเองมากที่ผมไม่รู้เอาเรี่ยวแรงมาจากไหน จึงสามารถขนกระสอบทรายได้วันละเป็นพันกระสอบทุกวันโดยไม่รู้จักเหน็ดจักเหนื่อยเลยครับ ทั้งๆ ที่ผมต้องรับบุญขนกระสอบทรายไปคลองระพีพัฒน์ตั้งแต่บ่าย 3 ถึง ตี 4 ของทุกวันเป็นเวลาติดกันหลายอาทิตย์ ผมก็รู้สึกปลื้มสุดปลื้มกับภารกิจครั้งนี้มากๆ เลยครับที่ตัวผมเองได้มีส่วนช่วยรักษาสมบัติพระศาสนาและยังได้ช่วยชาวบ้านในละแวกคลอง 3 และเมืองหลวงให้พ้นจากวิกฤติน้ำท่วมครั้งนี้แต่สิ่งที่ทำให้ผมปลื้มไปกว่านั้น ก็คือการที่หลวงพ่อได้เมตตามาคุมนั่งธรรมะให้กับพวกผมที่ห้องแก้วสารพัดนึกทุกวัน หลวงพ่อครับ ผมปลื้มหลวงพ่อมากจนได้ดวงแก้วกลับมา เป็นดวงใหญ่ประมาณผลส้มเขียวหวานและเห็นชัดประมาณ 80 %แล้วครับ แต่ก็จะเห็นชัดเฉพาะตอนหลับตาครับพอลืมตาก็จะเห็นเป็นเงาลางๆครับ ซึ่งตอนนี้ผมได้พยายามประคองใจ พยายามตรึกธรรมะตลอดเวลา ทั้งในเวลานั่ง นอน ยืน เดิน เลยครับ
ภาพวาดจากประสบการณ์ภายในของ พระภูเบศ สุมโน
พระภูเบศ สุมโนในท่า Peace Position
หลวงพ่อครับ ผมจะตั้งใจกลั่นธรรมะให้ใสสว่างที่สุดในชีวิตเลยครับ เพื่อภารกิจการเดินธุดงค์สถาปนาเส้นทางมหาปูชนียาจารย์ ซึ่งเป็นครั้งประวัติศาสตร์ของโลกในครั้งนี้ เพราะผมอยากจะประกาศให้ชาวโลกรู้ว่า หลักคำสอนของพระพุทธองค์นั้นมีอยู่จริง ธรรมะและวิชชาธรรมกายที่พระเดชพระคุณหลวงปู่ค้นพบก็มีอยู่จริงและเป็นสิ่งที่ชาวโลกทุกคนพิสูจน์ได้ และขอบอกนะครับว่า นับตั้งแต่วันนี้วินาทีนี้ ผมจะขอเป็นพระแท้ติดตามสร้างบารมีไปกับหลวงพ่อแบบชาติต่อชาติชนิดขอเอาชีวิตเป็นเดิมพันครับ
พระธรรมทายาท ภูเบศ สุมโน
พระพี่เลี้ยงจากศูนย์อบรมวัดสองพี่น้อง อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี
http://goo.gl/AsNJ8