ทบทวนฝันในฝัน วันที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ.2554
Case Study กรณีศึกษากฎแห่งกรรม
มหาเสนาบดี ผู้ยิ่งใหญ่ ตอนที่ 5
เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา
ฝันในฝัน
หลับตาฝันเป็นตุเป็นตะ ตื่นขึ้นมาหาว 1 ที
แล้วก็นำมาเล่าให้ฟังเป็นนิยายปรัมปรากันนะจ๊ะบ้านของท่านมักจะมีแขกทุกระดับต่างก็แวะเวียนกันมาทำธุระหรือมาพักค้างที่บ้านของครอบครัวของท่านอยู่บ่อยๆ
สืบเนื่องจากครอบครัวของท่านมหาเสนาบดีเป็นตระกูลข้าราชการระดับสูงหรือขุนนางชั้นผู้ใหญ่ ดังนั้น ครอบครัวของท่านจึงเป็นครอบครัวที่ มีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักกันในระดับต้นๆ ของแคว้น ดังนั้นจึงเป็นเรื่องไม่แปลกเลยที่บ้านของท่านมักจะมีแขกทุกระดับ ต่างก็แวะเวียนกันมาทำธุระหรือมาพักค้างที่บ้านของครอบครัวของท่านอยู่บ่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ที่เป็นเพื่อนของคุณพ่อบ้าง เป็นลูกน้องของคุณพ่อบ้าง เป็นนายทหารระดับต่างๆ บ้าง หรือแม้แต่เพื่อนๆ ของพี่ๆ ของท่านมหาเสนาบดีบ้าง เป็นต้น
แขกเหล่านั้นก็มักจะชอบนำเรื่องราวหรือวีรกรรมต่างๆมาพูดคุยเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและทัศนะคติกัน
และในเวลาที่มีแขก ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นนายทหาร มาพักที่บ้านของท่านมหาเสนาบดี แขกเหล่านั้นก็มักจะชอบนำเรื่องราวที่ได้ประสบพบเจอมา หรือวีรกรรมต่างๆ ที่น่าตื่นเต้นประทับใจมาพูดมาคุยเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและทัศนะคติกัน ซึ่งลีลาในการถ่ายทอดเรื่องราวของแขกแต่ละท่าน ก็มีหลากหลายหลากสไตล์ คือตั้งแต่แบบสบายๆ จนไปถึง อย่างดุเดือดเผ็ดมันท่านมหาเสนาบดีตอนเด็กๆจะชอบมาด้อมๆ มองๆ แล้วก็มานั่งเพื่อจะได้ฟังเรื่องราวสนุกๆ จากพวกลุงๆ อาๆ หรือน้าๆ ทหารอยู่เสมอ
ซึ่งในระหว่างที่แขกผู้ใหญ่ ที่มาพักค้างที่บ้านของท่านมหาเสนาบดี กำลังคุยกันถึงประสบการณ์ในชีวิตอยู่นั้น ก็จะมีเด็กอยู่คนหนึ่งที่จะชอบมาด้อมๆ มองๆ แล้วก็มานั่ง เพื่อจะได้ฟังเรื่องราวสนุกๆ จากพวกลุงๆ อาๆ หรือน้าๆ ทหารอยู่เสมอและไม่ว่าลุงๆ อาๆ หรือน้าๆ ทหารจะเล่าเรื่องอะไร เด็กคนนี้ก็จะตั้งหน้าตั้งตาฟังด้วยความรู้สึกตื่นเต้นไปกับเรื่องราวเหล่านั้นด้วยเสมอๆ ยิ่งเด็กน้อยคนนี้ได้ฟังเรื่องราวที่ลุงๆ อาๆ หรือน้าๆ ทหารเค้าคุยกันมากเท่าไหร่ แววตาของเด็กน้อยคนนี้ก็จะเปล่งกายระยิบระยับ ด้วยความอยากรู้อยากเห็นและอินกับเรื่องราวเหล่านั้นอย่างสุดๆ ซึ่งเด็กน้อยที่ว่านั้นจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก ท่านมหาเสนาบดีในครั้งที่ท่านยังเป็นเด็กนั่นเองด้วยความที่ท่านเป็นเด็กที่ชอบเข้าหาผู้ใหญ่ ท่านจึงเป็นเด็กที่ได้รับความนิยมและได้รับการยอมรับในวงสนทนาของลุงๆ อาๆ และน้าๆ ทหารทุกคน
ถึงแม้ท่านมหาเสนาบดีจะอายุน้อยที่สุด ในบรรดาผู้ที่นั่งอยู่ในวงสนทนาก็ตาม แต่ด้วยความที่ท่านเป็นเด็กที่ชอบเข้าหาผู้ใหญ่ ท่านจึงเป็นเด็กที่ได้รับความนิยมและได้รับการยอมรับในวงสนทนาของลุงๆ อาๆ และน้าๆ ทหารทุกคน เพราะท่านทำตัวน่ารักและกลมกลืน จนแขกผู้ใหญ่ทุกคนให้ความเอ็นดูและชอบในอัธยาศัยใฝ่รู้ใฝ่เห็น และความเฉลียวฉลาดแบบถึงใจของท่านเป็นอย่างมาก
ท่านมหาเสนาบดีในวัยเด็กชอบฟังเรื่องการผจญภัยในป่ายามค่ำคืนเพราะเรื่องทำนองนี้จะมีเรื่องราวที่ชวนให้ตื่นเต้น
และในบรรดาเรื่องราวที่พวกแขกผู้ใหญ่ ชอบพูดคุยกันก็จะมีอยู่หลายเรื่องที่ท่านมหาเสนาบดีในวัยเด็กชอบฟังมากๆ นั่นก็คือเรื่องการผจญภัยในป่ายามค่ำคืนเพราะเรื่องทำนองนี้จะมีเรื่องราวที่ชวนให้ตื่นเต้นลุ้นระทึกอยู่ตลอดเวลา นอกจากนั้นท่านยังชอบฟังเรื่องราวประเภทโลดโผนโจนทะยาน การต่อสู้ หรือการผจญภัยในที่ต่างๆ อีกด้วย ยิ่งเรื่องราวเหล่านี้ดุเด็ดเผ็ดมันมากเท่าไร ท่านมหาเสนาบดีในวัยเด็กก็จะยิ่งชอบมากขึ้นเท่านั้นท่านมหาเสนาบดีในวัยเยาว์จะชอบฟังเรื่องวิชาอยู่ยงคงกระพันหรือวิชาหนังเหนียวฟันไม่เข้ายิงไม่ออก
และที่สำคัญถ้าวันไหนที่แขกผู้ใหญ่เล่าเรื่องราวที่เกี่ยวกับอิทธิปาฏิหาริย์ วิชาอยู่ยงคงกระพัน หรือวิชาหนังเหนียวฟันไม่เข้ายิงไม่ออก หรือการใช้วิชาลวงข้าศึกบังหูบังตาให้ข้าศึกมองไม่เห็น เป็นต้น ท่านมหาเสนาบดีในวัยเด็กก็จะเกิดอาการหูผึ่งและเกิดความรู้สึกตื่นเต้น และให้ความสนอกสนใจมากเป็นพิเศษ ยิ่งถ้าลุงๆ อาๆ และน้าๆ ทหารคนไหน ได้คุยโวโม้อวดวิชาให้ฟังว่าไปร่ำเรียนวิชาพวกนี้ มาจากที่ไหน จากอาจารย์อะไร และจะเอาไปใช้อย่างไร ก็จะยิ่งทำให้ท่านมหาเสนาบดีในวัยเด็กเกิดอาการหัวใจพองโตในเรื่องราวเหล่านั้นแบบสุดๆ
ท่านมหาเสนาบดีวัยเด็กหวังงว่าท่านก็จะต้องเป็นคนหนึ่งในยุทธภพนี้ให้ได้
ด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้เรื่องนี้กลายเป็นเรื่องราวอันแสนประทับใจ และฝังเข้าไปอยู่ในจิตใจของท่านมหาเสนาบดีตั้งแต่วัยเด็ก จนท่านเกิดแรงบันดาลใจตามมาว่า ถ้าท่านโตขึ้นท่านจะต้องลองไปศึกษาวิชาเหล่านี้ให้ได้ ซึ่งเมื่อศึกษาแล้วท่านก็จะต้องเป็นคนหนึ่งในยุทธภพนี้ให้ได้นั่นเอง
ด้วยความที่ท่านเป็นเด็กที่มีความกระตือรือร้นในการใฝ่หาความรู้สูงครูบาอาจารย์ของท่านแทบทุกคนจึงเกิดความรู้สึกว่ามีความรู้อะไรก็อยากจะถ่ายทอดให้ท่านหมด
และเมื่อท่านมหาเสนาบดีย่างเข้าสู่วัยเรียน คุณพ่อของท่านก็ได้ส่งท่านเข้าไปศึกษาในโรงเรียนที่ดีที่สุดประจำแคว้น ซึ่งก็ถือว่าท่านเป็นนักเรียนดีเด่นระดับแชมป์คนหนึ่งเลยทีเดียว และด้วยความที่ท่านเป็นเด็กที่มีความกระตือรือร้นในการใฝ่หาความรู้สูง อีกทั้งยังมีความเคารพเชื่อฟังคำสอนและปฏิบัติตามคำสอนของครูบาอาจารย์เป็นอย่างดีเสมอมา ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ครูบา-อาจารย์ทุกคนรู้สึกโปรดปรานและรักท่านมากเป็นพิเศษ ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจเลยว่า ทำไมครูบาอาจารย์ของท่านแทบทุกคนจึงเกิดความรู้สึกว่า มีความรู้อะไรก็อยากจะถ่ายทอดให้ท่านหมด
ท่านได้กลายเป็นผู้นำกลุ่มที่เพื่อนๆ จะรักและให้การยอมรับเป็นอย่างมาก
หรือแม้แต่กับเพื่อนๆ ในวัยเดียวกัน ด้วยความที่ท่านมหาเสนาบดีในวัยเด็กมีความเป็นผู้นำทั้งทางด้านการเรียน และการเล่น อีกทั้งตัวท่านยังมีคุณธรรม ซึ่งทำให้ท่านดูเป็นผู้ใหญ่มากกว่าเด็กในวัยเดียวกัน ด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้ตัวท่านได้กลายเป็นผู้นำกลุ่มที่เพื่อนๆ จะรักและให้การยอมรับเป็นอย่างมาก
ส่วนว่าเมื่อท่านมหาเสนาบดีเริ่มเติบใหญ่เป็นหนุ่มฟ่อหล่อเฟี้ยวแล้ว เรื่องราวของท่านจะสนุกและน่าติดตามขนาดไหน เราก็คงจะต้องมาติดตามกันต่อในตอนที่ 6
บทความที่เกี่ยวข้องกับชีวิตก็เป็นอย่างนี้ “ยุ่นสมาน...หวานเสมอ" ที่ผ่านมา
กรณีศึกษากฎแห่งกรรมจากชีวิตจริง (Case study in real life)
บุคคลที่ปรากฏในเรื่องราวต่อไปนี้ มีตัวตนจริงในปัจจุบัน ประสบชะตากรรมขึ้นลงตามกระแสของวัฏฏะและกฎแห่งกรรม (ชมตัวอย่างบทสัมภาษณ์จากรายการชีวิตในสังสารวัฏ) ผู้อ่าน-ผู้ชมก็อย่าเพิ่งเชื่อหรือปฏิเสธในทันที ควรศึกษาหลักธรรมในพระพุทธศาสนา แล้วค่อยนำไปเป็นอุทธาหรณ์ในการดำเนินชีวิตต่อไป
"วิชชาธรรมกาย" เป็นความรู้ดั้งเดิมในพระพุทธศาสนา เมื่อปฏิบัติแล้วสามารถไปรู้ไปเห็นเรื่องราวกฎแห่งกรรม การเวียนว่ายในภพภูมิต่างๆ ตรงตามพระธรรมคำสอนในพระไตรปิฎก วิชชาธรรมกายจึงเป็นหลักฐานยืนยันการตรัสรู้ธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งทันสมัยตลอดกาล (อกาลิโก)
http://goo.gl/ThXJm